กระทู้ล่าสุดของ: sadgs257sa2

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: อาการปวดน้ำมันนวดสมุนไพรจำหน่ายน้ำมันเหลืองน้ำมันเหลือง6ข้างหลัง4 ปวดคอ และการปว เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2018, 02:10:09 pm
อยกได้สูตรเย็น(cool) มีปะ
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: เวิร์คมากน้ำมันเหลืองที่คุณควรได้ไใช้ทุเลาอาการเวียนหัวหัว หน้ามืดลายตา คลื่นไส้ เมื่อ: ตุลาคม 18, 2018, 11:05:54 pm
ลองซื้อน้ำมันเหลืองเชียงดาวเฮิร์สิครับ ดีมากครับ
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: รับผลิตกวาวเครือแดงเป็นยาสมุนไพรอย่างมากมาย ได้แก่ 44ครีมกวาวเครือแดง เมื่อ: ตุลาคม 18, 2018, 07:47:00 am
เห็นด้วยอีกคน
4  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: กระชายดำ กระชายแดง แล้วก็กระชายเหลือง นอกนั้นกระชายนับว่าเป็นสมุนไพรที่ชาวไทยรู เมื่อ: ตุลาคม 16, 2018, 09:42:20 pm
ขายหรือซื้อ กระชายดำอ่ะ
5  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: ขายกระชายดำ นอกเหนือจากการที่จะเป็นสมุนไพ3รที่สามารถหาได้ง่าย และก็มีความเหมือ3น เมื่อ: ตุลาคม 16, 2018, 05:59:10 pm
มีกระชายอบแห้ง รับซื้อไหมครับ
6  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: สมุนไพรท่าพระจันทร์ ดอกจันทร์ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ต้นไม้ ขนาดเล็กถึงขนาดกึ่งกลาง เมื่อ: ตุลาคม 13, 2018, 09:09:19 pm
มันคืออะไร ท่าพระจันทร์
7  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: รับผลิตกวาวเครือแดงเป็นยาสมุนไพรอย่างมากมาย ได้แก่ 44ครีมกวาวเครือแดง เมื่อ: ตุลาคม 10, 2018, 09:14:56 am
เคยใช้แล้ว Good สุดยอด
8  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: คุณลักษณะ ในการกำจัดเชื้อจุลินทรีย์หลากหลายประเภท จึงนิยมนำมาถนอมอาหาร ชนิดเนื้อ เมื่อ: ตุลาคม 09, 2018, 10:25:06 pm
พริกไทยดำผมเคยกิน อร่ายเผ็ดๆ
9  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังในไฟลั1มมอลลัสกา อาศัยอยู่ได้อีกทั้งบนบกรับผลิตว่านชัก เมื่อ: ตุลาคม 07, 2018, 09:14:29 am
ชักมดลุก นึกว่าอะไร
10  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: แนวทางการทำokน้ำขิง วิธีการทำqน้ำขิงกระบวนการทำน้ำขิงอันดับแรกให้เตรีย2มส่วนผสมด เมื่อ: ตุลาคม 06, 2018, 03:11:03 pm
ไม่มีไรทำ ดันขิงดีกว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆเนอะ
11  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: สรรพคุณกวาวเครือขาว มีสารออกฤทธิ์สำคัญที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิง เมื่อ: กันยายน 28, 2018, 04:43:52 pm
seo อีกล่ะ
12  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / มหันตภัย ! ความดันและเบาหวานภัยใกล้ตัว เจียวกู่หลานช่วยขจัดได้ เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 12:25:58 am
มหันตภัย ! ความดันรวมทั้งเบาหวานภัยใกล้ตัว เจียวกู่หลานช่วยขจัดได้[/size][/b]
พฤษภาคม 8, 2018  kungtep
โรคความดันแล้วก็เบาหวาน เป็นโรคที่คนไม่ใช่น้อยไม่มองดูถึงความร้ายแรงสักเท่าไหร่ แต่หารู้ไม่ว่า สร้างความรันทดต่อสภาพร่างกายและชีวิตอย่างคิดไม่ถึง รีบคุ้มครองให้ตรงจุดด้วย ” สมุนไพรเจียวกู่หลาน ” [/color]

โรคความดันสูง-โรคเบาหวาน ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
สิ่งใดที่อยู่ใกล้ตัว สิ่งนั้นมักถูกมองข้ามเสมอ หลายสิ่งในชีวิตที่เรามักไม่ใส่ใจไม่เห็นถึงความสำคัญ ดังเช่นว่า แฟน เพื่อนฝูง คนภายในครอบครัว ที่ถูกปล่อยปละละเลยจากเราอย่างไม่ตั้งใจ บางทีอาจจะด้วยการตั้งใจปฏิบัติงานหรือเหตุผลอื่นใดก็ตามที รวมทั้งก็มีหลายสิ่งรอบตัวที่เรามักไม่แลเห็นถึงความอันตราย ที่จะนำมาสู่ตัวหรือคนรอบข้างสักเท่าไหร่ อย่างเรื่องของสุขภาพการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆในขณะที่ไม่รุนแรงรวมทั้งที่คิดว่าไม่รุนแรง แต่ว่าซ่อนเร้นด้วยภัยอย่างมหัน ที่คอยจังหวะเวลาอยู่เสมอ อาทิเช่น โรคของความดันและก็โรคเบาหวาน ฯลฯ ซึ่งอีกทั้ง 2 ต่างก็เป็นโรคที่คุ้นหูเราเป็นอย่างดี ภัยร้ายก็มีแต่ก็ทุเลาและก็ไม่เป็นอันตรายได้เพียงแต่ใช้ “เจียวกู่หลาน”
ลดการอุดตันเส้นเลือด เจียวกู่หลาน
โรคความดันเลือดสูง มีลักษณะอาการเช่นไร?
ลักษณะการป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวนมากพวกเราจะพบคนเจ็บ เป็นความดันเลือดสูงมากเกินไปกว่าโรคความดันต่ำ  ซึ่งเป็นอาการของการบีบตัวของหัวใจร่วมกับแรงดันในกระแสเลือดที่สูง เร็ว ถี่ มากยิ่งกว่าธรรมดาทั่วไป
ความดัน เบาหวาน อายุ 40 ปีขึ้นไปต้องระวัง!
โรคความดันสูง เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเต้นของหัวใจ ที่เป็นอวัยวะสถานที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา  อีกทั้งแรงดันในเลือดที่จะต้องทำงานเช่นกันอย่างเลี่ยงมิได้ โรคความดันสูงเป็นโรคที่เจอได้ในทุกเพศทุกวัย แต่ว่าที่จะเป็นได้ง่ายอย่างยิ่งที่สุดกับคนที่มีอายุ 35 – 40 ปีขึ้นไป จึงดูได้ว่าบิดามารดาบรรพบุรุษของเรามักเป็นโรคนี้กันมากมาย

คุณประโยชน์เจียวกู่หลาน
คุณประโยชน์และก็คุณประโยชน์ใบเจียวกู่หลาน
“เจียวกู่หลาน” ป้องกันโรคความดันสูงและเบาหวานได้ไหม
การดูแลและรักษาโรคความดันสูง ต้นเจียวกู่หล่านช่วยคุ้มครองป้องกันได้ ความชั่วช้าสารเลวร้ายของโรคความดันสูงที่ควรรักษาโดยใช้ เจียวกู่หลานเป็นเมื่อความดันสูงมากมายๆจะมีผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะหลักๆหลายส่วนไม่เพียงพอ จนถึงเสียหายส่งผลต่อชีวิตได้ ตัวอย่างเช่น ทั้งไตวายเรื้อรัง หัวใจล้มเหลว เส้นโลหิตแดงส่วนปลายแข็งปฏิบัติงานไม่สุดกำลัง โรคสมองเสื่อม และก็เส้นโลหิตสมองแตกได้สุดท้าย ซึ่งแม้ไม่ตายก็บางทีอาจเป็นอัมพาต
โรความดันแล้วก็โรคเบาหวาน ป้องกันได้ด้วย”เจียวกู่หลาน”
สมุนไพรรักษาโรความดัน-โรคเบาหวาน เจียวกู่หลาน คนป่วยหรือผู้ต้องการับประทานคุ้มครองป้องกัน ควรเลือกสินค้าที่มีทะเบียนยาและทะเบียน(อย) สร้างจากโรงงานได้มาตรฐานGMP
13  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรใบบัวบกมีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เมื่อ: สิงหาคม 30, 2018, 11:26:31 pm
[/b]
[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก[/url]
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เราต่างรู้จักกันดีในฐานะของผักพื้นบ้าน นิยมนำมากินกับน้ำพริกหรือเมนูอาหารต่างๆแบบสดๆแล้วก็ยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำใบบัวบกเพื่อดับกระหาย แก้บอบช้ำใน รวมทั้งเพื่อช่วยทำนุบำรุงร่างกาย ซึ่งจัดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในแถบเอเชียพวกเรานี้เอง ด้วยคุณประโยชน์ที่นานาประการ ก็เลยทำให้มันเป็นยารักษาโรคและตัวดูแลสุขภาพ ในปัจจุบันเริ่มมีการทำศึกษาค้นคว้า สกัดสารสำคัญในใบบัวบกประยุกต์ใช้ในการรักษาในรูปของยาแคปซูล รวมทั้งบัวบกผงสำหรับชงดื่มอีกด้วย
รูปแบบของใบบัวบก
บัวบก มีชื่อเรียกทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica อยู่ในตระกูล Umbelliferae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกันกับผักชี ส่วนชื่อท้องถิ่นถูกเรียกในชื่อที่มากมาย เช่น ผักแว่น ผักหนอก แล้วก็กะโต่ เป็นต้น  ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นพืชล้มลุก มีกอติดอยู่กับพื้นดิน ลำต้นจะเลื้อยแพร่แขนงไปตามพื้นดินในแนวขนาน แก่ยืนยาวได้นานหลายปี การแตกรากรวมทั้งใบจะเกิดขึ้นตามข้อ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว มีรูปร่างเสมือนไต จะออกเป็นกลุ่มตามข้อ ขอบใบหยัก มีก้านใบยื่นยาวออกมา ดอกเป็นสีม่วงผสมแดง ผลแบน ออกเป็นดอกโดดเดี่ยวหรือช่อขนาดเล็กโดยประมาณ 3-4 ดอก มีเอกเอกลักษณ์ในเรื่องของกลิ่น รวมทั้งรสที่ขมผสมหวาน
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบักที่นิยมเอามารับประทาน
พวกเราบางทีอาจเคยชินว่าบัวบกเป็นพืชสมุนไพรแก้บอบช้ำในเป็นหลัก แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วสมุนไพรจำพวกนี้มีสาระสำหรับการรักษาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การดูแลและรักษาโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเสีย รักษาโรคในกระเพาะ ช่วยบำรุงรักษาสมอง และช่วยเพิ่มความจำ เป็นต้น การกินใบบัวบกแบบใหม่ๆจะทำให้ร่างกายได้สารสำคัญหลายอย่าง ที่พบมากคือ "สารไกลโคไซด์" (Glycosides) ซึ่งจัดว่าเป็นสารที่ผลเข้าไปกัดกันการเกิดสารอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมภาวะของเซลล์รวมทั้งเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย มีส่วนช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนที่ผิว กระดูก และก็เอ็น ทำให้แผลสมานตัวเข้าพบกันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
สรรพคุณของใบบัวบก ไม่ว่าจะเป็นการทานเป็นต้นดิบๆหรือนำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ล้วนมีคุณประโยชน์ทางยาที่ไม่ได้ต่างอะไรกัน
เพราะว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็น จะช่วยลดการเกิดอาการร้อนใน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม ในกรุ๊ปสตรีที่อยู่ในวัยใกล้หมดเมนส์ ผู้ที่จำเป็นต้องใช้สมองสำหรับในการทำงานมากๆใบบัวบกจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความจำเจริญ ช่วยลดความเคร่งเครียด ลดการอักเสบที่ผิวหนัง อาการบวมช้ำและก็ร่องรอยไม่ปกติที่เกิดบนผิวหนัง ยิ่งกว่านั้นผู้ที่บริโภคใบบัวบกหลังการผ่าตัด จะช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น และลดการตำหนิดเชื้อได้
คุณประโยชน์ของบัวบกกับผลการวิจัย
งานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยได้เอ่ยถึงบัวบกเอาไว้ว่า เป็นพืชที่มีสรรพคุณเด่นในด้านการบำรุงสมองเช่นเดียวกันกับแปะก๊วย ช่วยกระตุ้นสมองในการจดจำสิ่งต่างๆเจริญขึ้น แล้วก็ช่วยวิวัฒนาการเรียนรู้ทางสมอง รวมทั้งด้วยคุณสมบัติพิเศษกลุ่มนี้ทำให้มันกลายเป็นพืชที่ถูกจดสิทธิบัตรสารสกัดจากบัวบกที่มีหน้าที่่ช่วยเพิ่มความจำ
จากการทดสอบในลูกหนู พบว่ามีความจำและก็การเรียนรู้ที่ดีขึ้น ส่วนในคน มีการทดลองในเด็กพิเศษ ด้วยการกินบัวบกวันละ 500 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุม พบว่ามีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเรียนรู้ที่ดีมากกว่า ส่วนในคนแก่ให้ทดลองกินสารสกัดบัวบก 750 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 2 เดือน พบว่า ทั้งยังความจำแล้วก็การเรียนรู้ อีกทั้งยังช่วยลดอารมณ์ผันแปร ทำให้คนวัยชรามียิ้มแย้มแจ่มใสมากยิ่งขึ้นด้วย ในรายที่เป็นวัยทำงาน ได้กระทำทดสอบกับหญิงอายุราว 33 ปี กินสารสกัดบัวบก 500 มก. วันละ 2 ครั้ง พบว่าช่วยลดความเคร่งเครียด ความรู้สึกกังวล และภาวะซึมเศร้าลงได้
เมื่อเจาะลึกลงไปถึงระดับเซลล์ เจอรูปแบบการทำงานของสารสกัดบัวบกที่ตรงเข้าออกฤทธิ์กับสมอง ช่วยให้การหายใจระดับเซลล์ภายในสมองดำเนินการได้ดิบได้ดีขึ้น มีสารต้านทานอนุมลอิสระ ช่วยสร้างสมดุลสารสื่อประสาท และก็ต้านการสลายตัวของเซลล์สมองได้
การนำใบบัวบกมาใช้บริโภคเพื่อเป็นยา
บัวบ[/b]สามารถประยุกต์ใช้เป็นยาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของต้นสด เมล็ด หรือใบ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบประยุกต์ใช้เยอะที่สุด การเลือกใบบัวบกที่ดี ควรเลือกใบที่โตสุดกำลังแล้วก็สมบูรณ์ ประยุกต์ใช้ตากแห้งป่นเป็นผุยผงบรรจุลงในแคปซูลราวๆ 500 มิลลิกรัม รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย
นำเอาใบบัวบกสด 1 กำมือ มาคั้นให้ได้น้ำ หรือตำอย่างรอบคอบแล้วผสมกับน้ำ 1 แก้ว คนให้เข้ากันจากนั้นกรองให้เหลือแต่น้ำ ผสมน้ำตาลหรือเกลือก็ได้ตามชอบ ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารอีกทั้ง 3 มื้อ ราวๆ 5-7 วัน จะช่วยลดอาการร้อนในรวมทั้งแก้บอบช้ำในได้
ในกรณีที่เป็นคนไข้โรคความดันเลือดสูง ให้สามารถดื่มน้ำใบบัวบกทุกวี่วัน ต่อเนื่องกันโดยประมาณ 7 วัน จะช่วยลดความดันให้อยู่ในระดับปกติ
เม็ดของบัวบกที่มีรสขมแล้วก็เย็น นิยมนำมาใช้แก้ไข้ ลดอาการปวดหัว และก็แก้บิด
[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]
[/b]
ข้อพึงระวังในการใช้ใบบัวบก
ก่อนกินใบบัวบกเพื่อเป็นยา จะต้องตรวจตราสุขภาพด้านร่างกายของตนก่อนว่าพื้นฐานแล้วมีโรคประจำตัวอะไรที่มีการเสี่ยงหรือเปล่า เพราะสารบางประเภทในใบบัวบก จะเข้าไปทำให้ลักษณะโรคกำเริบมากยิ่งขึ้นได้
เนื่องด้วยบัวบกเป็นยาที่มีฤทธิ์เย็น การกินมากจนเกินไปจะก่อให้สะสมภายในร่างกายจนกระทั่งรู้สึกหนาวเยอะขึ้นได้
เลี่ยงการกินใบบัวบกต่อเนื่องกันทุกๆวัน หรือรับประทานครั้งละมากๆเมื่อรับประทานติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ก็ควรหยุดพัก 1 อาทิตย์ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยกลับมากินใหม่
สำหรับผู้ที่รับประทานใบบัวบกสดๆต่อเนื่องกันวันแล้ววันเล่า ควรจะกินในรูปร่างประมาณวันละ 3-6 ใบ ไม่สมควรเกินไปกว่านี้
แม้ร่างกายมีลักษณะอาการอ่อนล้า วิงเวียน ใจสั่น หรือหัวใจเต้นไม่ดีเหมือนปกติ รู้สึกคันตามผิวหนัง ท้องเสีย หลังจากการกิน ควรหยุดกินโดยทันทีรวมทั้งรีบเข้าหาหมออย่างเร่งด่วน
ในกลุ่มของผู้คนที่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้แพ้ ยานอนหลับ หรือยากันชัก ไม่ควรรับประทานใบบัวบก เนื่องจากว่าจะยิ่งไปเพิ่มฤทธิ์ให้รู้สึกง่วงซึมเพิ่มมากขึ้น
ใบบัวบกคือพืชสมุนไพรไทยที่หาได้ง่ายทั่วๆไปตามท้องตลาด แพงถูก แต่มากด้วยสรรพคุณทางยา ที่จะเป็นหนทางสำหรับในการรักษาโรคต่างๆรวมทั้งใช้สำหรับบำรุงร่างกายได้อย่างมีคุณภาพ http://www.disthai.com/[/b]
14  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรที่น่าอัศจรรย์ เมื่อ: สิงหาคม 24, 2018, 09:41:03 am
[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
บ้านเกิดเมืองนอนเหงือกปลาหมอ
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปล[/b]หมอนับว่าเป็นสมุนไพรพื้นถิ่นของไทยเราเพราะว่ามีประวัติสำหรับในการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้งรวมทั้งมักจะพบได้ทั่วไปในบริเวณป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งคลอง เจริญเติบโตก้าวหน้าในที่ร่มแล้วก็มีความชุ่มชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ชอบที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้ด้วยเหมือนกัน เหงือกปลาหมอ พบอยู่ 2 พันธุ์เป็นประเภทดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบมากในภาคกึ่งกลางรวมทั้งภาคตะวันออก ชนิดดอกสีม่วง  Acanthus ilicifolius L. พบทางภาคใต้ ทั้งยังเหงือกปลาหมอยังเป็นพันธุ์ไม่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไป
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม.
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบลำพัง รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ริมขอบของใบและก็ปลายใบ ขอบของใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบเป็นมันลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีชำเลืองสีขาวเป็นแนวก้าง เนื้อใบแข็งและก็เหนียว ใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร รวมทั้งยาวราวๆ 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวราว 4-6 นิ้ว ทั้งนี้สีของดอกขึ้นอยู่กับจำพวกของต้นเหงือกปลาหมอเป็น ดอกมีอีกทั้งพันธุ์ดอกสีม่วง หรือสีฟ้า และก็ประเภทดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันเป็น  ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบดอกไม้เป็นท่อปลายบานโต ยาวราวๆ 2-4 ซม. บริเวณกึ่งกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล รูปแบบของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวราว 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเม็ด 4 เมล็ด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในหนังสือเรียนยาไทยพูดว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์เด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะบรรเทาเบาบางลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้จะร้ายแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่ว่าเมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยังยากินและก็ต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะเบาลงลงอย่างชัดเจน สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยาและก็วิธีการใช้ยาก็มีหลายวิธี เป็น
วิธีต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆทีละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง ยามเช้า-เย็นทีละ 3-4 ขัน แม้กระนั้นหากมีเหงือกปลาหมอจำนวนมาก บางครั้งอาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้งยัง 5 หนตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งอาจจะรับประทานครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุรวมทั้งน้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร ตอนเช้า-เย็น กินไปเรื่อยๆตราบจนกระทั่งจะหาย แต่ถ้าเกิดเป็นโรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่องก็จะต้องกินตลอดกาล
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]
[/b]
ขั้นตอนการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินร่อนเป็นผุยผงละเอียดเสมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม คนแก่กินครั้งละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนรับประทานอาหาร เด็กต่ำลงตามส่วน
 เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเยอะแยะ ดังเช่น
-ราก มีคุณประโยชน์สำหรับการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายแบบ โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการซูบซีด ถ้าเกิดใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาแตกต่างออกไปอีก
-ทั้งยังต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มรับประทานแก้พิษฝีดาษ ฝีทั้งสิ้น ผลรับประทานเป็นยาขับเลือดประจำเดือน ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาหมดทั้งตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงรับประทาน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง จับไข้จับสั่น
- ต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผ่ายผอมเหลืองทั้งตัว รับประทานทุกวี่ทุกวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือบางส่วน หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดให้งวดจึงชูลง อั้นลมหายใจกินขณะอุ่นจนหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว มึนหัว ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ"  5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ปริมาณเท่ากัน กะตามอยากได้ ต้มกับน้ำกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา รุ่งเช้า ช่วงกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดียิ่งขึ้น ไปให้หมอเอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย รวมทั้งต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกเมื่อเชื่อวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกหมวดหมู่หาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่เคยทราบอ่อนแรง
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนหากผิวแตกตลอดตัวหายได้ ทั้งหมดทั้งปวงที่บอกเป็นแบบเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูถูกดูแคลน รู้ไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
15  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ เมื่อ: สิงหาคม 15, 2018, 11:09:18 am
[/b]
กระเทีย[/size][/b]
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเช่นเดียวกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำครัว กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะไม่เหมือนกับพืชทั่วๆไป เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ เป็นต้นว่า อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) และก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย
กระเทียม
คนไม่ใช่น้อยอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย แล้วก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่หลายๆคนมั่นใจว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ดังนี้ข้อยืนยันหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ ผลดี รวมทั้งความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับการรักษาโรคพวกนี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในเส้นเลือดและก็ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่มีระดับความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับคนไข้ที่กินยาหลอก จึงอาจพูดได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับในการรักษาคนป่วยความดันโลหิตสูงได้ดีมากว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียมสำหรับในการลดความดันโลหิตได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ยาหลอก แต่เพราะผลของการทดลองบางทีอาจยังไม่ถูกต้องพอเพียงที่จะสรุปคุณภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดในคนเจ็บความดันเลือดสูง จึงยังจึงควรศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อรับรองคุณภาพที่แจ่มชัดยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมรวมทั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่แน่ชัดรวมทั้งยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนจีนทั้งหมดศชายและก็เพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดสอบตรงเวลา 5 ปี และก็เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยอีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือพอดีจะช่วยส่งเสริมความเกี่ยวข้องของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วก็มีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ส่งเสริมว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นผักชนิดหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านโรคมะเร็ง แต่ว่ายังมีเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจส่งผลให้พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของกระเทียมได้ยาก และก็เมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้ความสามารถของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์รวมทั้งเชื้อไวรัส รวมทั้งมีการนำมาใช้เพื่อคุ้มครองปกป้องและก็ทุเลาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมรูปแบบเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง อีกทั้งยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แม้กระนั้นช่วงเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความไม่เหมือนกันเพียงนิดหน่อย แม้ผลของการทดลองข้างต้นจะบอกให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียม แม้กระนั้นหลักฐานการทดลองทางคลินิกยังน้อยเกินไปแล้วก็ควรต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกเพื่อยืนยันคุณภาพของกระเทียมให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ลดหุ่นและก็มวลไขมัน ในผู้เจ็บป่วยภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักมีเหตุมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดน้ำหนักบางทีอาจไม่พอ แม้ไม่ดูแลประเด็นการกินอาหารพร้อมกันไปด้วย การรับประทานกระเทียมจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเหตุว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะปกป้องภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้นศชายและเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งหมดทั้งปวง 110 คน กินกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งภายในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่กินกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดสอบชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักรวมทั้งมวลร่างกายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับและก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการศึกษาในอนาคตยังจึงควรออกแบบการทดสอบให้ดีขึ้นและควรเพิ่มช่วงเวลาสำหรับเพื่อการทดลองเพื่อยืนยันคุณภาพของกระเทียมให้แจ่มแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน จึงทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองรวมทั้งการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่เกี่ยวโยงปริมาณ 29 ชิ้น ได้ทำให้เห็นว่า การกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้น้อย แต่ว่าไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจต่ำลงแต่อย่างใด ก็เลยยังควรต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาบทสรุปรวมทั้งรับรองคุณภาพของ[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
ต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มกระจ่างเพิ่มขึ้น
[/b]
ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างไม่เป็นอันตรายหากกินในปริมาณที่เหมาะสม แม้กระนั้นอาจจะก่อให้เป็นผลใกล้กันได้ อาทิเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก ท้องอืด อ้วก อาเจียน หรือท้องร่วง อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจจะก่อให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งเคืองได้
ข้อควรปฏิบัติตามสำหรับการกินกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้
คนที่กำลังท้องหรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการท้องออกจะไม่มีอันตรายถ้าเกิดรับประทานเป็นของกินหรือในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นบางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้ากินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งท้องหรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในจำนวนที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แต่ว่าการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคาย
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองพื้นที่เดินอาหารได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดลงมากกว่าธรรมดา
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดรับประทานกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์เนื่องจากว่าอาจก่อให้เลือดออกมากรวมทั้งมีผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และก็คนที่มีสภาวะเลือดออกผิดปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้กระเทียม[/url]สด ด้วยเหตุว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค อย่างเช่น ไอโซไนอะสิด เพราะกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายรวมทั้งส่งผลต่อความสามารถการทำงานของยา รวมถึงไม่ควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดเชื้อโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/[/b][/size][/b]
หน้า: [1] 2
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย