กระทู้ล่าสุดของ: rayamkit

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 112
76  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / แต่งตัวไปเที่ยวทะเล ด้วยเสื้อผ้าแบบไหนดี เมื่อ: เมษายน 30, 2016, 04:55:56 am
ไม่มีข้อความ
77  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / “การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 8 ช่วงนี้ทั้งพ่อและแม่ก็คงจะมีการเตรียมความพร้อมกับการคลอดล เมื่อ: เมษายน 30, 2016, 12:57:20 am
ไม่มีข้อความ
78  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สารพัดสารพันวิธีลดต้นแขน เมื่อ: เมษายน 29, 2016, 05:27:48 am
ไม่มีข้อความ
79  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / วิธีป้องกันสิวผด เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 10:22:49 pm
ไม่มีข้อความ
80  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / “การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 5 ทารกมีการเติบโตโดยเร็ว มีพัฒนาการมากกว่าเดิมและอวัยวะชัดเจ เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 07:22:28 pm
ไม่มีข้อความ
81  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / “การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 6 พ่อแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะ เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 03:03:28 pm
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
“การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 6 คุณพ่อคุณแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าทะนุถนอมลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และระยะนี้คุณแม่ก็ต้องพึงระวังการทำงาน การเดินหน การนอนให้มากขึ้นเหตุว่าท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยมากขึ้น ดังนี้การนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังมองเห็นเส้นโลหิตอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มแยกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเติบโตโดยเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มเห็นชัด หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาสะสมตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
ถ้าคุณแม่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถนึกคิดถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เพราะว่าปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (จัดเตรียมความพร้อมในการคลอดบุตร)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย
ทารกจะมีความเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงนมมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น (ร่างกายมีการสั่งสมน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก อย่างรวดเร็ว
เท้าจะบวมเพิ่มขึ้น
ข้อควรกระทำตัวของคุณแม่
ทานอาหารที่มีคุณค่า (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือมากกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงลูบบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักให้เพียงพอ
บริหารร่างกายเบาๆ สม่ำเสมออย่าโหม
ไปเจอหมอตามนัดหมายทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 6 เดือน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/[/url]

Tags : ตั้งครรภ์ 6 เดือน,ท้อง6 ดือน
82  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่สี่ เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 05:27:04 am
การตั้งครรภ์เดือนที่ 4
“การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 4 ทารกมีการเติบโตโดยเร็ว มีการสร้างอวัยวะให้สมบูรณ์ ใบหน้าของทารกเริ่มเปลี่ยนและพัฒนาในส่วนอื่นๆมากขึ้น ผิวหนังมีสีชมพูสดใส เริ่มมีขนตา ขนคิ้ว ช่วงลำคอจะยาว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต่างก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นการเจริญเติบโตของลูกและมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัด ที่สำคัญทารกสามารถได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก เสียงพูดของแม่ เสียงการเต้นของหัวใจแม่ และเสียงระบบทางเดินอาหารของแม่ ฟังเสียงหัวใจของลูกเต้น หัวใจของแม่เต้นยิ่งกว่า เหตุว่าความปิติ อิ่มใจ ประทับใจกับสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆในครรภ์ แต่มันยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด
พัฒนาการของตัวอ่อนเดือนที่สี่
ช่วงเดือนที่ 4 ทารกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พัฒนาการทางด้านการตอบสนองเริ่มดีขึ้น และมีการเคลื่อนไหว (คุณแม่จะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวนี้ได้) หัวใจของทารกมีการสูบฉีดเลือดอย่างสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น คุณแม่จะสามารถได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจลูกได้จากการใช้หูฟังของแพทย์แนบกับหน้าท้อง การเปลี่ยนแปลงของหัวจะเล็กลงจะมีรูปร่างที่ได้ส่วนสัดเยอะขึ้น ระยะของทารกช่วงเดือนที่ 4 จะพัฒนาไปจนดูมีรูปร่างของมนุษย์มากขึ้น ขาเริ่มยาวมากกว่าแขน และเริ่มมีลายนิ้วมือด้วย น้ำหนักตัวของทารกเพิ่มขึ้นมาก ทารกยังไม่มีเนื้อเยื่อชั้นไขมันใต้ผิวหนังจึงดูค่อนข้างผอม และผิวหนังที่หุ้มร่างกาย อยู่นั้นก็บางมาก
การตรวจอัลตร้าซาวด์ในเดือนที่ 4 นี้จะสามารถเห็นอวัยวะเล็กๆบนใบหน้าได้อย่างชัด และทารกจะสามารถแสดงสีหน้าได้ ยิ้มได้ ขยับอวัยวะต่างๆบนใบหน้าได้ แต่ยังไม่สามารถควบคุมการแสดงสีหน้าได้ ดวงตาของทารกแม้ว่าจะปิดสนิทแต่เริ่มมีการตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงของแสงสว่างได้แล้ว และทารกสามารถแยกเพศได้จากการอัลตร้าซาวด์
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
หน้าท้องจะโตขึ้นจนเห็นชัดเจน
มดลูกจะมีเลือดมาเลี้ยงเพิ่มขึ้น
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวหน้าท้องอย่างเห็นได้ชัด
เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกอย่างชัดเจน
อาการแพ้ท้องจะไม่มี
อยากอาหารมากขึ้น
ข้อควรกระทำตัวของคุณแม่
ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ
กินข้าวที่มีคุณค่า (เสริมอาหารที่มีแคลเซี่ยมสูง)
ควรมีการบริหารกายอย่างเบาๆให้เป็นประจำ
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือมากกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาหารดองควรเลี่ยง
ถ้ามีท้องผูกหรือริดสีดวงไม่ควรซื้อยามากินเอง ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
ควรไปพบแพทย์ตามนัดแนะทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 4 เดือน

ที่มา : [url]https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-4/[/url]

Tags : ตั้งครรภ์ 4 เดือน
83  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่สาม เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 04:46:09 am
การตั้งครรภ์เดือนที่ 3
“การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 3 ทารกเริ่มจะมองเห็นส่วนของใบหน้าชัดเจนขึ้น คาง หน้าผาก ใบหูจะเริ่มเห็นเป็นรูปร่างชัด อวัยวะจะครบถ้วน ทั้งคุณพ่อและแม่ต่างก็ตื่นเต้นอยากจะรู้ว่าหน้าตาของทารกจะเหมือนใครในครอบครัว ช่างเป็นสิ่งอัศจรรย์สำหรับแม่และเป็นการคอยที่นานแสนนาน อยากจะเห็นหน้าตาของลูกในครรภ์
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่สาม
ช่วงเดือนที่ 3 ทารกเริ่มมีอวัยวะสมบูรณ์ครบถ้วน มีการขยับแขน ขา อ้าปากและหุบปากได้ เริ่มมีฟัน นิ้วก็เริ่มมีเล็บ แขนและมือจะยาวกว่าขา ส่วนศีรษะจะมีขนาดใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับลำตัว หัวใจเล็กๆมี 4 ห้อง และไตก็เริ่มขับของเสียออกสู่กระเพาะปัสสาวะ (นำออกโดยสายสะดือ) ระยะช่วงเดือนที่ 3 เป็นช่วงที่คุณแม่จะต้องระแวดระวังเกี่ยวกับเรื่องยา (ปรึกษาแพทย์ดีที่สุดค่ะ) เหตุเพราะอาจจะเสี่ยงกับการแท้งได้ ทารกจะมีอวัยวะครบ 32 หากไม่มีภาวะเสี่ยงที่ทำให้เกิดพิการแต่เกิด
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่
อาการแพ้จะน้อยลง
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น
จะรู้สึกอยากอาหารบ่อยขึ้น
การปรับพฤติกรรมของคุณแม่ดีขึ้น
อาจมีอาการปวดศีรษะบ้าง (ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง)
ท้องจะเริ่มโตและมองเห็นชัดขึ้น
เริ่มมีรอยแตกที่ผิวบริเวณหน้าอก สะโพก (ทาครีมได้นะคะ)
ข้อพึงกระทำตัวของคุณแม่
ควรจะพักให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ (เสริมอาหารที่มีแคลเซี่ยมสูง)
ควรมีการกายบริหารอย่างเบาๆให้สม่ำเสมอ
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
คุณแม่ไปฝากครรภ์แพทย์จะวัดความดันเลือด ตรวจเยี่ยว นับอัตราการเต้นของหัวใจ ขนาดของมดลูกเพื่อเทียบกับอายุครรภ์
ตรวจโรคทางพันธุกรรม
ตรวจฟันและรับข้อแนะนำจากทันตแพทย์
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้อง3เดือน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-3/[/url]

Tags : ท้อง 3 เดือน,ตั้งครรภ์ 3 เดือน,ท้อง3เดือน
84  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / “การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 2 เป็นช่วงที่สำคัญมากก็เพราะว่าทารกจะมีการเติบโตอย่างเร็ว สิ เมื่อ: เมษายน 27, 2016, 11:49:42 pm
การตั้งครรภ์เดือนที่ 2
“การตั้งครรภ์” ช่วงเดือนที่ 2 เป็นช่วงที่สำคัญมากทั้งนี้เพราะทารกจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งที่พึงสังเกตก็คือเชื้อไวรัสที่จะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการรับเชื้อได้ง่ายคุณแม่ควรที่จะระวังให้เยอะขึ้นรวมถึงการดูแลตัวเอง ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ร่าเริง ยิ้มง่าย พยายามอย่าหงุดหงิดและให้ระแวดระวังในด้านความสะอาดของการทานอาหารด้วยนะคะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่สอง
ช่วงเดือนที่ 2 ตัวอ่อนจะมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างเร็ว ส่วนหัวจะใหญ่ขึ้น ส่วนใบหน้าจะเริ่มปรากฏให้เห็น ส่วนตาจะเห็นได้ชัดเพิ่มขึ้น หัวใจเริ่มมีการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงตามร่างกาย ระบบประสาทก็เริ่มสมบูรณ์เยอะขึ้น ส่วนสมองจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจะมีเยื่อบางๆมาห่อหุ้มสมองเอาไว้ช่วงปลายอาทิตย์เดือนที่ 2 จากตัวอ่อนก็จะเรียกว่า “ทารกในครรภ์” ซึ่งในช่วงเดือนที่ 2 นี้ทารกจะเริ่มสร้างแขน ขา นิ้ว มีการพัฒนาของโครงกระดูก และระบบทางเดินอาหารทำให้มีการไหลเวียนเกิดขึ้น เมื่อสิ้นสุดเดือนที่ 2 อวัยวะต่างๆจะพัฒนา สมองก็จะเริ่มทำงาน และสั่งให้ทารกมีความเคลื่อนไหวได้
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่
น้ำหนักจะมากขึ้น (ถ้ามีการแพ้ท้องในระยะนี้น้ำหนักอาจจะไม่เพิ่มนะคะ)
ช่วงนมจะขยายขึ้น
ส่วนขาจะใหญ่ขึ้น
เสื้อผ้าที่สวมจะคับ
จะปัสสาวะบ่อยขึ้น
จิตใจจะปรวนแปร
ช่องคลอดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีอาการตกขาวเพิ่มมากขึ้น
มีเลือดออกตามไรฟันและต้องใส่ใจดูแลอย่าให้มีการอักเสบ
จะรู้สึกเหนื่อยอ่อน หน้ามืด
แพ้ท้อง ตัวอย่างเช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ แสบลิ้นปี่
ข้อควรปฏิบัติตัวของคุณแม่
ควรจะพักให้พอ
กินข้าวที่มีคุณค่า (เพิ่มกรดโฟลิกเพื่อป้องกันความพิการทางสมอง)
ควรมีการออกกำลังอย่างเบาๆให้สม่ำเสมอ
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
รับประทานอาหารแบ่งเป็นหลายครั้งแทนการรับประทานอาหาร 3 มื้อ
เลือกเสื้อชั้นในที่มีขนาดพอดีจะช่วยให้ลดอาการคัดเต้านม
เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัด
เลี่ยงของกินพวกทอด และของดอง (ผลไม้ดอง ผักดอง)
พบแพทย์เพื่อปรึกษา
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 2 เดือน

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-2/[/url]

Tags : ท้อง 2 เดือน,ท้อง2เดือน
85  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / วันนี้ MineBeauty ขอแนะนำทรงผมถักเปียสวยๆ เก๋ๆ น่ารักๆ หลากหลายทรงผมถักเปียมาฝากกันคะ เมื่อ: เมษายน 27, 2016, 10:25:54 pm
แนะนำทรงผมถักเปีย
วันนี้ MineBeauty ขอนำเสนอทรงผมถักเปียสวยๆ เก๋ๆ น่ารักๆ หลากหลายทรงผมถักเปียมาฝากกันคะ การันตีว่าเหมาะกับสาวๆที่กำลังเบื่อหน่ายกับผมทรงเดิม ๆ ที่ดูจำเจ ไม่ว่าทรงผมของสาวๆจะเป็นทรงผมสั้น ผรงผมยาว ทรงผมตรง หรือทรงผมไม่ตรงก็ตาม คุณก็สามารถทำทรงผมถักเปียได้เช่นเดียวกันนะคะ เพราะทรงผมถักเปีย[/b]สามารถดัดแปลงได้หลากหลายแบบจนทำให้คุณสาวๆเลือกทรงผมถักเปียไม่ถูกเลยเชียวว่าจะทำทรงผมไหนดี ได้เวลามาดูแบบทรงผมถักเปียกันดีกว่าคะ
จากในรูปจะเห็นได้ว่าทรงผมถักเปียเป็นทรงผมที่ช่วยให้คุณสาวๆ ดูเป็นผู้หญิงที่น่ารักสดใสเพิ่มมากขึ้นเลยเชียว ลองเลือกดูนะคะว่าชื่นชอบทรงผมถักเปียทรงไหนเป็นพิเศษ ขอบอกแต่ละทรงนั้นสาว ๆ ก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ นะเพียงดัดแปลงให้เหมาะสำหรับคุณสาวนิดหน่อย เท่านี้คุณสาวๆก็จะมีทรงผมที่แปลกตาจากเดิมจนคนอื่นๆต้องเหลียวมองชื่นชมแน่ๆคะ

ที่มา : [url]https://www.minebeauty.com/แนะนำทรงผมถักเปีย/[/url]

Tags : ถักเปีย,ผมถักเปีย,ทรงผมถักเปีย
86  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / “การตั้งครรภ์” ควรที่จะมีการเตรียมการในการที่จะมีลูกก่อนจะทำให้คุณแม่ตระเตรียมที่จะรั เมื่อ: เมษายน 27, 2016, 07:17:28 pm
การตั้งครรภ์เดือนที่ 1
“การตั้งครรภ์” ควรที่จะมีการวางแผนในการที่จะมีลูกก่อนจะทำให้คุณแม่เตรียมที่จะรับมือกับการแปรเปลี่ยนของร่างกายได้อย่างดี เริ่มต้นจากประจำเดือนขาดร่างกายก็เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว และในด้านความรู้สึกก็ต้องเตรียมที่จะรับมือกับอารมณ์ที่เปลี่ยนด้วยนะคะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนแรก
ช่วงอาทิตย์แรกเป็นช่วงของการปฏิสนธิ ยังเป็นวุ้นไข่อยู่ แต่ไข่จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่สี่ซึ่งเรียกว่า “ตัวอ่อน” จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำที่มีหน้าที่ในการป้องกันตัวอ่อน ป้องกันแรงกระแทก และเป็นแหล่งน้ำให้ตัวอ่อนด้วย อาทิตย์นี้จะมีการสร้างรก และสายสะดือที่เป็นทางส่งอาหารจากแม่สู่ลูกโดยใช้รกในการดูดซับอาหาร ส่วนของตัวอ่อนมีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
ชั้นนอก จะเติบโตต่อไปเป็นอวัยวะสำคัญ อย่างเช่น ผิวหนัง เส้นผม เล็บ เลนส์ตา ฯลฯ
ชั้นกลาง จะพัฒนาระบบประสาท กระดูก กล้ามเนื้อ หัวใจ ฯลฯ
ชั้นใน จะพัฒนาเป็นอวัยวะภายใน เช่น ตับ กระเพาะ ปอด หลอดลม เป็นต้น
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
มีอาการอ่อนแรง ง่วงซึม
มีอาการอยากอาหารเยอะขึ้น
โดยรอบหัวนมจะมีสีจัดขึ้น เหตุจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
เต้านมจะคัดตึงมากกว่าก่อนที่จะมีเมนส์
จะปัสสาวะบ่อยขึ้น
อารมณ์จะปรวนแปร
อาจจะมีเลือดออกทางช่องคลอดในบางราย
ข้อควรกระทำตัวของคุณแม่
ควรจะพักผ่อนให้พอ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบถ้วน 5 หมู่
ควรมีการออกกำลังอย่างเบาๆให้สม่ำเสมอ
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
ตรวจเลือดเพื่อตรวจดูโรคที่จะเกิดระหว่างตั้งครรภ์ (ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน)
ตรวจมะเร็งปากมดลูก
พบแพทย์เพื่อปรึกษาหารือ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 1 เดือน

เครดิต : [url]https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-1/[/url]

Tags : ท้อง 1 เดือน,ตั้งครรภ์ 1 เดือน,ท้อง1เดือน
87  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / วิธีแก้ปัญหาท้องอืด เมื่อ: เมษายน 26, 2016, 02:11:29 am
ท้องอืดเป็นอาการที่พบได้ในคนทั่วๆไป เป็นเหตุให้เราทรมานกับอาการแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ อาจมีอาการท้องเกร็ง ท้องผูกหรือท้องเสียพลอยเข้าด้วย ซึ่งมีโทษต่อพลานามัยมาก ด้วยเหตุนั้นมาดูวิธีแก้ทองผูกกันดีกว่าคะ
วิธีแก้ปัญหาท้องอืด
ไม่กินอาหารที่เผ็ดร้อนเกินดี ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
ไม่ดื่มน้ำทันทีหลังอาหารหรือรับประทานอาหารคำดื่มน้ำคำ
ไม่บริโภคผลไม้ทันทีหลังอาหาร ผลไม้ควรกินก่อนอาหารหรือหลังอาหารไปแล้วโดยประมาณ 2 ชั่วโมงหรือกินในขณะท้องว่าง
ทานมื้อเล็กบ่อยๆ และขบเคี้ยวให้ละเอียด
พยายามทานอาหารให้เป็นเวลาทุกมื้อ
งดเหล้า บุหรี่ ชา กาแฟ น้ำหวาน ชอคโกแล็ต โกโก้ เครื่องดื่มกระตุ้นกำลัง อาจทำให้อาการท้องอืดแย่ลง
ลดอาหารหวาน เนื้อสัตว์ และอาหารมัน ด้วยเหตุว่าเป็นอาหารย่อยยาก
เลี่ยงผักดิบในตอนเย็น เพราะว่าผักมีเส้นใยมาก ถ้ากินมากไปจะทำให้ท้องอืดได้
พักผ่อนให้เพียงพอ และพักผ่อนด้วยการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น และพยายามบริหารร่างกายให้เป็นประจำ
อย่าใส่เสื้อผ้าแน่น เสื้อผ้าแน่นๆ ทำให้แรงกดต่อกระเพาะเพิ่มมากขึ้น กรดไหลย้อนมากขึ้นทำให้ท้องอืด
สมุนไพรไทย หลายประเภทเอามาแก้อาการท้องอืดได้ ตัวอย่างเช่น ขิง แคปซูลพริกไทยผง แคปซูลขมิ้นชันผง ลูกยอสดๆหรือน้ำลูกยอ ฯลฯ
ถ้ามีอาการท้องอืดแล้ว ให้ลุกขึ้นยืนเคลื่อนไหวร่างกาย ดื่มน้ำอุ่น หรือกินสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับลม กินยาหอม กินยาลดกรด ดื่มน้ำเกลือแร่ ถ้ามีอาการท้องเสียร่วมด้วย หากท้องอืดก่อนนอนให้นำผ้าห่มหนุนหัวเตียงให้สูงขึ้น 6-8 นิ้ว จะทำให้กรดและน้ำย่อยไหลลงกระเพาะอาหารได้เร็วขึ้น
ส่วนใหญ่ถ้าอาการท้องอืดไม่มาก ทำตามวิธีแก้ท้องอืดก็สามารถหายเองได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นควรไปหาหมอคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้องอืดทําไง

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.minebeauty.com/วิธีแก้ท้องอืด/[/url]

Tags : ท้องอืดทําไง
88  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / วิธีการป้องกันสิวผด เมื่อ: เมษายน 26, 2016, 01:49:54 am
สิวผด (Acne Estivalis) หรือบางคนอาจเรียกว่า สิวเทียม มีลักษณะเหมือนผดผื่นเล็กๆ และแหลม ไม่สามารถแกะออกมาเป็นเม็ดได้อย่างสิวอุดตัน และสิวผดจะขึ้นถี่ยิบ สิวผดชอบขึ้นตามหน้าผาก แถว ๆ จมูกและคาง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือแถว T-ZONE นั่นเอง เวลาตื่นนอนยามเช้าสิวผดมักจะดูเรียบหรือดีขึ้น แต่พอสาย ๆ หรือบ่าย ๆ จะมีสิวผดก็จะเห่อๆ โผล่มาเต็มหน้าเลย ถ้าใครไม่อยากเป็นสิวผด มีวิธีป้องกันสิวผดมาฝากกัน
สาเหตุ ที่เจอบ่อย คือ
จากความร้อน
แสงแดด
การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือ การเช็ดหน้าแรงๆ
ครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางค์บางชนิด
บางครั้ง เชื่อว่า เชื้อรา P.OVALE มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
คนที่มีขี้รังแค
 วิธีการป้องกันสิวผด คือ
ลดการรบกวนต่อผิวหน้าให้น้อยที่สุด (Mechanical Irritation) ดังเช่น การนวดหน้า,การขัดหน้า,หรือถูหน้าบ่อยๆ
ล้างหน้าเฉพาะที่จำเป็น หรือบริเวณที่ผิวมัน เนื่องจาก การล้างหน้าล้างตาบ่อยๆ จะทำให้สิวผด รุนแรงเพิ่มมากขึ้นได้
ลด หรือเลี่ยง การใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น (Chemical Irritation) ได้แก่ การใช้ยารักษาสิวชนิด Retinoic Acid,Benzoyel Peroxide AHA,BHA เป็นต้น
ควรล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำเปล่า,หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ และไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้า และควรล้างหน้าไม่เกิน 2-3 ครั้งต่อวัน
ควรเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดเสมอที่ต้องออกภายนอก ควรเลือกกันแดดที่มี SPF >15-30 และมีค่า PA   เป็นอย่างน้อย
ไม่ควรซื้อยามารักษาผื่นเอง ทั้งนี้เพราะมักทำให้เป็นเยอะขึ้น และยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา มักเป็น STEROID ซึ่งมีปฏิกิริยาข้างเคียงมาก
รักษาผมไม่ให้เป็นรังแค
ไม่ควรนอนคว่ำและควรเปลี่ยนฟูกหมอนที่นอน 1 อาทิตย์ต่อครั้ง
เวลาอาบน้ำควรใช้แยกกันระหว่างผ้าเช็ดตัวกับผ้าเช็ดหน้า
พยายามอย่าตึงเครียดหรือนอนดึก พักผ่อนให้พอ การเครียดมากๆจะทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก
ห้ามบีบหรือแกะสิวเป็นอันขาด เนื่องจากจะเป็นเหตุให้เกิดรอยแผลเป็นที่ดูแลรักษาได้ยาก
ควรรักษาสุขภาพอนามัย โดยทั่วไปให้ดีอยู่เสมอ ดังเช่น รับประทานผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ และน้ำสะอาด ให้มากๆ
ควรขอคำแนะนำแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญ เพื่อหาสาเหตุ และพร้อมทั้งการแก้ไขและรักษาที่ถูกต้องต่อไป
แม้นสิวผดเป็นสิวที่ขึ้นง่าย หายเร็ว มักไม่อักเสบเป็นหัวหนอง หรือสิวอุดตัน แต่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ จนเป็นที่รำคาญ ดังนั้นควรนำวิธีการป้องกันสิวผดไปปฎิบัติกันดูนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีรักษาสิวผด

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.minebeauty.com/วิธีป้องกันสิวผด/[/url]

Tags : สิวผด
89  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / มะเร็งปอด คือ เนื้องอกที่เกิดจากเซลล์ของปอดและหลอดลมนี่เองค่ะ เป็นโรคมะเร็งที่เจอมากและ เมื่อ: เมษายน 20, 2016, 06:36:17 am
มะเร็งปอด
โรคมะเร็งเป็นอันตรายที่อยู่รอบตัวกับเรา จากภาวะแวดล้อม ที่อยู่ที่แออัด วิถีชีวิตที่เราดำเนินอยู่ทุกวันนี้ อากาศที่เราสูดหายใจเข้าไปเราเองก็ไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคอะไรบ้าง ทั้งแก๊สพิษจากการปิ้ง ย่าง และท่อไอเสียรถล้วนแล้วแต่มีพิษทั้งนั้นเลยนะคะ เมื่อเร็วๆนี้ก็มีข่าวออกมาว่าพิษจากท่อไอเสียรถยนต์เป็นต้นเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็ง ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามะเร็งอยู่โดยรอบ กายเรานี่เองค่ะ และเป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้มีผู้คนเป็นโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นทุกปี ที่เสียชีวิตก็ไม่ใช่น้อยเลยค่ะ
โรคมะเร็งมีมากมายชนิด ส่วนมะเร็งที่ร้ายแรงและพบมากที่สุดก็มี 6 ชนิด คือ มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก ตอนนี้เรามารู้จักและรู้วิธีป้องกันรักษากับโรค “มะเร็งปอด” กันก่อนนะคะ
มะเร็งปอด
มะเร็งปอด คือ เนื้องอกที่เกิดจากเซลล์ของปอดและหลอดลมนี่เองค่ะ เป็นโรคมะเร็งที่พบมากและบ่อยที่สุดเกิดจากภาวะแวดล้อมภายนอกที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้จากก้อนเนื้องอกเล็กๆจะลุกลามและกระจายไปสู่อวัยวะอื่นได้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการเสี่ยงต่อชีวิตของเรานี่เองค่ะ ถ้าตรวจเจอหรือว่ามีสิ่งผิดปกติในร่างกายเราอย่ารอช้านะคะให้รีบไปพบหมอจะดีที่สุดค่ะ
มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่อันตรายและร้ายแรงที่พบบ่อย เป็นต้นสายปลายเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดเป็นได้ทั้งชายและหญิง แต่ถ้าตรวจเจอและรักษาแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาหายได้ค่ะ มะเร็งปอดแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มมะเร็งที่มีเซลล์ขนาดเล็ก
กลุ่มมะเร็งที่มีเซลล์ขนาดใหญ่
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปอด
การสูบบุหรี่สำคัญมากที่สุด
ไม่ดูดบุหรี่แต่อยู่ร่วมกับคนที่สูบบุหรี่ (สูดดมควันบุหรี่เข้าปอด)
อาศัยอยู่ในที่แออัดมีมลพิษทางอากาศ
ควันจากการปิ้ง ย่าง
ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ทุกชนิด
ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเหมือง และโรงงานอุตสาหกรรม
อาการของโรคมะเร็งปอด
มีอาการเพลีย เบื่ออาหาร ผอม น้ำหนักลด
กลืนอาหารลำบาก
ไอเรื้อรัง แน่นหน้าอก เสียงแหบ และไอมีเสมหะ/เป็นเลือด
หายใจเหนื่อย
เป็นปอดบวม/ปอดอักเสบบ่อย
มีก้อนที่คอ/เจ็บหน้าอก
อาการเบื้องต้นเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นควรรีบเจอคุณหมอทันทีเพื่อให้แพทย์ตรวจและวินิจฉัยโรคอย่าปล่อยไว้นานให้กลายเป็นมะเร็งที่รักษาไม่ทัน ควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้พ้นจากความเจ็บป่วยดีกว่าค่ะ
การวินิจฉัโรคมะเร็งปอด[/url]
แพทย์จะซักประวัติผู้ป่วยอย่างละเอียด
เอ็กซเรย์ปอด เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
ตรวจเสมหะของผู้ป่วย (ตรวจหาเซลล์มะเร็ง)
ส่องกล้องผ่านทางหลอดลม
เจาะชิ้นเนื้อเพื่อนำไปวินิจฉัย
มะเร็งปอดจะมีการลุกลามและกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้โดย
ลุกลามไปเนื้อเยื่อข้างเคียง
ผ่านไปทางกระแสเลือด
ผ่านไปทางระบบน้ำเหลือง
การรักษาโรคมะเร็งปอด
การผ่าตัด
การใช้ยาเคมีบำบัด
การใช้รังสีรักษา
การรักษาแบบผสมผสานทั้ง 3 วิธี
การรักษาแบบประคับประคองตามอาการของโรค
“การรักษานั้นแพทย์จะรักษาตามอาการร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน และระยะเวลาการเป็นของโรค”
การป้องกันโรคมะเร็งปอด
เลิกดูดบุหรี่
หลีกเลี่ยงห่างไกลจากคนสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการได้รับมลพิษจากสิ่งแวดล้อม
การรับประทานอาหารควรระวังอาหารที่มีไขมันสูง อาหารปิ้ง ย่าง
ควรกินผัก (ปลอดสารพิษ) ผลไม้ให้เพิ่มมากขึ้น
ออกกำลังเป็นประจำ
หมั่นตรวจเช็คร่างกายสม่ำเสมอค่ะ
ถ้าเรารู้จักป้องกันโรคภัยย่อมจะดีกว่าที่ให้โรคภัยมาเยือนแล้วมาแก้ไขทีหลังนะคะ
ติดตามรับรู้เกี่ยวกับเรื่องมะเร็งตับต่อไปนะคะ

เครดิต : [url]https://www.minebeauty.com/มะเร็งปอด/[/url]

Tags : มะเร็งปอด,โรคมะเร็งปอด,มะเร็งปอด
90  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / มะเร็งปากมดลูกฟังชื่อแล้วก็แน่นอนว่าเป็นโรคที่เกิดกับคุณผู้หญิงนะคะ เพราะว่าคุณผู้ชาย เมื่อ: เมษายน 20, 2016, 06:05:29 am
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกฟังชื่อแล้วก็แน่นอนว่าเป็นโรคที่เกิดกับคุณผู้หญิงนะคะ เพราะว่าคุณผู้ชายไม่มีมดลูกแต่ว่าคุณผู้ชายก็เป็นตัวนำเชื้อมาให้กับผู้หญิงเราด้วย ในช่วงวัยเจริญพันธุ์อายุ 18 ปีขึ้นไปของผู้หญิงไม่ควรจะไม่เอาใจใส่โรคร้ายแรงนี้ไปเด็ดขาดเลยนะคะ ควรที่จะไปตรวจภายในทุกปี จะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูก และไม่ควรจะอายหมอ อย่าอายค่ะถ้ามันจะทำให้เราปลอดภัยจากโรคร้าย ด้วยเหตุว่าหมอเองก็ได้รู้ได้เห็นได้ตรวจภายในคุณผู้หญิงมาเยอะแล้วเป็นเรื่องปกติสำหรับหมอมองว่าทุกส่วนของร่างกายของผู้หญิงก็มีอวัยวะเป็นองค์ประกอบเหมือนๆกันค่ะ เราควรจะรู้จักโรคก่อน ป้องกันก่อน แก้ไขก่อนที่มะเร็งปากมดลูกจะมาเยือน!!!!
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เกิดมาจากเซลล์ของปากมดลูก และเป็นโรคร้ายแรงที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ ของโรคมะเร็งในผู้หญิง แม้กระนั้นโรคนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว หรือผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ส่วนมาก แต่ผู้หญิงโสดก็อย่าชล่าใจหรือว่านิ่งเฉยว่าเราคงไม่เป็นโรคนี้แน่นอน ถ้าคิดแบบนี้ก็คิดผิดแล้วค่ะ เพราะความเสี่ยงของหญิงโสดที่เป็นมะเร็งปากมดลูกก็มีค่ะ มันเกิดจากอะไรล่ะ?ฮืม? ก็เกิดจากความไม่สะอาด ความอับชื้นของกางเกงในที่ผู้หญิงใส่ (เกิดเชื้อรา) และเกิดจากการสัมผัสที่รุนแรงกับอวัยวะเพศของคุณผู้หญิงก็เป็นไปได้นะคะ ทีนี้คุณผู้หญิงทั้งหลายมารู้จักกับเชื้อโรคที่น่ารังเกียจก่อให้เกิดโรคนี้กันดีกว่าค่ะว่าเชื้อไวรัสมาจากไหน!!!!!
เชื้อไวรัสตัวนี้ชื่อว่า “ไวรัส HPV” (Human Papilloma Virus) หรือไวรัสหูด เป็นเชื้อไวรัสที่ติดได้ง่าย ถ้าระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือว่าไม่ดี เนื่องมาจากเชื้อโรคตัวนี้ทนทานต่อความร้อน และความแห้งได้ดีทีเดียว และเจ้าเชื้อไวรัส HPV มีมากมายหลายร้อยชนิด แต่ก็มีไม่กี่ชนิดที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์ก็มีการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ง่ายกว่าหญิงโสดที่ไม่มีเพศสัมพันธ์ค่ะ แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจกันไป ทั้งนี้เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราก็จะทำการกำจัดเชื้อไวรัสนี้ให้หายเองได้ มีส่วนน้อยเท่านั้นค่ะที่เชื้อไวรัสตัวนี้ดื้อด้านกำจัดไม่ได้และได้ไปสร้างความผิดปกติให้กับเยื่อบุของปากมดลูกและกลายเป็นมะเร็ง (ใช้เวลานานพอควรเลยค่ะ) อย่างไรก็ตามอย่าได้นอนใจถ้ารู้ว่ามีอะไรผิดปกติหรือสงสัยว่ามดลูกของคุณมีปัญหาก็ควรรีบขอคำแนะนำแพทย์ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้นะคะ
เหตุผลและปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก
ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ง่าย
การสูบบุหรี่
การรับประทานยาคุมกำเนิดนานเกินไป
การมีบุตรหลายคน
การมีคู่นอนหลายคน
การมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย
เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีเชื้อ HPV
การมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีคู่นอนหลายคน
การมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีภรรยาเป็นมะเร็งปากมดลูก
การมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
จากที่กล่าวถึงเหตุผลและปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูกแล้ว เป็นส่วนใหญ่สาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดกว่าสาเหตุอื่นๆ ถ้าระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องเพศก็คงจะมีความเสี่ยงที่น้อยลงได้ และก็หมั่นไปตรวจภายในทุกๆปี เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเอง การตรวจภายในไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสำหรับผู้หญิง ตรงกันข้ามเลยเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้รู้ว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง รู้เร็วเราก็รักษาได้ทันป้องกันได้ทัน
อาการของโรมะเร็งปากมดลูก[/url]
อาการโรคมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก จะไม่มีอาการผิดปกติให้เราได้รู้เลยว่าเจ้าเชื้อไวรัสได้มาเยือนเราแล้ว จึงเป็นการยากที่เราจะสังเกตได้ แต่เชื้อไวรัสนี้ก็สามารถที่จะตรวจพบได้แต่เนิ่นๆ ถ้าเราหมั่นไปหาหมอตรวจภายในทุกๆปี หรือถ้ามีอะไรผิดปกติก็สามารถไปตรวจได้ไม่ต้องรอให้ถึงปีค่อยไปตรวจนะคะ มาดูอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกเบื้องต้นที่มีเชื้อไวรัสก่อตัวขึ้นเพื่อบ่งบอกว่ามดลูกเริ่มจะมีก้อนเนื้อร้ายมาเยือนแล้วค่ะ
ตกขาวมีสีเหลือง มีกลิ่นแรง และมีเลือดปนด้วย
มีเลือดออกผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์
ประจำเดือนมาผิดปกติจากที่เคยเป็น (มานานผิดปกติ หรือเป็นกะปริบกะปรอย)
มีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ
ปวดท้องน้อย
มีเลือดออกหลังจากหมดประจำเดือน
ปัสสาวะ/อุจจาระเป็นเลือด
ขาบวม ปวดหลัง (มะเร็งเริ่มลุกลามไปสู่อวัยวะอื่นๆ)
“ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกที่แม่นยำ และชัดเจนแล้วนะคะ”
การวินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูก
การตรวจภายใน
การตรวจ pap smear เป็นการป้ายตัวอย่างบริเวณปากมดลูก และเป็นการตรวจควบคู่ไปกับการตรวจภายในเพื่อหาเซลล์มะเร็ง
การตรวจโดยการขูดชิ้นเนื้อภายในปากมดลูกไปตรวจ
การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก
การผ่าตัด
การใช้ยาเคมีบำบัด (คีโม)
การใช้ฉายรังสี
การฉายรังสีและการให้เคมีบำบัดรักษาตามการแพร่กระจายของมะเร็ง
“การรักษาขึ้นกับการลามของมะเร็ง และระยะการเป็นโรค คุณหมอจะทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด และให้ข้อมูลกับผู้ป่วยเพื่อประกอบการตัดสินใจในการรักษา เนื่องมาจากการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกย่อมมีผลข้างเคียงต่อการรักษา ดังนั้นผู้ป่วยต้องศึกษารายละเอียดให้เข้าใจ”
การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
ตรวจภายในทุกๆปี (ไม่ว่าจะเป็นโสด หรือว่าแต่งงานแล้ว)
เวลามีเพศสัมพันธ์ควรให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยจะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
การฉีดวัคซีนป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูก
การไปตรวจ pap smear เป็นประจำก็เป็นการป้องกันขั้นพื้นฐานได้ค่ะ
บริหารร่างกายให้สุขภาพแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันโรค
โรคมะเร็งปากมดลูกน่ากลัวและร้ายแรงติดอันดับโรคร้ายพอสมควร อยู่ที่ตัวคุณผู้หญิงทั้งหลายแล้วล่ะค่ะว่าจะป้องกันไว้ก่อนหรือว่าจะปล่อยไม่ต้องป้องกัน แต่เมื่อเราทราบรายละเอียดของโรคร้ายแล้วและได้ศึกษาวิธีป้องกันแล้วก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากมายเลยนะคะ เมื่อรู้แล้วก็ควรปฏิบัติเพื่อสุขภาพคุณเองนะคะเพราะ “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐค่ะ”

ที่มา : [url]https://www.minebeauty.com/มะเร็งปากมดลูก/[/url]

Tags : มะเร็งปากมดลูก,มะเร็งปากมดลูก อาการ,อาการของมะเร็งปาก มดลูก
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 112
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย