กระทู้ล่าสุดของ: gogrov5568225

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 [3] 4
31  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีเเละยังมีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์อีกด้ว เมื่อ: สิงหาคม 22, 2018, 10:31:27 am
[/b]
บัวบ[/size][/b]
ใบบัวบกสมุนไพรจีนโบราณที่ได้ยินชื่อกันมานาน นี่เป็น สรรพคุณของใบบัวบกที่ทราบแล้วต้องรักเจ้าสมุนไพรนี้ยิ่งกว่าเดิม
          เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยก็น่าจะเคยได้ฟังกันมานักต่อนักว่าเวลาบอบช้ำในให้กินน้ำใบบัวบก ด้วยเหตุว่าจะช่วยทำให้หายจากอาการบอบช้ำในเร็วขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วเจ้าสมุนไพรที่มีนามว่าใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบ[/b] ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่นำมาใช้กันตั้งแต่โบร่ำโบราณนั้นก็ยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพ รักษาโรค หรือแม้แต่ช่วยบำรุงความงาม อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าใบบัวบก สมุนไพรที่ชักชวนให้รู้สึกเหม็นเขียวจะมีคุณประโยชน์อะไรดีๆอีกบ้าง ถ้าอย่างนั้นทดลองไปดูที่เราจับมานำเสนอในวันนี้กันเลยดีกว่า บอกได้คำเดียวเลยว่า รู้แล้วจะต้องลืมกลิ่นเขียวๆพวกนั้นไปเลยแน่ๆ

  • ขจัดปัญหาเส้นโลหิตขอด

          เมื่อเส้นโลหิตสูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้หลอดเลือดดำเกิดการฉีกขาดแล้วก็ทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่รอบๆขา เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมที่เรียกว่าอาการเส้นเลือดขอดนั่นเอง โดยมีการศึกษาพบว่าการกินใบบัวบก สามารถลดอาการบวมแล้วก็กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น โดยในการศึกษาเรียนรู้นั้นได้ทำการทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 90 คน ที่มีลักษณะของเส้นโลหิตขอด แล้วก็เมื่อกินใบบัวบกเข้าไปและจากนั้นก็พบว่าอาการเส้นเลือดขอดนั้นดีขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่รับประทานยาหลอก และเมื่อทำอัลตราซาวด์ก็พบว่าผู้ที่รับประทานใบบัวบกมีการรั่วไหลของเส้นเลือดดำลดน้อยลงจ้ะ

  • รักษาแผลแล้วก็รักษาโรคผิวหนังบางจำพวก

          หนึ่งในสารสำคัญที่ทำให้ใบบัวบกเปลี่ยนเป็นสมุนไพรที่มากคุณประโยชน์ก็คือสารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ที่มีการเล่าเรียนกับสัตว์แล้วพบว่าสามารถช่วยสมานบาดแผลได้ นั่นก็เป็นเนื่องจากสารดังที่กล่าวถึงแล้วจะทำหน้าที่สำหรับในการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับบาดแผล และช่วยกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนไปยังรอบๆรอยแผลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รอยแผลค่อยๆหายดียิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลดน้อยลง ทั้งสารจากใบบัวบกก็ยังช่วยคุ้มครองการเกิดแผลได้อีกด้วย การใช้ก็ไม่จำเป็นต้องนำใบบัวบกมาตำแล้วพอกให้ยาก ด้วยเหตุว่าตอนนี้มีแบบที่เป็นครีมผสมสารสกัดไว้ทาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แค่เพียงเลือกให้เหมาะสมกับชนิดรอยแผลก็ช่วยได้มากเลยล่ะ

  • ระบายความร้อน

          ความร้อนในร่างกายถ้าหากสูงมากเกินความจำเป็นอาจจะก่อให้ร่างกายกำเนิดลักษณะของการมีไข้ ตัวร้อน อยากดื่มน้ำ ตลอดจนการอักเสบ ดังนั้นการกินใบบัวบกที่มีฤทธิ์เย็น ก็เลยสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยขับพิษร้อนออกจากร่างกายได้อีกด้วย

  • ขับพิษร้อน แล้วก็ความชุ่มชื้น

          โรคต่างๆที่เกิดจากความร้อนแล้วก็ความชุ่มชื้น เป็นต้นว่า โรคดีซ่าน นิ่วในทางเดินเยี่ยว หรือโรคบิด สามารถทุเลาได้ด้วยการกินใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก
เพราะใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ขมเย็น สามารถช่วยสลายความชื้นในร่างกายแล้วก็ขับความร้อนออกมาได้ แม้กระนั้นก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากว่าหากรับประทานมากๆอาจส่งผลให้ร่างกายเย็นจนเกินไปรวมทั้งเกิดอันตรายได้
สรรพคุณใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

  • ลดความกระวนกระวาย ช่วยทำให้จิตใจสงบ

          สารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในใบบัวบกนั้น นอกเหนือจากที่จะช่วยสำหรับการสมานแผลและก็รักษาโรคผิวหนังบางจำพวกได้และยังมีฤทธิ์สำหรับการลดความกระวนกระวายใจแล้วก็ช่วยกระตุ้นกลไกการทำงานของสมอง โดยมีการเล่าเรียนหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทานใบบัวบกมีลัษณะทิศทางที่จะสะดุ้งกับเสียงรบกวนน้อยกว่าคนที่กินยาหลอก แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องใช้ในจำนวนที่สูงมากมาย ก็เลยยังไม่มีการรับรองแน่ชัดว่าควรใช้ปริมาณใดจึงจะได้ผลและไม่ส่งผลใกล้กันต่อร่างกายตามมาค่ะ

  • รักษาโรคหนังแข็ง

          เนื่องด้วยใบบัวบก มีฤทธิ์สำหรับในการลดการอักเสบต่างๆภายในร่างกาย จึงสามารถใช้ทุเลาลักษณะของคนเจ็บโรคหนังแข็งได้ โดยมีการเล่าเรียนกับหญิง 13 ผู้ที่มีลักษณะอาการของโรคหนังแข็งพบว่า การใช้ใบบัวบกสามารถลดอาการปวดตามข้อ รวมทั้งลดการเกิดหนังแข็ง และทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นดังนี้ก็จำเป็นต้องอยู่ในจำนวนที่แพทย์ควบคุมเพียงแค่นั้น

  • ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ

          ผู้ใดกันแน่ที่มักจะนอนไม่หลับบ่อยๆลองหาใบบัวบกมารับประทานดีแล้วเหมือนกันนะ เพราะเหตุว่าใบบัวบกไม่เพียงแค่ช่วยลดความกระวนกระวายใจเพียงแค่นั้น แต่ก็ยังช่วยให้จิตใจสงบและก็ผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงกินเป็นประจำก่อนนอน ก็จะสามารถช่วยให้การนอนได้อย่างน่าอัศจรรย์เลย
คุณประโยชน์ใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

  • ลดความดันโลหิต

        กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยรวมทั้งการแพทย์ช่องทาง ได้ออกมาเสนอแนะว่าใบบัวบกเป็นเยี่ยมในสมุนไพรที่ช่วยลดความดันเลือดได้ เพราะเหตุว่าเจ้าใบบัวบกนั้นจะไปทำให้เส้นเลือดดำแล้วก็เส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ทั้งยังช่วยลดสภาวะความตึงเครียดอันเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการเกิดความดันเลือดสูง ดังนี้ขั้นตอนการรับประทานก็ง่ายๆ เพียงนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วเอามาดื่ม จะนำไปผสมกับน้ำผึ้งสักน้อย หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความเหม็นเขียวก็ทำได้ค่ะ

  • ลดอาการบวม

          อาการบวมช้ำมีสาเหตุจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดรอบๆดังที่กล่าวมาแล้วทำงานแตกต่างจากปกตินำมาซึ่งอาการคั่งของเลือด การรับประทานใบบัวบกไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำคั้นดื่ม หรือแบบที่เป็นสารสกัดแคปซูล สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำรอบๆบาดแผลได้ รวมทั้งยังลดอาการอักเสบที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการบวมได้อีกด้วย

  • บำรุงสมอง

          ใบบัวบกเป็นพืชอีกประเภทที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยคุ้มครองปกป้องสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์สมอง และก็ช่วยคลายความเมื่อยล้าของสมอง เพิ่มการทำงานของสมองและความจำ แถมยังสามารถลดสภาวะกลัดกลุ้ม และสามารถช่วยยับยั้งลักษณะของโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสมองได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

  • รักษาอาการติดโรค

          ใบบัวบกเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งประเภทที่ช่วยรักษาโรคหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมช่วยรักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งอาการติดเชื้อโรคแบคทีเรียรวมทั้งเชื้อไวรัสต่างๆได้อีกเยอะมาก กล่าวได้ว่าไม่ว่าจะติดเชื้อใดๆก็ตาม ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาได้หมด แต่ทั้งนี้ก็จะต้องใช้ในปริมาณที่สมควร แล้วก็ภายใต้การดูแลของผู้ชำนาญนะ

  • บรรเทาอาการเมื่อยล้า

          เว้นเสียแต่รักษาอาการป่วยต่างๆแล้ว ใบบัวบกยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเมื่อยล้าได้ รวมทั้งถ้าหากรับประทานในช่วงอากาศร้อนๆด้วยละก็ น้ำใบบัวบกก็สามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายและก็ดับหิวได้เป็นอย่างดีเลยเชียวล่ะ
[/b]
คุณประโยชน์ใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • บำรุงผิวพรรณให้อ่อนวัย

          ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรเพื่อความงามที่อยู่ใกล้ตัวมากๆที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากใบบัวบกมีสารที่ช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนรวมทั้งอิลาสตินในร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มเปียกชื้น มองอ่อนวัย ยิ่งกว่านั้นสารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกก็ยังช่วยยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ก็เลยไม่น่าแปลกเลยล่ะถ้าหากคุณจะได้มองเห็นชื่อของเจ้าใบบัวบกเป็นเลิศในส่วนผสมของเครื่องทำความสะอาดผิว ดังนี้ยังสามารถนำใบบัวบกใหม่ๆมาใช้พอกหน้าได้อีกด้วย โดยมีแนวทางดังนี้จ้ะ
           - ใบบัวพอกหน้า บำรุงผิวสวยใส ลบรอยตีนกา
วิธีทำ

  • นำใบบัวบกสดมาล้างทำความสะอาด แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • นำมาปั่นหรือบดกับน้ำที่สะอาด 1 แก้ว
  • เอามาพอกหน้า หรือนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกขึ้นมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ราวๆ 15 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำบ่อยเป็นประจำทุกเมื่อเชื่อวันก่อนนอนจะช่วยให้ใบหน้ามองอ่อนกว่าวัย
  • กำจัดเซลลูไลท์

          สาวๆที่กลุ้มอกกลุ้มใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความสวยของคุณสาวๆอยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้จ้ะ แค่เพียงรับประทานใบบัวบกเป็นประจำก็จะสามารถช่วยทำให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดปฏิบัติงานได้ดิบได้ดีขึ้น และลดการอักเสบอันมีต้นเหตุมาจากเซลลูไลท์ได้อีกด้วยล่ะ

  • บำรุงเส้นผมแล้วก็หนังศีรษะ

          ผู้คนจำนวนมากที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมตกก็อาจเสาะหาทุกวิถีทางเพื่อบำรุงให้เส้นผมรวมทั้งหนังศีรษะแข็งแรงเพื่อได้มีผมดกดำ ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีสรรพคุณสะดุดตาในด้านนี้ โดยปัญหาผมหล่นส่วนมากก็เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากรากผมที่อ่อนแอแล้วก็การไหลเวียนของเลือดบนหนังหัวไม่ดี ซึ่งใบัวบก[/url]นี้มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตรอบๆหนังหัว รวมทั้งยังช่วยบำรุงให้รากผมแข็งแรง คุ้มครองป้องกันผมร่วงทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีความแข็งแรงรวมทั้งดกดำเงาสวยได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีอะไร
          ได้มองเห็นคุณประโยชน์ดีๆของใบบัวบกกันไปแล้วอย่างงี้ ผู้ใดที่ยังส่ายหน้าให้กับกลิ่นเขียวๆของใบบัวบก ก็คงจะทดลองหันกลับมามองเสียใหม่ ถึงแม้ว่าอาจจะมีกลิ่นฉุนไปเสียหน่อย แต่ว่าประโยชน์ที่ได้รับก็ดีไม่น้อยเลย ถ้าหากไม่ทดลองเสียดายห่วยเลยนะ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรบัวบก
32  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างน่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 18, 2018, 05:21:36 pm
[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำราเรียนยาไทยบอกว่า เหงือกปลาแพทย์สามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อ[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลา
หมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสก็จะลดลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาหมอเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางๆสูงราว 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นและก็ใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งแล้วก็มีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกไม้จะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เม็ด จะสามารถพบได้มากตามชายน้ำ ริมฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้จะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วๆไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยารับประทานและต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดลงลงอย่างชัดเจน สำหรับคนไข้โรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและก็วิธีใช้ยาก็มีหลายวิธีเป็น
วิธีต้มยากินแล้วก็อาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง ยามเช้า-เย็น ก่อนรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จะต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง รุ่งเช้า-เย็นทีละ 3-4 ขัน แม้กระนั้นถ้าหากมเหงือกปลาหมอ[/url]เยอะๆ อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
ขั้นตอนการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาแพทย์ทั้ง 5 คราวตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร คนแก่กินทีละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งอาจจะรับประทานทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและน้ำหนัก รับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะรับประทานอาหาร เช้าตรู่-เย็น รับประทานไปเรื่อยตราบจนกระทั่งจะหาย แต่ว่าถ้าเกิดเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานบกพร่องก็จำต้องรับประทานตลอดกาล
[/b]
ขั้นตอนการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินร่อนเป็นผงละเอียดเหมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนอาหาร เด็กต่ำลงตามส่วน
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์เยอะมาก เช่น
-ราก มีคุณประโยชน์สำหรับการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และก็ใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีสรรพคุณรักษาโรคหลายชนิด โดยใช้ต้นตำผสมน้ำดื่มรักษาวัณโรค อาการซูบซีด ถ้าใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาแตกต่างกันออกไปอีก
-ทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งยังต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มรับประทานแก้พิษไข้ทรพิษ ฝีทั้งหมด ผลกินเป็นยาขับเลือดเมนส์ ยิ่งกว่านั้น ถ้าเกิดตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งยังต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาหมดทั้งตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง เจ็บป่วยจับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมบางเหลืองหมดทั้งตัว กินทุกๆวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือเล็กน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำกระทั่งเดือดให้งวดจึงยกลง กลั้นหายใจรับประทานขณะอุ่นจนกระทั่งหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว วิงเวียน ตามัว เจ็บระบมทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาแพทย์" อีกทั้ง 5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ ปริมาณเท่ากัน กะตามอยากได้ ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นทีละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้าตรู่ ตอนกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการ ไปให้หมอเอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และก็ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานแต่ละวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกชนิดหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่เคยรู้เหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกทั้งตัวหายได้ ทั้งหมดทั้งปวงที่บอกเป็นหนังสือเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่น ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/[/b]
33  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรเหงือกปลาหมอ - ฐานข้อมูลสมุนไพร เมื่อ: สิงหาคม 17, 2018, 09:23:41 am
[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
เหงือกปลาหมอ ชื่อสามัญ Sea holly, Thistleplike plant
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลาหมอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Acanthus ebracteatus Vahl (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acanthus ilicifolius Lour., Acanthus ilicifolius var. ebracteatus (Vahl) Benoist, Dilivaria ebracteata (Vahl) Pers.) จัดอยู่ในสกุลเหงือกปลาหมอ(ACANTHACEAE)
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า แก้มหมอ (จังหวัดสตูล), แก้มแพทย์เล (กระบี่), อีเกร็ง (ภาคกึ่งกลาง), นางเกร็ง จะเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน ฯลฯ
เหงือกปลาแพทย์มีอยู่ร่วมกัน 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ที่เป็นดอกสีม่วง (Acanthus ilicifolius L.) ที่พบมากทางภาคใต้ และก็พันธุ์ที่เป็นดอกสีขาว (Acanthus ebracteatus Vahl) ที่พบบ่อยทางภาคกึ่งกลางและภาคตะวันออก รวมทั้งเป็นพรรณไม้ที่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดสมุทรปราการ
เหงือกปลาหมอ สมุนไพรใกล้ตัวหรือบางครั้งอาจจะเรียกว่าเป็นสมุนไพรชายน้ำหรือชายเลนก็ได้ สามารถนำสรรพคุณทางยามาใช้ในการรักษาโรคได้หลายอย่าง ที่สะดุดตามากมายก็คือการนำมารักษาโรคผิวหนังได้ดูเหมือนจะทุกจำพวก แก้น้ำเหลืองเสีย และการนำมาใช้รักษาริดสีดวงทวาร ฯลฯ โดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรก็ได้แก่ ส่วนลำต้นอีกทั้งสดรวมทั้งแห้ง ใบอีกทั้งสดแล้วก็แห้ง ราก เมล็ด และก็ทั้งยังต้น (ส่วนทั้ง 5 ประกอบไปด้วย ต้น ราก ใบ ผล เมล็ด)
รูปแบบของเหงือกปลาหมอ
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 1.5 เซนติเมตร เพาะพันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดและก็การใช้กิ่งปักชำ เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นกลางแจ้ง เติบโตได้ดีในที่ร่มแล้วก็ในที่ที่มีความชุ่มชื้นสูง ชอบขึ้นตามชายน้ำหรือบริเวณริมฝั่งคลองรอบๆปากแม่น้ำ เป็นต้นว่า บริเวณริมน้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันออกเหนือปากคลองมหาวงก์ และก็ที่สถานศึกษานายเรือ ฯลฯ
ต้นเหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอ[/url] ใบเป็นใบเดี่ยว รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ขอบขอบใบรวมทั้งปลายใบ ขอบของใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบเป็นเงาลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแนวก้างปลา เนื้อเรือใบแข็งและก็เหนียว ใบกว้างราวๆ 4-7 ซม. และก็ยาวราวๆ 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น
ใบเหงือกปลาหมอ
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวราวๆ 4-6 นิ้ว ดอกมีทั้งยังพันธุ์ดอกสีม่วง (หรือสีฟ้า) แล้วก็ชนิดดอกสีขาว ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน รอบๆกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และก็เกสรตัวเมียอยู่
ดอกเหงือกปลาหมอ
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล รูปแบบของฝักเป็นทรงกระบอก รูปไข่ หรือกลมรี ยาวราวๆ 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเมล็ด 4 เม็ด
สรรพคุณของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นโลหิตไม่อุดตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคลุกผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าแม้กินต่อเนื่องกัน 1 เดือน จะมีผลให้สติปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ประเภท หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง / 9 เดือน หนังเหนียว (ทั้งยังต้น, ราก)
เหงือกปลาหม[/b]มีสรรพคุณช่วยบำรุงรักษาประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุไม่ปกติ (ทั้งต้น)
ช่วยให้เลือดลมปกติ (ทั้งยังต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยทำให้เจริญอาหาร (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการผอมโซเหลืองหมดทั้งตัว ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผุยผงกินทุกๆวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนตลอดตัว เจ็บระบบหมดทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ทั้งยังต้นของเหงือกปลาหมอและก็เปลือกมะรุมอย่างละเท่ากัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือนิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำเดือดจนถึงงวดแล้วชูลง เมื่อเสร็จให้กลั้นหายใจกินขณะอุ่นๆจนกระทั่งหมด อาการก็จะดีขึ้น (ทั้งต้น)ช่วยยับยั้งโรคมะเร็ง ต้านทานมะเร็ง (ทั้งต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอต้นรวมทั้งอาหารมื้อเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ในรูปทรงที่เท่ากัน เอามาต้มกับน้ำจนถึงเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะอุ่นๆครั้งละ 1 แก้ว ยามเช้า ช่วงกลางวัน เย็น อาการจะ (ทั้งต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้ลักษณะของการปวดหัว (ต้น)
รากช่วยแก้รวมทั้งทุเลาอาการไอ หรือจะใช้เมล็ดเอามาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เช่นกัน (ราก, เมล็ด)
ช่วยแก้หืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งยังต้นเอามาตำผสมกับขิง คั้นเอาแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมทั้งรากเอามาต้มอาบแก้อาการ (ต้น)
แก้อาการไอ เม็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสลด (ราก)
ถ้าหากเป็นลม ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างละเอียดเป็นผุยผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ต้นแล้วก็พริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (อีกทั้งต้น)
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]

ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย นำมาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายขโมย ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับฉี่ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการกางใบและก็ต้นเอามาตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทานแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ระดูมาไม่เป็นปกติของสตรี ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (ทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบนำมาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เมล็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนรับประทานก็ได้ (เม็ด, ผล, ทั้งยังต้น)
ช่วยฟอกเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยรักษาแผล ด้วยการใช้ทั้งต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับผู้เจ็บป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง หากใช้ต้นมาต้มอาบและทำเป็นยารับประทานต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยทำให้ลักษณะของแผลพุพองทุเลาลงอย่างชัดเจน (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่า รักษาขี้กลากเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน คุดทะราด ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเอามาตำมัวแต่น้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดประมาณ 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดนำมาต้มมัวแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ไข้ทรพิษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกชนิดอีกทั้งด้านในข้างนอก ด้วยการใช้ต้นและก็ใบสดและแห้งราว 1 กำมือ เอามาบดอย่างระมัดระวัง แล้วเอามาพอกรอบๆที่เป็นฝี หรือวิธีลำดับที่สองจะนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วนำมาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราว 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เมล็ดเอามาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างระมัดระวัง ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เม็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยทำลายพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำให้ละเอียด สามารถใช้พอกรอบๆแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ทั้งต้น)
ต้น หากนำมาใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศนำมาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับปรุงข้ออักเสบและก็แก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรักษารากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วศีรษะ จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ)
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเหงือกปลาหมอ
ในขณะนี้สมุนไพรเหงือกปลาหมอมีการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นยาแคปซูลสมุนไพร (เหงือกปลาหมอแคปซูล) หรือเป็นยาชงสมุนไพร (เหงือกปลาหมอผงสำเร็จรูป) หรือในรูปแบบของยาเม็ด
นอกเหนือจากการใช้เป็นยาสมุนไพรที่ใช้เพื่อการอบตัวหรืออบด้วยละอองน้ำ สมุนไพรเหงือกปลาหมอยังใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ สินค้าที่ใช้เพื่อการเปลี่ยนสีผม จนตราบเท่าแชมพูของสุนัข ฯลฯ
แหล่งอ้างอิง
: เว็บที่ทำการโครงการสงวนกรรมพันธุ์พืชอันเนื่องมาจากความคิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, หนังสือพิมพ์ประเทศชาติ (ช่ำชอง หิมะคุณ), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4, ฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ องค์การส่วนวิชาพฤกษศาสตร์, ที่ทำการกองทุนเกื้อหนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือยอดสมุนไพรยาอายุวัฒนะ (คุณครูยุยงวดี จอมพิทักษ์), หนังสือกายบริหารแกว่งแขน (โชคชัย ปัญจทรัพย์) http://www.disthai.com/[/b]
34  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรรากสามสิบมีประโยชน์เเละสรรพคุณที่น่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 16, 2018, 06:08:52 pm
[/b]
รากสามสิ[/size][/b]
รากสามสิบ คุณประโยชน์สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพที่คนต้องการมีลูกห้ามพลาด
          [url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ
สรรพคุณเด่นๆของสมุนไพรตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยบางทีอาจเคยได้เห็นสมุนไพรรากสามสิบแบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วทราบไหมคะว่า ประโยชน์ซึ่งมาจากรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้มิได้มีดีเพียงแค่ช่วยคนอยากมีลูกเท่านั้น
รากสามสิบ สมุนไพรนี้มีที่มา
          รากสามสิบแท้จริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมากๆยกตัวอย่างเช่น สาวร้อยผัว จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคอีสาน) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
          ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้าแล้วก็รากใต้ดินคล้ายรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอมสดชื่น ฯลฯที่ส่งผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน รวมทั้งมีเมล็ดสีดำ
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
สรรพคุณรากสามสิบ
          รากสามสิบถูกเปรียบให้เป็นพลังแห่งการปฏิสังขรณ์ความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณและก็หมอสมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งก็นับเป็นต้นเหตุของชื่อสาวร้อยสามี ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนโบราณมักจะนำรากมาต้มรับประทานหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อๆกันว่า จะช่วยบำรุงสตรีให้ไมว่าจะอายุเยอะแค่ไหนก็มีลูกได้ง่าย
          ยิ่งไปกว่านี้สมุนไพรรากสามสิบยังผ่านการค้นคว้าคุณประโยชน์มามากมายก่ายกอง โดยพบว่า รากสามสิบมีคุณประโยชน์ทางเภสัชวิทยาตามนี้ประจำตัวอยู่ด้วย
          - ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อรา
          - คลายกล้ามมดลูก
          - บำรุงหัวใจ
          - ลดการอักเสบ
          - แก้ปวด
          - ยับยั้งโรคเบาหวาน
          - ปราบเซลล์ของมะเร็ง
          - กระตุ้นภูมิต้านทาน
รากสามสิบ
          - ต่อต้านภาวการณ์เม็ดเลือดขาวต่ำ
          - ลดระดับไขมันเลือด
          - คุ้มครองปกป้องกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
          - ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นมาจากความดันเลือดสูง
          - มีฤทธิ์ใกล้เคียงฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนผู้หญิง)
          - ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง
          - ขับน้ำนม
          - ช่วยให้การตกไข่สมบูรณ์
          - ช่วยบำรุงกำลังท่านชาย
          - เสริมความแข็งแรงของน้ำเชื้อน้ำเชื้อ
          - ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
          - ลดอาการกรดเกินในกระเพาะอาหาร
          - ยับยั้งพิษต่อตับ
          - แก้ริดสีดวงทวาร
          - ขับลม
          - ขับปัสสาวะ
          - ขับเสมหะ
          - บำรุงเด็กในครรภ์
          - แก้แท้งลูก
          - รักษาโรคคอพอก
          - แก้ปวดเมื่อย ครั่นตัว
          - ฝนรากทาเป็นยาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้
          - กระตุ้นประสาท บำรุงกำลัง
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
          และก็ด้วยสรรพคุณของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยจังหวัดพะเยาจีงได้ทำการวิจัยเรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการคุ้มครองการสลายเนื้อกระดูกแล้วก็อวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เนื่องจากมองเห็นว่า โรคกระดูกพรุนซึ่งชอบเกิดกับผู้หญิงมากกว่าเพศชายนั้น มีต้นเหตุหลักจากการน้อยลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนตอนหลังหมดประจำเดือน โดยเห็นผลการทดสอบมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบภายหลังจากถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากลุ่มหนูถูกตัดรังไข่แต่มิได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิ[/b]
          นอกนั้นสารสกัดรากสามสิบยังไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการเปลี่ยนแปลงในเยื่อบุโพรงมดลูก ฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีความสามารถในการคุ้มครองการสลายของเนื้อกระดูกในตัวทดลองได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียใดๆก็ตามต่ออวัยวะสืบพันธุ์ แต่ว่ายังคงจำเป็นต้องทดลองเพิ่มอีกเพื่อวิจัยว่า สารสกัดรากสามสิบจะมีผลกระทบใดๆกับอวัยวะอื่นหรือไม่
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี       
[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]
[/b]
หารากสามสิบได้จากที่ไหน
          แม้ต้นรากสามสิบจะยังมีให้มองเห็นอยู่ในประเทศไทย แต่ว่าก็ไม่จำเป็นต้องไปขุดหารากสามสิบมาต้มกินให้เหนื่อย เนื่องจากว่าเดี๋ยวนี้มีสารสกัดรากสามสิบในรูปแคปซูลมาให้เลือกซื้อจำนวนมาก แต่ว่าดังนี้ควรตรวจตราให้แน่ว่าแคปซูลรากสามสิบมีตราแล้วก็ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานของกินรวมทั้งยาหรือเปล่า
          แม้กระนั้นแม้ผู้ใดกันสามารถหาต้นรากสามสิบใหม่ๆได้ จะเอามาต้มยารับประทานเองพวกเราก็มีสูตรยาสมุนไพรรากสามสิบมาให้ด้วยจ้ะ
น้ำรากสามสิบ (สูตรเริ่มแรก)
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโล
  • น้ำ 10 ลิตร

     ขั้นตอนการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกเปลือกแล้วก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกครั้ง
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากสามสิบ ลงในหม้อต้ม
  • เคี่ยวราว 3 ชั่วโมง
  • ชิมรส และสามารถเพิ่มเติมน้ำตาลกรวดหรือใบเตยเพิ่มความหอมลงไปได้
รากสามสิบแช่อิ่ม
     ส่วนประกอบ

  • สมุนไพรากสามสิบ[/url] ใช้ส่วนราก 2.5 กก.
  • น้ำตาลทราย 1.5 โล
  • น้ำ 5 ลิตร
    วิธีการทำ

รากสามสิบ
ข้อควรปฏิบัติตามสำหรับในการใช้สมุนไพรรากสามสิบ
          เพราะว่าสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อเพศหญิงที่มีการเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว ดังเช่น ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) เป็นต้น โดยเหตุนี้ไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรหารือแพทย์ก่อนจะเยี่ยมที่สุดนะคะ       
          มองเห็นสรรพคุณรากสามสิบกันไปแล้วหลายคนเริ่มพึงพอใจต้องการหา[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ
มาบำรุงสุขภาพกันบ้าง แต่ก็อย่าลืมที่เตือนไว้นะคะ ก่อนซื้อแคปซูลรากสามสิบมากิน ควรจะพิจารณาที่มาที่ไปและก็ยี่ห้อ และการรับรองจากหน่วยงานที่น่าไว้วางใจด้วย http://www.disthai.com/[/b]
35  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / การใช้สมุนไพรน้ำมันเหลืองนั้นมีสรรพคุณ-ประโยชน์ดีอย่างไรบ้าง?.. เมื่อ: สิงหาคม 12, 2018, 08:40:05 am

[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url] เป็นอย่างไร ?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ทำมาจากพืชสมุนไพรประเภทต่างๆกัน สรรพคุณที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆคุณประโยชน์นี้ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีสำหรับดูแลสภาพผิวรวมทั้งสุขภาพที่ขอเสนอแนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรและพืชต่างๆที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นแล้วก็เนื้อน้ำมันเหล่านั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมยวนใจ แล้วก็สัมผัสของของน้ำมันเหลืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้เราผ่อนคลาย รวมถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและก็ผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้พวกเราจะพาไปดูประโยชน์ของการนวดน้ำมันว่ามีคุณประโยชน์ในด้านใดบ้าง
บริการนวดน้ำมันนวดและโดยมากสร้างความเข้มแข็ง ระบบภูมิคุ้มกันและก็ช่วยสำหรับในการย่อยของกินดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่งดงามของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆสำหรับในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันเหลืองที่ยอดเยี่ยมสำหรับสิ่งที่จำเป็นเฉพาะบุคคลของคุณรวมทั้งบรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดน้ำมันเหลืองผ่อนคลายแล้วก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อรักษาความสมดุลทางใจวิญญาณของคุณและร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.คุณประโยชน์มีอะไรบ้าง ?
สรรพคุณของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีล้นหลามทีเดียว
ทุเลาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
แก้กลยุทธ์ขัดยอก ฟกช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาถูนวดฝ่าตีน ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดหัวเข่า ปวดขา ฟกช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ สูดกลิ่นแก้อ้วก เวียนหัว อาการหอบหืด และก็ไซนัส
- บรรเทาอาการเวียนหัวหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- แก้เคล็ดขัดยอก ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น
- น้ำมันเหลืองบรรเทาอาการคัดจมูก เนื่องจากว่าหวัด
คนไหนกันที่ถูกใจใช้ น้ำมันเหลือง เป็นประจำห้ามพลาด เนื่องจากว่าวันนี้เรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วไปนั้นมีการทำกันเปลี่ยนสูตรมากมาย แล้วแต่ว่าผู้ใดกันถูกใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำมาจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งนั้นมักใช้แก้ปวด แก้มึนหัว แก้ตะคริว รักษาโรคหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้อาการท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรวิธีการทำกันเลย
อุปกรณ์ วัสดุอุปกรณ์
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ยกตัวอย่างเช่น ขวดบรรจุกาแฟ ขวดแก้ว
วิธีการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรครั้งละตัวทอดต่อให้หมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนผสมอีกทั้ง 3 ประเภท ในอัตราส่วนที่ระบุเป็น(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนผสมทั้งปวงละลายเป็นของเหลว (ถ้าไม่ใช่ไม้คนบางทีอาจใช้วิธีการเขย่าขวดให้ส่วนผสมละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
ประโยช์จากการนวดน้ำมัน
นวดจริงคือการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อช่วยเหลือสุขภาพรวมทั้งฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งสิ้น. น้ำมันนวดถูกออกแบบมาเพื่อมือเลื่อนได้ง่ายขึ้นในระหว่างนวด แล้วก็ในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้มีความผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจ. อ่านต่อไปเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการนวดน้ำมันและผ่อนคลายร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดสดชื่น.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมันเหลือง, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ไม่เหมือนกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากหลายชิ้นน้ำหอมและก็สีที่ต่างกันเพื่อบริการ. น้ำมันนวดบำบัดรักษา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถเจอได้ในตลาดน้ำมันนวดน้ำมันเหลืองเพื่อคุณสามารถเลือกที่เยี่ยมที่สุดสำหรับสิ่งที่จำเป็นแล้วก็ความมุ่งมาดปรารถนาของคุณ.
ลดการ ความเครียด
นวดเป็นวิธีที่วิเศษมาก ลดความเครียด และความเครียดที่มีการสะสมภายในร่างกายของคุณในระหว่างวันที่เหน็ดเหนื่อย.
น้ำมันนวดน้ำมันหอมระเหยที่มีน้ำมันหอมระเหยที่สงบประสาท, ช่วยให้คุณบรรเทารวมทั้งกำจัดความนึกคิดเชิงลบที่สะกิดความตึงเครียด.
สุภาพ, , ช่วยทำให้คุณ รักษา แล้วก็คืนจิตวิญญาณและความสมดุลทางอารมณ์ของคุณ.
เสริมการไหลเวียนของเลือด
หนึ่งในผลตอบแทนที่สำคัญที่สุดของน้ำมัน นวด ซึ่งมันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและในขณะเดียวกันจะช่วยลดความดันเลือดซึ่งเป็น น.
36  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กระเทียม ที่เรารู้จักกันมีประโยชน์เเละสรรพคุณอย่างไร ?... เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 09:51:53 pm
[/b]
กระเทีย[/size][/b]
สรรพคุณกระเทียม
ปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับธรรมดา
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก็เลยเหมาะสมกับคนป่วยเบาหวาน
บำรุงเลือด ป้องกันอาการโลหิตจาง
เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
ป้องกันโรคหัวใจ
ลดท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินงานเจริญขึ้น
ช่วยขับลม แก้อาการจุดเสียดแน่นท้อง
คุ้มครองไข้หวัด ยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ และก็ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคโรคมะเร็ง
chopped-garlicsiStock
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
กับ 10 คุณประโยชน์ดีๆที่พวกเราต้องการให้คุณทานทุกวัน
แนวทางทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์
สารอัลลิสินในกระเทียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ต้องผ่านการหั่น สับ ตี หรือบด จำเป็นที่จะต้องหั่น สับ ทุบ หรือบดกระเทียมก่อนเอามาปรุงอาหาร 5-10 นาที ขึ้นรถอัลลิสินนี้จะไม่สลายหายไปเมื่อถูกความร้อน ด้วยเหตุนี้จะทานสด หรือจะทำอาหารในน้ำมันก็ช่างเถิด
จำนวนกระเทียมที่ควรทานต่อวัน
ในวัยผู้ใหญ่สามารถทานกระเทียมได้ประมาณ4 กรัมต่อวัน แต่ไม่ควรทานมากเกินกว่านี้ติดต่อกันเกิน 10 วัน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงภาวะเลือดแข็งช้า  หรือเลือดไหลไม่หยุดเมื่อเกิดบาดแผล
วิธีเลือกซื้อกระเทียมมาทำกับข้าว
ควรที่จะเลือกกระเทียมที่หัวแน่นๆไม่ฝ่อ เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน สด ไม่เน่า ไม่มีราขึ้น และก็ถ้าเกิดอยากได้รสของกระเทียมแบบแรงๆควรจะเลือกกระเทียมหัวเล็กๆ
ว่าแล้วของกินมื้อถัดไปก็บอกให้แม่ครัวพ่อครัวใส่กระเทียมลงไปในของกินให้ด้วยนะคะ แต่ระวังนิดหน่อย ถ้าหากทานกระเทียมมากๆโดยเฉพาะกระเทียมสด อาจมีอาการเจ็บคอภายหลัง แล้วก็อย่าลืมระแวดระวังกลิ่นปากกันด้วยจ้ะ เดี๋ยวจะกล่าวหาไม่เตือนนะ
ลักษณะทั่วไปของกระเทียม
กระเทียมเป็นพืชล้มลุกประเภทกินหัว ลำต้นสูง 1-2 ฟุต มีหัวลักษณะกลมแป้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว ด้านนอกของหัวกระเทียมมีเปลือกบางๆหุ้มห่ออยู่หลายชั้น ข้างในหัวประกอบแกนแข็งตรงกลาง ด้านนอกเป็นกลีบเล็กๆปริมาณ 10-20 กลีบ เนื้อกระเทียมในกลีบมีสีเหลืองอ่อนและก็ใส  มีน้ำเป็นองค์ประกอบสูง มีกลิ่นฉุนจัด
ลำต้นรวมทั้งหัวกระเทียมสด
แหล่งเพาะปลูก
กระเทียมสามารถปลูกได้ทั่วๆไปในทุกภาคของประเทศไทย แต่นิยมปลูกกันมากทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องมาจากมีภาวะดินรวมทั้งสถานการณ์อากาศที่เหมาะมากกว่าภาคอื่นๆทำให้กระเทียมเติบโตเจริญ ได้ผลผลิตสูงและมีรสชาติที่ดีกว่า
[/b]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กระเทีย[/b]เป็นไม้ล้มลุกและก็ใหญ่ยาว สูง 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง มีหัวใต้ดิน2 ลักษณะกลมแป้น เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 เซนติเมตร มีแผ่นเยื่อสีขาวหรือสีม่วงอมชมพูห่ออยู่ 3-4 ชั้น ซึ่งลอกออกได้ แต่ละหัวมี 6-10 กลีบ กลีบมีต้นเหตุจากตาซอกใบของใบอ่อน ลำต้นลดรูปลงไปๆมาๆก ใบเดี่ยว (Simple leaf) ขึ้นมาจากดิน เรียงซ้อนสลับ แบนเป็นแถบแคบ กว้าง 0.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 30-60 เซนติเมตร ปลายแหลมแบบ Acute ขอบเรียบและก็พับทบเป็นสันตลอดความยาวของใบ โคนแผ่เป็นแผ่นแล้วก็เชื่อมติดกันเป็นวงหุ้มห่อรอบใบที่อ่อนกว่าแล้วก็ก้านช่อดอกนำมาซึ่งการก่อให้เกิดเป็นลำต้นเทียม ปลายใบสีเขียวแล้วก็สีจะเบาๆจางลงจนถึงถึงโคนใบ ส่วนที่ห่อหัวอยู่มีสีขาวหรือขาวอมเขียว ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม (Umbel) มีตะเกียงรูปไข่เล็กๆเยอะๆอยู่ปนเปกับดอกขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนน้อย มีใบเสริมแต่งใหญ่ 1 ใบ ยาว 7.5-10 ซม. ลักษณะบาง ใส แห้ง เป็นจะงอยแหลมห่อช่อดอกช่วงเวลาที่ยังตูมอยู่ แต่เมื่อช่อดอกบานใบประดับจะเปิดอ้าออกแล้วก็แขวนลงรองรับช่อดอกไว้ ก้านช่อดอกเป็นก้านกระโดด เรียบ ทรงกระบอกตัน ยาว 40-60 เซนติเมตร ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบรวม 6 กลีบ แยกจากกันหรือติดกันที่โคน รูปใบหอกปลายแหลม ยาวประมาณ 4 มม. สีขาวหรือขาวอมชมพู เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดที่โคนกลีบรวม อับเรณูและก้านเกสรเพศเมียยื่นขึ้นมาสูงขึ้นมากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆของดอก รังไข่ 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1-2 เม็ด ผลเล็กเป็นกระเปาะสั้นๆรูปไข่หรือค่อนข้างกลม มี 3 พู เมล็ดเล็ก สีดำ
ในประเทศไทยปลูกมากมายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือ แม้กระนั้นกระเทียมที่มีชื่อว่าเป็นกระเทียมคุณภาพดี กลิ่นแรง ดังเช่นกระเทียมจากจังหวัดศรีสะผม
แนวทางเลือกซื้อกระเทียม
วิธีสำหรับการเลือกซื้อกระเทียมนั้น มีหลักไต่ตรองณง่ายๆเป็น เลือกกระเทียมที่หัวแน่น กลีบแน่น เปลือกบาง มีเนื้อสีเหลืองอ่อน สด แน่น ไม่ฝ่อและไม่มีเชื้อรา ที่สำคัญหากจำเป็นต้องทำอาหารที่ต้องการกลิ่นแรงๆจำเป็นต้องเลือกระเทียม
หัวเล็กเท่านั้น
กระเทียมสดคุณภาพดี
จะมีความคิดเห็นว่ากระเทียมมีประโยชน์และสรรพคุณมากไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงกระเทียมจะมีกลิ่นแรง แต่ก้ไม่ยากเกินความจำเป็นที่จะรับประทานนะครับ ดังนั้นอย่าลืมเพิ่ข้อควรตรึกตรองในการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
ผู้ที่กำลังมีท้องหรือคนที่อยู่ในตอนให้นมลูก การกินกระเทียมในช่วงการมีท้องค่อนข้างไม่มีอันตรายถ้าหากกินเป็นของกินหรือในปริมาณที่เหมาะสม แม้กระนั้นอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การรับประทานกระเทีย[/b]ในปริมาณที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนแล้วก็เคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจจะส่งผลให้เกิดการเคืองที่ทางเดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจส่งผลให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลงมากกว่าปกติ
คนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 อาทิตย์เนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด และก็คนที่มีภาวะเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เพราะว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ได้แก่ ไอโซไนอะซิด เพราะเหตุว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายแล้วก็มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของยา รวมทั้งไม่ควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b]ลงในเมนูอาหารของท่านนะครับ สรรพคุณและก็คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากกระเทียมนั้นเหลือร้ายจริงๆ [url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
[/b]
37  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กระเทียม มีประโยชน์-เเละสรรพคุณ มากกว่าที่คุณคิด ?.... เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 08:57:29 am

กระเทีย[/size][/b]
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในสกุลพลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) และก็อยู่ในตระกูลย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)
สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากมายในทางภาคเหนือแล้วก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ว่าสำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี กลิ่นแรงอาจจะหนีไม่พ้นจังหวัดศรีสะผม
คุณประโยชน์ของกระเทียม
ช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีรวมทั้งแข็งแรง
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
ช่วยคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและก็น้ำตาลในเลือด
ช่วยทำให้ปรับสมดุลในร่างกาย
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการมึน ปวดศีรษะ หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบขยายพันธุ์แล้วก็ระบบทางเดินเยี่ยว เพราะมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนหญิงและชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มกำลังวังชาให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวรุนแรง
ช่วยต้านทานเนื้องอก
ช่วยขจัดปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยคุ้มครองการเกิดรวมทั้งรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยสำหรับเพื่อการขับพิษรวมทั้งพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
ช่วยปกป้องฝาผนังหลอดเลือดครึ้มรวมทั้งแข็ง
สารสกัดน้ำมันกระเทียมมีสารที่มีส่วนช่วยสำหรับในการละลายลิ่มเลือด
ช่วยคุ้มครองการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
มีสารต้านทานไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล ปกป้องหวัด
ช่วยรักษาโรคหวัดรวมทั้งไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและก็ไซนัส
ช่วยรักษาโรคไอกรน
ช่วยแก้อาการหอบ หืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยระงับกลิ่นปากกระเทียม
ช่วยสำหรับเพื่อการขับเหงื่อ
ช่วยสำหรับการขับเสลด
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยของกินมาย่อยแผลในกระเพาะ
ช่วยสำหรับเพื่อการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องขึ้น ท้องอืด
ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
ช่วยสำหรับเพื่อการขับฉี่
ช่วยสำหรับเพื่อการขับพยาธิได้หลายแบบ อย่างเช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิด้าย พยาธิหมุด พยาธิไส้เดือน ฯลฯ
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบจำพวกรุนแรงได้
ช่วยปกป้องการเกิดโรคไต
ช่วยทำลายเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่างๆรวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะรวมทั้งบริเวณเล็บ
ช่วยยั้งเชื้อต่างๆดังเช่นว่า เชื้อที่นำไปสู่ฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค ฯลฯ
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่วกระเทียมคุณประโยชน์
ช่วยรักษาขี้กลาก โรคเกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเยื่อ บำรุงข้อต่อและกระดูกภายในร่างกาย
บรรเทาลักษณะของการปวดข้อและก็เมื่อยตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการกลยุทธ์ปวดเมื่อยและเท้าแพลง เนื่องจากมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีมากเพิ่มขึ้นนั่นเอง
มีสารต้านทานอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาตำหนิสซั่ม
กระเทียมมีกลิ่นฉุนก็เลยสามารถช่วยไล่ยุงได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากของกิน
ประโยช์จากกระเทียม
ประโยชน์หลักๆของกระเทียมอาจจะหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของของกิน ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆอีกสารพัดสารพัน
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
เป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่หลากหลายประเภท และยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงขึ้นมากยิ่งกว่าพืชจำพวกอื่นๆทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และก็ RNA ของเซลล์ภายในร่างกาย
ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการนำกระเทียมไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างนานัปการ ดังเช่น กระเทียมเสริมอาหาร กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมักระเทียม[/url] กระเทียมดอง ฯลฯ
[/b]
คุณค่าทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
ใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี 1 0.2 มิลลิกรัม 17%
วิตามินบี 2 0.11 มก. 9%
วิตามินบี 3 0.7 มก. 5%
วิตามินบี 5 0.596 มก. 12%
วิตามินบี 6 1.235 มิลลิกรัม 95%
วิตามินบี 9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มิลลิกรัม 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มก. 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มก. 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มก. 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มก. 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มิลลิกรัม 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มก. 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มก. 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% จำนวนร้อยละของจำนวนแนะนำที่ร่างกายอยากในแต่ละวันสำหรับคนแก่ (ที่มา : USDA Nutrient database)
คำแนะนำรวมทั้งข้อควรระวังสำหรับการใช้กระเทียม
กระเทีย[/b]ยิ่งสดเท่าไรก็ยิ่งมีคุณประโยชน์ที่ดีเยี่ยมขึ้นแค่นั้น แต่ว่าสำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยแนวทางต่างๆหรือผ่านการหมัก จะทำให้วิตามินรวมทั้งสารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นสลายตัวไป
วิตามินรวมทั้งแร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากมายหรือน้อยก็ขึ้นกับดินและลักษณะอากาศที่ใช้สำหรับการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คนที่หรูหราน้ำตาลในเลือดปกติ หรูหราความดันเลือดเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงผู้ที่ใช้ยาอื่นๆบ่อยๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต้านทานเชื้อไวรัส คุณไม่ควรกินกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในปริมาณที่มากกระทั่งเกินไป เนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้เป็นโทษต่อสุขภาพได้
สำหรับผู้ที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเป็นประจำ อาจก่อให้กำเนิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อกินได้ โดยอาจจะมีอาการคลื่นไส้ แล้วก็มีของกินหัวใจที่เต้นแรงไม่ปกติ แต่ว่าอาการดังกล่าวข้างต้นจะเบาๆหายไปเองภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่นำมาใช้สำหรับในการปรุงอาหารมักจะก่อกำเนิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบสดๆ
สำหรับผู้ที่อยู่ในครัวหรือผู้จำต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมบ่อยๆและก็เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ มีตุ่มน้ำได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณควรจะหลบหลีกการสัมผัส[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
โดยตรงเสมอๆด้วยการใส่ถึงมือทุกคราวในระหว่างที่จะใช้กระเทียม
แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่เยอะมาก แต่คุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลสำหรับในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง ทั้งยังผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุดังกล่าวคุณควรเลือกกินให้นานัปการและก็ครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมที่สุด เนื่องจากว่าพืชผักสมุนไพรทั่วๆไป ถ้าเรียนรู้กันอันที่จริงแล้ว มันก็มีสาระมากพอๆกับกันเลย
ตอนนี้ในบ้านเรายังไม่มีการยืนยันว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง อาจเป็นไปได้เพียงสมุนไพรหนทางสำหรับการรักษาและสมุนไพรเสริมสุขภาพแค่นั้นhttp://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรกระเทียม
38  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ทับทิมสามารถนำมาทำเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้เป็นอย่างดี เมื่อ: สิงหาคม 08, 2018, 09:26:15 am

ทับทิ[/size][/b]
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีที่ผลไม้ มีสาระต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีที่ผลไม้ มีคุณประโยชน์ทั้งต้น
อัปเดตปัจจุบันช่วงวันที่ พ.ค. 3, 2018 ราวเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์บทความนี้
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิม
ได้ผลไม่ที่นิยมกินกันมาก และขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของคุณประโยชน์ที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีที่ผลไม้ พูดกันว่ทับทิม[/url]นั้นคือผลไม้ที่ถูกประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์มาแล้วนับพันปี ในขณะนี้ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาปลูก รวมทั้งกินกันทั้งโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย สังเกตได้จากร้านค้าขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่แทบมีอยู่ตามท้องถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากทับทิมมีล้นหลาม ทั้งในเรื่องของสารอาหาร และก็การปกป้องคุ้มครองโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมถือเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียง 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงปริมาณร้อยละ 40 ของจำนวนที่เราต้องการในหนึ่งวัน (สำหรับคนแก่) ด้วยจำนวนวิตามินซีที่สูงในระดับนี้ก็เลยมีสรรพคุณสำหรับในการลดการเสี่ยงในการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างดี
ช่วยบำรุงผิวพรรณ
การรับประทานทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยให้ผิวพรรณของเราดูผ่องใส เพราะทับทิมได้ผลถึงที่เหมาะมีสรรพคุณสำหรับเพื่อการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสำหรับในการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของพวกเรา แล้วก็ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงจึงช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างขาวใส นอกจากนั้นพวกเรายังสามารถใช้น้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชา ทาบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยสำหรับการบำรุงผิวหน้าให้มองเต่งตึงเยอะขึ้นได้อีกด้วย คุณประโยชน์ในข้อนี้ของทับทิมสามารถรับรองได้จากการที่ในปัจจุบัน มีเครื่องแต่งตัวหรือครีมหลายชนิดได้นำทับทิมไปเป็นส่วนประกอบ
เส้นเลือดรวมทั้งหัวใจดียิ่งขึ้น
ในทางการแพทย์มีการศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่าทับทิม มีคุณประโยชน์ช่วยสำหรับในการทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนป่วยโรคหัวใจ นอกเหนือจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มีความดันเลือดสูง เมื่อกินน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดความดันเลือดได้จำนวนร้อยละ 5 ช่วยลดสถานการณ์การแข็งตัวของไขมันในเส้นโลหิตได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงในการกำเนิดโรคมะเร็ง
เพราะคือผลไม้ที่มีค่าการต้านทานอนุมูลอิสระที่สูง จึงช่วยลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า การรับประทานทับทิมช่วยลดช่องทางการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ของโรคมะเร็งถึง 13ช นิด และก็ยังสามารถช่วยทำลายเซลล์ของมะเร็งในหลอดของกิน และก็ไส้ได้อีกด้วย
คุณประโยชน์อื่นๆของทับทิม
นอกจากสรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ช่วยทุเลาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งท้อง ช่วยปรับสมดุลในวัยหมดระดู ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคสูญเสียความจำในคนวัยแก่ คุ้มครองปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน คุ้มครองปกป้องการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ ลดการตกขาว พูดได้ว่ามีคุณประโยชน์ล้นหลามจริง
 นอกเหนือจากส่วนที่เรานิยมรับประทานกันอย่างเมล็ดแล้ว องค์ประกอบอื่นของทับทิมก็มีสาระไม่แพ้กัน ทั้งเป็นยาและก็สมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยทุเลาอาการผมร่วงได้อย่างยอดเยี่ยม
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของพวกเราใช้รักษา แผลหิด กากโรคเกลื้อน มีสรรพคุณเกี่ยวกับการรักษาโรคในทางเดินของกิน ยกตัวอย่างเช่นรักษาอาการท้องร่วงได้
เปลือกของลำต้น และก็ราก: สามารถนำมาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยนำมาผสมกับกานพลู รวมทั้งอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำโดยประมาณสามถ้วย มีสรรพคุณในการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีคุณประโยชน์สำหรับการสมานแผล และก็บรรเทาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์ในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่ก็แค่เม็ด หรือน้ำทับทิม ก็เลยไม่ฉงนใจเลยที่ทับทิมจะได้รับฉายานามว่า "ราชชินีที่ผลไม้"
โรคแล้วก็อาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น โรคเส้นโลหิตหัวใจ การหย่อนความสามารถทางเพศ เจ็บกล้ามข้างหลังการบริหารร่างกาย กลุ่มอาการอ้วนอ้วน โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแดด การติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเสีย โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง แล้วก็อื่นๆยังจำเป็นต้องทำการศึกษาเรียนรู้วิจัยเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพและก็ความปลอดภัยของทับทิมสำหรับเพื่อการรักษาโรค
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยทั่วไปการกินน้ำทับทิมค่อนข้างมีความปลอดภัย แม้กระนั้นในบางรายที่มีลักษณะแพ้ผลสดของทับทิมบางทีอาจเป็นผลข้างๆจากการดื่มน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสุขภาพ การกินรากและลำต้นของทับทิมในปริมาณมากบางทีอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมออกจะไม่มีอันตรายในการกินหรือประยุกต์ใช้กับผิวหนัง แต่ว่าอาจทำให้กำเนิดอาการแพ้เล็กน้อยในบางราย อาทิเช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจติดขัด
การรับประทานน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมลูก แต่ว่ายังไม่มีรายงานยืนยันความปลอดภัยสำหรับในการกินหรือใช้ทับทิมในรูปแบบอื่น ดังเช่น สารสกัดจากทับทิม จำเป็นจะต้องขอความเห็นหมอก่อนที่จะมีการกินทุกคราว
น้ำทับทิมอาจทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้คนป่วยที่มีภาวะความดันต่ำอาการกำเริบ
[/b]
ผู้ที่มีลักษณะอาการแพ้จากพิษพืชอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการกินทับทิม
คนป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดควรจะหยุดกินทับทิมขั้นต่ำ 2 อาทิตย์ เนื่องมาจากทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันเลือดต่ำลง ก็เลยบางทีอาจกระทบต่อความดันโลหิตในขณะผ่าตัดหรือส่งผลต่อเนื่องไปยังหลังการผ่าตัด
การรับประทานทับทิมควบคู่กับยาบางชนิดอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ดังเช่น ยาที่เกี่ยวกับหลักการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome จำพวก P450 2D6 หรือชนิด P450 3A4 ยาลดระดับความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยาโรสุวาสแตติน ผู้ที่กินยาบ่อยๆหรือมีโรคประจำตัวควรจะหารือหมอก่อนที่จะมีการกินเพื่อความปลอดภัย http://www.disthai.com/[/b]
39  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ทับทิม รู้หรือไม่ว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ-ประโยชน์มากอย่างน่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 05:19:15 pm
[/b]
ทับทิ[/size][/b]
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิ[/b] เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือก[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิม
สามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากขอทับทิม[/url]สามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/[/b]
40  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?.. เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 10:34:45 am
[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เล่าเรียนเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวมาข้างต้นมีส่วนในการยัยยั้งลักษณะการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการค้นคว้าวิจัยล้นหลามถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แต่ยังคงไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือการทดลองทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เทียบจากการรวบงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่เรียนรู้ประสิทธิผลของ[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
เพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการดูแลรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบรรเทาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นเมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับเพื่อการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด
นอกเหนือจากนี้ จาการทบทวนงานค้นคว้าพบว่ามีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ช่วยเหลือว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้เจ็บป่วยให้ดียิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานค้นคว้าวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้และนอนไม่หลับด้วย
โดยเหตุนั้น ก็เลยอาจจะบอกได้ว่า สิ่งพิสูจน์ทางคุณลักษณะรวมทั้งคุณประโยชน์ของเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในผู้ป่วยบางกรุ๊ปเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรจะจัดการทดสอบถัดไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แจ่มแจ้งและก็มีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต และการเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทปัสสาวะ
มีแนวทางการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนเจ็บเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการฉี่ขัดข้อง หลังการทดลองกว่า 12 อาทิตย์ คำตอบที่ได้คือ ผู้เจ็บป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลในการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบปัญหา แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การทดสอบดังที่กล่าวถึงแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่ชัดแจ้งเพียงพอ จึงควรมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่แจ่มแจ้งสำหรับเพื่อการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลและรักษาสภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวเนื่อง
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดสอบด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนเจ็บโรคเบาหวานจำพวก 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะสนับสนุนผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือด้วยเหมือนกัน โดยหนึ่งในงานค้นคว้าวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้ป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
ด้วยเหตุนั้นควรต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อป้องกันและก็การดูแลรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจถัดไป แล้วก็ให้ได้ความแจ้งชัดชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลดีต่อกรรมวิธีรักษาคุ้มครองปกป้องโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวพันต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับในการบริโรคเห็ดหลินจืออย่างกระจ่าง เนื่องประสิทธิผลแล้วก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้ซื้อ ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เพราะว่าหากแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่สารเคมีและส่วนประต่างอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน
[/b]
โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันดังเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ว่าลูกค้าก็ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะ ควรระมัดระวังในด้านปริมาณและก็ต้นแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าบางทีอาจเป็นผลใกล้กันต่อสุขภาพได้ในตอนหลัง
โดยสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือได้แก่
ผู้ซื้อทั่วไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะเป็นผลให้มีอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลกระทบได้ เช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลข้างเคียงเป็นอาการผื่นคัน
-การสูดหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจทำให้กำเนิดอาการแพ้
ผู้ที่ต้องระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมลูก ถึงแม้ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปลูกค้านี้แต่คนที่มีท้องแล้วก็ผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองและก็ลูกน้อย
ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางรายที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด ดังนั้น เพื่อลดการเสี่ยง ผู้ป่วยควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุนั้น คนป่วยภาวการณ์ความดันเลือดต่ำจำเป็นต้องหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ โดยเหตุนี้คนป่วยภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกไม่ปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวการณ์เลือกออกไม่ปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/[/b]
41  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ผลของการทานเห็ดหลินจือมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 06, 2018, 09:42:25 am
[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
เรื่องเล่าประสบการณ์ตรงจากที่ลงภาคสนาม
ยายคนหนึ่ง อายุราว 67 ปี ทำอาชีพขายเห็ดในตลาด ลักษณะของการป่วยเป็นโรค ดังต่อไปนี้
1.[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
สามารถรักษาโรคเบาหวาน เป็นทุนเดิม เป็นโรคนี้มาราว 1x ปี
2.โรคความดันโลหิต เป็นมาพร้อมๆกับเบาหวาน ต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตลอด มีลักษณะอาการงงงัน
3.โรคไขมัน มาพร้อมๆกับโรคเบาหวาน จะต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตลอด
4.โรคไตเสื่อม ภายหลังจากเป็นโรคโรคเบาหวานมาราว 10 ปี แพทย์ตรวจพบว่า ไตเสื่อม ระยะ 2 มีลักษณะอาการขาบวม เหนื่อยเดิน
5.โรคกระเพาะเยี่ยว อักเสบ มาตอนเป็น ไตเสื่อม กระตุ้นให้เกิดอาการเยี่ยวขับ ฉี่ไม่สุด เจ็บแปล็บๆ
6.โรคเก๊า มาตรวจพบคราวหลัง ว่าค่ายูริก เริ่มเยอะขึ้น
======================
ความประพฤติของคนเจ็บและความเป็นมาก่อนกิเห็ดหลินจือ[/url]สกัดเข้มข้น[/size][/b]
1.ช่วงเจ็บไข้ตอนเริ่ม จะมีลักษณะน้ำตาลในเลือดสูง แทบ 200 มก. แม้กระนั้นเพียงพอผ่านมาเกือบ 10 ปี คิดว่าดูแลตนเองได้ดี ผลที่ได้กลายเป็นอย่างนี้ สักครู่น้ำตาลสูง เดี๋ยวน้ำตาลต่ำ นำมาซึ่งอาการมึนหัวได้ทั้งวัน การงานไม่ต้องทำแล้ว นอนดีมากยิ่งกว่า
2.เพียงพอมีน้ำตาลในเลือดสูง ความดันจะตามมาเลย ทำให้เกิดอาการโลกหมุน ลายตา ต้องนอนอีกตามเคย
3.พอเพียงพักหลังเริ่มกินของมันลดลง สามารถที่จะคุมไขมันได้ แม้กระนั้นพอนานวันเข้า ไขมันคุมได้ แต่ว่าเจอสามกีซาลายสูงซะงั้น
4.ภายหลังจากเจ็บมา 1x ปี ร่างกายก็ไม่ค่อยได้พัก กระตุ้นให้เกิดช่วงอาการน็อคน้ำตาล ไป 2 ที ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จำต้องเข้า รพ. เพื่อกลูโคส ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
5.พอเพียงผ่านมาอีก 6 เดือน หมอตรวจพบเป็นไตเสื่อมขั้นที่ 2 แถมมีโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะเหตุว่ามีไข่ขาวรั่วมาทางปัสสาวะมากมาย ทำให้เรี่ยวแรงสำหรับเพื่อการเดินไม่มี (แทบจะเดินไม่ไหว ก้าวขาไม่ออก) แถมพบโรคเก๊าต์ ถามหาอีก
6.ระยะหลังจากที่รู้ดีว่าเป็นหลายโรค ชีวิต มันช่างมืดมนอย่างมาก ทำให้เบื่อข้าว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ถึงหลับก็ไม่สนิท ขาบวม ใจสั่น เจ้าอารมณ์
7.พอถึงเวลานี้ ยายคนนี้ ความประพฤติปฏิบัติแปรไป จากที่เคยจำเป็นต้องออกไปเปิดร้านขายเห็ดในตลาดทุกๆวัน ไม่เคยหยุด กลับทำให้เขาไม่ต้องการขายสินค้า ขอหยุดนอนอยู่ในบ้าน ประพฤติตัวเหมือนไร้ค่า จะต้องให้ลูกๆมาคอยมอง ทำให้เป็นภาระหน้าที่ของลูก
======================
ปัญหา สำหรับลูกที่ดูแล รวมทั้งจุดเปลี่ยนแนวคิด
1.ลูกคนนั้น มีความคิด ทำอย่างไงก้อได้ ให้แม่หายจากโรคทั้งสิ้นนี้
2.ทำอย่างยังไงก็ได้ให้คุณแม่กลับมาดำเนินการได้อย่างเดิม
3.ทำอย่างยังไงก็ได้ให้คุณแม่รับประทานข้าวได้ราวกับแต่ก่อนเป็นเบาหวาน
4.ทำอย่างยังไงก็ได้ให้คุณแม่นอนหลับได้ดิบได้ดี
=======================
ในที่สุดลูกคนนั้นได้มาคุยกับผม ผมเลยชี้แนะเห็ดหลินจื[/b]แดงสกัดเข้ม และลูกคนนั้นได้เอาไปให้ท่านแม่ทาน
เริ่มที่ม่าม้าไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือแดงสกัดเข้มข้น จะช่วยทำให้ชีวิตเขาได้ เนื่องจากว่าม่าม้าทานสมุนไพร อาหารเสริมมามากแล้ว
=======================
[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]
[/b]
เริ่มกับการทานเห็ดหลินจือแดงสกัดเข้มข้น (ผลบางทีอาจนานับประการในแต่ละบุคคล)
1.ผมชี้แนะให้ทาน 24 ชั่วโมง 2 เวลาเป็นรุ่งเช้า-เย็น ในกรณีของม่าม้าคนนี้ มีโรคประจำตัวมาก จะให้ทานแบบงี้ ภายหลังกินอาหารแล้ว ให้ทานยาแผนปัจจุบัน รวมทั้งรอคอย 30 นาที ค่อยทานเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น
2.เพียงพอภายหลังทานได้ระยะแรก อาการมึนๆงวยงงๆเริ่มดีขึ้น นอนหลับก้าวหน้าขึ้นมาก ปกติจะมองจนถึงเที่ยงคืนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยหลับ แล้วตื่น 6-7 โมงรุ่งเช้า มาจัดร้านขายของ กลายเป็น นอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้าตรู่
3.ภายหลังนอนก้าวหน้า  ทำให้อาการขาบวมดีขึ้น ปัสสาวะดียิ่งขึ้นมาก ไม่ขัดรวมทั้งเยี่ยวได้สุด ค่าน้ำตาลดีขึ้น ไม่สวิงต่ำ-สูง รวมทั้งผลไตดีขึ้นด้วย
4.คนเจ็บเริ่มรับประทานข้าวได้ธรรมดา (ม่าม้าไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือช่วยได้จริงไหม เลยทดลองด้วย รับประทานทุเรียน2เม็ด แล้ววันพรุ่งไปตรวจเลือด ผลเลือดที่ออกมาแม่ตกใจ ว่าเพราะเหตุใดน้ำตาลธรรมดา ^_^)
5.พอเพียงร่างกายได้ นอนได้เต็มอิ่ม หน้าใส(มีคนทักว่าไปทำอะไรมา) แข็งแรงสามารถยกของหนักๆได้ ซึ่งหากเป็นคราวก่อน แค่เดินยังต้องหาที่นั่งพักเลย
คุณประโยชน์[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจื[/b]ที่มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยรับรอง....มีอะไรบ้าง
มีความเชื่อมานานแล้วว่าเห็ดหลินจือแดงสามารถทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดลมดี ผิวพรรณผ่องใส ช่วยทำให้แก่ช้าลง ความจำดียิ่งขึ้น และช่วยอายุยืนนาน
ส่วนคุณประโยชน์ในทางการรักษาโรคถูกกล่าวไว้อย่างมากมายเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น แก้ตับแข็ง รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคความดัน และก็ภูมิแพ้ฯลฯ
แต่ทีเด็ดเป็น......
มีการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ[url=http://www.disthai.com/]เห็ดหลินจื[/b]รักษาโรคจากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งสำหรับการทดลองเรียนรู้ทางคลีนิคแล้วก็ยืนยันว่าเห็ดหลินจือมีคุณประโยชน์ดังต่อไปนี้จริง ไม่ใช่แค่ความเชื่ออีกต่อไป อันอาทิเช่น
-กระตุ้นภูมิต้านทาน
-ต้านทานเนื้องอกและก็มะเร็ง
-รักษาโรคฟุตบาทเยี่ยว
-รักษาโรคหัวใจ
-ช่วยให้การนอนหลับ
-ลดไขมันในเลือด
-ต่อต้านอนุมูลอิสระ
-ต้านการอักเสบ

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ
42  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรฟันปลา เป็นยังไง เเละ มีประโยชน์ทั้งสรรพคุณดีอย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 04, 2018, 10:32:24 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรฟันปล[/size][/b]
ฟันปลา Litsea umbellate Merr.
บางถิ่นเรียกว่า ฟันปลา เศร้าใจ (ปราจีนบุรี) เมนตรือ (เขมร-จันทบุรี) สะเตื้อ (ตราด)
       ไม้ต้น ขนาดเล็ก หรือไม้พุ่ม สูง 3-10 มัธยม ตามกิ่งก้านมีขนสีน้ำตาล ใบ โดดเดี่ยวออกเรียงสลับ หรือเรียงเวียนห่างๆรูปรี หรือ มีขนาดค่อนข้างเล็ก กว้าง 4-10 เซนติเมตร ยาว 7.5-23 เซนติเมตร ปลายใบแหลม หรือมน โคนใบแหลมขอบของใบเรียบ หรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน มีขนเฉพาะตามเส้นกึ่งกลางใบและเส้นกิ่งก้านสาขาใบ ด้านล่างเป็นคราบเปื้อนขาว มีขน เส้นใบมี 6-10 คู่ ด้านล่างมองเห็นชัดกว่าข้างบน ก้านใบยาว 6-12 มม. มี ดอก ออกเป็นช่อ เป็นกระจุกตามง่ามใบ ก้านช่อยาว 2-5 มิลลิเมตร ช่อดอกมีขนปกคลุมหนาแน่น [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
กลีบรวมเชื่อมชิดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 4-6 กลีบ ถ้วยรวมทั้งกลีบติดทนกระทั่งสำเร็จ ผล รูปไข่หรือออกจะกลม ปลายมีติ่งแหลม โคนมีชั้นของกลีบรวมรองรับอยู่ ขอบกลีบรวมมีขน

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นในป่าดิบ เจอทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และก็ทางภาคใต้ของไทย
คุณประโยชน์ : ต้น เปลือกต้นพบ alkaloid ใบ ตำเป็นยาพอกฝี
43  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / น้ำมันเหลืองมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่น่าทึ่ง เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2018, 08:20:21 am

น้ำมันเหลือ[/size][/b]
น้ำมันเหลือง ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. สกุล Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กลุ่มที่ 2 บัญชียาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อรวมทั้งกระดูก ยาสำหรับใช้ข้างนอก เช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) แล้วก็ ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งสองตำรับเป็น บรรเทาอาการบวม ฟกช้ำ กลยุทธ์ยอก
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง
ไพลที่ได้จากการทอดรวมทั้งการกลั่นแตกต่างเช่นไร? น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางครั้งก็อาจจะได้จากการกลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ละอองน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) ขั้นตอนการกลั่นแบบนี้เป็นแนวทางที่ชาวยุโรปเริ่มแรกนิยมใช้กัน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่ไพลที่เอามากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจก่อให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นผิดไปได้ หรือจะได้จากผู้กระทำลั่นโดยใช้การผ่านของไอน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลใส่อยู่ (steam distillation) ละอองน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น วิธีนี้มีจุดเด่นกว่าคือ ไพลจะถูกความร้อนไม่มาก น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป โน่นคือน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก 2 แนวทาง จะมีสารประกอบทางเคมีที่ต่างกันบ้าง โดยปกติน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะประกอบด้วยสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก อย่างเช่น สารกรุ๊ป monoterpenes (สารที่มีคาร์บอนจำนวน 10 ตัว) และก็สารกรุ๊ป sesquiterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนจำนวน 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นมี สารกลุ่ม monoterpenes เช่น sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นแนวทางของคนไทยโบราณที่ใช้เตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นน้ำมันถูนวด แก้ปวดกล้ามเนื้อ ตอนนี้หลายโรงพยาบาลของเมืองได้มีการจัดแจงเป็นเภสัชตำรับของโรงพยาบาล และก็เป็นเลิศตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้ตระเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชประเภทอิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันจำพวกอิ่มตัว) เช่น น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่ควรใช้น้ำมันพืชประเภทไม่อิ่มตัว (มีกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว) ได้แก่ น้ำมันงา น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าวน้ำมันเหลือง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าน้ำมันชนิดไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้พันธะคู่ในโมเลกุลมีการแตก รวมทั้งรวมกลุ่มเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น กระตุ้นให้เกิดความหนืด นอกจากนี้จะทำให้กำเนิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันกลิ่นหืน น้ำมันพืชที่ใช้ทอดเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวน้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีสารประกอบที่มีขั้วน้อยและโมเลกุลเล็กได้ พร้อมกับสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแม้กระนั้นมีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นแต่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, แล้วก็ cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่มากยิ่งกว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง รวมทั้งเป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปกล้วยๆเป็น น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารโมเลกุลเล็กรวมทั้งระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
น้ำมันเหลือง หอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, แล้วก็ cyclohexene derivatives) เป็นกลุ่มสารที่ส่งผลการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบและแก้ปวดในสัตว์ทดสอบ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 นอกจากนั้นยังมีรายงานการศึกษาน้ำมันเหลือง ทางคลินิกพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและการปวดของข้อเท้าแพลงในผู้เจ็บป่วยนักกีฬาที่เจ็บข้อเท้าแพลงมากกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 และก็พบว่าครีมไพจีซาลได้ประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาลักษณะของการปวดเมื่อยล้าหลัง ไหล่ ก้านคอ เอว หัวเข่า14 แต่ตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการศึกษาทางคลินิกมาก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาโครงงาน “การพัฒนาความสามารถผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีเชิงพาณิชย์ AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นโครงงานที่ได้รับทุนเกื้อหนุนจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังเรียนทางสถานพยาบาลในคนป่วยข้อหัวเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเลียนแบบวิธีการสกัดแบบภูมิปัญญา ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆจำพวก ไม่เฉพาะแต่น้ำมันเหลือง หอมระเหยแค่นั้น และก็ได้แก่การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า
44  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / น้ำมันเหลืองมีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งนัก เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2018, 09:46:19 am
[/b]
น้ำมันเหลือ[/size][/b]
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพเลิศ ทำมาจากพืชสมุนไพรชนิดต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อบรรเทาอาการต่างๆสรรพคุณนี้ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวด[url=http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง
เป็นวิธีดูแลสภาพผิวแล้วก็สุขภาพที่ขอเสนอแนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรรวมทั้งพืชต่างๆที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย โดนการนำสารสกัดกลิ่นรวมทั้งเนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมยวนใจ รวมถึงสัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความเครียด ทำให้เราบรรเทา รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชื้นรวมทั้งผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้พวกเราจะพาไปดูประโยช์จากการนวดน้ำมันว่ามีคุณประโยชน์ในด้านใดบ้าง
บริการนวดน้ำมันเหลืองและก็โดยมากสร้างความแข็งแรง ระบบภูมิต้านทานและก็ช่วยสำหรับการย่อยของกินดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่งามของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความอยากได้เฉพาะบุคคลของคุณแล้วก็ผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการนวด[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url][/color]บรรเทาแล้วก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลทางใจวิญญาณของคุณแล้วก็สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.คุณประโยชน์มีอะไรบ้าง ?
คุณประโยชน์ของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากมายทีเดียว
น้ำมันเหลืองบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
แก้เคล็ดปวดเมื่อย ฟกช้ำดำเขียว ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาเช็ดนวดฝ่าเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดหัวเข่า ปวดขา บวมช้ำ ปวดกล้าม สูดกลิ่นแก้อ้วก ตาลาย หอบหืด แล้วก็ไซนัส
- บรรเทาอาการหน้ามืดหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- น้ำมันเหลือง แก้เคล็ดปวดเมื่อย ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผดผื่น

  • ทาก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น
  • บรรเทาอาการคัดจมูก เนื่องด้วยหวัด

น้ำมันเหลือง ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดเข่า ปวดขา ฟกช้ำดำเขียว ปวดกล้ามเนื้อ สูดแก้คลื่นไส้ เวียนหัว หอบหืด และก็ไซนัส
- ทุเลาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม
- น้ำมันเหลือง แก้กลยุทธ์ปวดเมื่อย ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายขึ้น
- ทุเลาอาการคัดจมูก ด้วยเหตุว่าหวัด
3.น้ำมันเหลือง ของ ช้อนทองมงคล มีสเตอรอยด์ไหม ?
น้ำมันเหลืองของช้อนทองมงคล ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำจากสมุนไพรไทย 100% จึงสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย สามารถใช้โดยจะนวดหรือเปล่านวดก็ได้ ใช้แล้วไม่เกิดการสะสม ลูกค้าส่วนมากจึงชื่นชอบ พอประมาณหาย รวมทั้งบอกต่อๆกัน

45  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / น้ำมันเหลือง คืออะไร?...เเละสามารถรักษาอะไรได้บ้าง?.. เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2018, 10:00:41 am
[/b]
น้ำมันเหลือ[/size][/b]
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพเลิศ ทำมาจากพืชสมุนไพรชนิดต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆคุณประโยชน์นี้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
คุณประโยช์จากการนวดน้ำมัน
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือ นวดจริงคือการกระตุ้นเนื้อเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อส่งเสริมสุขภาพรวมทั้งฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมด. น้ำมันนวดถูกวางแบบมาเพื่อให้มือเลื่อนได้ง่ายขึ้นในระหว่างนวด แล้วก็ในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้รู้สึกดีและผ่อนคลายสูงที่สุดสำหรับทั้งกายใจ. อ่านต่อไปเพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันและก็บรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดชื่นบาน.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมันเหลือง, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ต่างกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากเยอะแยะน้ำหอมรวมทั้งสีที่แตกต่างเพื่อให้บริการ. น้ำมันนวดบำบัดรักษา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถพบได้ในตลาดน้ำมันเหลืองเพื่อคุณสามารถเลือกที่เยี่ยมที่สุดสำหรับความต้องการรวมทั้งความต้องการของคุณ.
คุณประโยชน์ของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากมายก่ายกองทีเดียว
บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม
แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
ทาแก้ผดผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาถูนวดฝ่าเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดเข่า ปวดขา บวมช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ สูดแก้คลื่นไส้ วิงเวียน อาการหอบหืด แล้วก็ไซนัส
- บรรเทาอาการเวียนหัวหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- แก้เคล็ดขัดยอก ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น
- บรรเทาอาการคัดจมูก ด้วยเหตุว่าหวัด
3.น้ำมันเหลือง ของ ช้อนทองมงคล มีสเตอรอยด์ไหม ?
[url=https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง
ของช้อนทองคำมงคล ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำจากสมุนไพรไทย 100% จึงสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย สามารถใช้โดยจะนวดหรือไม่นวดก็ได้ ใช้แล้วไม่มีการสะสม ลูกค้าโดยมากจึงชื่นชอบ พอประมาณหาย และก็บอกต่อๆกัน

  • ใช้ยังไง ในแต่ละอาการปวด ?

เราเสนอแนะกล้วยๆแค่ 2 ขั้นตอนเป็น"กด" + "ทา" โดยจะนวดหรือไม่นวดก็ได้ ทาบริเวณที่มีลักษณะอาการ
ตอนนี้น้ำมันเหลืองได้รับความนิยมใช้อย่างมากมายมาก ด้วยเหตุว่าคุณประโยชน์ไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใช้สินค้าที่ทำมาจากธรรมชาติจริงๆเพราะว่านอกเหนือจากจะรู้สึกไม่มีอันตรายแล้ว ใช้นานหรือบ่อยแค่ไหนก็ไม่มีการสะสม
ผู้ใดกันที่ชอบใช้ น้ำมันเหลือง เสมอๆห้ามพลาด เพราะวันนี้พวกเรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วไปนั้นมีการทำกันเปลี่ยนสูตรมาก สุดแต่ว่าผู้ใดกันแน่ถูกใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งหมดมักใช้แก้ปวด แก้เวียนหัว แก้ตะคิว รักษาอาการหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้ท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรการทำกันเลย
อุปกรณ์ อุปกรณ์
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ตัวอย่างเช่น ขวดใส่กาแฟ ขวดแก้ว
วิธีทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนกระทั่งน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรตัวทอดถึงแม้ว่าจะหมดฟองชูลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนผสมอีกทั้ง 3 ชนิด ในอัตราส่วนที่ระบุหมายถึง(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนประกอบทั้งสิ้นละลายเป็นของเหลว (ถ้าหากไม่ใช่ไม้คนอาจใช้กรรมวิธีเขย่าขวดให้ส่วนผสมละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
น้ำมันเหลืองผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนได้ดีขึ้น ทุเลาอาการเจ็บปวด รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลที่ได้รับจากการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ไป จะทรมานจากลักษณะของการเจ็บปวดน้อยลง อ้วกน้อยครั้ง ไหมอ้วกเลย รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น ความดันดีกว่าเดิม แล้วก็เครียดจากลักษณะการป่วยลดน้อยลง ภายหลังได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือก[url=http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือ[/b]ขึ้นกับการใช้แรงงาน และก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละชนิด โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด เช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงขึ้นมากยิ่งกว่าน้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ แล้วก็ทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต คุ้มครองป้องกันการเกิดมะเร็ง นอกเหนือจากนั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นจะต้องต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มกระชุ่มกระชวย
โดยดังนี้น้ำมันแต่ละประเภทจะมีคุณลักษณะ และคุณประโยชน์ที่นานับประการ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้
หน้า: 1 2 [3] 4
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย