กระทู้ล่าสุดของ: jlkjljkl

เตย
ชื่อสมุนไพร เตย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ใบเตย , เตยหอม , ต้นเตย , เตยหอมใหญ่ , เตยหอมเล็ก (ภาคกลาง) , หวานข้าวใหม่ (ภาคเหนือ) , ปาแนะวอวิง , ปาแง๊ะออริง (นราธิวาส,มาเลเซีย) ,พังลั้ง (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Pandanus amaryllifolius Roxb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์    Pandanus ordorus Ridl.
ชื่อสามัญ  Pandanus Palm , Fragrant Pandan , Pandom wangi.
วงศ์  Pandanaceae
ถิ่นกำเนิด
เตย เป็นพืชที่คนประเทศไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เนื่องจากได้นำมาใช้ผลดีต่างๆมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนของใบที่เราเรียกว่า ใบเตย จึงทำให้เรียกพืชจำพวกนี้ชินปากกันมาจนกระทั่งปัจจุบันว่า “ใบเตย” สำหรับบ้านเกิดของเตยนั้น เป็นพืชที่มีบ้านเกิดในเอเซียอาคเนย์ เป็นต้นว่า ไทย เมียนมาร์ลาว มาเลเซีย และก็ประเทศอินเดีย รวมทั้งทวีปอื่นตัวอย่างเช่นแอฟริกา รวมทั้งประเทศออสเตรเลีย ชอบขึ้นตามพื้นที่ชุ่ม ขอบลำน้ำหรือบริเวณที่เฉอะแฉะที่มีน้ำขังบางส่วน ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ลักษณะทั่วไป
เตยจัด เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีลำต้นทรงกลม และก็เป็นข้อสั้นๆถี่กัน โผล่ขึ้นมาจากดินเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ โคนลำต้นแตกรากกิ่งก้านสาขาออกเป็นรากเกื้อหนุนหรือเรียกว่า รากอากาศ ลำต้นสามารถแตกหน่อฯลฯใหม่ได้ ทำให้มองดูเป็นกอหรือเป็นพุ่มใหญ่ๆที่รวมความสูงของใบแล้วสามารถสูงได้มากกว่า 1 เมตร
ใบเตย แตกออกเป็นใบเดี่ยวด้านข้างรอบลำต้นแล้วก็เรียงสลับวนเป็นเกลียวขึ้นตามความสูงของลำต้น จนกระทั่งขอด ใบมีลักษณะเรียวยาวเป็นรูปดาบ ปลายใบแหลม สีเขียวสด ใบยกเฉียงแนบไปกับลำต้น แผ่นใบวาว กว้างโดยประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวราวๆ 30-50 ซม. แผ่นใบและก็ขอบของใบเรียบ แผ่นใบด้านล่างมีสีจางกว่าด้านบน มีเส้นกึ่งกลางใบลึกเป็นแอ่งตื้นๆตรงกลาง ใบนี้ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา เพราะมีน้ำมันหอมระเหย และก็สาร ACPY
การขยายพันธุ์
เตย สารมารถขยายพันธุ์ได้เองโดยการแตกหน่อ แม้กระนั้นในปัจจุบันก็สามารถปลูกด้วยการแยกเหง้าหรือย้ายหน่อปลูกได้ด้วยเหมือนกัน ทั้งนี้ เตยสามารถขึ้นได้ดิบได้ดีในที่เปียก แล้วก็ทนต่อภาวะดินชื้นแฉะเจริญ แต่ควรจะเลือกพื้นที่ปลูกไม่ให้น้ำหลากขังง่าย โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
การเตรียมแปลง แปลงปลูกเตย ควรจะไถแปลง รวมทั้งตากดินก่อน 5-10 วัน พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด ก่อนหว่านด้วยปุ๋ยธรรมชาติอัตรา 2 ตัน/ไร่ แล้วก็ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 10 กิโลกรัม/ไร่ พร้อมไถกลบ
การปลูกเตย ควรจะปลูกในตอนฤดูฝน เพราะดินจะเปียกชื้นดี ทำให้ต้นเตยติด รวมทั้งตั้งตัวได้ง่าย ด้วยการขุดหลุมปลูกเป็นแถว ระยะหลุม และระยะแถวที่ 50 เซนติเมตร หรือที่ 30 x 50 ซม. ก่อนนำต้นพันธุ์เตยลงปลูก
ภายหลังจากปลูกเตยเสร็จ ควรให้น้ำโดยทันทีแม้กระนั้นถ้าหากดินเปียกชื้นมากก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ แล้วก็ให้น้ำเสมอๆทุกๆ7-10 วัน ขึ้นอยู่กับความชุ่มชื้นดิน และก็ฝนที่ตก
ส่วนประกอบทางเคมี
จากการศึกษาทางเคมีของใบเตยพบว่ามีสาระสำคัญหลากหลายประเภทเมื่อนำใบเตยหอมากลั่นด้วยละอองน้ำจะได้สารหอมที่มี แพนดานาไมน์ (Pandanamine) ไลนาลิลอะซีเตท ( linalyl acetate) เบนซิลอะซีเตท (benzyl acetate) ไลนาโลออน (linalool)แล้วก็เจอรานิออล (geraniol) มีสารที่ทำให้มีกลิ่นหอมยวนใจเป็น คูมาริน (coumarin) และเอทิลวานิลลลิน (ethyl vanillin)สารคลอโรฟิลล์(chlorophyll) ทำให้มีสีเขียว เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) แล้วก็สารในกลุ่มแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ที่สำคัญ

linalyl acetate benzyl acetate
องค์ประกอบของสารไลนาลิลอะซีเตท องค์ประกอบของเบนซิลอะซีเดท


linalool Geraniol
ส่วนประกอบของไลนาโลออล องค์ประกอบพบรานิออล

Pandanamine Chlorophyll
โครงสร้างของแพนดานาไมน์ ส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์

Anthocyanin Ethylvanillin
ส่วนประกอบของแอนโทไซยานิน องค์ประกอบของเอทิลวานิลลิน
นอกจากนั้นในส่วนของค่าทางโภชนาการของเตย คุณประโยชน์ทางโภชนาการของใบเตยสดใน 100 กรัม
องค์ประกอบ ใบเตยสด
พลังงาน (กิโลแคลอรี่) 35
ความชุ่มชื้น (กรัม) 85.3
คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 4.6
โปรตีน (กรัม) 1.9
ไขมัน (กรัม) 0.8
สายสัมพันธ์(กรัม) 5.2
แคลเซียม (มิลลิกรัม) 124
ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) 27
เหล็ก(มก.) 0.1
วิตามิน บี 2 (มิลลิกรัม) 0.2
ไนอะซิน (มิลลิกรัม) 1.2
วิตามิน ซี (มิลลิกรัม) 8
เบตา-แคโรทีน (ไมโครกรัม) 2.987
คุณประโยชน์/สรรพคุณ
ใบเตย มักถูกนำมาผสมในของกิน เพื่ออาหารมีกลิ่นหอมสดชื่นน่ารับประทาน และก็ยังช่วยแต่งสีเขียวให้กับขนมไทยหลายๆประเภท อาทิเช่น ของหวานเปียกปูน ขนมชั้น และยังมีการเอามาทำเป็นเครื่องดื่มอีกด้วย
นอกจากนั้นยังคงใช้ใบเตยเอามาห่อทำขนมหวาน ดังเช่นว่า ขนมตะโก้ใบนำมาผูกรวมกัน ใช้สำหรับวางในสุขาห้องรับแขกเพื่อให้อากาศมีกลิ่นหอมสดชื่นช่วยในการขจัดกลิ่นหรือใช้ใบเตยสดนำมายัดหมอน ช่วยให้มีกลิ่นหอมยวนใจ ประยุกต์ใช้เป็นสารแต่งกลิ่นบุหรี่ เอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆนำไปผึ่งแดดให้แห้ง ก่อนใช้ชงเป็นชาดื่ม น้ำมันหอมระเหยจากเตยนำไปเป็นส่วนผสมของน้ำยาปรับอากาศ ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องแต่งตัว ครีมทาผิว ยาสระผม สบู่ หรือ ครีมนวด ฯลฯ
ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของเตยนั้น ตำรายาไทย ได้บรรยายสรรพคุณทางยาของใบเตยไว้ว่าเตยมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่ บำรุงหัวใจ ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันเลือด ใช้รักษาโรคฝึกฝน เลือดออกตามไรฟัน หวัด ตับอักเสบ ดับพิษไข้ แก้โรคฝึกฝน แก้ท้องเฟ้อ แก้หิวน้ำ แก้ร้อนในขับปัสสาวะ รากเตย ใช้เป็นยาขับเยี่ยว รักษาโรคเบาหวานเพราะว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดนอกจากนี้ยังคงใช้รักษาโรคตับ ไตอักเสบ รวมทั้งรักษาโรคโรคหืด แก้หนองใน แก้พิษเลือดแก้ตานซางในเด็ก ช่วยละลายก้อนนิ่วในไต
แบบอย่าง/ขนาดวิธีใช้
• ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง
• ช่วยดับหิว นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นอย่างรอบคอบ แล้วเพิ่มเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
• รักษาโรคฝึกฝนหรือโรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
• ใช้รักษาโรคเบาหวาน ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น
• ใช้เป็นยาขับฉี่ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือไปต้มกับน้ำกินหรือใช้ใบมาหั่นผึ่งแดดให้แห้งแล้วชงดื่มแบบชาก็ได้
• ใช้บำรุงผิวหน้า โดยการใช้ใบเตยล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆนำมาปั่นรวมกับน้ำสะอาดกระทั่งละเอียด จะได้ครีมข้นเหนียวแล้วเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
การเรียนทางเภสัชวิทยา
ใบเตย มีฤทธิ์ลดความดันเลือดรวมทั้งลดอัตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มความแรงสำหรับการหดตัวรวมทั้งลดอัตราการยุบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ต่อต้านอนุมูลอิสระและก็มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียStaphylococcus aureus, Staphylococcus epidermidis แม้กระนั้นยังเป็นการทดลองในสัตว์ทดสอบและในหลอดทดสอบเท่านั้น
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
จากการค้นข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษหรืออาการไม่พึงปรารถนาจากการกินใบเตย
ข้อเสนอแนะ/ข้อความระวัง

• แม้เตยจะเป็นพืชจากธรรมชาติ แม้กระนั้นก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและไม่บริโภคเป็นระยะเวลานานจนถึงเกินความจำเป็น
  2. คนที่มีโรคประจำตัวหรือสตรีตั้งครรภ์แล้วก็สตรีให้นมบุตรควรขอคำแนะนำหมอและก็ผู้ชำนาญก่อนบริโภคหรือใช้สินค้าอะไรก็ตามจากเตย เนื่องจากว่าสารเคมีในเตยอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้
  3. ในแนวทางการเตรียมพร้อมใช้ใบเตยด้วยตัวเองควรล้างชำระล้างใบเตยอย่างยอดเยี่ยมอย่าให้มีสิ่งแปลกปลอมปนไป เพราะอาจได้รับอันตรายต่อสุขภาพได้

เอกสารอ้างอิง

• อัจฉรา นิยมเดชา.ผลของการเสริมใบเตยหอม(Pandanus amarylifolius Roxb.) ในอาหารต่อสมรรถภาพการผลิตของนกกระทาญี่ปุ่นและคุณภาพไข่.รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ประจำปีงบประมาณ 2555.38หน้า
• ดวงจันทร์เกรียงสุวรรณ. พืชผักผลไม้ไทยมีคุณค่าเป็นทั้งอาหารและยาเตยหอมและแตงกวา. งานศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรมฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่
• ใ�เตย[/url].กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.https://www.disthai.com/[/color]
  
• วันดี กฤษณพันธ์.2538.สมุนไพรสารพัดประโยชน์.ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.กรุงเทพฯ
• สรรพคุณของน้ำเห็ดหลินจือต้มผสมกับอ้อยดำและใบเตย.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
• เตย/ใบเตย สรรพคุณและการปลูกเตย.พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อพืชเกษตรเพื่อพืชไทยLinda S.M Ooi, Samuel S.M Sun and Vincent E.C Ooi . 2004. Purification and characterization of a new antiviral protein from the leaves of Pandanus amaryllifolius (Pandanaceae). Department of Biology. The Chinese University of Hong Kong, Shatin, N.T., Hong Kong, China.

มะกรุด ลักษณะของจำปาต้นจำปา มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย รวมทั้งมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดlกึ่งกลางyukถึi;งกับขนาดใหญ่io; ลำต้นyulio;ตรง มีคrtntyjtykuyukามmngmghmสูงประมาณ มะกรุด15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มไม้โปร่งเป็k.jk.jk.นรูปกรวย'oo/คว่ำ ค่อนข้างluio.โปร่ง แตกกิ่งหลiluายชิ้นที่ยอด ที่เปลือกio;มีสีเทmyu,io.ioioาอมขาวแล้;วก็มีกลิ่นฉุน;io;อยู่แล้วก็จะหลุดไuilปเมื่อดอกบาน ที่tytkuyluuilกลีluบดอกไม้รวมทั้งกลีบเลี้io;ยงop'opจะมีลักษณะเช่'op'opนเดียวกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 ซม.และก็มีความยาวมะกรุดประมาtyjณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในio;ตอนพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดyukuilulอกไม้ก็จะกางอtrjyuktkutอกจากกัน แล้วก็หล่นในตอนเวลาเย็น ดอกจำปาiotjtyj;;io;สามารถมีดอกมะกรุดได้ตลอดทั้งปี แต่ว่าจะมีมากมายหน่อยในช่วงต้นหน้าฝน แม้กระนั้นต้องใช้เวลาปลูกเป็นเวลานานกว่tyjาtrj 3 luปีจึงจะมีดอกilจำปาผลจำปา จะออกเป็นกลุ่ม มีความยาuilวโดยประมาณ 6-9 iuซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 1 ซม. สuiluามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดมะกรุดหลuilายเมล็ด มีสีดำ เม็ดค่uilอนข้างกลi;iouiม เปลือกเม็ดluiสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 0.5 ซุtlกซนติเตียนเมตร

มะม่วงหาว มะนาวโห่
ชื่อสมุนไพร  มะม่วงหาวมะนาวโห่
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์    Carissa carandas L.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Carissa congesta Wight.
ชื่อสามัญ  Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.
วงศ์  APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด
มะม่วงหาว มะนาวโห�[/color]เป็นผลไม้ในกรุ๊ปเบอร์ปรี่ชนิดหนึ่งที่มั่นใจว่าถิ่นกำเนิดอยู่แถบ Himalayas แต่ นักพฤกษศาสตร์บางคนกล่าวว่ามีบ้านเกิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนกระทั่งอัฟกานิสถาน และก็เจอได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ อินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ ประเทศอินเดีย และศรีลังกา โดยธรรมชาติเติบโตในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา ประเทศพม่า จีน และก็ไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถเจอได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในปัจจุบันค่อนข้างจะหามากินได้ยาก เนื่องด้วยเป็นพันธุ์พืชมีหนาม ใครหลายๆคนไม่รู้คุณประโยชน์จึงฟันทิ้งกันไปมาก นอกจากคนที่รู้เท่านั้นที่นำมาปลูกไว้ สำหรับคนรุ่นก่อนแล้วผลไม้ชนิดนี้นับว่ามีคุณประโยชน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอคอยเลื้อย หรือต้นไม้ขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวทั้งปี มีลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์ เป็น
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แต่ว่าอาจสูงถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งเป็นจำนวนมากกิ่งมี ลักษณะแข็ง รวมทั้งกระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามอีกทั้งแบบหนามลำพัง หรือ เป็นคู่ บางทีอาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร หนามจะเจอรอบๆ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งกิ่งก้านสาขามักจะมีหนามที่แข็ง และก็คม
ใบ: เป็นใบลำพัง ออกตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 ซม. ยาว 3-7 ซม. ปลายมน หรือเว้ายุบ มีก้านในคนเดียว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ เป็นมัน มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกระจุกกันอยู่ใบประดับประดาตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอม (คล้ายดอกมะลิ) ขนาด ยาว โดยประมาณ 3.5-5.5 เซนติเมตร กลีบดอกไม้สีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไร้ใบเสริมแต่งย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบดอกไม้: กลีบดอกไม้เชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว และขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มอย่างเช่น เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรตัวผู้จำนวนไม่ใช่น้อยปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่แกนกลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel และก็ locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มกินได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเม็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มม. ยาว 15-23 มม. ผลเป็นผลเดี่ยวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆแล้วก็เบาๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนถึงสุกก็เลยแปลงเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เม็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เม็ด เม็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์
โดยปกติแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมเพาะพันธุ์ด้วยเม็ด เมล็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเมล็ดที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น ด้วยเหตุนั้นเมื่อ แยกเม็ดออกมาจากผลแล้วจึงควรจะเพาะเมล็ดโดยทันที (Patel, 2013) การเพาะเมล็ดนิยมเพาะในโรงเรือนตอน เดือน เดือนสิงหาคม-กันยายน หรือเอามาเพาะใส่เข้าไปภายในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้เปียกแฉะ วางเอาไว้ภายในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะราวๆ 6 เดือน แล้วนำมาปลูกลงในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี สำหรับแนวทางการทำหมัน กิ่งรวมทั้งการชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรจะเริ่มทำ ในตอนมรสุมรากจะออกข้างหลังตอนราว 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนไหมแก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 เซนติเมตรมะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนภาวะแล้งก้าวหน้าจะเจริญ เติบโตได้ดิบได้ดีในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเติบโต เจริญในดินปนทราย แถบแนวเขาหินปูน และก็ดินที่ย่อยสลาย หรือดินเทือกเขา โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุก จำพวก ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนถึงดินกรด พืชประเภทนี้จะ เจริญวัยได้ดิบได้ดีในพื้นที่ริมตลิ่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ คุณประโยชน์ แล้วก็ยังเป็นพืชที่อยากได้น้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความจำเป็นเฉพาะตอนข้างหลังย้ายปลูก หรือข้างหลังให้ ปุ๋ยเพียงแค่นั้น
ส่วนประกอบทางเคมี
ในผลของ[url=https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88]มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก และ triterpenoid acid และก็สารชนิดพวกโปรตีน ดังเช่น alanine, glycine, glutamine และยังเจอคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นแล้วก็รากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกตรีเทอร์ป่ายปีนส์, สเตียรอยด์นอกจากนั้นการเรียนรู้เบื้องต้นพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่ทราบหาว มะนาวไม่รู้โห่ยังประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆอาทิเช่น สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) แล้วก็ แทนนิน (tannins)
ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ บอกว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานโดยประมาณ 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม และวิตามินซี 9-11 มก.
ประโยชน์/สรรพคุณ
มะม่วงหาว มะนาวโห่มีผลแบบมีเนื้อหลายเม็ด (berry) นิยมประยุกต์ใช้บริโภคสดหรือนำมาใช้ในการปรุงอาหารดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศแล้วก็ส่งออกต่างชาติ มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นของกินเรียกน้ำย่อยที่กินก่อนที่จะกินอาหารจาน หลักได้อย่างดีเยี่ยม โดยส่วนมากแล้วผลมักจะนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบมักจะใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน ประยุกต์ใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต และก็เครื่องเคียง น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินรวมทั้งสีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารคล้ายยางเหนียวแต่ว่าเมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งเอาไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส นำไปใช้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กติเตียนนจำนวนไม่ใช่น้อย ผลสุกจำพวกที่มีรสหวานสามารถ รับประทานได้ทันที แม้กระนั้นชนิดที่มีรสเปรี้ยวต้องกวนด้วย น้ำตาลเป็นจำนวนมากก่อนจึงจะกินได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นอาหาร ที่รับประทานคู่กับแผ่นโรตี นอกจากนี้ยังมีการน้ำเอามาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับรับประทานคู่กับปลาแล้วก็เนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย
บอกว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะกับคนผอม บำรุงธาตุแก้เมื่อยล้า ใบสด ต้มน้ำกินแก้ท้องเสีย แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากรวมทั้งคอ รากสดต้มน้ำ ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำอย่างละเอียดผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น บรรเทาอาการโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสียแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมและก็เปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับหิวคลายร้อน ใช้เป็นของกินเรียกน้ำย่อย ที่กินก่อนที่จะกินอาหารจานหลัก แก้อาการท้องผูก ลดไข้ ละลายเสลดและมีคุณประโยชน์สำหรับผู้มีอาการ หิวน้ำ ไม่อยากอาหาร ท้องเดิน อาการไข้ขึ้นสมอง และ อาการอ้วกเป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานแล้วก็มี คุณประโยชน์เย็น ใช้เป็นผลไม้เรียกน้ำย่อย บรรเทาอาการ ลักปิดลักเปิด รวมทั้งมีคุณประโยชน์ต่อผู้มีลักษณะอาการคลื่นไส้มีเสลด สภาวะเบื่ออาหาร แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน แล้วก็อาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกเหนือจากนั้นยังทุเลา สภาวะโลหิตจาง รวมทั้งช่วยทำลายพิษ รวมทั้งในตำราหมอพื้น บ้านพูดว่าผลสุกสามารถเร้าอารมณ์ทางเพศของ สตรี และก็ฆ่าพยาธิในลำไส้ได้ ผลสุกมีคุณสมบัติใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และก็เชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อปกป้องการรับเชื้อ และก็บรรเทาอาการคันที่ ผิวหนัง รวมทั้งยังสามารถทุเลาอาการวิกลจริตได้อีก ด้วย เม็ด แก้กลากโรคเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น ชูกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายพื้นที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาขี้กลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการค้นคว้าทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันส่งผลการเล่าเรียนกล่าวว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการเกิดเบาหวาน (antidiabetic) รวมทั้งคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
ต้นแบบ/ขนาดการใช้
รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความอยากอาหาร เพิ่มรูปแบบการทำงานของกระเพาะ เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องเสีย ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำ ใช้ลดไข้ แก้ท้องเดิน แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้รับประทานสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดไหลตามไรฟัน แก้ท้องเสีย แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา รวมทั้งพื้นที่ด้านแข็ง รักษาหูด ขี้กลากโรคเกลื้อนการศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์สำหรับในการต่อต้าน อนุมูลอิสระสูงกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) แล้วก็ผลครึ่งสุก (ผลสีแดง) แล้วก็ยังพบว่ามีจำนวนสารประกอบฟีนอลิก ทั้งหมดและก็จำนวนแอนโทไซยานินทั้งสิ้นในผลสุก สูงยิ่งกว่าผลดิบและผลครึ่งสุกด้วยสิ่งเดียวกัน และยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต่อต้าน อนุมูลอิสระได้ โดยมีจำนวนฟีนอลิกทั้งหมด ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มก./ก. ของแบบอย่างแห้งจำนวนฟลา โม้นอยด์ทั้งหมดทั้งปวงระหว่าง 1.91-3.76 CE มก./กรัม ของ แบบอย่างแห้ง มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านอนุมูลอิสระแบบ DPPH รวมทั้งเปอร์เซ็นต์การยับยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% และก็ 41.0- 89.21% ตามลำดับฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านมะเร็ง การเล่าเรียนถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่มีผลต่อเซลล์ของมะเร็งรังไข่ เซลล์มะเร็ง Caov-3 และก็เซลล์ของโรคมะเร็งปอด โดยทำการสกัดจาก 3 ชิ้นส่วน เป็น ใบ ผลดิบ และผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต่อต้าน กิจกรรมของเซลล์มะเร็ง Caov-3 ได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต้านกิจกรรมของเซลล์ของมะเร็งปอดได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีการศึกษาและทำการค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกรุ๊ปของ triterpene ซึ่งเมื่อเอามาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การสร้างภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory) สารต้านไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ แล้วก็ความ สามารถสำหรับในการยับยั้งรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ในสภาพ ไม่มีเชื้อโรค พบว่า สารจำพวกนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์มะเร็งทุกชนิดที่ทำงานทดลอง อีกทั้ง HeLa, PC-3 แล้วก็ 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของโรคมะเร็งคอมดลูก (HeLa) มากที่สุด ซึ่งการศึกษาค้นคว้าวิจัยในครั้งนี้เป็นการ ศึกษาแรกที่ทำงานแยกสารกรุ๊ป isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์สำหรับการต้านอาการอักเสบอาการปวด แล้วก็อาการไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมากระทำการทดสอบความสามารถสำหรับในการ ต้านทานอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้ปัญญา นอลเป็นตัวทำละลายมีความรู้และความเข้าใจในการต่อต้าน อาการอักเสบในหนูได้ โดยน้อยลงได้ถึง 76.12% จึง ทำให้สารสกัดนี้มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้เป็นส่วนประกอบ ของยาที่ใช้ต้านอาการอักเสบได้ นอกนั้นยังมีการเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต้านทานอาการอักเสบแล้วก็ลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถต้านอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้สูงถึง 72.10% ในส่วนของ ความรู้ความเข้าใจสำหรับการลดอาการไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 รวมทั้ง 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดจากอาการไข้ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงภายหลังให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับในการต้านอาการชักจากการเรียนรู้ฤทธิ์สำหรับการต้านทานอาการชักที่เกิดจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า และการกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline แล้วก็ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 และก็ 400 มก./กิโลกรัม พบว่า สารสกัดทั้งยัง 4 ความเข้มข้นสามารถลดระยะเวลาการ ชักในหนูได้ แม้กระนั้นเฉพาะความเข้มข้นที่ 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เพียงแค่นั้นที่ป้องกันอาการชักได้ และก็ที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถคุ้มครองป้องกันอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole และก็ชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin แล้วก็ N-methyl-dlaspartic acid แต่ว่าไม่เป็นผลคุ้มครองปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์ในการต้านโรคเบาหวาน จากการเรียนรู้ในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลรวมทั้ง ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มิลลิกรัม/กก. สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจังถึง 48 แล้วก็ 64.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต้านโรคเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์สำหรับการคุ้มครองปกป้องความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์สำหรับในการ คุ้มครองความเป็นพิษต่อตับที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ สารสกัดนี้ไปยั้งกิจกรรมด้านชีววิทยาของพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
นอกเหนือจากนี้งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่ระบุว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวต่ำลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ฯลฯ
การเรียนทางพิษวิทยา
ในตอนนี้ยังไม่พบรายงานการศึกษาเล่าเรียนพิษวิทยาของส่วนผล แต่ว่าส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าช่องท้อง และก็ให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มิลลิกรัม/กก. พบว่ามีผลทำให้สัตว์ทดลองอ้วก อ้วก เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องเดิน หายใจแรงและก็เร็ว (tachypnea) ชัก แล้วก็ตายท้ายที่สุด การให้ทางหลอดเลือดดำจะกำเนิดอาการอาเจียน คลื่นไส้เร็วที่สุด เป็นใช้เวลา 3 - 5 นาที ภายหลังให้สาร ส่วนการให้ทางช่องท้อง และก็ทางปากใช้เวลา 10 - 20 แล้วก็ 40 - 60 นาที ตามลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในช่วงเวลา 1 - 2 ชั่วโมงภายหลังให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับไม่ปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดและก็ผนังลำไส้เล็ก
ข้อเสนอแนะ/ข้อควรปฏิบัติตาม
ในการศึกษาเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา และพิษวิทยา ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ในขณะนี้ล้วนเป็นการศึกษาเล่าเรียนในสัตว์ทดสอบ รวมทั้งผลของการทดสอบแม้กระนั้นยังไม่ปรากฏผลการค้นคว้าที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่บางทีอาจกำหนดประสิทธิภาพและก็ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในปริมาณมากเกินความจำเป็นอาจเสี่ยงเป็นอันตรายได้ ด้วยเหตุนี้ก่อนใช้สินค้าต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้จึงปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง

• สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
• มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
• ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/[/color]
  
• ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
• ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
• มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
• สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
• มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
• Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
• Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
• Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
• หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
• Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
• Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
• Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
• Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
• Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
• Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
• Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว

Tags : มะม่วงหาว มะนาวโห่

ขายถั่งเช่า ลักษณะของมะแฟนต้นมะแฟน จัดเป็นพรรณไม้lylยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง tkmuiliลำต้นมีความสูงได้ราวtyl6rk7ๆ 10-30 เมตร เรือululu5ejนยอดออกจtjyujliะi;i;ทึบ เป็นพุ่มกลมในตอนบน ลำylylylต้นค่อนข้ylylางจะเปลาตรง โulคนต้นเป็นพูพอน เปลือylyกต้นเป็นสีน้ำตาlylล แตกเป็นสะเylก็ดโตๆแพylltjululyร่พันธุ์จำหน่ายถั่งเช่าtjด้yllylยแนวrkyทylางเพาะเม็ด เป็นพรรณไม้ที่โล่งแจ้ulง ที่ทนต่อความร้อlululนiด้ดีtj|ได้ดิบได้ดี|เจริญ|ก้าวหน้ilulu} พtjบมjากขึ้นเป็นกลุ่มtjๆตาrjมป่าเบญจพtjรรณทั่วๆไป หรือตtjามป่าเบญtyจพรรtjjtjณบริเวณylรอบๆเขาหินlylปูนyและป่ulh,jkาดิบแk.k.ล้งใกล้ลำlk;/l/k/น้ำ ที่ความสูงจากระดับน้ำjuk/ะเล 100-800 เk/มตlร1tj,3ต้jtytjะเว้น}ใบยอดช่อจะเป็นใบลำพัlio;i;ง รูk/ปแบบของ/kใบย่อยเป็นรูปรียาว หรือรูปแกมkl;ขอบขนาน ปลายใบyukยัkjกคอดเป็นติ่งแหลม โคนใtบกลykjม;jมนหรือjlเบี้ยว ส่วนขอบของtyใบอ่jlอนหยัilกเป็นพันเtjอยil ส่ilวนใบแก่มักเรียบหรือเป็ilililนคลื่นหางๆใบมีขนาดกว้างราวๆ 3-5 ซม.ขายถั่งเช่า klยาวราว 6-13 เซนติเมตร เtjนื้อใบดก lilใบอ่อนมีขนขึ้นห่างๆ เมื่อแก่ขนจะหลุดออtกเkykป็tjนใบyเรียบสะอาด ท้อjkงใบเห็นเส้นใบเป็นรูปตาข่ายไyukด้แจ่มกรykะจ่าง ก้านใบยาวราวๆ 1 ykเซนติเมตรจำหน่ายถั่งเช่าใบมะแฟkkyyนดอกมะแjlฟน ออกดอกเykป็นช่อกระจัykjtjดกระจายอยู่ตามบริเวณykรtjอบๆซอกใบแykละปuilลายกิ่ง ในแต่yuลlะช่อจะuilมีอีกทั้งดอกสมบูรykykณ์เพศและก็ดอกแยกykเพศขายถั่งเช่า[/b] รูปtjบบkของดอกมีกลีบดอกแลyukะก็กลีบyukรองilกลีบดอกไliuม้อย่างละ 5 กลีบ

Tags : ขายถั่งเช่า

เพชรสังฆาต
ชื่อสมุนไพร  เพชรสังฆาต
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น สันชะควด (ภาคกลาง) , สันชะคาด , ขันข้อ (ราชบุรี) , สามร้อยต่อ (ประจวบคีรีขันธ์)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Cissus quadrangularis Linn.
วงศ์  Vitaceae
ถิ่นกำเนิด
เพชรสังฆาตเป็นพืชเขตร้อนที่มีถิ่นเกิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และแอฟริการวมทั้งมีการแพร่ชนิดไปตามประเทศเขตร้อนของทวีปดังที่กล่าวถึงแล้ว โดยพบได้บ่อยตามบริเวณป่าหรือที่ชื้นที่หรูหราความสูงไม่เกิน 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนในประเทศไทยพบมากตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่างลงไป แล้วก็ชอบออกดอกและติดผลในตอนเดือน เดือนมิถุนายน-ส.ค.
ลักษณะทั่วไป
เพชรสังฆาตจัดเป็น ไม้เถาเลื้อย โดยมีเปลือกเถาเรียบ เถาอ่อนรูปสี่เหลี่ยมเป็นครีบ เป็นข้อๆต่อกันมองเห็นข้อปล้องแจ่มชัด ลักษณะเป็นปล้องๆตรงข้อเล็กรัดตัวลงแต่ละข้อยาวราว 6-10 เซนติเมตร บางข้ออาจมีรากออกมาด้วย มีมือเกาะออกตรงข้อต่อตรงกันข้ามกับใบ ตามข้อมียางขาว ใบผู้เดียว เรียงสลับ ออกตามข้อต้น ข้อละ 1 ใบ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 4-10 ซม. ใบเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือรูปไข่ กลมดก เล็ก ผิวเรียบ ปลายใบมน โคนใบเว้า หลังใบและท้องใบเรียบเป็นเงา ขอบใบหยักมนห่างๆหรือหยักเว้า 3-5 หยัก เนื้อใบนุ่ม ก้านใบยาว 2-3 ซม. ดอกออกเป็นช่อ ออกตามข้อต้นตรงข้ามกับใบ ดอกกลมเล็กสีแดงเขียวเป็นช่อขนาดเล็ก ยาวราวๆ 2-4 เซนติเมตรดอกย่อยสีเขียวอ่อน มีขนาด 2.5 มม. กลีบดอกมี 4 กลีบโคนกลีบดอกไม้ข้างนอกมีสีแดง ส่วนกลีบข้างในสีเขียวอ่อน เมื่อบานสุดกำลังดอกจะงองุ้มไปทางด้านล่าง เกสรตัวผู้มี 4 อันวางตรงกับกลีบ ผลสดรูปทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ฉ่ำน้ำ ผลกลมขนาด 4-7 มม. ผลอ่อนสีเขียว พอสุกเป็นสีแดงหรือดำ เมล็ดกลมสีน้ำตาลมี 1 เมล็ด
การขยายพันธุ์
เพชรสังฆาตนิยมใช้แนวทางการปักชำโดยมีวิธีการคือ เลือกสรรเถาที่มีลักษณะสมควร เป็น ควรเป็นเถาที่มีลักษณะกึ่งแก่ครึ่งหนึ่งอ่อน เอามาตัดเป็นท่อนให้แต่ละท่อนมีข่อติดอยู่จำนวน2 ข้อแล้ว ทำปักชำท่อนพันธุ์โดยใช้ข้อทางด้านโคนของเถาฝังลงดินแล้วกลบให้แน่น รดน้ำให้เปียก แล้วก็ควรจัดวางถุงต้นกล้าที่ปักชำเอาไว้ในที่ร่ม ในส่วนของข้อที่เหลืออยู่ด้านบนจะเป็นรอบๆที่แตกใบใหม่เพื่อเจริญก้าวหน้าเป็นเถาถัดไป
องค์ประกอบทางเคมี
เถาของเพชรสังฆาตมีองค์ประกอบทางเคมี อาทิเช่น natural plant steroids (ketosterones): onocer-7-ene-3 alpha, 21 beta-diol, delta-amyrin, delta-amyrone รวมทั้ง 3,3',4,4'- tetrahydroxybiphenyl สารกรุ๊ป stilbene: quadrangularins A, B, C, resveratrol, piceatannol, pallidol , parthenocissine A.สารในกรุ๊ป flavonoids อย่างเช่น diosmin, hisdromin, hesperidin. รวมถึง ascorbic acid (vitamin C), lupeol, carotene และ calcium oxalate.
ผลดี/สรรพคุณ
ตามตำรายาไทย กล่าวว่า เถา รสร้อนขมคัน เป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนัก แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้ประจำเดือนแตกต่างจากปกติ แก้กระดูกแตกหักซ้น ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ริดสีดวงทวารทั้งยังจำพวกกลีบมะไฟและเดือยไก่
• ราก รักษาอาการกระดูกแตกหัก
• ต้น แก้หูน้ำหนวก แก้เลือดกำเดา แก้เมนส์ผิดปกติ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย
• ใบ รักษากระดูกแตกหัก รักษาโรคลำไส้ (อาการอาหารไม่ย่อย) ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย แก้ริดสีดวงทวารหนัก
นอกจากนี้ในการวิจัยทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันยังกำหนดไว้ว่าเพชรสังฆาต มีประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาริดสีดวงทวารหนักโดยเฉพาะการลดอาการคัน ปวดการเกิดเลือดไหล และก็กลายเป็นซ้ำ
ทั้งยังในตอนนี้ได้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่า "เพชรสังฆาต" มีวิตามินซีสูงมากซึ่งรับรองสรรพคุณรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี และก็ยังอุดมไปด้วยแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญมีองค์ประกอบของแคลเซียมสูงมาก รวมถึงสารอทุ่งนาโบลิก สเตียรอยด์ (Anabolic Steroids) ที่มีฤทธิ์เร่งปฏิกิริยาการสมานกระดูกที่แตกหักโดยกระตุ้นการสร้างเซลล์ออสเตโอบลาสต์ (Osteoblast) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สร้างกระดูกรวมทั้งยังช่วยให้มีการสร้างสารมิวโคโพลีแซกคาไรด์ (Mucopolysaccharides) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในขั้นตอนการสมานกระดูก นอกเหนือจากนี้สารคอลลาเจน (Collagen) ในเพชรสังฆาตยังเป็นสารอินทรีย์โปรตีน ที่มาจับกับผลึกแคลเซียมฟอสเฟตจนถึงแปลงเป็นกระดูกแข็งที่สามารถรับน้ำหนักและก็มีความยืดหยุ่นในตัวเองอีกด้วย
นอกเหนือจากนั้นเพชรสังฆาตยังสามารถใช้ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ เหตุเพราะเพชรสังฆาตเป็นไม้เถาเลื้อยมีลักษณะทรงเป็นสีเหลี่ยมประหลาดตา มีดอกและผลเป็นช่อสีแดงงดงาม สามารถนำไปปลูกเพื่อการประดับประดาบริเวณรั้วบ้าน ซุ้มไม้หรือรอบๆโคนต้นไม้ใหญ่เพื่อเถารุ่งเรืองเลื้อยพันขึ้น
ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้
ในสมัยก่อนการใช้เพชรสังฆาตรักษา ริดสีดวงทวารหนักจะทำ โดยนำ เถาสดใส่กล้วยหรือ มะขามแล้วกลืน (เนื่องด้วยเพชรสังฆาตมีแคลเซียม ออกซาเลต (calcium oxalate) การกลืนเถาสดอาจ เกิดการเคืองทางเดินอาหารได้) ต่อมาได้มี การนำ เพชรสังฆาตมาผลิตให้อยู่ในแบบแคปซูลเพื่อไม่ยุ่งยากต่อการบริหารยา
โดยในรูปยาผงบรรจุแคปซูล 250 มิลลิกรัม ให้รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนกินอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 5-7 วัน
แบบเรียนยาพื้นเมืองนครราชสีมา ใช้ ต้น แก้ริดสีดวงทวารโดยหั่นเป็นแว่น ตำผสมเกลือนำไปตาก ปั้นเป็นลูกร้อยกรอง กินทีละ 1 เม็ด 3 เวลา หรือใช้เถาสดคั้นเอาน้ำ แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้รอบเดือนไม่ดีเหมือนปกติ แก้กระดูกแตกหักซ้นขับลมในลำไส้
ตำรับยาสมุนไพรท้องถิ่นล้านนา ใช้น้ำจากต้น หยอดหู แก้น้ำหนวกไหล หยอดจมูกแก้เลือดเสียในสตรีใช้เถาตำละเอียดเป็นยาพอกรอบๆกระดูกหักช่วยลดอาการบวม อักเสบ น้ำคั้นจากเถาใช้ดื่มแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้โลหิตรอบเดือนสตรีเปลี่ยนไปจากปกติ รักษาริดสีดวงทวารที่เริ่มเป็นระยะแรก
ส่วนอินเดีย ใช้ ลำต้น เป็นยาพอกเมื่อกระดูกหัก น้ำคั้นจากต้นรับประทานแก้โรคลักปิดลักเปิด แก้อาการแตกต่างจากปกติของรอบเดือน
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
ผลต่อแรงตึงตัวของหลอดโลหิตดำ สารสกัดเพชรสังฆาตมีฤทธิ์กระตุ้นหลอดโลหิตดำ ให้มีความตึงตัวเพิ่มขึ้น คล้ายกับส่วนประกอบของไบโอฟลาโวนอยด์ 2 จำพวก เช่น ไดออสมิน 90%รวมทั้งฮิสเพอริดิน 10% ที่พบในตำรับยาแผนปัจจุบัน สำหรับใช้รักษาริดสีดวงทวาร
ฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบรุนแรง สารสกัดเมทานอลยับยั้งการบวมของใบหู รวมทั้งการบวมของอุ้งเท้าของหนูขาว ที่ถูกกระตุ้นด้วยสารเคมี
สารสกัดเฮกเซนที่ความเข้มข้นร้อยละ 1 และสารสกัดเอทานอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 5 ลดอาการบวมของใบหูหนูที่รั้งนำด้วยสารเคมี ได้ที่เวลา 30 นาที ตรวจพบองค์ประกอบทางเคมีของสาร lupeol ในสารสกัดเฮกเซน
ฤทธิ์แก้ปวด สารสกัดเมทานอลลดจำนวนครั้งที่หนูถีบจักรยืดบิดตัวจากลักษณะของการเจ็บเจ็บท้องเพราะเหตุว่าได้รับกรดอะซีตำหนิกที่ฉีดเข้าทางท้อง แล้วก็ลดช่วงเวลาของการเลียเท้าหลังทั้งยัง 2ระยะ ในการทดสอบด้วยการฉีดฟอร์มาลิน แสดว่าออกฤทธิ์แก้ปวดผ่านอีกทั้งระบบประสาทศูนย์กลาง แล้วก็ส่วนปลาย
ฤทธิ์ปกป้องการเกิดแผลในกระเพาะ สารสกัดเอทานอล สามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นแผลด้วยแอสไพริน เมื่อให้สารสกัดขนาด 250, 500 และก็ 750 มก./กิโลกรัม ให้หนูรับประทานนาน 7 วัน ลดการเกิดแผลได้ 40, 71.2 แล้วก็ 72.6% เป็นลำดับ เปรียบเทียบกับranitidine ขนาด 30 มิลลิกรัม/กก. ลดการเกิดแผล 71.9% โดยเหตุนั้นสารสกัดขนาด 500 มก./กิโลกรัม เป็นขนาดที่ยอดเยี่ยม เพราะเหตุว่าออกฤทธิ์ใกล้เคียงกับ Ranitidine รวมทั้งได้ผลไม่ได้มีความแตกต่างกับขนาด 750 มิลลิกรัม/กิโลกรัมจะลดการทำลายเยื่อในกระเพาะอาหาร และก็รายงานการวิจัยอีกฉบับหนึ่งบอกว่า การเรียนรู้ประสิทธิผลและก็ผลกระทบของการใช้สมุนไพรเพชรสังฆาตในคนเจ็บโรคริดสีดวงทวารระยะทันควัน จำนวน 570 คน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม เป็น กรุ๊ปที่ได้รับยาที่มีส่วนผสมของฟลาวานอยด์ (Daflon 500 มก./เม็ด) กลุ่มที่ได้รับสมุนไพรเพชรสังฆาต (500 มก./เม็ด) รวมทั้งกรุ๊ปที่ได้รับยาหลอก ในตอน 4 วันแรก ให้รับประทานทีละ 3 เม็ด ตอนเช้าแล้วก็เย็นหลังอาหาร รวมทั้งตอน 3 คราวหน้า ได้รับทีละ 2 เม็ด ตอนเช้ารวมทั้งเย็น หลังอาหาร ผู้เจ็บป่วยจะได้รับการวัดอาการต่างๆคือ เลือดไหลทางทวารหนัก มูก อาการคัน รอยแดงหรืออักเสบรอบทวารหนัก แล้วก็การสัมภาษณ์เพื่อไต่ถามอาการ แล้วก็มีการตรวจเลือดและติดตามผลข้างเคียงของการได้รับยาหรือสมุนไพรควบคู่ไปพร้อมด้วย
ผลการค้นคว้าพบว่า ผู้ป่วยในทุกกลุ่มส่วนใหญ่อาการเลือดไหลกะทันหันจะหยุดในวันที่ 2 ของการให้ยา และมีลักษณะดียิ่งขึ้นหลังการให้ยาครบ 7 วัน ประสิทธิผลของการดูแลและรักษาในผู้เจ็บป่วยทุกกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ และไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น สรุปได้ว่าเพชรสังฆาตให้ผลสำหรับในการรักษาริดสีดวงทวารในระยะทันควันไม่ได้ต่างอะไรจากยาที่มีส่วนผสมของฟลาวานอยด์และก็ยาหลอก แปลว่าเพชรสังฆาตไม่เป็นผลช่วยสำหรับในการรักษาริดสีดวงทวารในระยะฉับพลัน
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ความเป็นพิษฉับพลัน เมื่อทดสอบความเป็นพิษโดยให้หนูขาวกิน ขนาด 0.5 – 5.0 กรัม/กก
ไม่พบพิษใดๆก็ตาม
ความเป็นพิษครึ่งหนึ่งเรื้อรัง (3 เดือน) ในหนูขาวชนิดวิสตาร์ 5 กลุ่มๆละ 12 ตัว/เพศ กรุ๊ปควบคุมได้รับน้ำทางปาก 10 มล./น้ำหนักตัว 1 กก./วัน ในช่วงเวลาที่หนูอีก 4 กลุ่มได้รับผงย�เพชรสังฆาต[/url]แห้งทางปากในขนาด 0.03,0.3 และ 3.0 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กก/วัน หรือเท่ากัน 1,10 และ 100 เท่าของขนาดที่ใช้ในคน/วัน ตามลำดับ โดยกรุ๊ปท้ายที่สุดเป็นกรุ๊ปสังเกตอาการหลังการหยุดยา ผลการศึกษาเรียนรู้พบว่าการเติบโตของกรุ๊ปสุดท้ายเป็นกลุ่มพิจารณาอาการหลังการหยุดยา ผลการค้นคว้าพบว่าการเจริญเติบโตของกรุ๊ปได้รับผงยาและกรุ๊ปควบคุมไม่มีความต่างกัน ไม่กระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวของค่าทางเลือดวิทยาและก็ค่าทางซีรั่มวิชาชีวเคมี หรือจุลพยาธิภาวะของอวัยวะภายในที่มีความเชื่อมโยงกับขนาดของผงยา และไม่พบความไม่ดีเหมือนปกติอะไรก็ตามที่สามารถสรุปได้ว่าเนื่องมาจากความเป็นพิษของผงยาเพชรสังฆาต
ข้อเสนอ/ข้อควรพิจารณา

การรับประทานเพชรสังฆาตสด อาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการระคายคอ ระคายเยื้อบุในปากเพราะว่าเถาสดมีผลึกแคลเซียมออกซาแลตอยู่มาก
2. ห้ามกินติดต่อกันเป็นเวลานานเกิน 2 อาทิตย์เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ คนป่วยโรคไตห้ามรับประทาน
3. การใช้สมุนไพรเพชรสังฆาตควรขอคำแนะนำแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญสำหรับในการใช้เสมอ เพราะว่าอาจทำให้เป็นผลใกล้กันที่ไม่พึงปรารถนาได้ อย่างเช่น ตาเหลือง ตัวเหลือง เยี่ยวน้อย แน่นท้อง เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง

• นพมาศ สุนทรเจริญนนท์.เพชรสังฆาต.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
• วีรพล ภิมาลย์และคณะ.การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมานประสิทธิภาพในการรักษาริดสีดวงทวารหนักของเพชรสังฆาต.วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน.ปีที่10.ฉบับที่3.กันยายน-ธันวาคม.2557.หน้า403-418https://www.disthai.com[/b]
  
• Panthong A, Supraditaporn W, Kanjanapothi D, Taesotikul T, Reutrakul V. Analgesic, anti-inflammatory and venotonic effects of Cissus quadrangularis Linn. J Ethnopharmacology 2007; 110 : 264–70.
• เพชรสังฆาต.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีPanpimanmas S, Sithipongsri S, Sukdanon C, Manmee C. Experimental Comparative Study of the Efficacy and Side Effects of Cissus quadrangularis L. (Vitaceae) to Daflon (Servier) and Placebo in the Treatment of Acute Hemorrhoids. J Med Assoc Thai 2010; 93 (12): 1360-7.
• ผลของการใช้เพชรสังฆาตในการรักษาโรคริดสีดวงทวารที่มีอาการเฉียบพลัน.ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
• เพชรสังฆาต.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.J Med Assoc Thai 2010;93(12):1360-7

กล้วยน้ำว้า พริกชี้ฟ้า (Prik-Cee-Fa) เป็นพืชผักสมุนไพร ที่เติบโตได้อย่างง่ายดายเป็นไม้ทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก มีลำต้นกลมๆมีสีเขียว ใบมีลักษณะทรงเรียวรี ปลายใyukบแหuilม ใบเuluรียบมันyuk มีสีเขียว ดอกมีลักษณะรูyukyukปกรวย กrjuykuiลีบดอกมีสีขาlio;ว กล้วยน้ำว้าผลมีกษณะทรuioงกลp'[p[[]oiulมยาว ปลายเuilรียวแหลม โค้งuงอ ผิวเปลือกครึ้มลื่นเป็นมัน ผloiลดิบมีสีเขียวเข้lioม ผลสุกมีyukสีแkดiouง ข้างuilในผiio;lio;uliลกลวงมีแกนกลาง loiจะมีเมล็uilดกลyukykkแบนเล็กๆสีเหลืองอ่อนเกาะแtyกนอยู่จำนวนมาก มีรสชาติเผ็ดพอควร ใช้ทำครัวรายการอาหkiolารyukkiolioต่opoi';;pางๆได้หลายรายการอlioาyukหาร เมืองไทยนิยมรั'oบประทiolานกันมากมาย และมีการปลูกหลายสายพันธุ์ลำต้น เป็นผักสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้tjyukตกกิ่งก้าluiงใบ}เรียบ มีก้านletyjtyjyuthบยาว ใบมีerhtสีgเขียว มีขนปกyukคลุมทั่วใบราก เป็นระบบรากแก้ว uilloiuiมีลักษณะกลมๆแทงลึกลงในดิน มีรากyukกิ่งก้านสาขาและรากย่อย รากออกตามรอบtyuiliuojๆresiohลำต้น มีสีน้ำตาลดอก ออกดอกrhtyลำพัioง ดอกจะชี้ขึ้นบน ดอกมีลักษณะรูปกรวย กลีuuililบดอกไม้มีสีขาว มีกลีบเลี้ยงสีเขียว uilก้าiooioilioนช่อดอกจะยาว ดอกออjyukกตามซอuilใบ และออกตรงปลายยอดกิ่งผล เป็นผลคนuyukเดียว มีลักษulณะทรงกลมยาว ปลาuilยเรียวแหลม โyukค้งงอ ผิวเปลือกilหนjtyาyukครึ้มลื่นuuiyukเป็นเงากล้วยน้ำว้า ผลดิบมีสีเขียวเข้ม ผลสุกuมีสีแดง ข้างใlawerนผลกลวงมีศูiuoliop;lย์กuiลาง จะมีเมล็ดกลมแบนเล็กๆสีเหลืองอ่อนเกาะแกนuilอยู่tfuluilจำนวนมาก มีรสชาติเผ็ดtyพอสมควรty ใช้ทำอาหารเมนูuiต่างๆไuiด้หลายlรายการluอาหารเม็ด มีขนาดเilล็กๆจำนวนไม่น้อย เกาะศูนย์กลางอยู่ข้างในผล เมล็ดมีลักษณะกลมแบนเล็กๆมีสีเหลืองอ่อนเม็ดพริกชี้ฟ้าประโยชน์รวมทั้งคุณประโยชน์พริกชี้ฟ้ามีวิตามินซี มีวิตามินเค มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีแคลเซียม มีธาตุฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีเบตาแคโรทีน มีคาร์โบไฮเดรต มีโปรตีน มีไขมัน มีเส้นใยช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับฉี่ แก�กล้วยน้ำว้า[/url]เมื่อย แก้บวมช้ำ แก้เคล็ดขัดยอก ช่วยให้ไหลเวียนของโลหิตดี ช่วยคุ้มครองปกป้องเส้นโลหิตหัวใจตีบ ช่วยคุ้มครองโรคมะเร็ง แก้หวัด แก้ไอ แก้ไข้ ช่วยขับเสลด ช่วยลดน้ำมูก ช่วยทุเลาคัดจมูก ช่วยรักษาการตันเส้นโลหิต ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาอาการปวด กล้วยน้ำว้าช่วยขับลม มีอนุมูลอิสระ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยบำรุงรักษาธาตุ แก้ปวดศีรษะ แก้กษัย ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ ช่วยทุเลาความดันโลหิตสูง ช่วยขับเหงือ แก้จุกเสียด แก้ท้องอืด เป็นยาระบายอ่อนๆแก้หิด ช่วยรักษากลากโรคเกลื้อน แก้อาการตะคริว

ตรีพลา

พลูคาว ใบกะเพราควาย (Ka-Pow-koey) หรือมีชื่อเรียกว่า ใบยี่หร่า โหระพาช้าง เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่มมีอายุหลายปี เจริญเติบโตได้อย่างง่ายดา;op'p['ต้นมีลักษerhgrthytjtyณะกลมๆมีสีน้ำตาลพลูคาว yukyukykjมีเนื้อแkyikulข็ง ใบเป็นใบลำพัง ออกตรงกันyjข้jtyjามกัน ใบมีytyluiyjrrtyjลักษณะทรงกลมรี ขอuiluiของใบเป็นรอuiluยหยักเล็กๆใjtyjบfgerhgrthtyjwมีสีเขียว ใบด้านบนiluliotyjtyjtyสีเข้มกว่uio;io;piาใบด้า;นล่าง มีก้านใบยuiluiluiluาวรtyองรับ มีขนสีขาวเล็jtyjกๆปกuilyjtykคลุม tyjtyใบสาiluilกมือ ช้ำง่ายแuiล้วก็เหี่ยวเฉาง่าย มีรสชาติเluilio;ผ็ดร้อน มีกkuykลิ่นหอมหวนuilแรง มีกลิ่นแรงuiliulส่วyukyukนตัว ดอกอytyhjกป็นช่อยาว กลีบดอกมีสีม่วงแดงหรือมีสีขาว นิยมtyjrlewrhthtปลูกเป็นพืชสมุuilนไพรท้องถิ่นliลำต้kyulkuilyukน เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุกมีทiolioio;tyรงพุ่ม tyhมีอายุยrtาวนานหลายปี ลำต้นคนเดียวมีulลักษณะกuilลมๆuiเนื้อแข็ง แตกกิ่งก้าyukyuนสาขามาก ก้านมีขนเล็กๆมีสีน้ำตาลใบ เป็นใบkyukyuลำพัง ออกตรงกันข้ามกัน ใบมีลัtyjtyjyiluulกuilณะทรงกลมรี ขอบของใบเป็นรอยหยักเล็กๆใบมีสีเขียว ใบด้านบนสีเข้มkyกว่ukyuาใบyukkข้างล่าง มีก้านใบยาวรองรับ มีขนสีขาวเล็กๆปกคลุม ใบสากมือ บอบช้ำง่ายแล้วก็uilรวมทั้งเหี่ยวง่าย มีรสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมสดชื่นแรง มีลิ่นฉุนเฉพาะบุคคลราuilก มีระบuilระเบียบรากแก้ว แuilงลึกลงในดิน มีลักษณะกลuilมเล็กๆมีรากuiแขนง|กิ้uillงก้าน|กิ่งก้านสาขา}รากฝอยเล็กๆออกyukบริtjyเวณลำต้น jtyjtyjtyมีสีน้ำตาลtrhjty มีกลิ่นเฉพาะตัวดอก อjtyjtyjอกเป็นช่อ ตั้งขึ้นคล้ายฉัตร ก้านช่อดอกยาว ออกรอบๆปลาuilยยอดพลูคาวรวมทั้งปลายกิ่ง yukมีดอioกย่อยมีลักษณะเล็กๆกลีบดอกมีสีม่วงio;แดงหรือio;มีสีขาว มีกลิ่นหอมสyม็ด เมื่อผลแก่แห้งแeล้วจะแตกอyukอgthก ข้างในจะมีเม็ดio;อยู่เยอะมาก มีลักio;ษณะทรงกลมรีเล็กๆมีสีดำ สีน้ำukuilตาลคุณประโยชน์รวมทั้งคุณประโยชyukyukน์ใบกะเพราควkjyukายมีวิตามินเอ มีโพแทสเซียม มีธาตุฟอสฟอรัส มีเบตาแคโukน มีวิตามิyukนซี มีtyวิjตาuioมินบี1 มีวิตulามินบี2 มีวิtyjตามินบี3 มีวิตามินบี5 พลูคาวมีวิตามินyukyukyukyukบี6 sdfghrhjtมีวิตามินบี9 มีแคลเhytjytซีkyukยม มีส้นiluย มีโปรตีน มีคาtyโบไฮเดรต มีวิตามินเอyk มีโซเดียม uilสังกะสี มีน้ำตาล มีไขuilน มีพลังงานช่วยขับลม แuilก้lปวดท้อง แก้ท้องเดิน แก้jtyอ้วกyukคลื่นไuilส้uilช่วยขับเiluหงื่อ แก้พิษตานuilซางพลูคาว แuilก้ไข้สันนิบาต ช่uilวยรักษาไerข้ป่า แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ แก้ท้องอืด ช่วยบำรุงธาตุ แก้บิด ช่วยบำรุงรักษาธาตุไฟ แก้เจ็บท้องอุจจาระ

เจียวกู่หลาน

พริกไทยดำ ขอบชะนางขอบชะนาง ชื่อวิทยาศาสตร์ Gonostegia pentandra (Roxb.) Miq.  (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Pouzolzia pentandra (Roxb.) Benn.) จัดอยู่ในสกุลกะลังตังช้าง (URTICACEAEหรือ CROPIACEAE)สมุนไพรขอบชะนาง มีชื่อท้องjtyถิ่นอื่นๆว่า ต้นหญ้ามูกมาย (oi;io;io';opสระบุรี),พริกไทยดำ ขอบชะนางขาeeว หนอehนตายopehrehpต้erองการขาว หนอนขาว ขอบชะนางtyyukแดง หljtyuiluiluilนอนตายอยากแดง หนอนแtyดง (ภาคกึ่'op'งกลางyj), ต้นหo'op'ญ้าหนอนตาย (ภาคเหนือop'), ตาสียาเสียเวลาเปล่า โคนสีเพาykuyukyะเกล (กะเuyliuoio;หรี่ยง-แม่yukyukฮ่องสอน), เปลืi;io;iooอกมืนดิน ฯล;io;ฯรูปแio;io;บบของjtyขอhrthบชะนางต้io;นขอjtyบชะนาtyjง มีเขo'o'poตการกระจายhrthrthrtชyulioioi;นิดอrhjยู่io;oi;วทุกภาคของjtyประเทศio;op'opอjtyยู่ร่วมกัน io;2 ประเภทtjtyjtyj ตัวtyjtyjtyอย่างเช่น ขอบชะนางแดงแล้วก็ขอบชะนางขาว ;io;oioโดยจัดเป็นพ;io;ioรรณไม้ล้มลุกtytyjtyชนิดหญ้า และก็jtyjtyล้วก็เลื้อยแผ่jtyjt;oi;yไปตามดินio;ม้กio;ระนั้นยอดจะตั้ง io;ลำoi;ioต้นมีขนาดใหญ่กว่าก้านไม้ขีดเพียงนิดห;oน่อยio; โดยเป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นตามเรือกสวนริมร่อง แjytละก็ขึ้l;oi;uiนตามพื้นที่เป็นสุขที่มีก้;oi;อนอิฐปูนเก่าๆหรือจากที่ผุพัerง แพร่พันธุ์ด้วยtyjtyแนวท;ioางใช้ผ;ลลำต้นอยู่เหjtyนืjtyอดิน ตั้งตรงเองได้ ลำio;io;ต้นเรีio;ยบมีความio;สูงได้โดยประมาณoi;i; 2-3 ฟุตขอบชthjtyะนาoi;งแดงใบขอบชะนาง ใบเป็นใบลำพัง ออกเรียงสลับio;oi;กัน โดยใบขio;องขอบioชะนางแดงjtyjtyjจะyjtyมีลักษณะเป็นรูปใบหอก ใบมีขนาดกว้างราวๆ 1.5-2.5 ซม.แล้วก็ยาว{ประมาณ|ราว|ราวๆ|โดยประมา;oio5-8 ซม. ส่วนขiioอบชะนางขาtyjวจะมีop;ลักษณ'p['tyj[pะของใบเป็นรูปค่อนttyytykข้าtyjงมนรวมทั้งกลyukyukyukyukมหรือเป็นรูปไข่พริกไทยดำ ใบมีขนาดกว้างราว 1-1.5 ซม.แoioi;ล้วก็ยาวราว 2-3 เซนติเมตร เส้นykuใบของทั้งสองแบบสามารถเห็นได้กระจ่าง เป็นเส้น 3 เส้น ใบจะมีขนาดใjytkuuiliuoliuoyหญ่ประมาณ edhrtjt2 กระเบียjhghmyukด,jนิ้ว ยาวรา..ว 1 นิ้วค/.รึ่ง ถึง 1 นิ้วฟุryjtytต สีของใบรวมjtyทั้งต้jtyนของขอjtyjบชะนางจะเป็นjtyสีม่วงอมสีแดง เฉพาะแผ่นใบนั้นสีจะแจ้งชัด คือ ข้างหลังใบจะเป็นสีเขียวเข้มอมสีแดง และก็ท้อhgmghmงใบจะเป็ghmghนสีแดงคล้ำ แต่ว่าjtyjถ้าหากเป็yukop'นขอบชะนางขาวสีของใบจะเป็นfgyukyukสีเขียวอ่ghอนๆแล้วก็mghmyukyukyทั้งสองชนิดพริกไทยดำจะมีขmghmนนิดหน่อยอยู่อีกทั้งบนแผ่นใบและก็ตyuามลำต้นดngmอกขอบชะนาpo'pgmo'ง ออกดอกเyukyuป็นช่อghmmกลุ่มตามgระหว่างซอกใบkyuและก็ตามกิ่ง ดอกมีukyขนาดเล็ก เป็jytนแบบแยกเพtyjศjty อยู่บนต้นเดียวกัน เป็นดอกเพศผู้กับดอกเพศเมีย โดยดอกขyukองขอyukบชytjะนางแดงจะเป็yukkนสีแดง ส่วนดอกขอyukงjขอบชtytyะนางขาวจjะเป็tyjtyนสีเyukขียวอมyukเหลืองหรือสีนวลผลขอบชะนางพริกไทยดำ ผลได้ผลสำเjtyร็tyจแห้งไม่แตกแบบ achene1 ผลเป็นสีน้ำตาลkyuออกเป็นกลุ่มตามซอกyukyukkyuyukkใบ มีขนาดราว 2-3 มม. เมื่อแห้งแล้วyukจะหลุดล่วงลงบนtyjtytyjtyjtyดินหรือลอยละลิ่วไปตามลม ข้างในผลมีเม็ดประมาณ 1-2 jเม็ด เม็ดมีลักษณะกลมรีสีน้ำตาลแล้tyjtyjtyวก็พริกไทยดำมีขjtyนาดเล็กมากมายสรรพคุณของขอบชะนางช่วยแก้อาการเบื่อข้าว (ใช้ผลแห้ง โดยใช้สูตรเดียวกับการรักษาลักษณะของการปวjtดท้อง)ช่วยแก้อาการอ้วกเป็นฟอง

Tags : พริกไทย

ขายส่งกวาวเครือเเดง ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ลำต้นมะขามเทศเป็นไม้เนื้อแข็ง มีอายุนานนับเป็นเวลาหลายปี ลำต้นสูงไfgmujkด้มากกว่า 10 เมตร ลำต้นออกจykะกลม เykykykuปลือกมีสีน้ำตาล ผิวเปลือกเป็นร่องเล็ก รวoi';io;มทั้งขรุขระขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล ลำต้นกวาวเครือเเดงราคาถูก และก็i;oกิ่งมีหนามiกวาวเครือเเดงราคาถูก;iแหลมคม กิ่งแตกออykในy6;ikuilระดับต่ำ แตกกิ่งมากใบytjใบมะyukขามเทศมีลักษณะรูปร่างกลมรีu สีเyukขียว ใบมีขyukนาดเล็ก แลyuะบาง แทงออกukyukบริเวiuukyuk;ณyukอบๆหนามบนกิ่ง แต่ละjkyklyจุดหนามจะมี 1-4 ก้านใบหลัo'ก แต่ละก้านใjtหลัก;i;ประกอบด้วยก้านใบย่อยอีก 2 อัน แi;iต่ละก้านใ;i;rบย่อยจะประกอบด้วยใบปริมาณ'o'o 2 ใบใyukบมะขามเทศดอกyukดอกมะขามเท'opศจะออกเป็นช่อแบบแพนิเคิล'o' (Panicle) แต่ละukyช่อo'o'ดอกมีดอกมากมาย ดอกมี ขนาดเล็ก สีขาว มีฐานรองดอกสีเหลือyukกวาวเครือเเดงราคาถูก ออกดอyuกราวตop'ค. ดอกop'จะทยอยopบานเรื่อยๆดอกมะขามเทศผลหรือฝักผลหรือฝักของมะขามเทศจะop'กำเนิดเป็นช่yukอ 1-5 ฝัก/ช่อ ฝัykกมีลักyukษณะโค้งเป็นวkykงกลมหรืop'อโค้งเป็นวkyงแบบสปริง ฝักอ่อนopมีลักyukษณะแบน มีสีเขียวขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล ฝักแก่มีyuyuลักษyณ;iะนูนเป่ง และกวาวเครือเเดงราคาถูกเป็นร่องตามตำแหน่งที่มีเมล็ด ฝักที่แก่จะเปลี่ยyukนjyukสีจากสีเขียวเป็นสีชyukมพู-แดงหรืdtkอแดงเข้ม ในแต่ละฝักจะมีเม็i;;i;รyukาวๆ 2-10 เม็i; ฝักอ่อนจะเริ่มติดหลัง;io;ดyukอกบานโดยประมาณyukyukขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลพฤyukศจิukyukyuktกายน และi;แล้วก็yukะติดi;ฝักเรื่อyukยuiๆจนถึงเดือนธันวาคมมะขามเทศyukเมล็ดเม็ดมะขามเทศมีลักษณะyuบน รวมyukทั้งนูนตรงกลางกวาวเครือเเดงราคาถูก มีรูปทรงเหมืkyukอนหยดน้ำ ขนาดเมล็ดกว้างโดยประyukมาณ 0.5 เซนติเมตร หนาkyukykykดยประมาณ 2-3 มิลลิเมyukตร เม็ดอ่อนมีyukyuyukสีเขียวขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล เมื่อฝักแก่ เมล็ดจะมีyukสีyukดำพันธ์ุมะขามเทศประเภทขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลมykะkขามเทศแบ่งตามลักษณะฝัykyuพันธ์ุฝักขนาดใหญ่น้ำหนักฝักขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล 1yuk กก. จะได้ฝัyukกราวๆ 15- 20 ฝัก ฝักyลักษณะโค้ง เป็นวงกลม ถ้าฝักyuยาวฝักจะม้วyukนเป็นเyukกลียว เปลือกฝักแykมีสีเขียyukyวอ่อน หรือ yukขาวคละเคล้าสีแดง หรือขาวคละเคล้าชมพู เนื้อมีสีขาวผสมแดง เนื้อดกใkyuหญ่ มีรสชาติหykวานมัน ขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลลักษณะลำต้นเป็นทรงพุ่มใหญ่ กิ่ง แykละลำต้นมีหนามยาว ใบมีขนาดใหญ่กykว่าพันธ์ุอื่นๆ2. พันธ์ุฝักขนาดกึ่งกลางน้ำหนักฝัก 1 กิโลกรัม จะไykด้ฝักโดยประมาณกวาวเครือเเดงราคาถูก 20 –yuk 30 ฝัก ฝักมีลักษณะโค้ง เป็นวงกลม เปลือกฝักแก่มีสีเขียวอ่อนผสมykชมพู เนื้อมีสีขาวปนแดง เนื้อหนา มีรสชาติหวานykuมัน ลักษณะลำต้นเป็นทรงพุ่มกวาวเครือเเดงราคาถูกใหญ่ กิ่ง และก็ลำต้นมีyukหนามสั้น ใบมีขนาดเล็กกว่าพันธ์ุแรก

Tags : ขายส่งกวาวเครือเเดง,ขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล

ขายเห็ดหลินจือ รูปแบบของมะปรางfngmต้นมะปราง มีถิ่นเกิดในแu;.io;yถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว เมียนมาร์ รวมทั้งมาเลเซีย จัดเป็นไuli.ม้ผลที่มีทรงของu,ylต้นจำหน่ายเห็ดหลินจือค่อนข้างจ.io.ioioorfjjiะแหลมถึงทรงกระบอก มีรlu,ili.ioาtjกแก้วที่แข็งแรง มีกิ่งก้านค่อนข้างจะทึบ ลำต้gyghjmhj,huukmนสูงโดยประมาณ 15-30 เมตร ลักuiuiluiluihษณtykะของใบมะปรางจะคล้ายใบมะม่วงแต่มีขนาดyulเล็กกว่า rรวมทั้งใบเป็นใบเรียวยาว มีสีเขียgilululyว ขอบใบเuukรียบ แผ่นใบเหนียว มีเส้นilใบมองเห็นแluluจ่มlululiulชัด ใบอ่อนมีสีม่วงแดง ยาวราว 14 ซม. กว้างโดยrhhประมาณ 3.5 ซม. ส่วนดอกyukykมะปราง จะมีดอกเป็นช่อ ออกบริเpo'[วณปลายกิ่งกิ่งก้lulานสuuilาขา ดอกเyukมื่อบานจะมีสีเหลือง rhrhthjrเป็tyjtjนดอกสrrhมบูรณ์เพศ แล้วก็ช่อดอกจะยาวประมาณ 8-15 yukykเซนติเมตรrrhผลมะปรrhง มีลักษณะเหมือนรูปไข่แล้วก็กลม ปrhลายเรียวแหลม โดยมะปรrhrhthrาง 1 ช่อ จะมีผลอยู่ประมาณ 1-15 ผล ผลดิบของมะปyukรางyuจะมีสีเขียวอ่อนถึงเข้ม ส่วนผลสุกจะมีสีเหลืองถึงเหลืองอมส้มแล้วก็รูปแบบของเปลือกจะนุ่�ขายเห็ดหลินจือ[/url] เนื้อด้านในสีเหลืองrthแyดงส้มออกแดงขึ้นrhrhอยู่กับสายrhนธุ์ มะปรางมีรyukสชาติหวrhานหรือหวานอมเปyukรี้ยว หรือเปrhrhรี้ยวจัด ในผyukลจะมีเม็yjyukuด 1 จำหน่ายเห็ดหลินจือเมล็ดio;lลักษoi;o;iณะซึ่งคล้ายกับเมล็ดมyukะม่วงรูปมะปรางในพืชตio;ระกูkykลมะปราง io;สามารถแบ่งออกได้เป็น มะปรางหวาน, มะปรางเปรี้ยว, มะยงชิด, มะยงห่าง, กาวางมะปรางหวาน ผลดิบและก็ผลสุi;กจะมีรสชtาติหวาiuนสนิทio; ผลมีขนาดเล็กและขนาดใykหญ่ ความหวานก็จะแตกต่yukางio;อyukอกไป จะหวานoi;มากมายหรืioyuk;อน้อยเพียงแค่นั้น {แต่|แต่jykว่า|แม้กoiผลใหญ่ มะปรางเปรี้ยวจะเหkyuk.k.มyukาะแก่การนำไปykแปรรูปมio.;tyjyujyukกกว่าที่จะyukกินสดๆอาทิเช่น มะปรางดอง มะปรางแช่อิ่kj.k.kl.ม น้ำมะปราง ขายเห็ดหลินจือฯลฯ

Tags : ขายเห็ดหลินจือ,จำหน่ายเห็ดหลินจือ,ขายเห็ดหลินจือ

เงาะ ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวที่ขายกวาวเครือขาวผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยโปรดปราน แต่เว้นแต่ความอร่อยแล้ว เงาะยังเป็นประโยชน์และก็สรรพคุณจำนวนมากที่ใครๆก็จำหน่ายกวาวเครือขาวคิดไม่ถึงซ่อนอยู่ด้วย
 เงาะ ผลไม้เมืองที่มีอากาศร้อน เปลือกขนสีแดง รสหวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิดๆที่ไม่ว่าใครรับประทานก็ต้องพึงใจ นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่เป็นประโยชน์ดีๆคุณประโยชน์เด็ดๆแอบซ่อนอยู่มาก แถมยังหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แล้วก็มีคุณค่าทางโภชนาการของกินแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดผลไม้อย่างยิ่งจริงๆ แต่โชคร้ายที่ไม่ค่อยมีคนรู้ถึงเรื่องราวดีๆของเงาะมากนัก เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราก็เลยนำเรื่องราวรวมทั้งคุณประโยชน์ซึ่งมาจา�ขายกวาวเครือขาว[/url]เงาะมาฝากกันค่ะ
มาทำความรู้จักเงาะกันอีกสักนิด
 เงาะ ภาษาอังกฤษเป็น Rambutan มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Nephelium lappaceum Linn.จัดคือผลไม้จำหน่ายกวาวเครือขาวเชื้อสาย Spindaceae มีเปลือกสีเขียวหรือแดงตามความอ่อนแก่ มีเนื้อสีขาว แล้วก็มีเมล็ดข้างในเนื้อ รสของเนื้อเงาะจะหวาน แอบเปรี้ยวนิดๆกินแล้วชื่นใจ ซึ่งเงาะนับว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เนื่องจากว่าสามารถดัดแปลงและก็ส่งออกได้มากมาย อีกทั้งเงาะกระป๋อง เงาะกวน เงาะแช่อิ่ม และก็เหล้าองุ่นเงาะ ชนิดเงาะยอดฮิต
 เงาะมีมากมายก่ายกองหลายสายพันธุ์แม้กระนั้นจำพวกที่นิยมมีเพียงแต่ 3 ประเภทเป็น เงาะสถานศึกษา เงาะสีชมพู และเงาะสีทองคำ ขายกวาวเครือขาวเพราะเหตุว่าเงาะสายพันธุ์เหล่านี้เติบโตง่ายก็เลยเป็นประเภทที่เกษตรกรเลือกปลูกเพื่อนำมาขายนั่นเองค่ะ

Tags : จำหน่ายกวาวเครือขาว

ขายขมิ้นชัน[/b] ลักษณะของกล้วยหykมูสังต้นกล้วยหมูสัง จัดเป็นพรรณไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ แยกจากโคนต้นได้หลfyjyukายเถา สามารถเลื้อยพาดในพุ่มไม้ไปได้ไกลถึง 30 เมตร เนื้อไ../oplpม้เหนียวแข็ง ตululามกิ่งอ่อนรวมทั้งยอดอ่อนมีขนสีน้ำyตาลหรืylอสีน้ำ8l9utio;ykตาลอมเหลืองขึ้นหนาแน่ulilน จัrfliolดเป็นykพืชหายาlกประเภทหนึ่ง จำหน่ายขมิ้นชันขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ปัkกชำ7l8กิ่ง iolและก็กระ8l9;9;บวนการต789อนกิ่ง ถูกใจดินร่วนซุiolย อยากได้7tl9;lน้ำปานกลาง แล้วก็kyuใ6k7l8l;9นที่ที่0;9i0;มีแสงแดดตลอ98l8lดวัน มีเขตการกระจายจำykuพวกใio;;lนจีk8llนตiolอนใoต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และก็ulililภูมิภาคมาเลเซีย ส่วนในประเทศไทยพบกระจัดกระจาrkยชนิดทางภาคใต้แtล้tjวก็ภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยมักขึ้นulululตามชายป่าดิบเปียกชื้น ป่าละเมาะyuulที่เปีtloy8i;oยกชื้น ป่าโปร่งที่เปียulululกjy,oiชื้น บlulริtjเวณที่แจ้งริluมลำน้ำ ที่op;pระดัilบความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึง 700 เมตร1,yuj2,3ต้นกล้วยหมูสังใบกล้วยหมูสัykง ใบเป็นใบykโดดเดี่ยว ออกilเรียulงสลับ รูปแบบของใบเป็นรูปรีปนรูปไข่กลับ รูปรีแกมรูปขfkm,jkfjอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกi;iมรูปใบykulหอก yu,uปลายใบแหลม โคนใบเว้าบางส่วน ส่วtui,u,jนขอบของใบเรียบ ใบtมีขนาดกว้างราว ul5-10 ซม. และก็ยาวประtyjมาณ 12-25 lioซม. แผ่นใบมีขนtlทั้งคู่ด้าน โดยแผ่นใบจำหน่ายขมิ้นชันด้านบนulจะiolเป็นสีเขียวเข้มเป็นilมันรวมทั้tyjtyงมีขนขึ้นเulรี่ยรายตาlมเส้fk,miluiuนกึ่งกลl;ulางใบและก็เส้นกิ้j,k..งก้านใบ ส่วนข้างล่างใบจะเป็นสีเขียวนวลมีขนสั้นนุ่มทั่วๆไป ก้านใบykuilยาวราวๆ 3jty-8 มม.1,2ใบกล้วยหมูสังดอกกล้วยหมูสัง ออกเป็fkmuiluนดอกเดี่ยว โดยจะuilออกที่ปลายกิ่งและก็ตามกิ่งul ออกตรงกันข้ามหรือเยื้องกับใบเyuilil,ล็กน้อย ดอกเป็นสีแดงสด จะส่งj,j.j.กลิ่นหอมอ่อนๆในตhj,j,อนเวลาค่ำและช่วงกลางคืน มีน้ำหวานมากมายรอบj.ฐานดอก กลีบดอกมี 6 กลีghnh,iu.l.,uบ เรียงสลับกัน 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบขายขมิ้นชัน กลีบดอกเป็นสีแดงสดหรือสีแดงi.oi/เลือดนก โคนกลีบดอกเป็นสีเหลืองอ่อน ลักio;oษณะของกลีบดอกไม้เป็นรูปขอบขนานหรืiluoi.;อรูปไข่กลับปนรูปขอบขนาน ปลายมน ยาวโดยประมาณ 2.5-4 ซม. กลีบดอกจะออกจะหนา ส่วfroilนกลีบเลี้ยงดอกมี 3 กลีบ สีเขียวอมเหลือง ลักษณะเป็ruikiuนสามเหลี่ยม ยาวราว 2-3 ซม. กลีบเลี้ยงค่อนข้างจะเปราะบาง ผิวด้านในเกลี้ยง ส่วนผิวข้างนutiอกมีขนสั้นขึ้นประปราย ดอกมีเกสรเพศผู้ilหลายชิ้น อยู่ชิดกันแน่นเป็นพุ่มไม้กลม il;รังไข่ยาวได้ราว 7 มิลลิเมตร มีขนสั้iน ยอดrtfmhu,iเกสรเพศเมียแบออกคล้ายรูปแตร มีเมือกเหนียวสีเหลืองแล้วtkui.liจะเปลี่ยนเป็น.tสีแก่ขึ้น เมื่อดอกบานเต็มที่tgloiจะมีขนาดขายขมิ้นชันเส้นผ่านศูนย์กลางราว 6-11 เซนติเมตรo.,io.

Tags : ขายขมิ้นชัน,จำหน่ายขมิ้นชัน