[/b]
ราชพฤกษ[/size][/b]
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในสกุลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) แล้วก็อยู่ในวงศ์ย่อ
ราชพฤกษ์[/url] (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกและมักจะเขียนไม่ถูกหรือสะกดไม่ถูกเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น
คำว่า “ราชพฤกษ์” มีความหมายว่า “ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อสังสรรค์ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทยเมื่อปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อแนะนำแล้วก็สรุปให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ และสถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพินิจได้ผลสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติคือ “ศาลาไทย” และก็ในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุมีผลสำหรับเพื่อการเลือกดังต่อไปนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่ชาวไทยทั่วๆไปรู้จักกันอย่างมากมาย ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเจอได้ทั่วๆไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีความเกี่ยวข้องกับจารีตประเพณีคนไทยมาอย่างช้านาน เพราะว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนามแล้วก็ใช้สำหรับการประกอบพิธีหลักๆต่างๆหลายพิธี อาทิเช่น พิธีลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ได้อย่างนานัปการ เช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ อื่นๆอีกมากมาย
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานแล้วก็แข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีรูปทรงรวมทั้งพุ่มที่งดงาม มีดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น แลดูงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของชาติไทย เป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา และก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกจากนั้นตามตำราพืชที่มีความเป็นสิริมงคล 9 ประเภทยังระบุไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ ความมีอำนาจวาสนา มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคและอาการต่างๆโดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นคุณประโยชน์ทางยานั้น ยกตัวอย่างเช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก และก็เมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ได้อีกทั้งกับเด็ก สตรี รวมไปถึงคนวัยแก่ โดยไม่มีอันตรายอะไรก็แล้วแต่
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนถึงประเทศอินเดีย ประเทศพม่า รวมทั้งประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกึ่งกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาเกลี้ยง มักขึ้นทั่วๆไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเม็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกลงในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกเอาไว้ในพื้นที่ แต่ในปัจจุบันอาจจะใช้ขั้นตอนการทาบกิ่งและก็ทิ่มยอดก็ได้ แต่โอกาสสำเร็จจะน้อยกว่ากระบวนการเพาะเม็ด
ใบ
ราชพฤกษ์ (ใบคูน) รูปแบบของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นมัน ช่อหนึ่งยาวราว 2.5 ซม. แล้วก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆราวๆ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างราวๆ 5-7 เซนติเมตร และก็ยาวโดยประมาณ 9-15 ซม. โคนใบมนและก็สอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางเกลี้ยง มีเส้นแขนงใบถี่แล้วก็โค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวโดยประมาณ 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร กลีบมี 5 กลีบ หลุดตกได้ง่าย และกลีบดอกยาวกว่ากลีบรองดอกราวๆ 2-3 เท่า รวมทั้งมีกลีบรูปไข่ปริมาณ 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะมองเห็นเส้นกลีบกระจ่างแจ้ง ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดไม่เหมือนกันปริมาณ 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกมักจะบานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม แต่ว่าก็มีบางครั้งที่ออกดอกนอกฤดูเหมือนกัน ดังเช่น ในตอนธันวาคมถึงมกราคม
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูนผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกเกลี้ยงๆฝักยาวราว 20-60 ซม. รวมทั้งวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆติดกันอยู่เป็นช่องๆตามขวางของฝัก รวมทั้งในช่องจะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดราว 0.8-0.9 ซม.
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ช่วยทำนุบำรุงโลหิตภายในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นและก็ใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการกางใบอ่อนนำมาต้มกับน้ำ (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย มีกลิ่นเหม็นเหม็นเบื่อ เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการหิวน้ำ (ฝัก)
เปลือกเม็ดและเปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยถอนพิษ ทำให้คลื่นไส้ หรือจะใช้เม็ดประมาณ 5-6 เมล็ด นำมาบดเป็นผงแล้วรับประทานก็ได้ (เมล็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก และก็ใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้รวมทั้งหัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แก้อาการไม่มีชีวิตชีวา หนักหัว หนักตัว ทำให้สดชื่นทรวงอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
สรรพคุณราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งราว 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำกิน (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้ท้องผูก เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะอาการท้องผูกเป็นประจำและก็สตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่านิ้วโป้ง (หนักราวๆ 4 กรัม) และก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มก่อนอาหารรุ่งเช้าหรือช่วงก่อนนอนเพียงครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เม็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องเดิน (เมล็ด)
ช่วยหล่อลื่นไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและก็แผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เมล็ด)
สรรพคุณของ
ราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยให้เกิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เม็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ รวมทั้งน้ำตาล แล้วเอามากิน (เมล็ด)
ฝักรวมทั้งใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งราว 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำกิน (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสเฝื่อนฝาดเมา ช่วยขับรกที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
คุณประโยชน์ของคูน รากใช้แก้โรคคุดทะราด (ราก)
ใบสามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากนำมาฝนใช้ทารักษาขี้กลากโรคเกลื้อน และก็ใบอ่อนก็ใช้แก้กลากได้เช่นกัน (ราก, ใบ)
เปลือกรวมทั้งใบเอามาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผื่นผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกแล้วก็ใบเอามาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน คุณประโยชน์ของดอกช่วยแก้รอยแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ช่วยสมานรอยแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีสรรพคุณช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
คนแขกใช้ใบนำมาโขลก นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนรวมทั้งแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ราวๆ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยในการขจัดรอยคราบแมลงและหนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
นอกจากนั้นยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นสินค้าต่างๆจำนวนมาก เช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต แล้วก็ขจัดปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน และอบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะมองตามโรคแล้วก็ความต้องการเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกรอบๆที่เป็นจะช่วยทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาอาการปวดข้อ รักษาโรคเกาต์ แล้วก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้เจ็บป่วยที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งส่วน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาติดอยู่ ทำจากใบคูน สรรพคุณช่วยในด้านสมอง จัดการกับปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยให้ระบบไหลเวียนในร่างกาย ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มควบคู่ไปกับการดูแลรักษาแบบอื่นๆ
[/b]
ข้อควรพิจารณา !:กระบวนการทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอประมาณก็เลยจะได้ประสิทธิภาพที่ดี ถ้าต้มนานเกินไปหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่ว่าจะมีผลให้ท้องผูกแทน รวมทั้งควรที่จะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินไป รวมทั้งยาต้มที่ได้หากรับประทานมากจนเกินไปอาจจะก่อให้คลื่นไส้ได้
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากราชพฤกษ์นิยมปลูกไว้ฯลฯไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆเป็นต้นว่า สถานที่ราชการ รอบๆริมถนนข้างทาง รวมทั้งสถานที่อื่นๆ
ต้น
ราชพฤกษ์กับความศรัทธา ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนามที่คนประเทศไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรี ปัจจัยด้วยเหตุว่าคนให้การยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงรวมทั้งยังเป็นเครื่องหมายของเมืองไทยอีกด้วย และก็ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้อาศัยนั้นเจริญ โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และก็ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะเนื่องจากด้านดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วได้รับแสงอาทิตย์จัดในตอนช่วงบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนด้านในภายและช่วยประหยัดพลังงาน)
ต้น
ราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลแล้วก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา อย่างเช่น พิธีการวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์สำหรับการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ประสิทธิภาพที่ดีนัก ฯลฯ
เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆดังเช่นว่า ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลสำหรับในการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีพและก็จุลอินทรีย์ขยายได้
ฝักแก่สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเพื่อการหุงหาอาหารด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดเหมาะสม โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :เว็บไซต์ที่ทำการโครงงานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสาเหตุจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และก็พืชพันธุ์, เว็บไซต์ไทยโพส, สำนักงานปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, สำนักงานกองทุนเกื้อหนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
http://www.disthai.com/[/b]