กระทู้ล่าสุดของ: iottt20t5zxv4

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ไขมันส่วนเกิน ต้นเหตุของพุงและความอ้วน เมื่อ: กันยายน 30, 2018, 04:24:32 am
ไขมันส่วนเกิน สิ่งที่ทำให้เกิดพุงและก็ความอ้วน
พ.ค. 19, 2018  kungtep
ไขมันส่วนเกิน เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายหลายประเภท จำต้องรีบสลายไขมัน ขจัไขมันส่วนเกิน[/url]ออกไป มิฉะนั้นจะพบกับความอ้วน น้ำหนักตัวสูง รูปร่างอ้วนกลมบ๊อก เซลลูไลน์(cellulite)หนักอึ๊ง
ไขมันส่วนเกิ ที่มาของความอ้วน ต้องสลายไขมันออกไความอ้วน ทำให้บุคลิกเสีย ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
ปัญหาสุขภาพนับสิบนับร้อย ถือเป็นความรู้สึกกังวลใจอย่างหนึ่งในชีวิต เนื่องจากเมื่อได้เกิดการป่วยขึ้นมาแล้ว มันก็ย่อมทำให้เกิดผลกระทบตามมาต่อการดำนงชีพหลายอย่าง ไม่ว่าจะการทำงาน การพบปะผู้คน การประกอบกิจวัตรที่ทำเป็นประจำทุกวันต่างๆซึ่งเรื่องของปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องโรครุนแรงหรือเรื้อรังสิ่งเดียว แม้กระนั้นยังมีปัญหาสุขภาพในด้านของบุคลิกภาพลักษณ์ที่ส่งผลต่อความไม่มั่นใจในตัวเอง
 
ไขมันส่วนเกิน
ไขมันส่วนเกินสูง cr.adrianjamesnutrition.com
ทางแก้ไขมันส่วนเกินสูง อยากลดน้ำหนัก คุณทำเองได้
ปัญหาความอ้วน เซลลูไลท์มาก ไขมันภายในร่างกายสูง ซึ่งเกิดเรื่องที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทยเราปัจจุบันนี้ รวมถึงในอีกหลายประเทศทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้ และก็นับว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากในระดับหนึ่งเลย แต่ว่าก็เพียงพอมีแนวทางที่จะช่วยจัดแจงปัญหานี้ได้ ดังเช่น
ลดอาหารชนิดแป้งและน้ำตาล
ลดอาหารจำพวกที่เป็นอาหารทอด
ลดของกินที่มีไขมันสูง อย่างเช่น กลุ่ม เนื้อ ไก่
บริหารร่างกาย เพื่อ{เผาผลาญไขมัน|สลายไขมันส่วนเกิน
รับประทานน้ำให้มากมาย ขั้นต่ำวันละ 2 ลิตร
รับประทานผัก ผลไม้ เป็นอาหารหลัก ดังเช่น สลัด
ลดข้าวเย็น กินให้น้อยลง
อย่าให้ความอ้วน ไขมันส่วนเกิน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเรา
เพราะเหตุว่าเรื่องของความอ้วนไม่ใช่เรื่องที่จะจับมาล้อเลียนกันได้ง่ายๆเหมือนอย่างที่คนจำนวนไม่น้อยเคยทำกันมา ผู้ที่ล้ออาจรู้สึกสนุกสนาน และไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าการหัวเราะถูกใจ คิดแค่ขำๆหน่า แม้กระนั้นผู้ที่ถูกล้อนี่สิ คงไม่ขำด้วย เพราะว่าสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องตลกเอาเสียเลย แถมยังเกิดเรื่องที่รู้สึกอับอายในรูปภาพลักษณ์ที่ดูแย่ แปลกกว่าปกติทั่วๆไปด้วยซ้ำ บางคนที่ถูกล้อหนักๆบ่อยๆก็เก็บไปคิดมากกระทั่งเป็นความทุกข์ และสูญเสียความเชื่อมั่นและมั่นใจไปหมดทุกเรื่องในชีวิตเลยก็มี ไม่ใช่ว่าเขาเล่านั้นอยากอ้วนจนถูกล้อเลียนอย่างงี้หรอก แม้กระนั้นต้นแบบการใช้ชีวิตแต่ละคนมันหลีกเลี่ยงความอ้วนได้ยาก และก็คนจำนวนไม่น้อยก็อ้วนง่ายแม้กระนั้นลดยากเยอะมากไป จริงไหม ?

เส้นทางลัด ลดน้ำหนัก ลดหุ่น ลดไขมันส่วนเกิน
“ส้มแขก” สมุนไพรช่วยระบายไขมัน ขับความอ้วนออกไป บรรเทาท้องผูก สลายเซลลูไลน์(Cellulite) เมื่อมีปัญหาเรื่องความอ้วน [url=https://kungtep.com/]ไขมันส่วนเกิน
สูง ทดสอบการใช้

Tags : ไขมันส่วนเกิน
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรพญายอมีรูปร่างอย่างไรเเละสรรพคุณ-ประโยชน์ดีอย่างไร..?... เมื่อ: สิงหาคม 30, 2018, 02:18:26 pm
[/b]
[url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]พญายอ[/url]
พญายอเป็นไม้พุ่งปนเลื้อย เถารวมทั้งใบมีสีเขียวใบไม้ไม่มีหนาม ใบยาวเรียวปลายแหลม ออกตรงข้ามเป็นคู่ ดอกออกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3-6 ดอก กลีบดอกไม้เป็นดอกปลายแยกสีแดงอมส้ม
พญายอขึ้นได้งามในดินที่บริบูรณ์ แสงแดดปานกลาง พบได้บ่อยตามป่าในประเทศไทย หรือปลูกกันตามบ้าน ปลูกโดยใช้ลำต้นปักชำ เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ตัดกิ่งออกมาซัก 2-3 คืบ ปักขำให้รากออกมาดีแล้วก็ย้ายไปปลูกลงในแปลง ดูแลเหมือน พืชไม้ทั่วๆไป
ใบ เป็นยา ให้เก็บขนาดกลางที่บริบูรณ์ ไม่แก่ไหมอ่อนกระทั่งเหลือเกิน ใบของพญายอสามารถลดอาการักเสบของหูได้ดี โดยเฉพาะส่วนที่สกัดด้วยสารละลาย “บิวทานอล” ตระกูลสถิต ฉั่วกุล และภาควิชาได้เรียนรู้พบว่าสารสำคัญตัวหนึ่งเป็น “เฟลโม้นนอยต์” ส่วนด้านที่มีการต้านพิษงูยังไม่ชัดเจน แต่ว่าไม่มีอันตรายพอที่จะใช้
ใบพญายอรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่ (ปวด, บวม, แดง ร้อนแต่ไม่มีไข้) จากแมลงที่เป็นพิษกัดต่อย เช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน รักษาโดยการเอาใบสดจากพญายอนี้มาสัก 10-15 ใบ (มากมายน้อยตามรอบๆที่เป็น) ล้างให้สะอาด ใส่ลงในครกตำยา ตำอย่างระมัดระวัง เพิ่มเติมแอลกอฮอล์เพียงพอเปียกแฉะยา ตั้งทิ้งไว้ 1 อาทิตย์ หมั่นคนยาแต่ละวัน กรองน้ำยา ใช้น้ำ และก็กากทาบบริเวณที่เจ็บบวม หรือที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
พญายอ หรือ เสมหะพังพอน เนื่องจากเสมหะพังพอนมีหมดทั้งตัวผู้ละตัวเมีย แต่เพศผู้ไม่นิยมประยุกต์ใช้เพราะว่ามีฤทธิ์อ่อน และก็เพื่อไม่ให้งงงันจึงเรียกเสมหะพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ" โดยมากนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยจัดอยู่ในกรุ๊ปพืชถอนพิษ  “พญายอ” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาใช้ภายนอกรักษาข้างนอก มีคุณประโยชน์บรรเทาการอักเสบของผิวหนังได้ดิบได้ดี  มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส
คุณสมบัติของผงพญายอสำหรับในการบำรุงผิวพรรณ
- ใช้แก้สิวเม็ดผดผื่นคัน ด้วยการนำมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวและก็เม็ดผื่นผื่นคัน
- ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ผสมกับสุราใช้เป็นยาแก้ผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ผื่นคัน แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
- ใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก พญายอมีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อนได้ดี
- อีกตำราเรียนบอกว่านอกเหนือจากที่จะใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลยุ่ยเนื่องมาจากถูกแมงกะพรุนไฟ แผลสุนัขกัด และก็แผลที่เกิดขึ้นมาจากการถูกกรดได้อีกด้วย
- ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย นำมาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองเจริญ ทำให้แผลแห้งไว
- ใช้แก้ฝี ด้วยการผสมกับเกลือและก็เหล้า ใช้พอกรอบๆที่เป็น แปลงยาทุกรุ่งเช้ารวมทั้งเย็น
- ใช้เป็นยาขับพิษ ทำลายพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ยกตัวอย่างเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง ฯลฯ
- พญาย[/color]ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังประเภทเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ไฟลามทุ่ง รวมทั้งใช้เป็นยาทำลายพิษต่างๆเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลรวมทั้งเอากากพอกบริเวณแผล
- มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ ลดการอักเสบ สามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้
- มีฤทธิ์ลดความเจ็บปวด ช่วยลดลักษณะของการปวด
- มีฤทธิ์ต้านไวรัสเจริญและไม่เป็นพิษต่อเซลล์
[url=http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2]
[/b]
วิธีการพอกขัดผิวด้วยผงพญายอ

  • ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้ารวมทั้งเช็ดถูเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนกรรมวิธีการขัดพอกผิว
  • ใช้ผสมกับน้ำที่สะอาด (หรือ ผงสมุนไพรอื่นๆน้ำผึ้ง นม หรือโยเกิร์ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ)
  • สามารถใช้พอกหรือขัดได้อีกทั้งผิวหน้าแล้วก็ผิวกาย เสมอๆ อาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง

     - สำหรับผิวหน้า พญายอแม้เป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาด ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลุกลามไปทั่วใบหน้า รวมทั้งเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวหน้ามากจนเกินไป พอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที
     - ถ้าหากใช้ขัด (สำหรับผู้ที่ไม่เป็นสิว รวมทั้งผิวกาย) ให้ขัดให้เบามือที่สุด ประมาณเพียงแค่ลูบพากเพียรจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด และให้ขัดเพียงแค่ 5 นาทีก็พอเพียงที่สารสำคัญจะออกฤทธิ์แล้ว เมื่อครบ 5 นาทีให้พอกทิ้งไว้กระทั่งแห้ง (อาจใช้ช่วงเวลาพอกทิ้งไว้ราว 15 นาที)

  • พญายอ ภายหลังจากแห้งแล้ว ให้ทำความสะอาดโดยการล้างด้วยน้ำปกติ (ไม่ควรใช้น้ำอุ่น) ล้างแบบเบาที่สุดหรือให้เปิดฝักบัวเบาๆแล้วหลังจากนั้นก็ปลดปล่อยให้น้ำรดผ่านผิวไปสัก 2-3 นาที แล้วก็ใช้ฝ่ามือลูบให้เบาที่สุด โดยใช้แนวทางล้างเดียวกับการขัดหน้า คือ พากเพียรจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย
  • ล้างหน้าเสร็จแล้ว ดูดซับหน้าให้แห้ง

Tip  เพื่อการบำรุงที่มากขึ้น เมื่อพอกหรือขัดผิวด้วยผงสมุนไพรแล้ว ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำดื่มธรรมดาในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเสมอกัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆทั่วบริเวณใบหน้าสักบางส่วน ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออก เพื่อเป็นการคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและกระจ่างขาวใส มองอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้น http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเสลดพังพอน (พญายอ)
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ตะไคร้สามารถนำมาทำอะไรได้บ้างเเละมีสรรพคุณประโยชน์อย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 09:53:24 am
[/b]
ตะไคร้บ้า[/size][/b]
ตะไคร้ คุณประโยชน์
"[url=http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89]ตะไคร้
" (Lemongrass) เป็นสมุนไพรก้นครัวที่พวกเรารู้จักแล้วก็รู้จักดีกันมานาน เนื่องจากว่าในของกินไทยหลากหลายประเภทมักใส่ตะไคร้ลงไปยอดเยี่ยมในเครื่องปรุงด้วยเสมอ อาทิเช่น ต้มยำ ต้มข่าไก่ ยำ น้ำพริกต่างๆช่วยเพิ่มรสชาติรวมทั้งคุณประโยชน์ให้กับอาหาร ส่งกลิ่นหอมเชื้อเชิญกิน จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในอาหารพวกนี้ นอกจากยังมีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะตัวจากน้ำมันหอมระเหย ทำใหตะไคร้[/url]ถูกใช้ประโยชน์เป็นกลิ่นในสินค้าเพื่อสุขภาพจำนวนมาก อีกทั้งน้ำมันหอยระเหย น้ำมันทาตัว ยาจุดกันยุง สบู่ต่างๆ
ตะไคร้ จัดเป็นไม้ล้มลุกที่จัดอยู่ในวงศ์ต้นหญ้า มีหลากหลายชนิด เว้นเสียแต่นำไปทำครัวแล้วและก็ทำเป็นยาสมุนไพรแล้ว ตะไคร้บางประเภทยังช่วยไล่ยุงมดแมลงได้อีกด้วย ก็เลยจัดเป็นพืชผักสวนครัวที่อยู่คู่กับชาวไทยมาช้านาน หลายบ้านจึงนิยมนำมาปลูกเอาไว้ในบ้าน จะใช้เมื่อไหร่ก็ตัดมาใช้ได้โดยทันที
ตะไคร้จัดเป็นสมุนไพรที่หลบซ่อนคุณค่าไว้ล้นหลาม ด้วยเหตุว่าเป็นทั้งของกินและก็ยารักษาโรค มีวิตามินแล้วก็แร่ที่มีประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส รวมทั้งโฟเลต ประสิทธิภาพคับแก้วขนาดนี้เกลียดตะไคร้ทดลองเปลี่ยนความคิดกันใหม่ หันมาถูกใจตะไคร้ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ประโยชน์เยอะแยะแน่ๆ
ตะไคร้หอมไล่ยุงได้ใช่หรือ?
ในตะไคร้หอม มีน้ำมันหอยละเหยอยู่ซึ่งมีฤทธิ์ในการป้องกันแมลงได้ โดยครีมที่มีส่วนผสมจากน้ำมันหอมละเหยในตะไคร้สามารถคุ้มครองยุงลาย ยุงก้นปล่อง รวมทั้งยุงเบื่อหน่ายกัดได้ นอกนั้นยังฤทธิ์สำหรับในการกำจัดลูกน้ำยุงได้อีกด้วย
นอกจากยุงแล้ว สารสกัดจากตะไคร้หอมยังช่วยคุ้มครองปกป้องแมลงประเภทอื่น อาทิเช่น ถ้าผสมสารสกัดตะไคร้กับสะเดาจะมีผลช่วยลดเพลี้ยอ่อนและก็หนอนเจาะฝักซึ่งเป็นศัตรูของถั่วค้าง ส่วนแชมพูที่มีส่วนผสมจากตะไคร้หอม สามารถฆ่าเห็บหมัดในสัตว์เลี้ยงได้
ลักษณะ
ลำต้นรูปทรงกระบอก แข็ง หมดจด ตามปล้องมักมีไขปกปะทุลม เหง้า มีข้อแล้วก็ปล้องสั้นมากมาย กาบใบสีขาวนวล หรือสีขาวผสมม่วง รสปร่า  มีกลิ่นหอมยวนใจเฉพาะ
สรรพคุณ
– อีกทั้งต้น : ใช้เป็นยารักษาโรคหือหอบ แก้เจ็บท้อง ขับปัสสาวะ รวมทั้งแก้อหิวาต์ ยิ่งไปกว่านี้ยังใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น รักษาโรคได้ เป็นต้นว่า บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และก็ขับเหงื่อ
– ใบ : ช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้
– ราก : ใช้เป็นยาปรับปรุง ปวดท้อง ท้องร่วง
– ต้น : ใช้เป็นยาขับลม ยาแก้ไม่อยากกินอาหาร แก้โรคทางเท้าฉี่ นิ่ว เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้รุ่งโรจน์ ยิ่งไปกว่านี้ยังใช้ขจัดกลิ่นคาวได้ด้วย
– น้ำมัน : มีฤทธิ์ต้นเชื้อรา แล้วก็มีกลิ่นไล่สุนัขและก็แมว
แบบเรียนยาไทย : ต้น รสหอมปร่า ขับลม ลดอาการท้องอืดท้องอืดท้องเฟ้อแน่นจุกเสียด แก้อาการเกร็ง ขับเหงื่อ แก้โรคฟุตบาทฉี่ แก้อาการขัดเบา แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้เจริญอาหาร ลดระดับความดันโลหิต เหง้า แก้เบื่ออาหาร บำรุงไฟธาตุ แก้กระษัย ขับลมในไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะขัด แก้ฉี่พิการ แก้นิ่ว เป็นยารักษาเกลื้อน แก้ไข้หวัด ขับรอบเดือน ขับระดูขาว ใช้ด้านนอกทาแก้ลักษณะของการปวดบวมตามข้อ
ตะไคร้หอม
ตะไคร้ สรรพคุณ
ลักษณะ
ลำต้นเป็นข้อๆใบรูปขอบขนานปลายแหลม ใบยาวกว่าตะไคร้บ้าน รูปแบบของใบกว้าง 5-20 มม. ยาวราว 50-100 ซม. แผ่นใบแคบ ยาว แล้วก็นุ่มกว่าตะไคร้บ้าน มีสีเขียว ผิวเนียน แล้วก็มีกลิ่นหอมเบื่อ ก้านใบเป็นกาบทับกันแน่นสีเขียวคละเคล้าม่วงแดง รากฝอยแตกออกจากโคน ต้นแล้วก็ใบมีกลิ่นฉุนจนรับประทานเป็นของกินไม่ได้ ต้น มีรสปร่า ร้อนขม
[/b]
สรรพคุณ
– ทั้งยังต้น : ใช้เป็นยาแก้ปากแตกระแหง แก้ริดสีดวงในปาก ขับลมในไส้ แก้แน่น ขับโลหิตประจำเดือน มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเรียบบีบตัว ไม่เหมาะสมกับสตรีมีครรภ์ เพราะว่าถ้าหากทานเข้าไป อาจจะเป็นผลให้แท้งได้
– ใบ : ใช้เป็นยาคุมกำเนิด ชำระล้างไส้ ไม่ให้เกิดซาง
– ราก : แก้ลมจิตรวาด หัวใจ กระวนกระวายใจ เพ้อเจ้อ
– ต้น : แก้ลมพานไส้ แก้ธาตุ แก้เลือดลมผิดปกติ
– น้ำมัน : ใช้ทาคุ้มครองป้องกันยุง มีฤทธิ์ไล่แมลง แล้วก็ใช้รักษาโรคเห็บหมา
ตำราเรียนยาไทย : ใช้ เหง้า เป็นยาบีบมดลูก ทำให้แท้งบุตรได้ คนท้องห้ามกิน นอกเหนือจากนั้นยังใช้ขับระดู ขับปัสสาวะ ขับระดูขาว ขับลมในไส้ แก้แน่น แก้แผลในปาก แก้ตานซางในลิ้นและก็ปาก บำรุงไฟธาตุ แก้ไข้ แก้อาเจียน แก้ริดสีดวงตา แก้ธาตุ แก้เลือดลมเปลี่ยนไปจากปกติ
เหง้า ใบ และก็กาบ เอามากลั่นได้น้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นเครื่องหอม อาทิเช่น สบู่ หรือพ่นทาผิวหนังกันยุง แมลง อีกทั้งต้น มีรสปร่า ร้อนขม แก้ริดสีดวงในปาก
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้
– น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้บ้าน ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว เบิกบานใจ ทำให้กระปรี้กระเปร่า ความเครียดน้อยลง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยสำหรับการย่อยอาหาร ช่วยเจริญอาหาร บรรเทาลักษณะของการปวดโรคข้ออักเสบ ปวดกล้าม
-น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากใบตะไคร้ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี แล้วก็ช่วยลดการบีบตัวของไส้ได้
ข้อควรระวัง
ตะไคร้มีฤทธิ์ที่จะช่วยขับโลหิต ทำให้มดลูกบีบตัว ห้ามใช้กับหญิงมีท้องเนื่องจากอาจทำให้แท้งได้
4  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ทับทิมสามารถนำมาทำเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้เป็นอย่างดี เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 09:51:33 am

ทับทิ[/size][/b]
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีที่ผลไม้ มีประโยชน์ทั้งยังต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีแห่งผลไม้ มีคุณประโยชน์ทั้งยังต้น
อัปเดตล่าสุดช่วงวันที่ พฤษภาคม 3, 2018 โดยประมาณเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์บทความนี้
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิม
เป็นผลไม่ที่นิยมรับประทานกันมากมาย แล้วก็ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณประโยชน์ที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีที่ผลไม้ กล่าวกันว่าทับทิมนั้นคือผลไม้ที่ถูกนำมาใช้ในแวดวงแพทย์มาแล้วนับพันปี ในตอนนี้ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาปลูก รวมทั้งกินกันทั้งโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย ดูได้จากร้านขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่เกือบจะมีอยู่ตามถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
ประโยช์จากทับทิมมีมากมายก่ายกอง ทั้งในเรื่องของสารอาหาร แล้วก็การคุ้มครองป้องกันโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียงแต่ 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงปริมาณร้อยละ 40 ของปริมาณที่พวกเราอยากได้ในหนึ่งวัน (สำหรับคนแก่) ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงในระดับนี้จึงมีสรรพคุณสำหรับการลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ
การรับประทานทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยทำให้ผิวพรรณของเราดูสดใส เนื่องจากว่าทับทิมสำเร็จถึงที่กะไว้มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยสำหรับการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของพวกเรา แล้วก็ด้วยจำนวนวิตามินซีที่สูงก็เลยช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างใส ยิ่งกว่านั้นเรายังสามารถใช้น้ำทับทิมราว 1 ช้อนชา ทาบริเวณบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้มองเต่งตึงมากขึ้นได้อีกด้วย ประโยชน์ในข้อนี้ของทับทิมสามารถยืนยันได้จากการที่ในตอนนี้ มีเครื่องแต่งหน้าหรือครีมหลากหลายประเภทได้นำทับทิมไปเป็นส่วนประกอบ
เส้นเลือดและหัวใจ
ในทางการแพทย์มีการศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่าทับทิม มีสรรพคุณช่วยสำหรับเพื่อการทำให้การไหลเวียนของโลหิตดียิ่งขึ้น ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนเจ็บโรคหัวใจ นอกจากนั้นยังพบว่าคนที่มีความดันโลหิตสูง เมื่อรับประทานน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดระดับความดันโลหิตได้จำนวนร้อยละ 5 ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดมะเร็ง
ด้วยเหตุว่าเป็นผลไม้ที่มีค่าการต้านอนุมูลอิสระที่สูง จึงช่วยลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยพบว่า การกินทับทิมช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งถึง 13ช นิด รวมทั้งยังสามารถช่วยทำลายเซลล์ของโรคมะเร็งในหลอดอาหาร แล้วก็ไส้ได้อีกด้วย
ผลดีอื่นๆของทับทิม
เว้นแต่สรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยทุเลาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์ ช่วยทำให้ปรับสมดุลในวัยหมดระดู ลดการเสี่ยงในการเป็นโรคสูญเสียความจำในคนแก่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดการเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน คุ้มครองปกป้องการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ ลดการตกขาว เรียกได้ว่ามีคุณประโยชน์ล้นหลามจริง
 เว้นเสียแต่ส่วนที่พวกเรานิยมกินกันอย่างเมล็ดแล้ว ส่วนประกอบอื่นของทับทิมก็มีคุณประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งที่ยังไม่ตายยาและสมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำมาจากใบสามารถช่วยบรรเทาอาการผมตกได้อย่างยอดเยี่ยม
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเราใช้รักษา แผลหิด กากเกลื้อน มีสรรพคุณเกี่ยวกับการรักษาโรคในทางเดินของกิน อย่างเช่นรักษาอาการท้องเดินได้
เปลือกของลำต้น และก็ราก: สามารถเอามาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยนำมาผสมกับกานพลู และบางทีอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำประมาณสามถ้วย มีคุณประโยชน์สำหรับในการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีสรรพคุณในการสมานแผล และบรรเทาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม้ที่เป็นประโยชน์ในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่เพียงเมล็ด หรือน้ทับทิม[/url] จึงไม่ประหลาดใจเลยที่ทับทิมจะได้รับฉายานามว่า "ราชชินีที่ผลไม้"
โรคแล้วก็อาการอื่นๆตัวอย่างเช่น โรคเส้นโลหิตหัวใจ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เจ็บกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย กรุ๊ปอาการอ้วนลงพุง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแสงอาทิตย์ การติดเชื้อทริวัวโมแนส (Trichomoniasis) ท้องร่วง โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง และอื่นๆยังควรต้องทำการค้นคว้าศึกษาค้นคว้าเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับความสามารถรวมทั้งความปลอดภัยของทับทิมสำหรับการรักษาโรค
ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยปกติการรับประทานน้ำทับทิมค่อนข้างจะมีความปลอดภัย แต่ว่าในบางรายที่มีลักษณะแพ้ผลสดของทับทิมบางทีอาจเกิดผลใกล้กันจากการดื่มน้ำทับทิมได้
รากทับทิมประกอบด้วยสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย การกินรากและก็ลำต้นของทับทิมในปริมาณมากอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมออกจะปลอดภัยสำหรับในการกินหรือประยุกต์ใช้กับผิวหนัง แม้กระนั้นอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้เล็กน้อยในบางราย เป็นต้นว่า อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจติดขัด
การกินน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงมีท้องหรืออยู่ในตอนให้นมลูก แต่ว่ายังไม่มีรายงานรับรองความปลอดภัยในการรับประทานหรือใช้ทับทิมในแบบอื่น ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากทับทิม จำเป็นต้องหารือหมอก่อนที่จะมีการรับประทานทุกหน
น้ำทับทิมอาจส่งผลให้ความดันโลหิตลดลดลงบางส่วน ซึ่งอาจทำให้ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะความดันต่ำอาการแย่ลง
[/b]
คนที่มีลักษณะอาการแพ้จากพิษพืชอาจมีการเสี่ยงที่จะกำเนิดอาการแพ้จากการกินทับทิม
คนป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานทับทิมอย่างต่ำ 2 อาทิตย์ เนื่องมาจากทับทิมส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง จึงอาจกระทบต่อความดันโลหิตในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังหลังการผ่าตัด
การรับประทานทับทิมควบคู่กับยาบางชนิดอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา อาทิเช่น ยาที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome ชนิด P450 2D6 หรือจำพวก P450 3A4 ยาลดระดับความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาโรสุวาสแตว่ากล่าวน คนที่กินยาเสมอๆหรือมีโรคประจำตัวควรขอคำแนะนำหมอก่อนการกินเพื่อให้เกิดความปลอดภัย http://www.disthai.com/[/b]
5  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ทับทิม รู้หรือไม่ว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ-ประโยชน์มากอย่างน่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 08, 2018, 04:54:06 pm
[/b]
ทับทิ[/size][/b]
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิ[/b] เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือทับทิม
ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรทับทิม
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย