ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

ให้เช่ารถตู้ราคาไม่แพงราคาถูก, รถรถยนต์สาธารณะ ราคาไม่แพงราคาถูก,แบบใหม่แบบใหม่,ประหยัด ,ไม่เป็นอันตรายปลอดภัยปลอดภัย
วิศวกรวอลโว่ Nils Bohlin เริ่มนำเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดมาใช้เป็นครั้งแรกในปี1959 รวมทั้งโดยประมาณกันว่าช่วยปกป้องความสูญเสียชีวิตของคนทั่วโลกไปกว่า 1 ล้านคน

บ้านพวกเรา พรบ.จราจรทางบก 2522 ได้มีการประกาศแล้วก็บังคับใช้ให้จัดตั้งและก็คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับคนขับรวมทั้งผู้โดยสารตอนต่อไปตั้งแต่ พ.ศ. 2538 หรือกว่า 22 ปีก่อน แม้จะมีแรงต้านในระยะต้น แต่ว่าก็ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจนกระทั่งนับว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำนวนของผู้ใช้รถยนต์ ข้อมูลตรวจล่าสุด(2557) โดยมูลนิธิไทยโรดส์ เจออัตราการคาดเข็มขัดตอนหน้า เฉลี่ย 2 ใน 3 หรือร้อยละ 60 กว่าๆแม้ว่าจะยังไม่ 100% แต่แม้กระนั้น ก็พบว่ามีคนขับรถยนต์แล้วก็ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยมาย ที่รอดชีวิตเนื่องจากว่าคาดเข็มขัดนิรภัย(เข็มขัดนิรภัยสามารถลดความรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ถึง 34-40 % เทียบกับการไม่คาดเข็มขัด)
 
การเสี่ยงในการเดินทางของรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทย

เกิดเรื่องน่าประหลาดที่ ผู้โดยสารรถประจำทางสาธารณะไม่ทราบถึงข้อมูลทั้งยังเรื่องความเสี่ยงอันตรายสำหรับเพื่อการเดินทาง สถิติอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั้ง ผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถึงหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทรับผิดชอบโดยตรงจะรีบสนับสนุนและก็ขจัดปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะโดยตลอด อาทิเช่น การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทแล้วก็บังคับให้ผู้โดยสารจำต้องคาดเข็มขัดตลอดการเดินทาง, การตำหนิดตั้งระบบ GPS ในรถเมล์สาธารณะทุกคัน ฯลฯ แต่เนื่องแต่มีผู้ประกอบการที่ไม่มีคุณภาพเยอะมากเข้ามาอยู่ในระบบ ประกอบกับการบังคับใช้ข้อบังคับและก็ปริมาณบุคลากรเจ้าหน้าที่น้อยเกินไปที่จะใช้ควบคุมส่งผลให้มีช่องว่างของปัญหาจนกระทั่งสร้างการเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดกับผู้โดยสาร ซึ่งมีอยู่ 4 องค์ประกอบยกตัวอย่างเช่น

พนักงานขับรถ โดยต้นสายปลายเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากความเมื่อยล้า และความประพฤติการขับที่เสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตราย อาทิเช่น การขับรถยนต์เร็ว การขาดประสบการณ์และก็ทักษะสำหรับการขับขี่รถ รวมทั้งระบบผลประโยชน์ต่างๆแก่พนักงานขับรถ
ยานพาหนะ ที่ขาดการกำหนด “มาตรฐานตามแบบสากล”และระบบการทดสอบความแข็งแรงด้านองค์ประกอบและก็การยึดเกาะเก้าอี้ รวมทั้งระบบการควบคุมมาตรฐานรถที่เอามาให้บริการผู้โดยสาร
ผู้ประกอบการ ไม่จัดการระบบความปลอดภัยและไม่มีแผนการรองรับการเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุ ที่ขาดเงินทุน มีรถยนต์เฉลี่ย 1-2 คันและไม่มีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเอง รวมถึง ไม่มีระบบตรววจสอบสำหรับในการซ่อมบำรุง
สภาพทาง โดยในประเทศไทยมีทางเสี่ยงภัยและไม่เหมาะสมกับรถเมล์โดยยิ่งไปกว่านั้นรถยนต์สองชั้น มากถึง 85 เส้นทาง อีกทั้งยังขาดระบบวิธีการทำ Road Safety Audit ถนนหนทางทุกเส้นในประเทศไทยส่งผลให้ถนนหนทางมิได้มาตรฐานและไม่มีความปลอดภัยในการใช้งาน
ระบบประกันภัยแล้วก็การชดเชยแก้ไขอุบัติเหตุจากรถเมล์สาธารณะในประเทศไทย

จากความเสี่ยงอีกทั้งภาวะคนขับที่ไม่มีความพร้อม สภาพรถที่ไม่ปลอดภัย การดูและใส่ใจของผู้ประกอบกิจการภาวะเส้นทาง นำมาซึ่งการทำให้การเกิดอุบัติเหตุทางถนนหนทางของรถประจำทางสาธารณะซึ่งหลายๆเรื่องราวสามารถปกป้องได้ แม้กระนั้นอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเกิดอุบัติเหตุกระทั่งมีผู้โดยสารเจ็บรวมทั้งเสียชีวิตคำถามคือ เมืองไทยมีระบบระเบียบสำหรับเพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อชดเชยเยียวยามากมายน้อยแค่ไหนและก็เหมาะสมกับการสิ้นไปที่เกิดขึ้นได้ไหม ควรต้องทำความเข้าใจระบบการทดแทนเยียวยาในขณะนี้ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่



คาดเข็มขัดนิรภัย เฉพาะตอนหน้าก็คงจะพอไหม ?

ผู้โดยสารหลังจากนั้น จะมีความเชื่ออยู่แล้วว่า .. นั่งข้างหลังมิได้ถูกแรงปะทะเมื่อมีการชนราวกับผู้ที่นั่งตอนต่อไป แถมยังมีเบาะไว้คอยกั้นอีกด้วย ถ้าหากเป็นแท๊กซี่ก็นั่งไม่นานประเดี๋ยวก็ลงแล้ว ในส่วนรถปิกอัพ ที่ธรรมดาจะลงบัญชีเป็นรถเฉพาะบุคคลสองที่นั่ง ก็มีสายรัดเอวเฉพาะตอนหน้า (ไม่มีเข็มขัดนิรภัยสำหรับ space cap) แต่ในชีวิตจริงจะมีผู้โดยสารนั่งใน space cap อยู่กระทั่งเป็นปกติประกอบกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งยังรถตู้โดยสารและก็แท๊กซี่ สายรัดเอวผู้โดยสารต่อมา จะถูกพับเก็บไว้หรือไม่ก็ซุกอยู่ใต้เบาะ ทำให้ยุ่งยากสำหรับการประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นลงในระยะทางสั้นๆ

ทั้งสิ้นนี้ ล้วนส่งผลให้ ม.44 ป้ายประกาศบังคับใช้ในคราวนี้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดแรงต่อต้านพอควร โดยเฉพาะกรุ๊ปรถสาธารณะอย่างกรณีแท๊กซี่และก็ปิกอัพ
จากความศรัทธาว่านั่งหลังปลอดภัยถึงแม้ไม่ต้องคาดเข็มขัด .. ในความจริง รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 60 กม/ชม. จะทำให้ทุกคนบนรถยนต์พุ่งไปด้านหน้ารวมทั้งเมื่อมีการปะทะคนหรือวัตถุในตัวรถยนต์ แรงปะทะจะเสมอกันกับการ “ตกตึก 5 ชั้น” ทำให้ผู้ที่ไม่คาดเข็มขัด ทะลุกระจกออกมาได้เลย หรือไม่ก็ชนเก้าอี้หรือคนตอนต่อไปให้ได้รับบาดเจ็บไปด้วย

เพื่อนบ้านอย่าง “มาเลเชีย” ก็มีการบังคับใช้สายรัดเอวหลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีก่อน แม้กระนั้นที่น่าดึงดูดเป็น ผลประเมินจาก MIROS (Malaysia Institute of Road Safety) พบว่าสามารถช่วยลดการถึงแก่กรรมของผู้โดยสารตอนหลังได้ถึง 70%

เมื่อปีกว่าๆเรื่องเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารหลังจากนั้นถูกเอ่ยถึงกันมากมายในอเมริกา จากการสูญเสียJohn Nash ผู้ครอบครองรางวัลโนเบิลไพรศรีส์ ที่เสียชีวิตบนรถยนต์แท๊กซี่เนื่องจากว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยสื่อมวลชนและราษฎรหันมารณรงค์ให้เพิ่มการครัดเคร่งและใช้เข็มขัดนิรภัยกับผู้โดยสารภายหลัง เนื่องจากมีข้อมูลที่บอกว่าผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีถึง 55% ที่ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย นอกเหนือจากนี้ยังมีถึง 22 รัฐที่ไม่ได้มีกฎหมายบังคับใช้การคาดคะเนเข็มขัดนิรภัยในรถแท๊กซี่

บ้านเราหากแม้ยังไม่มีข้อมูลที่แยกคนที่นั่งตอนหน้าและก็ตอนท้าย แต่ว่าในตอนเทศกาล (ปีใหม่-วันสงกรานต์) ที่ผ่านๆมาจะพบว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากรถเฉพาะบุคคล จะมีสัดส่วนที่ใช้เข็มขัดนิรภัยเพียงแต่1 ใน 4 แสดงว่าส่วนมาก (3 ใน 4 หรือร้อยละ 75) ของคนตายมิได้คาดเข็มขัดนิรภัย

แนวทางขึ้นรถรถตู้ให้ไม่มีอันตราย

รถตู้รับจ้าง
รถตู้รับจ้างเป็นรถโดยสารประจำทางอย่างหนึ่งที่สะดวก ไม่ต้องหยุดรถทุกป้ายเหมือนอย่างรถเมล์ และก็สามารถทำเวลาได้อย่างเร็ว แต่รถตู้ก็เป็นวิถีทางหนึ่งให้มิจฉาชีพดำเนินการได้สะดวก เนื่องจากว่ามีผ้าม่านบังสายตาคนภายนอก ด้านในกว้างใหญ่เอื้อต่อการก่อเหตุ และสามารถเปลี่ยนที่แอบหนีได้อย่างเร็ว


ควรจะเป็นรถตู้ถูกกฎหมายเพียงแค่นั้น
คุณจำเป็นจะต้องเลือกรถตู้ที่อยู่ในทางประจำ และวิ่งบนเส้นทางที่ไม่เปลี่ยวจนเกินไป เพราะรถตู้ที่วิ่งในทางประจำ จะก่อให้คุณทายใจได้ว่าอีกนานเยอะแค่ไหนจะถึงจุดหมาย หรือรถวิ่งออกนอกเส้นทางไหม เป็นการสร้างความปลอดภัยในตัวเองระดับหนึ่ง ต่างกับรถตู้ผีที่วิ่งรับผู้โดยสารพาเข้าเส้นทางลัดแปลกๆอยู่ตลอด


อย่าอยู่บนรถตู้คนเดียว
จดจำไว้ว่าคุณอย่าขึ้นรถตู้เป็นคนแรกหรือลงเป็นคนท้ายที่สุด ทางที่ดีคุณควรรอคอยให้มีคนขึ้นรถตู้สัก 2-3 คนก่อนจะขึ้นไปนั่งรอคนเดียว หรือเลือกลงจากรถตู้ในป้ายใหญ่ๆอย่ายอมคนขับรถตู้ที่อ้างว่าจะไปส่งที่บ้านให้ เนื่องจากว่าจะไปทางนั้นเช่นเดียวกันตอบไม่ยอมรับถึงแม้ว่าเขาจะดูเป็นคนดีหรือสุภาพอ่อนโยนขนาดไหนก็ตาม


แล่นนอกทางรีบถาม
การนั่งรถสาธารณะไม่ใช่การนั่งรถเล่น คุณต้องสังเกตว่ารถออกนอกทางตั้งแต่เมื่อไร แม้กระนั้นถามหรือท้วงติงคนขับว่าจะไปเส้นทางไหน หากให้คำตอบที่ทำให้คุณยังคลุมเคลือนักให้คนขับหยุดในที่ชุมชนแล้วคิดแผนหารถต่อ ไปเองดียิ่งกว่าที่จะนั่งเสี่ยงโดยให้รถตู้พาไปไหนก็ไม่ทราบ


คนขับกลายเป็นผู้ร้าย
แม้เวลาผ่านไปคนขับฉีกหน้ากากออกเปลี่ยนเป็ยฆาตกรที่มุ่งต่อชีวิตและสินทรัพย์คุณ ให้รีบเปิดหน้าต่างตวาดขอความช่วยเหลือ และก็สร้างสถานการณ์ให้มีพิรุธเป็นจุดสนใจ เป็นต้นว่า ทิ้งกระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัวมาอย่างจงใจ แม้คนร้ายไม่หยุดรถ คอยจังหวะตอนติดไฟแดงหรือยามรถแล่นด้วยความเร็วไม่สูงนัก กระโดดเข้ากดแตรรถยนต์ให้ดัง ถ้าเกิดประตูเปิดได้ให้เกลือกตัวลงมาแบบเก็บคองอเข่า หรือปีนหน้าต่างออกมาให้เร็วที่สุด

เครดิต : http://www.vancarforday.com/

Tags : รถตู้ให้เช่า,เช่ารถตู้ด่วน,เช่ารถตู้ กรุงเทพ

ฐานข้อมูลผิดพลาด

ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย