"ชาวอิตาลีหันไปชงกาแฟกินเองที่บ้านแทนการซื้อจากร้านค้ากันมากขึ้น" Raffaele Brogna ผู้ก่อตั้งชุมชนผู้บริโภคออนไลน์ กล่าวยืนยัน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวยังไม่กระทบต่อร้านกาแฟที่ชื่อ Bar Principe ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงมิลานนัก แม้ราคากาแฟจะปรับสูงขึ้นมาก และแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี ในตลาดกาแฟโลกเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว แต่สำหรับทางร้าน Bar Principe ของ Fausto D’Andrea ยังคงไม่ปรับขึ้นราคา เพื่อรักษาฐานลูกค้าของตนเองไว้ "ยอดขายกาแฟของเราลดลงเล็กน้อย แต่เราก็ไม่ปรับขึ้นราคา" เขากล่าวขณะเสริฟกาแฟและแซนวิชแก่ลูกค้า ทั้งบอกว่า ตนเองยังคงขายกาแฟเอสเพรสโซ่อยู่ที่แก้วละ 0.80 ยูโร ซึ่งต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของคู่แข่งที่อยู่ในย่านเดียวกัน คือขายที่แก้วละ 0.90 ยูโร ขณะที่ผู้บริโภคชาวอิตาลีเองได้หันกลับไปใช้หม้อต้มกาแฟแบบดั้งเดิมกันมากขึ้น ซึ่งเป็นหม้อชงกาแฟแบบที่คนรุ่นปู่ย่าเคยใช้มาก่อน เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์การถดถอยทางเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่ บร็อกนา ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ออนไลน์ด้านการบริโภค เผยว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้บริโภคที่ติดตามทางเฟสบุ๊กของตนกว่า 52,000 ราย และทางทวิตเตอร์ พบว่า ผู้บริโภคเหล่านั้นได้กลับไปใช้หม้อต้มกาแฟชงดื่มเองที่บ้าน เหตุผลหลักก็คือ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย "หลังจากหลายปีที่ผ่านมา เราใช้เครื่องต้มกาแฟมาหลากหลายชนิด แต่ในที่สุดเราก็ได้กลับไปใช้เจ้าหม้อต้มกาแฟสุดโปรด ที่มีราคาถูกกว่า และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย" ฟรานเชสกา ลาร์ซิเนส ผู้บริโภครายหนึ่งเขียนลงในเฟซบุ๊ก สำหรับหม้อชงกาแฟ (Moka Pot) ใช้ตั้งบนเตาไฟ ผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1933 โดยโรงงานของ Alfonso Bialetti (ปัจจุบันทางโรงงาน Bialetti ยังคงผลิตในรุ่นเดียวกันภายใต้ชื่อ “Moka Express”) ซึ่งพบว่า ชาวอิตาลีเกือบ 80% ของจำนวนประชาชน ดื่มกาแฟที่บ้าน และเกือบ 60% มีหม้อต้มกาแฟแบบที่ว่านี้เป็นของตนเอง นอกจากนี้ ทางบริษัท Bialetti ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอยู่ในขณะนี้ ยังเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันไปซื้อกาแฟบดกันมากขึ้น แทนกาแฟแบบแคปซูล "ผู้บริโภคจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่พบว่าต้นทุนของกาแฟที่อัดใส่แคปซูลจะมีราคาสูงกว่ากาแฟบดธรรมดา" Gaia Mazzon หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารจากโรงงาน Bialetti กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเองได้เริ่มลงทุนผลิตเครื่องชงกาแฟที่สามารถใช้ได้ทั้งกาแฟที่ผลิตออกมาในรูปแผ่นกลมและแคปซูล และกาแฟบดด้วย ในขณะที่ความคิดเห็นของผู้บริโภคอย่าง Annalisa Di Modugno กล่าวว่า ตนเลือกที่จะจ่ายเงิน 0.85 ยูโร เพื่อซื้อกาแฟบด ห่อขนาด 250 กรัม ดีกว่าที่จะต้องจ่ายเงินถึง 30 ยูโรต่อเดือน เพื่อซื้อกาแฟแบบแคปซูล นั่นเพียงเพื่อเหตุผลของการประหยัดค่าใช้จ่ายเท่านั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม Roberio Silva ผู้บริหารองค์กรกาแฟระหว่างประเทศ แสดงความคิดเห็นว่า ตนยังไม่พบการลดการบริโภคกาแฟของชาวอิตาลีลง นั่นเป็นเพราะกาแฟได้เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการบริโภคของพวกเขา สอดคล้องกับความเห็นของ Enzo Serrani ผู้บริโภครายหนึ่งที่กล่าวยืนยันว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตนจะลดการบริโภคกาแฟลง "ผมยอมที่จะลดเรื่องอื่นนะ แต่ไม่ใช่กาแฟแน่นอน" เขากล่าว
[url=http://www.hatyaicoffeeathome.com] ร้านกาแฟหาดใหญ่, เรียนชงกาแฟ หาดใหญ่, เปิดร้านกาแฟ หาดใหญ
|