[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
ถิ่นเกิดเหงือกปลาหมอ[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปล[/b]หมอนับว่าเป็นสมุนไพรพื้นถิ่นของไทยพวกเราเพราะเหตุว่ามีประวัติในการประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นกลางแจ้งแล้วก็ชอบพบมากในบริเวณป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งลำคลอง เติบโตได้ดิบได้ดีในที่ร่มและมีความชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ชอบที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้เช่นกัน เหงือกปลาแพทย์ พบอยู่ 2 พันธุ์ คือ ชนิดดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบได้ทั่วไปในภาคกลางแล้วก็ภาคตะวันออก จำพวกดอกสีม่วง Acanthus ilicifolius L. พบทางภาคใต้ อีกทั้งเหงือกปลาหมอยังเป็นพันธุ์ไม่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไปต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 1.5 ซม.
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบลำพัง รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ริมขอบของใบและก็ปลายใบ ขอบของใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบวาวลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีชำเลืองสีขาวเป็นแถวก้างปลา เนื้อใบแข็งและก็เหนียว ใบกว้างโดยประมาณ 4-7 เซนติเมตร และก็ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ใบจะออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอ
เหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว ทั้งนี้สีของดอกขึ้นอยู่กับพันธุ์ของต้นเหงือกปลาหมอคือ ดอกมีทั้งยังประเภทดอกสีม่วง หรือสีฟ้า รวมทั้งพันธุ์ดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันเป็น ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบดอกเป็นท่อปลายบานโต ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร บริเวณกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้รวมทั้งเกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวราวๆ 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเมล็ด 4 เม็ด
เหงือกปลาหมอรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำราเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสก็จะลดน้อยลงลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้ว่าจะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นทั้งยารับประทานรวมทั้งต้มน้ำอาบต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 เดือนขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดน้อยลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนป่วยโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและวิธีใช้ยาก็มีหลายวิธี คือ
แนวทางต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำเป็นต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำเป็นต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่-เย็นทีละ 3-4 ขัน แต่ถ้าเกิดมีเหงือกปลาหมอไม่น้อยเลยทีเดียว บางครั้งก็อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
ขั้นตอนการทำเป็นยาลูกกลอนนำเหงือกปลาหมอ 5 ครั้งตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กอาจจะกินทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนกินอาหาร เช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยจนกว่าจะหาย แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานบกพร่องก็ต้องกินตลอดกาล
[/b]
กระบวนการทำเป็นแคปซูลนำผง
เหงือกปลาหมอที่ผ่านการร่อนเป็นผุยผงละเอียดเหมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. ผู้ใหญ่กินทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนที่จะกินอาหาร เด็กน้อยลงตามส่วน
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์มากไม่น้อยเลยทีเดียว อาทิเช่น
-ราก มีคุณประโยชน์ในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และก็ใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายชนิด โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการซูบซีด หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาไม่เหมือนกันออกไปอีก
-ทั้งยังต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-อีกทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มกินแก้พิษฝีดาษ ฝีทั้งมวล ผลรับประทานเป็นยาขับเลือดรอบเดือน นอกนั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาทั้งตัว
- ต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดียิ่งขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง เจ็บป่วยจับสั่น
- อีกทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมแห้งแรงน้อยเหลืองหมดทั้งตัว กินทุกเมื่อเชื่อวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือนิดเดียว หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำจนเดือดให้งวดจึงยกลง กลั้นใจรับประทานขณะอุ่นกระทั่งหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว มึนหัว ตามัว เจ็บระบมตลอดตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "
เหงือกปลาหมอ" ทั้งยัง 5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ จำนวนเสมอกัน กะตามอยาก ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นทีละ 1 แก้ว 3 เวลา ตอนเช้า กลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการ ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย แล้วก็ต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ประเภท หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้อ่อนเพลีย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"
เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกทั้งตัวหายได้ ทั้งหมดที่บอกเป็นหนังสือเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูถูกเหยียดหยาม รู้ไว้เป็นวิชา
http://www.disthai.com/[/b]
Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ