กระทู้ล่าสุดของ: หนุ่มน้อยคอยรัก007

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
46  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ตะขบควาย เป็นสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาใช้เป็นยาเพื่อรักษาโรค เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2018, 04:59:42 pm
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรตะขบควา[/size][/b]
ตะขบควาย Flacourtia jangomas (Lour.) Raeusch.
บางถิ่นเรียก ตะขบควาย (ภาคกลาง) กือลุก (มลายู-ปัตตานี) ครบ (ปัตตานี) มะเกว๋นควาย(ภาคเหนือ)
  ไม้ใหญ่ ขนาดเล็ก ผลัดใบ สูง 5-10(-14) ม. ต้นอ่อนมีหนาม เมื่อแก่เกลี้ยง เปลือกสีน้ำตาลอ่อนถึงสีทองแดง หรือ สีเหลืองอมชมพู ล่อนออกเป็นแผ่นบางๆตามกิ่งอ่อนมีจุดสีขาวๆจำนวนหลายชิ้นเป็นช่องที่มีไว้สำหรับระบายอากาศ ใบ เดี่ยว ออกเวียนสลับ รูปไข่ออกจะแคบ ถึงรูปไข่ปนขอบขนาน กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 7-10 ซม. ปลายใบเรียวยาว ที่ปลายสุดทู่ โคนใบกลม หรือ แหลม ขอบของใบจักตื้นๆเนื้อใบค่อนข้างจะบาง ใบอ่อนออกสีชมพู หรือ สีน้ำตาลอ่อน ด้านล่างสีอ่อนกว่า สะอาด ข้างบนวาว ก้านใบยาว 6-8 มม. มีขน หรือ ขนบางครั้งอาจจะหลุดหล่นไปเมื่อแก่ ดอก มีกลิ่นหอมยวนใจเหมือนน้ำผึ้ง ออกเป็นช่อตามง่ามใบ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพส
แต่ละช่อมีดอกปริมาณน้อย เป็นดอกแยกเพศ  ดอกเพศผู้ ช่อยาว 1.5-3 ซม. ก้านดอกเล็ก ยาว 0.5-1 ซม. กลีบดอก 4(-5) กลีบ รูปไข่ ปลายมน ยาวประมาณ 7 มม. สีออกเขียว มีขนทั้งสองด้าน ขอบกลีบมีขนหนาแน่น ฐานดอกมีเนื้อ ขอบเรียบหรือจะบางส่วน สีขาว หรือ เหลือง เกสรเพศผู้มีเยอะมากๆ ถ้าเกสรเกลี้ยง ดอกเพศเมีย ช่อยาว 1-1.5 เซนติเมตร กลีบดอกไม้เหมือนดอกเพศผู้ รังไข่รูปคนโฑ ด้านในมี 4-6 ช่อง มีไข่ช่องละ 2 เมล็ด ก้านเกสรเพศเมียมีพอๆกับจำนวนช่อง แต่ละก้านปลายแยกเป็นสองแฉกรวมทั้งม้วน ผล ค่อนเรากลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม. มีก้านเกสรเพศเมียติดอยู่กับปลายผล สีแดงอมน้ำตาลอ่อน หรือ ม่วง เมื่อแก่เป็นสีดำ เนื้อสีเหลืองอมเขียว มีเม็ด 4-5 เมล็ด

นิเวศน์วิทยา
: สันนิษฐานว่ามีบ้านเกิดจากอินเดีย มีปลูกตามสวนทั่วไป
สรรพคุณ : ราก เปลือกรากตำพอกแผล รวมทั้งผิวหนังอักเสบ ต้น น้ำสุกเปลือกรับประทานเป็นยาแก้อาการเปลี่ยนไปจากปกติของท่อน้ำดี บำรุงธาตุ และก็บำรุงร่างกาย ใบ น้ำสุกใบเป็นยาฝาดสมานแก้ท้องเสีย ขับเหงื่อ ขับระดูแล้วก็ให้สตรีรับประทานหลังการคลอดลูก นอกเหนือจากนั้นให้สีเขียวขี้ม้า ใช้ย้อมผ้าไหมได้ดี ผล กินแก้อาการผิดปกติของท่อน้ำดี แม้กระนั้นถ้ากินมากมายๆอาจก่อให้แท้งบุตรได้เหมือนกับน้ำต้มใบ

Tags : สมุนไพร
47  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรไม้เท้ายายม่อม มีสรรพคุณ-ประโยชน์ สามารถช่วยรักษาอาการเเมลงกัดต่อยได้อย่า เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2018, 11:53:38 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรไม้เท้ายายม่อ[/b]
ไม้เท้ายายม่อม Trigonostemon longifolius
บางถิ่นเรียก เท้ายายม่อมป่า อ้ายบ่าว (จังหวัดปัตตานี)
ไม้ต้น หรือ ต้นไม้ ขนาดเล็ก สูง 2-6 มัธยม ยอดอ่อนมีขนสีเหลืองอมแดง เมื่อแห้งมีสีเหลือง. ใบ ลำพัง เรียงสลับกัน รูปหอกกลับถึงรูปช้อนแกมรูปไข่กลับ กว้าง 5-14 เซนติเมตร ยาว 20-55 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมเป็นหาง ยาวราวๆ 0.5-2 ซม. ขอบของใบหยักน้อยทางใกล้ปลายใบ ส่วนขอบใกล้โคนใบเรียบ; โคนใบเรียวแหลมจนถึงเป็นครีบ; เส้นใบมี 15-20 คู่ ข้างบนใบสีเขียวเข้ม สะอาด นอกจากตามเส้นกลางใบมีขน ข้างล่างสีอ่อน มีขนห่างๆทั่วไป และมีขนมากตามเส้นกึ่งกลางใบ แล้วก็ขอบใบ; ก้านใบยาว 0.5-1.5 เซนติเมตร มีขน. ดอก ออกตามง่ามใบ เป็นช่อยาว ไม่แยกกิ่งก้านสาขา ยาว 15-25 เซนติเมตร มีขนหนาแน่น ใบแต่งแต้มรูปยาวปลายแหลม; ดอกเพศผู้ และ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
ดอกเพศเมียเกิดบนต้นเดียวกัน. ดอกเพศผู้ มีกลีบรองกลีบดอกไม้ 5 กลีบ ภายนอกมีขนยาวและก็แข็งชี้ไปทางปลายกลีบ; กลีบ 5 กลีบ รูปไข่กลับปนขอบขนาน สีแดงคล้ำ เกสรผู้มี 3 หรือ 5 อัน ก้านเกสรเชื่อมชิดกันเป็นแท่ง อับเรณูติดที่ปลาย ก้านดอกมีต่อม 5 ต่อม ชอบเชื่อมติดกันคล้ายรูปถ้วย. ดอกเพศภรรยา กลีบรองกลีบดอก รวมทั้งกลีบดอกไม้มีลักษณะเสมือนดอกเพศผู้ไหมมีกลีบ รังไข่มี 3 ช่อง ท่อรังไข่แยกเป็น 2 แฉก แต่ละแฉกแยกต่ออีก 2 แฉก. ผล เป็นช่อตั้งตรง มี 3 พู เส้นผ่าศูนย์กลางราว 14 มิลลิเมตร มีขนปกคลุมหนาแน่น; ก้านผลยาว 0.7-1.0 ซม. เมล็ด มีขนาดเล็ก.

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นในป่าดงดิบทางภาคใต้ เหนือระดับน้ำทะเลไม่เกิน 400 ม.
คุณประโยชน์ : ราก น้ำยางรากใช้ทาแก้ผึ้งต่อย และก็ทาแก้พิษแมงกะพรุน
48  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรอ้อ ที่มีสรรพคุณ-ประโยชน์ ที่น่ายอดเยี่ยม เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2018, 10:38:44 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรอ้[/size][/b]
อ้อ Arundo donax L.
บางถิ่นเรียก อ้อ (ทั่วๆไป) อ้อหลวง (ภาคเหนือ) อ๋อใหญ่ (ภาคกลาง)
ไม้ล้มลุก ชนิดต้นหญ้า อายุนับเป็นเวลาหลายปี มักขึ้นเป็นกอ สูง 2-8 ม. ลำต้นเป็นบ้องตั้งตรง ภายในกลวง แตกกิ่งก้านบ้างนิดหน่อย ลำต้นกว้าง 1.5-3 เซนติเมตร บ้องสั้น กาบหุ้มห่อลำต้น ยาว 10-15 เซนติเมตร ยาวกว่าข้อมาก มีตาลายมยาว สีออกนวล เกลี้ยง หรือมีขนยาว ที่รอยต่อของกาบใบและตัวใบมีลิ้นใบ (ligule) ยาว 2-3 มิลลิเมตร ขอบจักหรือชายครุย ใบ ยาว 45-60 เซนติเมตร โคนใบกว้าง 4-6 เซนติเมตร มีตาลายมยาว เนื้อใบดก ปลายเรียวแหลมเป็นหางยาว ชอบพับลง หมดจด ขอบของใบสาก ดอก ออกที่ยอดเป็นช่อใหญ่กระจาย ยาว 30-75 เซนติเมตร [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
ดอกหนาแน่น ช่อดอกแตกกิ่งจำนวนมาก ยาวราว 15-30 ซม. มีขนยาวเหมือนขน ช่อดอกย่อย (spikelet) ยาว 13-17 มิลลิเมตร ประกอบด้วยดอก 4-5 ดอก กาบช่อย่อยกาบล่าง ยาว 11-14 มม. มีเส้นตามยาว 5 เส้น กาบบนรูปแคบๆยาว 11-14 มิลลิเมตร มีเส้นตามยาว 3 เส้น ปลายแหลมบาง กาบข้างล่างของดอก รูปไข่ปนรูปหอก ยาว 10-15 มิลลิเมตร มีขนยาวรวมทั้งหนาแน่นใกล้โคน ขนยาวโดยประมาณ 10 มม. บาง ปลายแหลม ที่โคนมีเส้นตามแนวยาว 7-8 เส้น กาบบนของดอก ยาว 6-11 มม. เป็นเยื่อบางใส กว้าง ปลายมน หรือ ตัด ขอบมีอีกทั้งขนปกติ แล้วก็ขนแข็งเกสรเพศผู้มี 3 อัน อับเรณูยาว 2-2.2 มม. เรียวเล็ก สีเหลือง รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียสั้นๆ2 อัน ปลายเกสรเพศเมียยาวราว 1 มม. มีขนสีน้ำตามปนเหลือง ยาวเหมือนขน

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นจากที่ราบลุ่มชื้นแฉะทั่วไป
สรรพคุณ : ราก น้ำต้มรากรับประทานเป็นยาขับเยี่ยว เหง้า น้ำต้มเป็นยาระบาย ขับประจำเดือน และก็ห้ามการหลั่งน้ำนมของสตรี
49  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เเขมเป็นสมุนไพร ที่มีสรรพคุณช่วยขับปัสสวะได้ดี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2018, 01:04:43 pm
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B8%A1.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรแข[/size][/b]
แขม Saccharum arundinaceum Retz.
บางถิ่นเรียก แขม (ทั่วๆไป) ตะโป (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) แตร๊ง (เขมร-จังหวัดสุรินทร์) ปง (ภาคเหนือ)
ไม้ล้มลุก ประเภทต้นหญ้า ขึ้นเป็นกอขนาดใหญ่ ลำต้นสูงได้ถึง 3 มัธยม กว่า เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 ซม. ใบ รูปยาว ปลายเรียว กว้าง 2.5-5 เซนติเมตร ยาวราวๆ 1.5 มัธยม ขอบใบหยาบคาย เส้นกึ่งกลางใบสีขาว กาบใบยาวถึง 40 เซนติเมตร ผิวเรียบ สะอาด ลิ้นใบขอบเป็นเยื่อตื้นๆขอบเป็นขนแข็ง สะอาด ดอก ออกเป็นช่อใหญ่ ยาว 0.3-1 ม. แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ไม่มีขน หรือตามกิ่งเล็กๆอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีขนเป็นเงาเหมือนเส้นไหม ช่อดอกย่อย (spikelet) มีขนยาวสีขาวเป็นเงาปกคลุมช่อดอกย่อยออกเป็นคู่ ช่อหนึ่งมีก้าน อีกช่อหนึ่งไม่มีก้าน กาบช่อดอกย่อยยาวพอๆกับช่อดอกย่อย กาบดอกสั้นกว่า บาง [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
เกสรเพศผู้มี 3 อัน รังไข่หมดจด ก้านเกสรเพศเมียมี 2 เส้น ยอดเกสรเพศเมียเป็นขนนก โผล่ด้านข้าง สีม่วงแดง

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นตามริมฝั่งน้ำทั่วไป
สรรพคุณ : ราก น้ำต้มรับประทานเป็นยาเย็น ขับฉี่ และแก้โรคผิวหนังบางประเภท ต้น ต้มน้ำกินเอ็งฝี หนอง

Tags : สมุนไพร
50  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / หญ้าไข้เห่า เป็นสมุนไพร ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ดี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2018, 01:54:39 pm

สมุนไพรต้นหญ้าไข่เห[/size][/b]
ต้นหญ้าไข่เหา Panicum sarmentosum Roxb.
ต้นหญ้าไข่เหา (จังหวัดลำปาง) หญ้าฝรั่ง (กรุงเทพมหานคร)
  ไม้ล้มลุก พวกหญ้า มักจะเลื้อยหุ้มต้นไม้อื่น ลำต้นกลมแข็ง ยาวได้ถึง 17 ม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 มม. มีขนนิดหน่อย หรือ หมดจด โคนต้นมีรากเล็กๆออกรอบข้อ ใบ รูปแถบปนรูปใบหอก หรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.2-3.0 ซม. ยาว 30-37.5 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลม หรือเว้านิดหน่อย ผิวเกลี้ยงหรือมีขนอีกทั้ง 2 ด้าน หรือมีขนเฉพาะด้านล่าง ขอบใบหยาบคายมีเส้นใบจำนวนไม่ใช่น้อย ก้านใบเป็นกาบหมดจด หรือมีขนห่างๆที่รอยต่อระหว่างโคนใบและกาบใบมีขนกลุ่มหนึ่ง ดอก ออกเป็นช่อแบบกระจาย ยาว 15-30 เซนติเมตร มีกิ้งก้านช่อมากไม่น้อยเลยทีเดียว [url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
[/url] ช่อดอกย่อยสีออกน้ำตาล เป็นเงา ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร กาบช่อดอกย่อยอันล่างยาวครึ่งหนึ่งของช่อดอกย่อย มีเส้นตามแนวยาว 3 เส้น อันบนและก็กาบดอกอันล่างมีเส้น 5 เส้น กาบดอกอันบนสั้นและก็แคบ มีเส้น 2 เส้น ส่วนกาบดอกของดอกย่อยบนเป็นมัน หมดจด เกสรเพศผู้มี 3 อัน รังไข่สะอาด ก้านเกสรเพศเมียมี 2 เส้น ยอดเกสรเพศเมียเป็นขน ผลอยู่ในกาบดอก

นิเวศน์วิทยา
: มีถิ่นกำเนิดในเกาะเกะสุมาตรา ในประเทศไทยเจอขึ้นตามชายเขาและก็ดังที่ราบต่ำ
สรรพคุณ : ราก ใช้เคี้ยวรับประทานกับหมากสำหรับกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ต้น น้ำยางจากต้นใช้รวมกับสมุนไพรอื่นๆกินแก้เมนส์แตกต่างจากปกติ

Tags : สมุนไพร
51  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรหญ้าตีนกา ยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงตับได้ด้วย เมื่อ: มกราคม 31, 2018, 08:56:24 am

สมุนไพรต้นหญ้าตีนก[/size][/b]
ต้นหญ้าตีนกา Eleusine indica (L.) Gaertn.
บางถิ่นเรียกว่า ต้นหญ้าตีนกา ต้นหญ้าปากควาย (กึ่งกลาง) ต้นหญ้าตีนกับแก้ (เลย) หญ้าตีนนก (จังหวัดกรุงเทพ) หญ้าปากคอก (จังหวัดสระบุรี) หญ้าผากควาย (ภาคเหนือ)
         ไม้ล้มลุก ชนิดหญ้า อายุปีเดียว แตกกิ่งก้านมากที่โคนต้น ลำต้นสูง 25-60 เซนติเมตร แบน สีเขียวอ่อนมันเป็นเงา เหนียว บางครั้งอาจจะแผ่ติดพื้นดินหรือตั้งตรงก็ได้ กาบโอบหุ้มลำต้น ลักษณะแบนเหมือนกับลำต้น มีลายตามยาว ตามขอบแล้วก็ที่คอต่อมีขนยาวห่างๆที่คอต่อมีลิ้นสั้นๆบางๆยาว 0.2-0.5 มม. ปลายตัดเรียบ หรือเป็นครุย ใบ รูปยาวแคบ กว้าง 4-10 มิลลิเมตร ยาว 15-25 ซม. ปลายแหลม โคนใบมน ตามขอบของใบใกล้ปลายใบมีขนสาก ข้างบนมีขนยาวเล็กน้อย มีแถบสีเหลืองใสจากโคนใบ ยาว 2-3 มิลลิเมตร ดอก ออกเป็นช่อ 2-6 ช่อ รวมกันเป็นช่อใหญ่แบบซี่ร่ม แต่มีอยู่ช่อหนึ่งชอบออกมาจากลำต้นรวมทั้งอยู่ต่ำยิ่งกว่าช่ออื่นๆแต่ละช่อกว้าง 4-8 มิลลิเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร  [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b] แต่ละช่อมีหลายช่อดอกย่อย (spikelets) ยาว 5-7 มิลลิเมตร ออกจากศูนย์กลางด้านเดียว แต่ละช่อดอกย่อยมี 3-8 ดอก (florets) เกลี้ยง กาบของช่อดอกย่อยใบข้างล่าง (lower glume) กว้าง โค้งเป็นรูปเรือ ขอบบางใสหรือมีสีม่วง ยาว 2-3 มม. มีเส้นตามแนวยาว 2-4 เส้น ใบบน ยาว 3-4 มม. มี 6-9 เส้น ส่วนดอกย่อยมีกาบล่าง (lemma) ยาว 3-3.5 มิลลิเมตร ปลายแหลมโค้งเป็นรูปเรือเห็นได้ชัด มีเส้นใกล้ขอบข้างละ 1-2 เส้น แต่เห็นไม่ชัด ที่สันมีขนสากและมีเส้น 3-4 เส้น เห็นแน่ชัด กาบบน (palea) ยาว 2.5-3 มิลลิเมตร ปลายแหลม มีเส้นตามทางยาวเห็นแจ้งชัด 2 เส้น อับเรณูรูปไข่แกมรูปขอบขนานกว้าง สีเหลือง ยาว 0.5-0.75 มม. ปลายเกสรเพศเมียสีม่วง เห็นไม่ชัด ผล มีเปลือกซึ่งโปร่งแสงห่อหุ้มอยู่อย่างหลวมๆสีออกแดงเข้มผสมน้ำตาล ตามขอบมีริ้วออกเป็นรัศมีรอบๆ ยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นได้ทั่วไปในที่ราบต่ำ และก็ที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,000 ม. ขึ้นไป
สรรพคุณ : ราก และ ต้น น้ำต้มรากหรือทั้งต้น (รากได้ผลดีกว่า) กินเป็นยาขับเหงื่อ ลดไข้ ขับปัสสาวะ แก้บิด แล้วก็เป็นยาบำรุงตับ ใบ น้ำคั้นใบสดกินเป็นยาขับน้ำคาวปลาข้างหลังคลอดบุตร
52  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ตามในตำราได้มีการนำหญ้าไม้กวาดมาเป็นสมุนไพรอีกด้วย พร้อมทั้ง สรรพคุณ-ประโยชน์ เมื่อ: มกราคม 26, 2018, 04:38:44 pm
[b]สมุนไพร[/b][/i][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%87.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรหญ้าไม้กวา[/size][/b]
หญ้าไม้กวาด Thysanolaena maxima (Roxb.) Kuntze
บางถิ่นเรียก ต้นหญ้าไม้กวาด ต้นหญ้ายูง (ยะลา) ตองกเงินก๋ง (ภาคเหนือ) เค้ยหลา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เลาแล้ง (สุโขทัย) ต้นหญ้ากาบ ไผ่ใหญ่ (เลย)
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
ไม้ล้มลุก จำพวกต้นหญ้า อายุนับเป็นเวลาหลายปี สูงโดยประมาณ 4 ม. ต้นกลม ใบ ค่อนข้างกว้าง กว้าง 4-7 ซม. ยาว 30-55 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบบ้าน ขอบใบจะละเอียด เนื้อใบค่อนข้างจะหนา กาบใบเกลี้ยง ยกเว้นตามขอบตอนบนมีขนสั้น กาบใบกลมช่วงท้ายเป็นก้านสั้นๆซึ่งมีสีแดงเข้ม ลิ้นใบที่ระหว่างรอยต่อด้านในของกาบใบและแผ่นใบเป็นเยื่อบางๆยาวโดยประมาณ 2 มิลลิเมตร ปลายตัด ดอก ออกเป็นช่อกระจาย มีขนาดใหญ่ ปลายช่อโค้งลง ยาวราว 50 ซม. ช่อดอกย่อย (spikelet) มีก้าน มักอยู่เป็นคู่ กาบช่อย่อย (glume) 2 อันคล้ายคลึงกัน รูปไข่ อันบนยาวและก็บางกว่าอันข้างล่าง แต่ละช่อย่อยมีดอกย่อย 2 ดอก พบน้อยที่มี 3 ดอก ดอกล่างเป็นดอกไม่มีเพศ มีแต่ว่ากาบล่างและมีขนใกล้ๆขอบ ดอกบนเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กาบด้านล่าง (lemma) มีสันตามทางยาว 3 สัน ขอบทั้ง 2 ด้าน บางใส และก็มีขนค่อนข้างจะแข็ง กาบบน (palea) มีเส้นสันตามแนวยาว 2 เส้น เนื้อบางใส เกสรเพศผู้มี 2 อัน เกสรเพศเมียปลายแยกเป็น 2 แฉก เป็นสะเก็ด ผล รูปไข่ ยาวโดยประมาณ 0.6 มิลลิเมตร สีน้ำตาลปนแดง

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นตามตีนเขา หรือ บนเขาสูง 300-3,000 มัธยม
สรรพคุณ : ราก น้ำต้มใช้อมบ้วนปากเมื่อจับไข้ ดอก ช่อดอกใช้ทำไม้ปัดกวาด

Tags : สมุนไพร
53  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / พะวา เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยเเก้อาการเเผลอักเสบเรื้อรังอีกด้วย เมื่อ: มกราคม 25, 2018, 11:54:41 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87.png" alt="" border="0" />
สมุนไพรพะวาใบใหญ[/size][/b]
พะวาใบใหญ่ Garcinia vilersiana Pierre
บางถิ่นเรียกว่า พะวาใบใหญ่ (จังหวัดชลบุรี เมืองจันท์) ไข่ตะไข้ ตะกล่าว (จันทบุรี) จำบอก (ภาคกึ่งกลาง) ปราโฮด (เขมร-สุรินทร์) ปะหูด (ตะวันออกเฉียงเหนือ มะพูด (ภาคกึ่งกลาง ภาคใต้) ส้มปอง ส้มม่วง (จันทบุรี)
ต้นไม้ สูง 12-15 มัธยม เปลือกสีออกดำ ค่อนข้างหยาบคาย มีน้ำยางสีเหลือง ใบ เดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปขอบขนาน หรือ ขอบขนานปนรี กว้าง 6-12 เซนติเมตร ยาว 15-37 เซนติเมตร โคนใบมน หรือ เว้าเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ หรือ เป็นคลื่น ม้วนลงเล็กน้อย เนื้อใบครึ้มคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนเป็นมัน เส้นใบเรียงไม่สม่ำเสมอกันแล้วก็มองเห็นไม่ชัด ก้านใบยาว 1-2.5 ซม. มีรอยย่นตามทางขวาง ดอก ดอกเพศผู้ หรือดอกบริบูรณ์เพศออกเป็นช่อสั้นๆตามง่ามใบ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
  แกนช่อเป็นเกล็ดแล้วก็มีขนละเอียด ก้านดอกย่อยเป็นสี่เหลี่ยม ยาว 1-1.5 ซม. มีขน กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ กลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร งอเป็นกระพุ้ง ขอบมีขน กลีบดอกมี 4 กลีบ ออกจะกลม หนา กว้าง 6-7 มิลลิเมตร ยาว 8-5 มิลลิเมตร งอเป็นกระพุ้ง ดอกเพศผู้ เกสรเพศเมียไม่มีก้าน ยอดเกสรเพศเมียมี 6 พู ผล กลม กว้างราวๆ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4 ซม. สุกสีเหลือง นุ่ม มี 3-5 เม็ด
นิเวศน์วิทยา
: ถูกใจขึ้นใกล้ลำห้วย พบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และก็ภาคใต้
สรรพคุณ : ต้น เปลือกต้น ตำผสมแอลกอฮอล์ลงไปนิดหน่อย เป็นยาพอกแก้เคล็ดลับขัดยอด แล้วก็แผลอักเสบเรื้อรัง
54  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / หญ้านกเขา เป็นสมุนไพรสามารถรักษาโรคอะไรได้บ้าง เมื่อ: มกราคม 16, 2018, 08:41:25 am

สมุนไพรหญ้านกเค้[/size][/b]
หญ้านกเค้า Leucas aspera (Willd.) Link
บางถิ่นเรียกว่า ต้นหญ้านกเค้า (เชียงใหม่) ผักหัวโต ต้นหญ้าหัวโต (จังหวัดราชบุรี)
      ไม้ล้มลุก อายุปีเดียว สูง 30-60 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นแล้วก็กิ่งเป็นสี่เหลี่ยม มีขนยาวตั้ง ใบ ลำพัง ออกตรงกันข้าม รูปใบหอกแกมรูปแถบ หรือรูปใบหอกแคบ กว้าง 0.8-1 เซนติเมตร ยาว 4-6 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ ขอบของใบจักห่างๆมีขนหนานแน่นทั้งคู่ด้าน ตามเส้นกิ้งก้าน [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/]สมุนไพร
ใบด้านล่างมีขนยาวขึ้นอยู่ห่างๆก้านใบ 0.5-1 ซม. มีขน ดอก ออกเป็นกระจุกที่ยอด หรือที่ปลายกิ่ง หนาแน่นมาก ลักษณะเป็นหัวกลมๆเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม. ริ้วตกแต่งรูปใบหอกแคบ ยาว 8-10 มิลลิเมตร ขอบมีขน กลีบเลี้ยงเชื่อมชิดกันเป็นหลอด ยาว 8-10 มิลลิเมตร มีขน มีสันตามแนวยาว 10 สัน มีแฉกแหลมตรง 10 แฉก แฉกที่อยู่ด้านหลังยาวที่สุด กลีบดอกยาว 15-16 มม. โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด มีวงแหวนอยู่รอบๆกึ่งกลางกลีบ ปลายกลีบแยกเป็นปาก ปากบนยาว 2 มม. งอเป็นกระพุ้ง มีขนเหมือนกำมะหยี่ปกคลุมหนาแน่น ปากด้านล่างยาว 6 มม. มี 3 หยัก หยักกึ่งกลางใหญ่ หยักข้าง 2 หยัก เล็กมากมาย มีขนสั้นประปราย เกสรเพศผู้มี 4 อัน เรียงเป็น 2 คู่ คู่บนก้านเกสรสั้นกว่าคู่ด้านล่าง เกสรทั้งสิ้นอยู่ในกระพุ้งปากบนของกลีบดอกไม้ ผล แข็ง เล็ก รูปไข่ยาว 2.5 มม. ผิวเป็นตุ่มเล็กๆหรือ ออกจะเรียบ สีดำ
[b]สมุนไพร[/b][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/Leucas-aspera.jpg" alt="" border="0" />
นิเวศน์วิทยา
: เป็นวัชพืชขึ้นตามที่รกร้าง ชอบขึ้นตามดินปนทรายที่ค่อนข้างแล้ง
คุณประโยชน์ : ต้น ยาชงดื่มเพื่อลดไข้รวมทั้งใช้ฆ่าแมลงบางประเภท  ใช้ภายนอกเป็นยาพอก หรือใช้น้ำจากต้น ทาแผล และโรคผิวหนังบางประเภท ใบ น้ำยางใช้แก้รังแค กำจัดเหา รวมทั้งแก้ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ดอก ยาชงใช้เป็นยาแก้ไอหวัดและลดไข้
55  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สัตววัตถุ หมวดคอร์ดาตา เมื่อ: มกราคม 11, 2018, 04:34:29 pm

หมวดคอร์ดาต[/b]
สัตว์ในหมวดคอร์ดาตา (Phylum Chordata) เป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูงกว่าหมวดอื่นๆมีลักษณะสำคัญ เป็น
๑. มีโนโตคอร์ด (notochord) เป็นแท่งโครงร่าง ซึ่งควรมีอย่างน้อยในช่วงระยะใดระยะหนึ่งของชีวิต หรืออาจมีอยู่ตลอดชาติ เซลล์ศูนย์รวมเป็นโนโตคอร์ดเป็นเซลล์ที่มีช่องว่างมาก โนโตคอร์ดมีเยื่อเกี่ยวเนื่องหุ้ม สำหรับสัตว์มีกระดูกสันหลังจะมีกระดูกรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่โนโตคอร์ด และก็โนโตคอร์ดเจอในระยะตัวอ่อนเท่านั้น
๒. มีเส้นประสาทไขสันหลังอยู่ด้านหลังเหนือทางเดินอาหาร
๓. มีช่องเหงือกอยู่บริเวณคอหอย เป็นช่องยาวอยู่ที่ฝาผนังของคอหอย เป็นทางที่น้ำผ่านออกจากคอหอย
๔. มีระบบระเบียบประสาทศูนย์กลาง
๕. มีเพศแยกอยู่คนละตัว
๖. มีสมมาตรแบบทบกัน ๒ ส่วน
สัตว์ในหมวดนี้อาจแยกเป็นชนิดและประเภทออกได้เป็น ๒ พวกใหญ่ๆคือ สัตว์โปรโตคอร์ดาตากับสัตว์มีกระดูกสันหลัง โดยที่พวกหลังนั้น เป็นพวกที่มีการประยุกต์ใช้ผลดีทางยามาก สัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีสาระทางยา อาจแยกเป็นชนิดและประเภทย่อยได้อีกเป็น ๒ กลุ่มหมายถึงกลุ่มปลากับกลุ่มจตุบาท
กรุ๊ปปลา
กลุ่มปลา (Superclass Pisces) เป็นสัตว์น้ำ หายใจด้วยเหงือก โดยให้น้ำไหลผ่านช่องเหงือก ใช้ครีบสำหรับการขยับเขยื้อนรวมทั้งทรงตัว โดยมากมีเกล็ดห่อหุ้มตัว มีหัวดวงใจ ๒ ห้อง ประสาทสมองมี ๑๐ คู่ มีเส้นข้างตัวสำหรับรับความสะเทือน รูจมูกไม่ใช้หายใจ แม้กระนั้นใช้ดมกลิ่น แบ่งย่อยออกเป็น ๓ ชั้น แม้กระนั้นที่เจอในประเทศไทยรวมทั้งมีสาระทางยามีเพียงแต่ ๒ ชั้น คือชั้นปลากระดูกอ่อน (Class Chondrichthyes) กับชั้นปลากระดูกแข็ง (Class Osteichthyes)
ชั้นปลากระดูกอ่อน
ชั้นปลากระดูกอ่อน (Class Chondrichthyes) เป็นชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่อาศัยอยู่ในน้ำ  มีกระดูกกรุบหรือกระดูกอ่อน  หายใจด้วยเหงือก  มีช่องเหงือกเห็นได้ชัดเจน มีราว ๓-๗ คู่  ช่องเหงือกนี้อาจอยู่ด้านข้างหรือข้างล่างของลำตัว ปากอยู่ทางข้างล่างของลำตัว มีฟัน  ใช้กล้ามลำตัวและก็ครีบช่วยในการขยับเขยื้อน  ขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ  มีการปฏิสนธิด้านในตัว
ปลากระเบน
ปลากระเบนเป็นปลากระดูกอ่อนพวกหนึ่ง  มีหลายประเภท  หลายสกุล  และหลายสกุล  มีรวมทั่วโลกราว ๔๓๐ จำพวก ในประเทศไทยมีไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า ๒๐ จำพวก  จัดอยู่ในชั้น Rajiformes  มีชื่อสามัญว่า ray เช่น ปลา-กระเบนเจ้าพระยา  อันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dasyatis (Himantura) polylepis (Bleeker) จัดอยู่ในตระกูล Trigonidae  ซึ่งมีขนาดตัวกว้างกว่า ๒ เมตร หนักกว่า ๕๐๐ โล  พบในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่อำเภอบางไทร  จังหวัดอยุธยา  ไปจนกระทั่งแม่น้ำน่าน  จังหวัดพิจิตรรวมทั้งยังพบได้อีกในแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำโขง

ชีววิทยาของปลากระเบน
ปลากระเบนเป็นปลาที่มีลำตัวแบน ลื่น มีเกล็ด ที่มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กๆหรือมีผิวหนังหยาบเป็นลางแห่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นในแนวสันหลัง  เว้นเสียแต่ปลากระเบนขนุน ผิวหนังเป็นหนามปกคลุมทุกตัวโดยธรรมดา ปลากระเบนมีครีบอกแผ่ขยายออกด้านข้าง ลางจำพวกแบออกไปถึงหัวทางข้างหน้ารวมทั้งหางทางด้านหลังจนกระทั่งเกือบจะเป็นวงกลมมองเหมือนจานหรือว่าลางจำพวกแผ่ยื่นออกข้างๆเป็นปีกคล้ายนกหรือผีเสื้อ รวมทั้งลางประเภทครีบอกแผ่ไปไม่ถึงท่อนหัว ทำให้หัวแยกออกมาจากครีบอกรวมทั้งเห็นหัวโหนกเป็นลอน อาทิเช่น ปลากระเบนนก  อาจมีหรืออไม่มีครีบหลัง ไม่มีครีบหาง ยกเว้นปลากระเบนไฟฟ้า  กระเบนท้องน้ำ หรือ โรนินรวมทั้งโรนัน  ครีบท้องอยู่ด้านล่างตรงส่วนท้ายลำตัว จะงอยปากของปลากระเบนลางประเภทยื่นแหลม อาทิเช่น ปลากระเบนขาว ลางชนิดมนกลม ดังเช่นว่า ปลากระเบนกระแสไฟฟ้า หรือลางพวกเป็นแผ่แข็ง  มีฟันห่างเรียวอยู่สองข้าง ตัวอย่างเช่น ปลาฉนาก ส่วนใหญ่ปลากระเบนมีตาอยู่ด้านบน  มีลางชนิดที่ตาอยู่ด้านข้างหัว ดังเช่นว่า ปลากระเบนนก ปลากระเบนราหู ข้างหลังตาเป็นช่องหายใจ ปากแล้วก็จมูกอยู่ด้านล่าง ลางประเภทมีปากที่ยึดหดได้บ้าง  ระหว่างปากกับจมูกมีร่องเชื่อมถึงกัน  ช่องเหงือกมี ๕ คู่  อยู่ต่อไปทางท้ายของปาก  ฟันเป็นฟันบด หน้าตัดเรียบหรือเป็นปุ่มเล็กๆเรียงเป็นแนวๆหลายแนว   อยู่ด้านบนและก็ด้านล่างของขากรรไกร  ทวารร่วมเป็นช่องยาวรีค่อนไปทางข้างหลัง ถัดลงไปมีรูหน้าท้องเล็กๆ๒ รู  ตัวมีอวัยวะเพศเป็นแท่ง เรียกกันว่า ตะเกียบ อยู่ด้านในของครีบท้องอีกทั้งซ้ายรวมทั้งขวา หางปลากระเบนอาจเรียวยาว สั้นบ้าง ยาวบ้าง มักมีผิวหยาบคายหรือขรุขระ ลางประเภทอาจมีแผ่นหนังบางๆอยู่ด้านบนและข้างล่างของหาง   อาจมีเงี่ยงหางยาวและก็แหลมคม ๑-๔ อัน   บนหางตอนใกล้ลำตัว โคนเงี่ยงหางมีต่อมน้ำพิษอยู่ เมื่อถูกแทงจะรู้สึกเจ็บปวด เงี่ยงหางนี้พบเฉพาะในปลากระเบนตระกูล Trygonidae (Dasyatididae)  และปลากระเบนนก ตระกูล Myliobatidae
ปลากระเบนในน่านน้ำไทย
ปลากระเบนที่พบในน่านน้ำของประเทศไทยมีราว ๔๐ จำพวกมีเพียงแต่ ๕ จำพวกที่เจอในน้ำจืด ยิ่งกว่านั้นพบในน้ำเค็ม มักอาศัยอยู่กับพื้นท้องน้ำที่เป็นดินโคลนทรายหรือดินผสมทราย   กินสัตว์ที่อยู่ตามพื้นใต้ท้องน้ำเป็นอาหาร เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ตลอดจนเพรียงแล้วก็หนอนต่างๆ
[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
[/url]
ปลากระเบนที่รู้จักกันดีจัดอยู่ใน ๔ วงศ์ เป็น
๑.ปลากระเบนในสกุล Trigonidae  (Dasytididae) ได้แก่
ปลากระเบนขาว Dasyatis signifier (Campagno et Roberts)
ปลากระเบนเสือ Dasyatis (Himantura) gerrardi (Gray)
ปลากระเบนธง Dasyatis (Pastinachus) sephen (Forsskal)
ปลากระเบนทอง Taeniura lymma (Forsskal)
ปลากระเบนขนุน Urogymnus africanus (Bloch et Schneider)
๒.ปลากระเบนในตระกูล Myliobatidae ดังเช่น
ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus maculatus (Gray)
ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus niehofii (Bloch et Schneider)
ปลากระเบนค้างคาว Aetomylaeus narinari (Euphrasen)
ปลากระเบนจมูกวัว หรือปลายี่สน Rhinoptera javanica Muller et Henle
๓.ปลากระเบนในสกุล Mobulidae ดังเช่น
ปลากระเบนราหู Mobula japonica (Muller et Henle)
ปลากระเบนราหู Mobula diabolus (Shaw)
๔.ปลากระเบนในวงศ์ Torpenidinae ยกตัวอย่างเช่น
ปลากระเบนไฟฟ้า หรือปลาเสียว Narke dipterygia (Bloch et Schneider)
ปลากระเบนไฟฟ้า หรือปลาเสียว (Temera hardwickii Gray)
ปลากระเบนไฟฟ้า หรือปลาเสียว (Narcine indica Henle)
ผลดีทางยา
หมอแผนไทยใช้ “หนังปลากระเบน” และก็ “เงี่ยงปลากระเบน”  เป็นเครื่องยาสำหรับปรุงยาหลายตำรับหลายขนาน ตำราเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่า หนังปลากระเบนมีรสมัน  คาว มีสรรพคุณขับเลือด แก้ซาง ส่วนเงี่ยงปลากระเบนมีรสเย็น มีคุณประโยชน์ดับพิษรอยดำ ตำราเรียนยาศิลาจารึกวัดราชโอรสารามให้ยาแก้ซางขนานหนึ่งเข้า “หนังกเบน” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ อนึ่งเอานอแรด เขากวาง หนังกเบน ผมคน หวายตะค้า  รากมะแว้ง ยาทั้งนี้ขั้ว ตรีกะเหม็นตุก กเทียม เอาเท่าเทียมกัน ทำเปนจุณ บดลายเหล้ากวาด แก้ละอองแล แก้ทรางช้างทั้งมวล หายอย่าสนโก้เก๋เลย วิเสศนักแล ฯ ในพระหนังสือธาตุวิภังค์ให้ยาแก้พิษไข้กาฬทั้งมวลไว้ขนานหนึ่ง ชื่อ “ยาจักรวาลฟ้ารอบ” ยาขนานนี้เข้า “เงี่ยงปลากระเบน” เป็นเครื่องยาด้วย นอกจาก  สมัยเก่าใช้หนังปลากระเบนขัดไม้หรือเขาสัตว์แทนกระดาษทราย   น้ำมันจากตับปลากระเบนก็ใช้ประโยชน์ได้เหมือนกับน้ำมันจากตับปลาจำพวกอื่น  ส่วนครีบปลากระเบนกินได้เหมือนกันกับครีบปลาฉลามซึ่งคนจีนนิยมกินกัน แล้วก็เรียกกันว่า “หูฉลาม

Tags : สมุนไพร
56  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรอันเเสนมหัศจรรย์ ใบระหนาดมีทั้งสรรพคุณเเละประโยชน์ เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 02:01:43 pm

สมุนไพรใบระนา[/size][/b]
ชื่อประจำถิ่นอื่น  ใบระนาด , ผักระบาด (ภาคกลาง) เมืองมอน (กรุงเทพมหานคร)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Argyreia nervosa (Burm.f.) Bojer
ชื่อพ้อง Argyreia speciosa (L.f.) Sweet
ชื่อวงศ์  CONVOLVULACEAE
ชื่อสามัญ Bai rabaat.
ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ไม้เถา (ExC) ลักษณะเลื้อยยาว ตามลำต้นและก็แขนงมีขนนุ่มสีขาวหรือน้ำตาลปนเหลือง หนาแน่น มียางเหนียวสีขาว
ใบ เป็นใบโดดเดี่ยว ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปกลม กว้าง 8-25 เซนติเมตร ยาวราว 10-30 เซนติเมตร ปลายใบมน แหลมหรือแหลมเป็นหาง มีติ่งเล็กสั้น โคนใบรูปหัวใจเว้าลึก แผ่นใบหมดจดหรือค่อนข้างเกลี้ยง ด้านท้องใบมีขนเหมือนเส้นไหมสีขาว เทาหรือน้ำตาลปนเหลือง หนาแน่น เส้นกลางใบ และก็เส้นใบจะแจ่มกระจ่างทางด้านท้องใบ เส้นกิ้งก้านใบมีเยอะมากเรียงขนานกันเป็นขันบันได ก้านใบสั้นกว่า หรือยาวพอๆกับตัวใบ
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
ดอก ออกชิดเป็นช่อ ก้านช่อดอกแข็ง ยาวถึง 20 เซนติเมตร ก้านดอกสั้นเป็นเหลี่ยม ใบเสริมแต่งใหญ่ ลักษณะรูปไข่ขอบขนาน หรือรูปรี ยาว 3.5-5 ซม. ปลายเรียวคม ด้านนอกมีขนนุ่มปุกปุย ด้านในเกลี้ยง หลุดหล่นง่าย กลีบรองกลีบรูปรีกว้าง ปลายใบมนหรือแหลม แล้วก็สองกลีบนอกยาว 15 ม.ม ส่วนสามกลีบในสั้น ด้านนอกนั้น มีขนสีขาวนุ่มหนาแน่น ด้านในเกลี้ยง กลีบดอกใหญ่ เชื่อมติดกันเป็นรูปท่อหรือกรวย ยาว 6 เซนติเมตร สีม่วงปนชมพู ลาบกลีบจักเป็นแฉกตื้นๆที่บริเวณกลางกลีบแต่ละกลีบมีขนุ่มหนาแน่น ก้านเกสรผู้มีขนปุกปุยที่โคน
ผล ลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 2ซม. ปลายมีติ่งสีน้ำตาลอมเหลือง
[b]สมุนไพร[/b][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/ArgynervCONVO003.jpg" alt="" border="0" />
นิเวศวิทยา
มีบ้านเกิดในประเทศประเทศอินเดีย ในประเทศไทยกำเนิดตามที่รกร้างว่างเปล่า ป่าเขาดงดิบ และก็ป่าเบญจพรรณปกติ โดยมากปลูกขึ้นร้านค้าเป็นไม้ประดับแล้วก็บังร่มเงาเจริญ
การปลูกและขยายพันธุ์
เป็นไม้กลางแจ้ง ชอบแสงอาทิตย์จัด จะขึ้นเกาะพิงตามต้รไม้ใหญ่ๆเจริญวัยก้าวหน้าในดินร่วยซุยที่มีอินทรียวัตถุมากมาย ขยายพันธ์ุด้วยการตอนทาบกิ่ง หรือการปักชำ
ส่วนที่ใช้ รส และก็สรรพคุณ   
ราก รสจืดฝาด เป็นยาขับน้ำเหลืองเสีย บำรุงแก้ไขข้ออักเสบ กระตุ้นความกำหนัด ขับฉี่ แก้โรคเท้าช้าง โรคอ้วนที่่มีต้นเหตุจากการสั่งสมไขมันมากใบ   รสเฝื่อนฝาด ใช้พอกฝีและก็รอยแผลแก้อักเสบ แก้โรคผิวหนังทั่วๆไป น้ำคั้นหยอดหูแก้หูอักเสบ
วิธีการใช้รวมทั้งปริมาณที่ใช้

  • เป็นยารักษาโรคผิวหนัง โดยใช้ใบสด 4-7 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วเอามาตำให้รอบคอบ ใช้ทาและพอกรอบๆที่เป็น วันละ 2-3 ครั้ง เสมอๆ กระทั่งจะหาย


Tags : สมุนไพร
57  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กระทัง เป็นสมุนไพรเป็นยาช่วยรักษาอาการต่างๆในร่างกายของเรา เมื่อ: มกราคม 10, 2018, 09:17:32 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%87.png" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%87/]สมุนไพรกะทั[/size][/b]
กะทัง Litsea monopetala Pers.
บางถิ่นเรียก กะทัง (ภาคใต้) พอครั้ง (นครศรีธรรมราช) โพหน่วย มุหมู (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) เมาะโม (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ยุ๊กเยา (แพร่) สะหมี่ (ชัยภูมิ) หมี (เมืองจันท์) หมีตุ้ม หมีโป้ง (จังหวัดเชียงใหม่) อีเหม็น (ภาคเหนือ)
       [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/color] ไม้ต้น ขนาดเล็ก หรือ ไม้พุ่ม สูง 6-13 ม. กิ่งก้านค่อนข้างใหญ่ มีขน ใบ ลำพัง ออกเรียงสลับ รูปขอบขนานแคบ รูปไข่ หรือ รูปไข่กลับ ขนาดของใบไม่เหมือนกันมาก มีความยาวตั้งแต่ 5-41 ซม. ปลายใบมน กลม หรือเป็นติ่งแหลม โคนใบแหลม กลม หรือเว้าเป็นรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ ด้านบนสะอาดเป็นมัน ด้านล่างมีขน ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล เส้นใบมี 5-10 คู่ เส้นใบย่อยเห็นชัดทางข้างล่างของใบ ก้านใบยาว 1.2-2.5 ซม. ดอก สีเหลืองอมเขียว ออกตามง่ามใบเป็นช่อกระจุกแบบซี่ร่ม ช่อหนึ่งมีราว 5-6 ดอก ก้านช่อสั้น มีใบตกแต่ง 4-5 ใบ กลีบรวมโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5-6 กลีบ ขอบกลีบมีขน เกสรเพศผู้มี 9-13 อัน ก้านเกสรมีขน ผล รูปรี หรือ ค่อนข้างจะกลม ยาว 5-7 มม. มีกลีบรวมเป็นฐานรองรับ เมื่อสุกมีสีน้ำเงินอมดำ ผิวเป็นมัน

นิเวศน์วิทยา
: เจอขึ้นใกล้ลำธาร ในป่าเบญจพรรณทั่วๆไป
สรรพคุณ : ต้น เปลือก เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องร่วงแล้วก็บำรุงธาตุ ผงบดจากเปลือกต้นใช้ตำเป็นยาพอกแก้ปวดเมื่อย ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดบาดแผล หรือ กล้ามทำงานมาก และก็ยังคงใช้พอกขาสัตว์แก้กระดูกเดาะหรือหัก
58  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สัตวว์ตถุ เต่าในประเทศไทย เมื่อ: ธันวาคม 20, 2017, 10:05:10 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.jpg" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/]เต่าในประเทศไท[/b]
เต่าที่เจอในประเทศไทย (ไม่รวมตะพาบ) มีขั้นต่ำ ๒๒ ประเภท จัดอยู่ใน ๕ วงศ์ เป็น
๑.สกุลเต่าสมุทร(Cheloniidea) เจอ ๔ ชนิดเป็น เต่าตนุ(เต่าแสงแดด) เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าหัวโต เป็นเต่ากระดองแข็ง มีแผ่นเกล็ดปกคลุม อาจเรียงต่อกัน(อาทิเช่น เต่าตนุ) หรือซ้อนกันบางส่วน (ตัวอย่างเช่น เต่ากระ) ขาหน้าแผ่เป็นครีบสำหรับว่ายน้ำ ขาข้างหลังเป็นครีบกว้างสำหรับใช้เป็นหางเสือ
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b]
๒.สกุลเต่าเฟื่อง(dermochelyidae) เจอเพียงแค่ประเภทเดียว คือ เต่าเฟือง (มักเรียกกันผิดเป็น “เต่ามะเฟือง”) เป็นเต่ากระดองอ่อน มีสันยาวตามตัวบนหลังจากคอลงไปถึงตูด ๕ สัน ข้างตัวอีกข้างละสัน รวมเป็น ๗ สัน ใต้ท้องมีอีก ๕ สัน สันที่ใต้ท้องจะเลือนหายไปเมื่อแก่ขึ้น ส่วนสันบนหลังหายไปบ้างเมื่อเทียบกับอายุยังน้อย บนหัวตัวอ่อนมีเกล็ด แต่ว่าจะหายไปเมื่อโตขึ้น มีหนังปกคลุมแทน ขาหน้าแผ่เป็นครีบสำหรับว่าย ยาวกว่าขาของเต่าสมุทรอื่นๆขาหลังเป็นครีบกว้างๆสำหรับใช้เป็นหางเสือ แล้วก็ใช้ขุดหลุมเมื่อจะตกไข่
๓.สกุล[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94/]เต่าน้ำจื[/b](Emydidae) พบอย่างน้อย ๑๓ ชนิด ตัวอย่างเช่น เต่ากระอาน เต่าลายตีนเป็ด เต่าหับ เต่าแดง (เต่าใบไม้) เต่าหวาย เต่าบัว เต่าจักร [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2/]เต่าที่น[/b] เต่าจัน เต่าปากเหลือง เต่าดำ เต่าทับทิม แล้วก็เต่าแก้มแดง เต่าในวงศ์นี้สามารถหดหัวเข้าไปไว้ในกระดองได้หมด ขาแบน นิ้วรวมทั้งเล็บยาวกว่าเต่าบก ระหว่างนิ้วมีแผ่นพังผืดขึงไม่มากมายก็น้อย บนหัวคลุมด้วยหนัง ไม่เป็นเกล็ดเสมือนหัวเต่าบก แต่บริเวณกำดันนั้น หลังบางทีอาจลายทำให้ดูเหมือนเกล็ด

๔.ตระกูลเต่าปูลู(Platysternidae) เจอในประเทศไทยเพียงแค่ชนิดเดียว เป็นเต่าปูลู มีลักษณะสำคัญคือกระดองบนกับกระดองด้านล่างเป็นคนละชั้น ยึดติดกันด้วยพังผืด กระดองทั้งสองแบนเข้าพบกันมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หน้าอก หัวโต หดหัวเข้าไปในกระดองมิได้ หัวหุ้มด้วยแผ่นซึ่งไม่แบ่งได้ชิ้นเกล็ดเสมือนเต่าอื่น ระหว่างนิ้วมีพังผืดบ้าง แต่ไม่เต็มนิ้ว นิ้วมีเล็บแหลมทุกนิ้ว เว้นนิ้วก้อย หางยาวมากมาย มีเกล็ดรูปสี่เหลี่ยมปกคลุมบนหาง
๕.ตระกูล[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%81/]เต่าบ[/b](Testudinidae) พบ ๓ จำพวกหมายถึงเต่าหก เต่าเดือย และ เต่าเหลือง เต่าในวงศ์นี้แตกต่างจากเต่าน้ำในตระกูลอื่นๆตรงที่ขา ๔ กลม ไม่มีพังผืดยึดระหว่างนิ้ว เนื่องจากว่าไม่จำเป็นต้องใช้ขาว่ายน้ำ มีเกล็ดบนหัวรวมทั้งที่ขา
59  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สัตววัตถุ เต่าน้ำจืด เมื่อ: ธันวาคม 13, 2017, 09:55:17 am
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94.jpg" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94/]สกุลเต่าน้ำจื[/b]
เต่ากระอานBatagur Baske(Gray) ๕๖ ซม.
เต่าขนาดใหญ่ กระดองเรียบ โค้งมน นิ้วเท้ามีพังผืดยึดเต็ม มี ๔ เล็บ จมูกออกจะแหลม ตัวผู้มีตาสีขาว พบตามปากแม่น้ำ เดี๋ยวนี้อาจสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว
เต่าลายตีนเป็ดCallargur borneoensis (Schlegel & Muller), ๖๐ เซนติเมตร
เต่าขนาดใหญ่ ตัวผู้มีหัวสีแดงเด่นในฤดูสืบพันธุ์ นิ้วเท้าหน้าข้างหลังมีพังผืดยึดติดสำหรับช่วยสำหรับในการว่าย พบตามปากแม่น้ำทางภาคใต้ บางทีอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว
เต่าแดงCyclemys dentata(Gray), ๒๖ ซม.
ขอบกระดองด้านท้ายกระเป๋านจะๆ กระดองข้างหลังสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้มเป็นสีดำหรือสีเขียวขี้ม้า นาๆประการตามแต่เต่าแต่ละตัว เมื่อเล็กมีเกล็ดเป็นลายเส้นรัศมี แต่ว่าจะหายไปเมื่อโตขึ้น พบได้ในป่าทั่วประเทศ
เต่าหวายHeosemys grandis (Gray), ๔๘ เซนติเมตร
กระดองสีน้ำตาลเข้ม เป็นประจำมีเส้นสีครีมพาดยาวเป็นแนวกลางหลัง ขอบกระดองข้างหลังด้านหลังเป้นจะๆกระดองท้องด้านท้ายมีหยักลึก พบตามแหล่งน้ำจืดอีกทั้งบนเทือกเขารวมทั้งตามที่ราบ

เต่าหับCuora amboinensis (daudin), ๒๑ เซนติเมตร
กระดองโค้งสูงยิ่งกว่าเต่าน้ำจืดประเภทอื่น หัวค่อนข้างแหลม มีลายแถบสีเหลืองเป็นขอบ เต่าประเภทนี้สามารถหับหรือปิดกระดองได้มิดชิด เจอได้ตามหนองบ่อน้ำทั้งประเทศ
เต่าบัวHieremys annandalii(Boulenger), ๕๐ ซม.
เต่าขนาดใหญ่ สีและรูปร่างกระดองแปรไปตามอายุ เมื่อโตสุดกำลังกระดองมีสีดำ หัวสีเหลือง เจอได้ทั่วประเทศในแหล่งน้ำจืดที่ค่อนข้างจะนิ่ง
เต่าจักรHeosemys spinosa(Gray), ๒๓ เซนติเมตร
เต่าขนาดเล็ก กระดองค่อนข้างแบนรวมทั้งมีขอบแหลม แม้กระนั้นจะลดน้อยลงเมื่อโตขึ้น กระดองสีน้ำตาลปนแดง มีสันกึ่งกลางข้างหลังเห็นชัด นิ้วเท้าไม่มีพังผืด พบในป่าทางภาคใต้
เต่าจันPyxidea mouhotii(Gray), ๑๗ เซนติเมตร
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b]
เต่าขนาดเล็ก กระดองโค้งสูงสีน้ำตาลปนแดง มีสัน ๓ สัน หายาก เคยมีรายงานว่าเจอในป่าทางภาคเหนือรอบๆชายแดนไทย – ลาว
เต่าทับทิมNotochelys platynota(Gray), ๓๖ เซนติเมตร
เต่าขนาดเล็ก กระดองข้างหลังมีแผ่นเกล็ด ๖ – ๗ แผ่น ต่างจากเต่าชนิดอื่นที่เจอในประเทศไทย เมื่อยังเล็กอยู่กระดองมีสีเขียวสด เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง
เต่าดำSiebenrockiella crassicollis(Gray), ๒๗ เซนติเมตร
กระดองสีดำ บางตัวมีแถบสีขาวที่แก้ม ลางถิ่นก็เลยเรียก เต่าแก้มขาว  ชอบซุกตัวอยู่ตามโคลนตมใต้น้ำ ทำให้มีกลิ่นตัวเหม็นเหมือนใบไม้เน่า จึงได้ชื่อว่า เต่าเหม็น ด้วย เจอได้ตามหนองสระทั่วประเทศ
เต่าแก้มแดงTrachemys scriptaelegans(Wied), ๒๘ ซม.
เต่าขนาดเล็ก กระดองสีเขียวแม้กระนั้นจะคล้ำขึ้นเมื่อโตขึ้น ข้อดีอยู่ที่จุดสีแดงส้มข้างแก้ม เต่าชนิดนี้นำเข้ามาเลี้ยงกระทั่งแพร่กระจายทั่วๆไปตามแหล่งน้ำจืดชืดของไทย

Tags : สมุนไพร
60  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สัตววัตถุ นกอีเเอ่น เมื่อ: ธันวาคม 09, 2017, 05:04:50 pm
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%99.jpg" alt="" border="0" />
อีแอ่[/b]
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%99/]อีแอ่[/color] เป็นชื่อไทยแท้ของนก ๒ สกุล (เดี๋ยวนี้คนประเทศไทยมีความเห็นว่าชื่อ “อีแอ่น” ไม่สุภาพไหมเนื่องจาก จึงเปลี่ยนเป็นชื่อ“นางแอ่น” หรือ“นกแอ่น” เหมือนกันกับ“[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2/]อีก[/b]” เป็น  “นกกา” หรือ “[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87/]อีแร้ง
” เป็น “นกแร้ง”)หมายถึงตระกูล Apodidae (ชั้น  Apodiformes) กับวงศ์ Hirundinidae (ชั้น Passeriformes)
อีแอ่นรับประทานรังเป็นนกในตระกูล Apodidae ส่วนนกในวงศ์ Hirundinidae หลายประเภทเรียก “อีแอ่น” เช่นกัน แต่นกที่จัดอยู่ในวงศ์ข้างหลังนี้สร้างรังด้วยดิน ไม่มีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมอยู่อย่างใด รวมทั้งนกตาพอง (Pseudochelidon  sirintarae  Thonglongya) ที่มีผู้ตั้งชื่อให้ใหม่เป็นนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร อันเป็นนกถิ่นเดียวของไทย พบที่บึงบอระเพ็ด   จังหวัดนครสวรรค์ ตอนนี้เป็นนกหายากแล้วก็มีจำนวนน้อยหรือบางทีอาจจะสิ้นพันธุ์ไปแล้งก็ได้
๕.อีแอ่นหิมาลัย   มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Colocalia  brevirostris  (Horsfield) มีชื่อสามัญว่า Himalayan  swiftlet ประเภทนี้ทำรังด้วยหญ้าแล้วก็พืชชนิดต่างๆมีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมเพียงนิดหน่อย อีแอ่น ๒ ชนิดแรก คือ อีแอ่นกินรังกับอีแอ่นกินรังสะโพกขาว สร้างรังด้วยน้ำลายล้วนๆจึงเป็นรังนกที่มีคุณภาพบรรเจิด เป็นที่รู้จักกันมานานและก็เป็นที่เรียกร้องของตลาด มีราคาแพงมาก ส่วนรังของอีแอ่นประเภทอื่นในสกุลเดียวกันนี้ไม่เป็นที่นิยมของตลาด โดยยิ่งไปกว่านั้น ๒ ประเภทข้างหลัง เป็น อีแอ่นท้องขาวและก็อีแอ่นหิมาลัย
อีแอ่นกินรังเป็นนกที่อาศัยอยู่ในถ้ำหินปูนหรือถ้ำหินทรายตามเกาะต่างๆตามสมุทรหรือตามริมฝั่งต่างๆหรืออาจพักอยู่ตามสิ่งปลูกสร้างต่างๆดังเช่น อาคาร โบสถ์ และก็บินออกจากถิ่นในเวลาเช้ามืด ไปหากินตามแหล่งน้ำในช่องเขาหรือตามป่า โดยบินไม่หยุดทั้งวัน ห่อนกลับมายังถิ่นที่อยู่ในเวลาเย็นหรือเย็น นกพวกนี้สามารถบินโดยใช้เสียงสะท้อนกลับ (echolocation) ก็เลยไม่ชนกับเครื่องกีดขวางใดๆแม้ว่าถิ่นที่อยู่มืดตึดตื๋อ ราวปริมาณร้อยละ ๘0 ของอาหารเป็นแมลง โดยเฉพาะมดมีปีก ในฤดูฝนนั้น อาหารของนกเหล่านี้เป็นนกแทบทั้งหมด อีแอ่นรับประทานรังที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชข้อมูลตั้งแต่นี้ต่อไปสำเร็จงานของการศึกษาเรียนรู้วิจัยของรศ.โอภาส  ขอบเขตต์   ราชบัณฑิต ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนก ซึ่งได้รายงานต่อห้องประชุมราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ที่ราชบัณฑิตยสถาน ตอนวันที่ ๗ พ.ย. พ.ศ.๒๕๔๔ ในหัวข้อเรื่อง “อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช” ก่อนที่ท่านกำลังจะถึงแก่บาปเพียงแต่  ๕  เดือนเศษ
สมุนไพร อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประเภท Colocalia  fuciphaga  (Gmelin) หรือ eible – nest swiftlet ในราว ๕0 ปีที่ผ่านมา อีแอ่นกินรังได้เข้ามาอาศัยรวมทั้งสร้างรังในบ้านข้างหลังหนึ่ง ซึ่งราษฎรเรียก “บ้านร้อยปี” โดยเริ่มเข้ามาพักพิงที่ชั้น  ๓  อันเป็นชั้นบนสุด เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๒ ต่อมาจำนวนนกมีเป็นจำนวนมากจนถึงรุกพื้นที่ชั้น ๒ เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๑ ซึ่งเป็นร้านรวง แม้กระนั้นปัจจุบันบ้านข้างหลังนี้มีนกอยู่เต็ม  ๓  ชั้น โดยเจ้าของบ้านปิดกิจการรวมทั้งย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ แต่กลับมาเก็บรังนกทุกเดือน  โดยเฉลี่ยได้รังนกราวเดือนละ  ๖  กิโล (มูลค่ากก.ละ  ๕0000-๗0000 บาท) ในช่วงนั้นอีแอ่นรับประทานรังไปอาศัยอยู่บริเวณโบสถ์ของสงฆ์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ โดยที่เดิมที่ทางวัดมิได้เก็บรัง แม้กระนั้นปัจจุบันนี้คณะกรรมการวัดก็เก็บรังนกขายเช่นเดียวกับบ้านร้อยปี  โดยได้รังนกเฉลี่ยราวเดือนละ  ๒  กิโลกรัม

ในตอน ๕ ปีที่ผ่านมา อีแอ่นรับประทานรังรอบๆตลาดอำเภอปากพนังได้เพิ่มจำนวนขึ้น  จนตราบเท่าเข้าไปอยู่ในตึกสูงๆหลายอาคารทางฝั่งด้านตะวันออก(ฝั่งบ้านร้อยปี) ส่วนฝั่งด้านตะวันตก(ฝั่งวัด) ก็มีบ้าง แต่น้อยกว่ามากมาย ตอนนี้มีการก่อสร้างอาคารสูง๑๐ชั้น  มากยิ่งกว่า ๑๐อาคาร  แต่ละตึกใช้เงินทุนไม่น้อยกว่า  ๕  ล้านบาท  โดยหวังให้อีแอ่นเข้าไปอาศัยทำรัง   รวมแล้วมีตึกที่ผลิตขึ้น  โดยหวังว่าอีแอ่นกินรังจะเข้าไปทำรังไม่น้อยกว่า  ๕0   ตึก แต่อีแอ่นก็ไม่ได้เข้าไปอาศัยทำรังทุกอาคาร
เพราะอะไรอีแอ่นจึงเลือกอาคารใดอาคารหนึ่งเพื่อทำรัง  คำตอบนี้ยังมิหาคำตอบได้แต่จากการเรียนพบว่า อีแอ่นจะเข้าไปทำรังในตึกสูงตั้งแต่  ๑-๗  ชั้น ตึกจำนวนมากมักมีสีเหลืองไข่ไก่  แต่ว่าลางตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้ว  ยังเป็นสีอิฐ  ก็มีนกเข้าไปอาศัยและก็สร้างรัง ส่วนทิศทางการเข้าออกของอีแอ่นนั้น พบว่ามีเกือบทุกแนวทาง ไม่แน่นอน แต่ทางเข้าออกของนกโดยส่วนมากเป็นทิศใต้ค่อนไปทางทิศตะวันตก
แต่  อุณหภูมิแล้วก็ความชุ่มชื้นภายใต้ตึกน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นกเลือกอาศัยและทำรัง พบว่าอาคารที่นกอาศัยจะอยู่ระหว่าง  ๒๖-  ๒๙  องศาเซลเซียส   แล้วก็ความชื้นสัมพัทธ์ไม่ต่ำกว่าปริมาณร้อยละ  ๗๕   (อยู่จำนวนร้อยละ  ๗๙-๘0  ) ผนังตึกจำเป็นต้องไม่น้อยกว่า  ๓0  เซนติเมตร ภายในมีอ่างน้ำรอบๆหรือแทบรอบ ไม่มีหน้าต่าง   แต่ว่ามีช่องลมให้นกเข้าออกขั้นต่ำ  ๒  ช่อง ซึ่งอุณหภูมิและก็ความชื้นสัมพัทธ์ในอาคารกลุ่มนี้ใกล้เคียงกับถ้ำธรรมชาติที่นกจำพวกนี้ใช้เป็นที่อาศัยรวมทั้งทำรัง สำหรับเพื่อการเก็บรังนกนั้น เจ้าของบ้านเก็บก่อนที่นกจะตกไข่   คือราว  ๓0  วัน   ภายหลังนกเริ่มทำรัง  และก็เก็บทุกๆเดือน
แต่|แต่ว่า|แม้กระนั้น}ถ้าเกิดเป็นรังที่นกตกไข่แล้ว  ก็จะปล่อยให้นกตกไข่ต่อไปจนกระทั่งครบ  ๒  ฟอง แล้วปลดปล่อยให้ไข่ฟัก  และเลี้ยงลูกอ่อนจนลูกบินได้ก็เลยจะเก็บรัง

Tags : สมุนไพร
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย