กระทู้ล่าสุดของ: iutpppx08dd55

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ขิง เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อ: กันยายน 26, 2018, 07:03:15 pm
[/b]
ขิ[/size][/b]
ขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’พบ)
ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในสกุลขิง (ZINGIBERACEAE)
[url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]ขิง
จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินรวมทั้งแร่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกายของพวกเรา ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และก็เส้นใยไม่น้อยเลยทีเดียวอีกด้วย ซึ่งคุณประโยชน์ซึ่งมาจากขิงนั้น เราสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และผลก็ได้ทั้งนั้น
คุณประโยช์จากขิง
-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ
มีสารต้านทานอนุมูลอิสระไม่น้อยเลยทีเดียว ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการปกป้อง ต้านทานการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต้านการเติบโตของเซลล์ของโรคมะเร็ง
ช่วยลดผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้สำหรับการรักษามะเร็ง โดยเหตุนี้ควรกินขิงพร้อมกันไปกับการดูแลรักษามะเร็งจะส่งผลดี
ขิ มีฤทธิ์อุ่น ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น แล้วก็ช่วยสำหรับในการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นสดๆเอามาทุบให้แหลกราว 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำกิน
ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากไส้ แล้วปลดปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดหัวและไมเกรน ด้วยการกินน้ำขิงเป็นประจำ
ช่วยลดความต้องการของผู้ติดสิ่งเสพติดลงได้
แก้ตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วนำมารับประทาน
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำกิน
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยทุเลาลักษณะของโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจขุ่นมัว (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับคุณแม่หลังคลอดลูก ด้วยการกินไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดราว 1 องคุลีเอามาต้มกับน้ำดื่ม ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้รับประทานเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงนมของคุณแม่ (ผล)
ช่วยให้นอนหลับได้อย่างสบาย
การกินขิงจะช่วยให้เลือดแข็งเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้ประมาณครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา เอามาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วเอามาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการได้
ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ ทุเลาหวัดจับเสมหะ ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือหน่อยเดียว
ละอองน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในคนป่วยที่มีลักษณะเมายาสลบหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใช้ขิงสดนำมาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำ (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
ช่วยไขปัญหาผมหล่น หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟกระทั่งอุ่น แล้วเอามาตำให้แหลก เอามาพอกรอบๆที่มีผมตก วันละ 2 ครั้งกระทั่งอาการดีขึ้น หรืออีกแนวทางก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันที่สกัดจากมะกอกแล้วนำมาหมักผม นวดให้ทั่วหัวราวๆ 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้เหมือนกัน แถมยังช่วยทำให้ผมสวย แข็งแรง มีความอ่อนนุ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยทำนุบำรุงสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา รวมทั้งใช้แก้อาการตาฟาง (ผล, ใบ)
ช่วยรักษาอาการตาแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้งผาก เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอเปื่อยยุ่ย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาตีอย่างละเอียดคั่วกับน้ำสารส้มจนถึงไหม้เกรียม แล้วบดจนถึงเป็นผุยผง ต่อจากนั้นนำมาพอกรอบๆฟันที่ปวดแก้เสมหะ เสลดขาวเหลวปริมาณมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาภาวการณ์น้ำลายมากมาย อาเจียนเป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นรวมทั้งเกลือบางส่วน นำมาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยทำนุบำรุงฟันแล้วก็ป้องกันการเกิดฟันผุ
ช่วยกำจัดกลิ่นจั๊กกะแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาตีให้แหลก แล้วนำมาคั้นเอาน้ำมาทารักแร้เสมอๆ จะสามารถช่วยขจัดรอยคราบกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำจนถึงแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดราว 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลแดง เอามาตำจนเข้ากัน แล้วกิน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการอ้วก (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดราวๆ 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วโป้งมือ เอามาทุบให้แตกแล้วต้มกับน้ำกิน
ช่วยลดการอาเจียนอ้วกจากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงมีครรภ์ไม่สมควรกินบ่อยกระทั่งเกินความจำเป็น)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในลำไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาตีเพียงพอแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งเอาไว้ราวๆ 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้ออาหาร
ช่วยรักษาอาการปวดในตอนก่อนหรือหลังรอบเดือน ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วราว 30 กรัมมาต้มกับน้ำดื่มเป็นประจำ
ช่วยในการย่อยของกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ดอก)
ช่วยคุ้มครองการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับการขับถ่าย แล้วก็ช่วยในเรื่องของระบบไส้ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดเยี่ยว (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาเยี่ยวรดที่พักผ่อนในคนป่วยที่มีสภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ใบ)
[url=http://www.disthai.com/]ขิง
ช่วยรักษาอาการปวดข้อตามร่างกายด้วยการกินขิงสดบ่อยๆ
มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
ไขปัญหาหนังที่มือลอกเป็นขุย ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วนำมาแช่สุรา 1 ถ้วยชา ทิ้งเอาไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำแผ่นขิงมาเช็ดรอบๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นวันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมบริเวณหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว เอามาเผาเปลือกนอกจนเป็นถ่าน คอยปาดถ่านที่เปลือกนอกออกไปเรื่อยแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูเอามาทาบริเวณที่เป็นแผลถ้าหากว่าถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆนำมาวางทับบริเวณที่ถูกกัดจะช่วยทุเลาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง ฯลฯ ช่วยคุ้มครองป้องกันการแพ้อาหารทะเลจนถึงเกิดผื่นคัน ผื่นคัน หรืออาหารช็อกคุณประโยชน์ซึ่งมาจาขิง[/url]
ช่วยรักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกบริเวณแผล เพื่อป้องกันการอักเสบแล้วก็การเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันหืนในน้ำมันได้
ในด้านการประกอบอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสชาติของกินได้อย่างดีเยี่ยม และก็สามารถช่วยดับกลิ่นคาวของของกินเจริญอีกด้วย
ในด้านความงามนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งหน้าที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยทำให้ผิวพรรณเรียบเนียนยิ่งขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วนำมานวดรอบๆต้นขา ตูด หรือรอบๆที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความขรุขระของผิวได้อีกด้วย
สินค้าจากขิงนั้นนำมาดัดแปลงได้หลายแบบ ดังเช่น บัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว เป็นต้น
[/b]
กระบวนการทำน้ำขิง
วิธีทำน้ำขิงแนวทางการทำน้ำขิงขั้นตอนแรกให้เตรียมส่วนประกอบดังต่อไปนี้ ขิงแก่ 1 กิโล / น้ำตาล 1 ถ้วยตวง / น้ำที่สะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด เอามาตีให้แตก แล้วเอามาใส่ด้านในหม้อต้ม เพิ่มน้ำสะอาดลงไป เอาขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มกระทั่งน้ำเดือดแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยเบาไฟลง เคี่ยวราว 20 นาทีจนน้ำขิงละลายออกมาจนถึงหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วชูลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เติมน้ำตาลลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความปรารถนา) แล้วคนให้เข้ากัน
เป็นระเบียบเรียบร้อยและสามารถนำมากินได้ โดยเอามาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้ด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นควรเติมน้ำตาลมากกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากจนเกินความจำเป็น เนื่องจากว่ามีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำขิงที่คั้นมานั้นไม่สมควรใช้จำนวนที่เข้มข้นจนกระทั่งเกินไป เนื่องจากว่าจะมีอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้ เพราะเหตุว่าจะไปหยุดการบีบตัวของลำไส้ จนทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัว เพราะฉะนั้นควรจะคั้นในจำนวนน้อยๆหรือดื่มจนชินก่อน
เรามักจะรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นของกินที่นิยมประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการปรุงอาหารแล้วก็ทำเครื่องดื่ม ซึ่งจริงๆแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการเยียวยารักษาโรคต่างๆได้สารพัดสารพัน ถือได้ว่าตัวช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคได้อย่างยิ่งจริงๆ แม้กระนั้นดังนี้พวกเราก็ไม่ควรจะหวังพึ่งสรรพคุณของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับการเยียวยารักษาโรค ควรจะทำอย่างอื่นหรือดูแลสุขภาพของพวกเราร่วมด้วยจะได้ผลดีนักแล
เรามักนิยมใช้ขิงแก่ เนื่องจากว่ายิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน จึงมีคุณประโยชน์ทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน และก็ยังมีใยอาหารมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณลักษณะอุ่น ก็เลยไม่เหมาะกับคนที่มีความร้อนในร่างกายอยู่แล้ว เป็นต้นว่าคนที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกยามค่ำคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากยิ่งกว่าธรรมดา แม้กระนั้นหากจะกินควรระมัดระวังเป็นพิเศษ http://www.disthai.com/[/b]
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กระเทียม ที่เรารู้จักกันมีประโยชน์เเละสรรพคุณอย่างไร ?... เมื่อ: สิงหาคม 26, 2018, 03:29:20 pm
[/b]
กระเทีย[/size][/b]
สรรพคุณกระเทียม
ปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก็เลยเหมาะสมกับคนป่วยโรคเบาหวาน
บำรุงเลือด คุ้มครองป้องกันอาการโลหิตจาง
เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
ปกป้องโรคหัวใจ
ลดท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการได้ดิบได้ดีขึ้น
ช่วยขับลม แก้อาการจุดเสียดแน่นท้อง
คุ้มครองปกป้องหวัด ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ และลดการเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคมะเร็ง
chopped-garlicsiStock
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
กับ 10 ผลดีดีๆที่เราต้องการให้คุณทานทุกเมื่อเชื่อวัน
วิธีทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์
สารอัลลิซินในกระเทียมที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของพวกเรา ต้องผ่านการหั่น สับ ทุบ หรือบด ควรต้องหั่น สับ ตี หรือบดกระเทียมก่อนเอามาทำกับข้าว 5-10 นาที ขึ้นรถอัลลิซินนี้จะไม่สลายหายไปเมื่อถูกความร้อน ด้วยเหตุนี้จะทานสด หรือจะประกอบอาหารในน้ำมันก็ช่างเถิด
ปริมาณกระเทียมที่ควรจะทานต่อวัน
ในวัยผู้ใหญ่สามารถทานกระเทียมได้ประมาณ4 กรัมต่อวัน แต่ไม่สมควรทานมากเกินกว่านี้ต่อเนื่องกันเกิน 10 วัน เพราะจะเพิ่มการเสี่ยงสภาวะเลือดแข็งช้า  หรือเลือดไหลไม่หยุดเมื่อเกิดบาดแผล
วิธีเลือกซื้อกระเทียมมาปรุงอาหาร
ควรจะเลือกกระเทียมที่หัวแน่นๆไม่ฝ่อ เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน สด ไม่เน่า ไม่มีราขึ้น และแม้อยากได้รสของกระเทียมแบบแรงๆควรเลือกกระเทียมหัวเล็กๆ
ว่าแล้วอาหารมื้อต่อไปก็บอกให้คนปรุงอาหารพ่อครัวใส่กระเทียมลงไปในของกินให้ด้วยนะคะ แต่ระวังนิดหน่อย แม้ทานกระเทียมมากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด อาจมีลักษณะของการเจ็บคอตอนหลัง และก็อย่าลืมรอบคอบกลิ่นปากกันด้วยค่ะ ประเดี๋ยวจะกล่าวหาไม่เตือนนะ
ลักษณะทั่วไปของกระเทียม
กระเทียมเป็นพืชล้มลุกจำพวกรับประทานหัว ลำต้นสูง 1-2 ฟุต มีหัวลักษณะกลมแป้นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว ข้างนอกของหัวกระเทียมมีเปลือกบางๆหุ้มอยู่หลายชั้น ข้างในหัวประกอบแกนแข็งตรงกลาง ภายนอกเป็นกลีบเล็กๆจำนวน 10-20 กลีบ เนื้อกระเทียมในกลีบมีสีเหลืองอ่อนแล้วก็ใส  มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง มีกลิ่นฉุนจัด
ลำต้นแล้วก็หัวกระเทียมสด
แหล่งเพาะปลูก
กระเทียมสามารถปลูกได้ทั่วๆไปในทุกภาคของประเทศไทย แต่ว่านิยมนำมาปลูกกันมากมายทางภาคเหนือรวมทั้งภาคอีสาน เพราะว่ามีสภาพดินและก็สถานการณ์อากาศที่เหมาะอย่างยิ่งกว่าภาคอื่นๆทำให้กระเทียมเติบโตได้ดิบได้ดี ได้ผลผลิตสูงรวมทั้งมีรสชาติที่ดียิ่งกว่า
[/b]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กระเทีย[/b]เป็นไม้ล้มลุกและใหญ่ยาว สูง 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง มีหัวใต้ดิน2 ลักษณะกลมแป้น เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 เซนติเมตร มีแผ่นเยื่อสีขาวหรือสีม่วงอมชมพูหุ้มอยู่ 3-4 ชั้น ซึ่งลอกออกได้ แต่ละหัวมี 6-10 กลีบ กลีบมีต้นเหตุที่เกิดจากตาซอกใบของใบอ่อน ลำต้นลดรูปลงไปมาก ใบโดดเดี่ยว (Simple leaf) ขึ้นมาจากดิน เรียงซ้อนสลับ แบนเป็นแถบแคบ กว้าง 0.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 30-60 เซนติเมตร ปลายแหลมแบบ Acute ขอบเรียบและพับทบเป็นสันตลอดความยาวของใบ โคนแผ่เป็นแผ่นและก็เชื่อมติดกันเป็นวงห่อรอบใบที่อ่อนกว่าและก็ก้านช่อดอกก่อให้เกิดเป็นลำต้นเทียม ปลายใบสีเขียวรวมทั้งสีจะเบาๆจางลงตราบจนกระทั่งถึงโคนใบ ส่วนที่ห่อหัวอยู่มีสีขาวหรือขาวอมเขียว ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม (Umbel) ประกอบด้วยตะเกียงรูปไข่เล็กๆเยอะแยะอยู่ปะปนกับดอกขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนน้อย มีใบแต่งแต้มใหญ่ 1 ใบ ยาว 7.5-10 ซม. ลักษณะบาง ใส แห้ง เป็นจะงอยแหลมหุ้มช่อดอกในเวลาที่ยังตูมอยู่ แต่เมื่อช่อดอกบานใบตกแต่งจะเปิดอ้าออกและห้อยลงรองรับช่อดอกไว้ ก้านช่อดอกเป็นก้านโดด เรียบ รูปทรงกระบอกตัน ยาว 40-60 เซนติเมตร ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบรวม 6 กลีบ แยกจากกันหรือชิดกันที่โคน รูปใบหอกปลายแหลม ยาวประมาณ 4 มิลลิเมตร สีขาวหรือขาวอมชมพู เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดที่โคนกลีบรวม อับเรณูรวมทั้งก้านเกสรเพศเมียยื่นขึ้นมาสูงขึ้นมากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆของดอก รังไข่ 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1-2 เม็ด ผลเล็กเป็นกระเปาะสั้นๆรูปไข่หรือออกจะกลม มี 3 พู เมล็ดเล็ก สีดำ
ในประเทศไทยปลูกมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและก็ภาคเหนือ แต่กระเทียมที่มีชื่อเสียงว่าเป็นกระเทียมคุณภาพดี กลิ่นฉุน ยกตัวอย่างเช่นกระเทียมจากจังหวัดศรีสะเกศ
วิธีเลือกซื้อกระเทียม
การเลือกซื้อกระเทียมนั้น มีหลักพิจารณกล้วยๆเป็น เลือกกระเทียมที่หัวแน่น กลีบแน่น เปลือกบาง มีเนื้อสีเหลืองอ่อน สด แน่น ไม่ฝ่อและไม่มีเชื้อรา ที่สำคัญถ้าหากจำต้องปรุงอาหารที่ต้องการกลิ่นแรงๆจำต้องเลือกกระเทียมหัวเล็กเท่านั้น
กระเทียมสดคุณภาพดี
จะเห็นว่กระเทียม
มีประโยชน์และก็คุณประโยชน์มาก ถึงกระเทียมจะมีกลิ่นแรง แม้กระนั้นก้ไม่ยากเหลือเกินที่จะรับประทานครับผม ด้วยเหตุผลดังกล่าวอย่าลืมเพิ่ข้อควรคำนึงสำหรับการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังมีครรภ์หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมลูก การกินกระเทียมในช่วงการตั้งท้องออกจะไม่มีอันตรายแม้กินเป็นของกินหรือในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นบางทีอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การรับประทานกระเทีย[/b]ในจำนวนที่เหมาะสมรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่มีอันตรายสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนและระคาย
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองที่เดินของกินได้
คนที่มีความดันเลือดต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจจะก่อให้ระดับความดันเลือดลดลดลงมากกว่าปกติ
ผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 อาทิตย์เพราะว่าอาจส่งผลให้เลือดออกมากแล้วก็มีผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด แล้วก็คนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่สมควรกินกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เพราะว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ได้แก่ ไอโซไนอะสิด เนื่องจากกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและก็มีผลต่อประสิทธิภาพแนวทางการทำงานของยา รวมถึงไม่ควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b]ลงในเมนูอาหารของท่านครับผม สรรพคุณแล้วก็คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากกระเทียมนั้นเหลือร้ายจริงๆ [url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
[/b]

Tags : สมุนไพรกระเทียม
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรบัวบกมีสรรพคุณ-ประโยชน์ที่น่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 24, 2018, 03:26:02 pm
[/b]
บัวบ[/size][/b]
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในตระกูลผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพร[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก
มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ ฯลฯ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นแรง มีรสขมหวาน
เมื่อกล่าวถึงบัวบก สมุนไพรประเภทนี้ขึ้นมาทีไร คนจำนวนไม่น้อยคงนึกไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีคุณประโยชน์มากมายก่ายกอง เพราะได้รับการกล่าวขวัญเกี่ยวการรักษาโรคได้หลายอย่าง อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเดิน อาการท้องอืด แผลในกระเพาะ มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยบำรุงรักษาสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความเมื่อยล้าของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด อย่างเช่น บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ ตรีเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการอักเสบ รวมทั้งยังมีกรดมาดิแคสสิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม แล้วก็กรดอะมิโน เป็นต้นว่า แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสคราวดิน ฯลฯ
ใบบัวบกเหมาะกับคนที่ขี้ร้อน มีภาวะเข้มแข็ง หรือมีความร้อนเปียกชื้น เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบกคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบก
คุณประโยช์จากใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แม้กระนั้นหรูหราสารออกซาเลตที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในจำนวนต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุและก็วัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยเสริมสร้างและก็กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
มีสารต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
ประโยชน์ซึ่งมาจากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษาและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เนื่องจากว่าบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการกางใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นเอาแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยทำนุบำรุงประสาทและสมองเสมือนใบแปะก๊วย
ช่วยให้ความจำดียิ่งขึ้นและทำให้มีปฏิภาณความฉลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ช่วยเพิ่มความจำในคนสูงอายุ
เชื่อว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มความฉลาดทางสติปัญญา ความฉลาด และความสามารถสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจ
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยชะลออาการของโรคโรคสมองเสื่อมในคนวัยชรา สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจสำหรับในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดหัวฝ่ายเดียว
ช่วยแก้อาการหน้ามืดหัว
ช่วยความเครียดน้อยลง
ช่วยเสริมหลักการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ก็เลยช่วยบรรเทาและทำให้หลับง่ายขึ้น
ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีเพิ่มขึ้น
ช่วยกระตุ้นการผลิตเนื้อเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงเลือดภายในร่างกาย
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยให้จิตใจสดชื่น อารมณ์แจ่มใส
ช่วยให้ใบหน้าสดใสราวกับเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยทำนุบำรุงเสียง
ช่วยรักษาลักษณะของการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดราวๆ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบรับประทานบ่อยๆ
ช่วยแก้อยากดื่มน้ำสรรพคุณใบัวบก[/url]
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยต้านโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เจ็บป่วยเบาหวานก้าวหน้า
ช่วยรักษาโรคดีซ่านจากภาวการณ์ร้อนชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายกรวด 30 กรัม ต้มน้ำดื่ม
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยถนอมอาหารหืด
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วเอามาดื่ม หรือจะใช้บัวบกสดๆทั้งต้นราว 30 กรัมเอามาค้นเอาน้ำ เพิ่มน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มรับประทานประมาณ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะเริ่มต้น ด้วยการใช้บัวบกและก็เปลือกของลูกหมาก 1 ผล เอามาต้มกับเหล้าดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดระดับความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นเลือด และก็ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสมหะ
ช่วยแก้อาการหมดแรง อ่อนเพลีย
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา เพราะเหตุว่าทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกมาจากเส้นเลือดแล้วก็ยังทำให้เลือดเย็นอีกด้วย
ช่วยแก้อาการบอบช้ำใน บาดเจ็บจากการกระทบกระแทก
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยให้เจริญอาหาร รับประทานอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องร่วง
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์คุ้มครองแล้วก็ยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดผสมเมื่อขับถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะอาหารเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับฉี่
แก้อาการฉี่ติดขัด ด้วยการกางใบบัวบกประมาณ 50 กรัม เอามาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อฉี่คล่องแคล่วก็ดีค่อยเอาออก
ช่วยขับความร้อนเปียกชื้นทางเท้าฉี่ คุ้มครองปกป้องการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วฟุตบาทฉี่ด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำแช่ข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกมาจากเยี่ยว
ช่วยแก้อาการน้ำดีภายในร่างกายมากจนเกินความจำเป็น
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อโรคของเชื้อไวรัสตับอักเสบ
แก้ลักษณะของการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบเอามาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยเร่งการผลิตเนื้อเยื่อ
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วเอามาโปะรอบๆที่บวมช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกประมาณ 40 กรัม ต้มกับสุราแดงโดยประมาณ 250 cc. ราวๆ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำเอามาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกเอามาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆตัวอย่างเช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด ฝึกฝน ฯลฯ
ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้อย่างดีเยี่ยมและก็ใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาถอนพิษ ช่วยลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งยังต้นสดของบัวบกโดยประมาณ 3 ต้นเอามาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟเผา
บัวบกมีการเอามาผลิตเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีสรรพคุณสำหรับการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
ปัจจุบันนี้มีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในรูปแบบผงใช้โรยแผล รวมทั้งในแบบเป็นเม็ดกินเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และก็ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบและก็เถาบัวบกใช้รับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ ฯลฯ
น้ำคั้นจากใบบัวบกเอามาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ทาหัว มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงหนังศีรษะรวมทั้งเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ ขจัดปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัดสารพัน
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิวรวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการประยุกต์ใช้เพื่อเป็นส่วนผสมสำหรับในการผลิตเครื่องสำอาง
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นวัสดุปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนถึงละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วรอบๆหางตาหรือทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาทุกเมื่อเชื่อวันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้สร้างอ้างถึงว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้
[/b]
วิธีทำน้ำบัวบก
กระบวนการทำน้ำบัวบกแนวทางการทำน้ำบัวบก ควรที่จะเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า รับประทานเป็นผักสด โดยใช้รากนำมาล้างน้ำชำระล้าง
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนเอามาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำลำดับที่สองเพื่อได้ตัวยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรจะใช้น้ำที่สะอาด รวมทั้งห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองมิได้)
ข้างหลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกจะต้องคั้นใหม่ๆจากใบสดๆและไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าทำจากน้ำต้มใบเตย จะมีผลให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
คุณประโยชน์ของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน ช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่จะต้องตระเตรียมอาทิเช่น บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลานิดหน่อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้ในการทอด
นำบัวบกมาล้างจนกระทั่งสะอาดแล้วหั่นซอกซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เพิ่มเติมเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนให้เข้ากัน
เอามาทอดในไฟอ่อนจนถึงไข่สุก
คุณประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว และหน้ามืดหัว
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
เตรียมวัตถุดิบดังต่อไปนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบ / หอมแดงหั่นหยาบ / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นหยาบๆให้พอดีคำ
นำแป้งที่ใช้ในการทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย แล้วก็เกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นจัดเตรียมไว้ เอามาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักหลังจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว เอามาทอดให้พอเพียงเหลืองกรอบแล้วชูลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย นำมาจิ้มรับประทานกับน้ำจิ้มไก่ตามที่ใจต้องการได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้จัดแจงวัตถุดิบดังนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งสารพัดประโยชน์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาลทราย 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างชำระล้างแล้วหั่นให้ละเอียด โดยตัดก้านรวมทั้งใบออกมาจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบนำมาเรียงทับกันแล้วหั่นตามทางขวางและก็กลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งและก็ผงฟูมาร่อนผ่านตะแกรง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้เข้ากับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนถึงขึ้นฟู ราวๆ 1 นาที
ใส่ไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้ถูกกัน
ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละเล็กทีละน้อย (ทีละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งหมด) แล้วตีแป้งให้กับส่วนประกอบทั้งหมด
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันอีกที
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งจะต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่อยาก
ใช้เวลาอบราว 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิราวๆ 250 องศา หรือดูว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำมันบัวบก
ตระเตรียมส่วนประกอบดังนี้ บัวบก 4 กก. / น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำที่สะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เพิ่มเติมน้ำลงไปในบัวบก แล้วก็ค่อยนำไปปั่นจนถึงละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองมัวแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปต้มกับน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆราวๆ 80 องศาเซลเซียส
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนกระทั่งเหลือแต่น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าว โดยให้พิจารณาลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบเม็ดทราย นับว่าเป็นอันใช้ได้ ชูลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
วิธีใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้นำมาชโลมเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งเอาไว้ราว 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมยาสระผมตามธรรมดา เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
น้ำมันบัวบก คุณประโยชน์ช่วยบำรุงรักษาหนังหัวและก็เส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ ขจัดปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
การตักเตือนแล้วก็ข้อเสนอแนะ
คุณประโยชน์ของใบบัวบกการกินใบบัวบกคุณควรพินิจพิเคราะห์พื้นฐานของร่างกาย อย่าดูแม้กระนั้นคุณประโยชน์เพียงอย่างเดียว
บัวบไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องขึ้นบ่อยๆ
การรับประทานบัวบกในปริมาณที่มากเกินไป จะก่อให้ธาตุในร่างกา
[url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
[/b]
4  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สปอร์เห็ดหลินจือแดง-ส่วนที่มีคุณค่าที่สุดของเห็ดหลินจือ เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 02:37:24 pm
[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
สปอร์เห็ดหลินจือแดง-ส่วนที่ทรงคุณค่าที่สุดของเห็ดหลินจือ
เมื่อ ค.ศ 2005 บริษัทของเรามีจุดเริ่มขึ้นจากสิ่งที่มีความต้องการหาสมุนไพรคุณภาพสูงจากในหลายประเทศ จนตราบเท่าเราพบรวมทั้งมีส่วนร่วมกับบริษัทยยาของรัฐบาลจีน แล้วก็ได้ นำเข้าสปอร์[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
ประสิทธิภาพสูงตั้งแต่นั้นมา
นับ 10 กว่าปี ที่เราเป็นผู้ก่อตั้ง รวมทั้งเป็นผู้นำในด้านสปอร์เห็ดหลินจือแดงคุณภาพสูง คุณภาพเป็นหัวใจสำคุณของเรา สปอร์เห็ดหลินจือของพวกเรา จะถูกคัดสรรอย่างดีก่อนถึงมือบริโภค เห็ดหลินจือแดงที่เรานำเข้ามา ถูกเพาะด้วยแนวทางละเอียดลออ ทำให้ได้ตัวดอกเห็ดที่มีขนาดใหญ่มากกว่า
พวกเราใส่ใจรวมทั้งวิเคราะห์คุณภาพในทุกแนวทางการผลิตอย่างใกล้ชิด และก็ด้วยกระบวนการผลิตที่ดูแลอย่างยอดเยี่ยม ทำให้เราได้รับการยืนยันมาตฐาน GMP (GOOD Manufacturing Practice) ทุกล็อตที่เราผลิตออกมา จะได้รับการตรวจประสิทธิภาพจากห้องแล็ปในโรงหมอ
เพื่อคุณประโยชน์สูงสุดของท่านผู้ที่กำลังหาสินค้าเห็ดหลินจือมากิน
การค้นคว้าวิจัยยืนยันว่าการกินสปอร์เห็ดหลินจือจะได้ประสิทธิภาพที่ดีมากกว่าการทานดอก เพราะสปอร์มีสารออกฤทธิ์สำคัญมากกว่าและก็สปอร์ที่ถูกกระเทาะนั้น เปลือกหุ้มจะต้านทานโรคมะเร็ง และเสริมภูมิต้านทานได้ดีมากว่า เทียบกับแบบไม่ได้กระเทาะเปลือก
ที่พลาดไม่ได้ที่สุดเป็น.....
ท่านๆสามารถบริโภคเห็ดหลินจือได้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆโดยปลอดภัยใด อีกกด้วย เห็ดหลินจือมีมากมายว่า 100 สายพันธุ์แม้กระนั้นสายพันธุ์ที่มีคุณประโยชน์ทางยาดีเยี่ยมที่สุดคือเห็ดหลินจือแดง เนื่องจากสายพันธุ์นี้จะมีสารออกฤทธิ์กลุ่ม Polysaccharide อยู่อย่างยิ่งที่สุด
ส่วนท่านที่กำลังเลือกซื้อเห็ดหลินจือออกมาขายในท้องตลาดรูปแบบต่างๆเยอะแยะ อีกทั้งในรูปแบบดอกอบแห้ง แคปซูล น้ำเห็ดหลินจือ กาแฟเห็ดหลินจืออื่นๆอีกมากมาย
ด้วยเหตุดังกล่าวการจะเลือกซื้อเห็ดหลินจือให้ได้แบบที่มีคุณภาพดี ต้อง......
ดูตั้งแต่แนวทางการผลิต ว่าตัวเห็ดหลินจือนั้นได้รับการเลี้ยงที่สมควรหรือปล่าว เนื่องจากการควบคุมอณหภูเขาไม่ ความชื้น สารอาหาร แล้วก็กรรมวิธีการแปลรูปล้วนส่งผลต่อจำนวนสาระสำคัญในตัวเห็ดหลินจือ บรรจุภัณฑ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าเห็ดหลินจือจะขึ้นราได้ง่ายเมื่อโดนความชื้อ ด้วยเหตุนั้นตัวบรรจุภัณฑ์ควรต้องเลือกเป็นขวดที่กันความชื้อเจริญอีกด้วย
เห็ดหลินจือกับประโยชน์ต่อร่างกาย
เห็ดหลินจือ (Lingzihi หรือ  REISHI)มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า กาโนเดอร์ มา ลูซิดัม (Ganoderma Lucidum) เป็นเห็ดที่มีขนาดใหญ่ มีสีแก่มีผิวแวววาว มีลักษณะคล้ายไม้ แล้วก็มีรสขม มีประวัตศาสตร์ยาวนานในการใช้เห็ดหลินจือ เพื่อรักษาหรือบำรุงสุขภาพในประเทศแถบเอเซีย โดย เฉพาะเมืองจีนแล้วก็ญี่ปุ่น เพราะมั่นใจว่าสารประกอบด้านในเหลืดหลินจือมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในเห็ดหลินจือมีสารอาหารที่บางทีอาจส่งผลดีต่อสุขภาพมาก พวกเส้นใยต่างๆโปรตีนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและก็แร่บางชนิด เชเนแคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัสแมกนีเซียม เซเลเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี มองดูแดง สารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญ เย่างสเตียรอยด์(Steroids) เทอร์ไต่อยด์ (Terpenoide) นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides) ไกลวัวโปรตีน (Glycoproteins)พอลิแซ็กคาไรค์ (Polrsacchayides) และสารอนุพันธ์อื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดอะมิโนไลซีน (Lysine) รวมทั้งลิวซีน (Leucine)ดังนี้ มีบางบุคคลหรือในบางวัฒนธรรมนำเห็ดหลินจือมาเตรียมอาหารรวมทั้งแปรรูปเพื่อการบริโภคอย่างนานาประการ นักวิทยาศาสตร์จึงมีความสนใจแล้วก็นำเห็ดหลินจือมาทดลองหาประสิทธิผลทางการรักษารวมทั้งการบำรุงสุขภาพ เพื่อพิสูจน์ว่าเห็ดจำพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราจริงหรือไม่
[/b]
เห็ดหลินมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเป็นไปได้จริงหรือ?
มีการค้นคว้าทดลองมากเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณประโยชน์ที่บางทีอาจเป็นได้ของเห็ดหลินจือ
แม้กระนั้นในตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานหรือเครื่องพิสูจน์ด้านวิทยาศาสตร์แล้วก็การแพทย์ที่แจ่มกระจ่างถึงคุณลักษณะและก็คุณประโยชน์ที่บางทีอาจเป็นไปได้ของเห็ดหลินจือแต่ว่า ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานหรือสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่ชัดแจ้งถึงคุณสมบัติแล้วก็ประสิทธิผลด้านอะไรก็ตามดังนั้น ผู้บริโภคควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลของเห็ดหลินจือ ปริมาณแล้วก็กระบวนการบริโภคที่สมควร และก็ความจำกัดต่างๆรวมทั้งต้นสายปลายเหตุทางสุขภาพของตนให้ดีก่อนจะมีการบริโภค
แบบอย่างงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่เล่าเรียนเกี่ยวกับเห็ดหลินจือที่อาจมีผลต่อร่างกาย
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
งานศึกษาวิจัยหนึ่งได้ทดลองหาประสิทธิผลแล้วก็ความปลอดภัยของการบริโภคอาหารเสริมเห็ดหลืนจือในคนป่วย โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปริมาณ 32 ราย  ผลสรุปเป็น เห็ดหลินจืออาจมีคุณประโยชน์ในด้านการระงับลักษณะของการปวด ไม่เป็นอันตรายต่อการรับประทานเข้าสู่ร่างกายและไม่มีผลข้างๆ อย่างไรก็ดี กลับไม่ปรากฏผลที่มีความนัยสำคัญสำหรับการต้านทานปฎิกิริยาออกซิเดชัน การต้านการอักเสบ หรือผลของการปรับระบบภูมิคุ้มกันอะไร
เพิ่มสมรรถนะร่างกาย
มีการทดสอบที่ทดสอบคุณภาพของ[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ[/url][/color]ในด้านการเพิ่มสรรถภาพของร่างกาย โดยได้ ทดสอบในคนป่วยโรคปวดกล้ามไฟโปรไมอัลเจีย (Fibromyalgia)ผู้หญิงปริมาณ 64 ราย ตลอดเวลาการทดสอบ 6 สัปดาห์ คนป่วยบริโภคเห็ดหลินจือปริมาณ 6 กรัม/วัน ต่อจากนั้นจึงทดสอบสมรรถนะร่างกายของผู้เจ็บป่วย ผลของการทดสอบและวางแผนรักษาคนป่วยโรคนี้ถัดไป แต่ว่ายังคงขาดหลักฐานช่วยเหลือที่เด่นชัด ควรต้องมีการทำการวิจัยในด้าน เพื่อหาหลักฐานรวมทั้งเครื่องพิสูจน์ที่แนชัดถึงประสิทธิผลของเห็ดหลินจือถัดไป
ต้านทานการเกิดปฎิกิริยาขบวนการออกซิเดชัน และก็ป้องกันการทำลายเซลล์ตับ
จากการทดลองหาคุณภาพของสารไตรเทอร์พีนอยด์ (Trirpenoids)รวมทั้งโพลีแซ็กคาไรด์(Polysaccharide)ในเห็ดหลินจือในด้านการต้านการเกิดปฎิกิริยาขบวนการออกซิเดชัน และก็การป้องกันการทำลายเซลล์ตับในกลุ่มผู้ทดลองที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง 42 คน คำตอบทีแสดงถึงความสามารถของเห็ดหลินจือสำหรับในการช่วยต้านทานอนุมูลอิสระ แล้วก็ยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของตับ
อย่างไรก็ตาม เห็ดหลินจืออาจช่วยต้านทานปริกิรริยาออกซิเดชันได้ แต่การทดสอบดังกล่าวเป็นเพียงแค่การศึกษาวิจัยขนาดเล็ก ควรศึกษาเรียนรู้ถัดไปเพื่อหาหลักฐานและข้อพสจน์ที่แจ้งชัดที่แจ่มแจ้งถึงประสิทธิผลของเห็ดหลินจือ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย