กระทู้ล่าสุดของ: uudoi015xc54

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ไขมันส่วนเกิน ต้นเหตุของพุงและความอ้วน เมื่อ: กันยายน 16, 2018, 11:12:22 am
ไขมันส่วนเกิน ที่มาของท้องแล้วก็ความอ้วน
เดือนพฤษภาคม 19, 2018  kungtep
ไขมันส่วนเกิน เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายหลายประเภท ต้องรีบเผาผลาญไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินออกไป มิฉะนั้นจะเจอกับความอ้วน น้ำหนักตัวสูง รูปร่างอ้วนกลมบ๊อก เซลลูไลน์(cellulite)หนักอึ๊ง
ไขมันส่วนเกิ สาเหตุของความอ้วน จำต้องเผาผลาญไขมันออกไความอ้วน ทำให้ลักษณะท่าทางเสีย ขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง
ปัญหาสุขภาพนับสิบนับร้อย นับว่าเป็นความไม่สาบายใจอย่างหนึ่งในชีวิต เพราะเหตุว่าเมื่อได้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว มันก็ย่อมมีผลกระทบตามมาต่อการดำรงชีวิตหลายประเภท ไม่ว่าจะการทำงาน การพบปะผู้คน การประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆซึ่งเรื่องของปัญหาสุขภาพในขณะนี้นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องโรครุนแรงหรือเรื้อรังอย่างเดียว แต่ว่ายังมีปัญหาสุขภาพในด้านของบุคลิกลักษณะลักษณ์ที่ส่งผลต่อความไม่มั่นใจในตัวเอง
 
ไขมันส่วนเกิน
ไขมันส่วนเกินสูง cr.adrianjamesnutrition.com
วิธีแก้ไขมันส่วนเกินสูง อยากลดหุ่น คุณทำเองได้
ปัญหาความอ้วน เซลลูไลท์มาก ไขมันภายในร่างกายสูง ซึ่งเกิดเรื่องที่มักพบในสังคมไทยพวกเราทุกวันนี้ รวมถึงในอีกหลายประเทศทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้ รวมทั้งนับว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากในระดับหนึ่งเลย แต่ว่าก็พอเพียงมีแนวทางที่จะช่วยจัดการปัญหานี้ได้ อย่างเช่น
ลดอาหารประเภทแป้งรวมทั้งน้ำตาล
ลดอาหารประเภททอด
ลดอาหารที่มีไขมันสูง ได้แก่ กลุ่ม เนื้อ ไก่
ออกกำลังกาย เพื่อ{เผาผลาญไขมัน|สลายไขมันส่วนเกิน
กินน้ำให้มากมาย อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
กินผัก ผลไม้ เป็นอาหารหลัก ดังเช่นว่า สลัด
ลดข้าวเย็น รับประทานให้น้อยลง
อย่าให้ความอ้วน ไขมันส่วนเกิน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
เพราะเรื่องของความอ้วนไม่ใช่เรื่องที่จะถือมาล้อเลียนกันได้ง่ายๆราวกับอย่างที่ผู้คนจำนวนมากเคยทำกันมา คนที่ล้อบางทีอาจรู้สึกสนุก และไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าการหัวเราะถูกใจ คิดเพียงแค่ขำๆหน่า แม้กระนั้นผู้ที่ถูกล้อนี่สิ คงจะไม่ขำด้วย เนื่องจากว่าสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องขำขันเอาเสียเลย แถมยังเป็นเรื่องที่รู้สึกอับอายขายหน้าในรูปภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดี แปลกกว่าธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ บางคนที่ถูกล้อหนักๆบ่อยๆก็เก็บไปคิดมากจนกระทั่งเป็นความทุกข์ และสูญเสียความแน่ใจไปหมดทุกเรื่องในชีวิตเลยก็มี ไม่ใช่ว่าเขาเล่านั้นอยากอ้วนจนถูกล้อเลียนแบบงี้หรอก แต่แบบอย่างการใช้ชีวิตแต่ละคนมันหลบหลีกความอ้วนได้ยาก แล้วก็คนจำนวนไม่น้อยก็อ้วนง่ายแต่ว่าลดยากมากไม่น้อยเลยทีเดียวไป จริงไหม ?

ทางลัด ลดน้ำหนัก ลดหุ่น ลดไขมันส่วนเกิน
“ส้มแขก” สมุนไพรช่วยระบายไขมัน ขับความอ้วนออกไป ทุเลาอาการท้องผูก สลายเซลลูไลน์(Cellulite) เมื่อมีปัญหาเรื่องความอ้วน [url=https://kungtep.com/][url=https://kungtep.com/]ไขมันส่วนเกิน
[/url]สูง ทดลองใช้
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ เมื่อ: สิงหาคม 24, 2018, 04:05:52 pm
[/b]
[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก[/url]
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบอินเดีย แอฟริกา และเอเซียอาคเนย์ ใบแล้วก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของประเทศอินเดียแล้วก็จีนมาอย่างนาน ใช้รักษาหลายโรค อย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน แล้วก็ยังเอามาเข้าครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่หลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติเตียนก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และกรดมาดีคาสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายประเภท เช่น ทุเลาอาการอักเสบ ถ้าเกิดใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันเลือดในหลอดเลือดดำ แล้วก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีต้นเหตุจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีความเชื่อว่าถ้าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับในการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีสาเหตุมาจากการตั้งท้อง แต่ว่าหลักฐานหรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันความเชื่อถือ สรรพคุณ แล้วก็ความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับการรักษาโรคกลุ่มนี้
การรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงแล้วก็สร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวข้อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด มีผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับแต่งการไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนี้ ยังมีการศึกษาเล่าเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่เกี่ยวเนื่อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนไข้ที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก รวมทั้งอาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แต่จากการค้นคว้าวิจัยระบุว่าบทสรุปข้างต้นต้องตีความด้วยความระมัดระวังเนื่องมาจากข้อกำหนดต่างๆของการค้นคว้า แล้วก็ยังควรต้องเรียนเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับเพื่อการประเมินสมรรถนะการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานสนับสนุนน้อยเกินไป
โรคเส้นเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับการลดปริมาณไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกรุ๊ปหนึ่งกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกรุ๊ปไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัคร 2 กรุ๊ปไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่ว่าในกรุ๊ปที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดต่ำลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอและขาลดลง รวมถึงรูปแบบของพลัคทั้งยังความหนาแล้วก็ความยาวก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งยังยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ แล้วก็มีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เนื่องจากว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งยังน้อยเกินไป จึงจะต้องศึกษาต่อไป
ปกป้องลิ่มเลือด การกินใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีสาเหตุมาจากการขึ้นรถเรือบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาแนะนำว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่ขึ้นรถเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ ยังไม่เป็นที่กระจ่างแจ้งว่าการเล่าเรียนชิ้นนี้จะคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด ด้วยเหตุว่าหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่พอ ก็เลยจึงควรศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในคนป่วยเบาหวาน งานศึกษาค้นคว้าวิจัยหนึ่งให้คนเจ็บเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยปริมาณ 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นส่วนสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่หลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนเลือดยังไม่เพียงพอ จึงต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับประสิทธิภาพรวมทั้งผลกระทบของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนไข้เบาหวานจำนวน 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารเอเชียติวัวไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม และอีกกลุ่มกินยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลข้างหลังมื้อของกินวันละ 3 ครั้ง และมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนเจ็บที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีสมรรถนะสำหรับในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลข้างๆ แม้กระนั้นเพราะว่าหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังน้อยเกินไป จึงจำต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ดังเช่น เอเชียติเตียนวัวไซด์ กรดเอเชียตำหนิก มาเดแคสโซไซด์ รวมทั้งกรดมาดีคาสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายในร่างกายและอาจมีความสามารถสำหรับการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลเป็นแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งได้เสนอแนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ตลอดนาน 6-8 สัปดาห์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดรอยแผลได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่เนื่องจากว่าหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลยังน้อยเกินไป ก็เลยควรต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการตั้งท้อง ได้มีการค้นคว้าวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน เสมอๆทุกวี่ทุกวันในตอน 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงตั้งครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจทำให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แต่ว่าเพราะว่าหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ลดความไม่สบายใจ การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการกลัดกลุ้มและความรู้สึกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต่อต้านความรู้สึกไม่สบายใจ ช่วยลดความตึงเครียด แม้กระนั้นยังคงจะต้องเล่าเรียนเพิ่มเติมถัดไปถึงความสามารถของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคตื่นตระหนก
โรคและก็อาการอื่นๆเป็นต้นว่า ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การตำหนิดเชื้อฟุตบาทเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังควรต้องศึกษาค้นคว้าหาความสามารถแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับการรักษาถัดไป
[/b]
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์พอเพียงที่จะช่วยเหลือถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งยังต่อเด็ก คุณแม่ หรือลูกในท้อง
การกินใบบัวบกอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดความเสียหายต่อตับ ดังนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรกินใบบัวบก เพราะว่าอาจก่อให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมทั้งไม่สมควรกินใบบัวบกร่วมกับยาที่ส่งผลต่อตับในกลุ่มเหล่านี้ ดังเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติเตียนน เป็นต้น
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจจะทำให้รู้สึกอยากนอนได้มากกว่าธรรมดา หรือหากรับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความไม่สบายใจน้อยลง อย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และก็โซลพิเดม
ควรหยุดกินใบบัวบกอย่างต่ำ 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้เพื่อการผ่าตัดรวมทั้งอาจทำให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรจะหารือหมอก่อนกินใบบัวบก ถ้าหากอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุว่าอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงปรารถนาแม้กินใบบัวบกในระหว่างการดูแลและรักษาของผู้เจ็บป่วยโรคกังวล คนป่วยโรคเบาหวาน คนที่หรูหราคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาคลายความกลุ้มใจ รวมทั้งผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจจะทำให้กดประสาทมากขึ้น http://www.disthai.com/[/b]
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ เมื่อ: สิงหาคม 06, 2018, 05:36:07 pm
[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะอย่างไรนี่ เรากำลังดูหนังการศึกอยู่หรอ ไม่ขอรับ บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงข้าศึกบุก แต่หมายถึงหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก และก็ที่จำต้องหนี ไม่ใช่คนใดกันไหน แต่เป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในขณะนี้อย่างโรคอ้วน โรคเบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นเป็น หัวบุก ทีแรกเรื่องของบุกในเมืองไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมเสมือนปัจจุบันนี้ด้วยเหตุว่าจริงๆตอนแรกมันก็เป็นพืชพื้นบ้านอยู่ดี  คนภายในแคว้นก็นำบุกมาปรุงอาหาร เสมือนเผือก ราวกับมันทั่วไปพอเพียงเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยแปลงเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นต้นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก รวมทั้งอื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงไม่ช้าเกินไปที่จะนำทุกท่านมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นซาตาน  น่าสยดสยองนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อสกุล    ARACEAE
ชื่อตามแคว้น  :  บุกปะทุงคก (จังหวัดชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (จังหวัดปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
พวกเราพบบุกเหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ชายป่า รวมทั้งบางครั้งบางคราวก็พบตามพื้นที่ ปลูกข้าว ดังเช่นที่ปทุมธานี และก็นนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกชนิด แต่จะเจริญวัยได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินซึ่งร่วนซุย น้ำไม่ขังแล้วก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
รูปแบบของต้นบุก
ลักษณะของต้น บุก แสดงให้เห็นองค์ประกอบคือใบบุก แล้วก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ชนิดเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กมากยิ่งกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แม้กระนั้นบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษต่างกันออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมอาหารของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเหมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางจำพวกมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือครั้งคราวบุกบางจำพวกก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานัปการมาก  แต่ที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกคือ จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่บาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม ด้วยเหตุนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายต้นแบบขึ้นกับชนิดของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าโค แต่ละชนิดมีขนาด สี และก็รูป ทรงไม่เหมือนกัน บางประเภทมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเหมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกประเภทอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกลางหัวบุก เช่นเดียวกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แม้กระนั้นบุกสามารถมีดอกได้ในตอน เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่เต็มที่ ของดอกที่จะติดผลก็ต่างกัน
 ผลบุ[/b](อย่างวยงงกับหัวบุกนะ ) ภายหลังดอก ผสมพันธุ์ก็จะเกิดผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง พอเพียงอายุ ได้ 1-2 เดือน จะมีผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายคล้ายผลกล้วย ผล ของบุกส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แม้กระนั้นเม็ดด้านในต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางจำพวกก็มีเม็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81]
[/b]
บุกกับการนำมาปรุงอาหาร
เป็นพืชของกินพื้นเมืองซึ่งชาวไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ท่อนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวาบุก[/url] แกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วนำมานึ่งรับประทานกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนภูเขา มักเอามา ปิ้งกิน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปทำเป็นของว่าง
*บุกมีหลายชนิดหลายจำพวก บางทีอาจขมและก็มีพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ในขณะที่ก้านใบและก็หัว ซึ่งอาจจะก่อให้คัน ก่อนนำมาทำอาหารจำเป็นต้องต้มซะก่อน มิเช่นนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากแล้วก็ลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง อีกทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งเป็นสินค้าดัดแปลงจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าคนไหนกันเคยไปรับประทานเนื้อย่างคงเคยพบบ้าง นอกเหนือจากเส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยก่อน คือ เจเล่ ผสมผงบุก ถ้าจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (ผู้ครอบครองบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาด้วยครับผม)
สรรพคุณของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 จำพวกหมายถึงดี-เดกซ์โทรส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ว่าร่างกายสลายตัวได้ยาก ดูดซึมได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมากมาย ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินงานดี คนที่อยากลดหุ่นนิยมกินอาหารจากแป้งบุก ได้แก่ วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เนื่องจากกินอิ่มได้ ระบายท้อง แม้กระนั้นไม่ทำให้อ้วน
นอกจากนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะความรั้ง ซึ่งยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส ด้วยเหตุนั้น กลูวัวแมนแนนช่วยลดน้ำตาลได้ดิบได้ดีมากมาย เดี๋ยวนี้จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคเบาหวาน รวมทั้งสำหรับคนเจ็บเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละนะครับเป็นประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ สมัยปัจจุบันไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว ชี้แนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับ รับประกันอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุรไพรบุก
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย