กระทู้ล่าสุดของ: waanbotan_

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / ผ่อนบ้านคนเดียวไม่ไหว แนะนำสินเชื่อกู้บ้านร่วม กู้อย่างไรให้ผ่านฉลุย เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2024, 04:54:45 pm
หากรู้จักกับการกู้ร่วมซื้อบ้าน เป็นการที่หลายคนร่วมกันทำสัญญาซื้อบ้าน ทำให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะความสามารถในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่มีมากขึ้น รวมถึงการมีผู้กู้หลายคนทำให้มีการกระจายความเสี่ยงของการชำระหนี้ และยังได้เงินก้อนที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย

   การ กู้บ้านร่วม กันถึงแม้จะมีข้อดี แต่สำหรับผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วมมีข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้รวมกันดังนี้
การ กู้ร่วมซื้อบ้าน หมายถึงการรับภาระหนี้ร่วมกัน ไม่ใช่รับภาระหนี้โดยการหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ ดังนั้นเมื่อมีการค้างชำระหนี้ธนาคารสามารถเรียกชำระหนี้จากผู้กู้คนใดคนหนึ่งได้
สิทธิลดหย่อนทางภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ ซึ่งแตกต่างจากภาระหนี้ที่ไม่หารเฉลี่ย
กรรมสิทธิ์ในบ้านที่กู้สามารถระบุเป็นชื่อของผู้กู้คนใดคนหนึ่งหรือผู้กู้ทุกคนร่วมกัน กรณีที่ระบุชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านมากกว่าหนึ่งคน เมื่อต้องการโอนหรือขายจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ทุกคนจึงจะสามารถดำเนินการได้
เมื่อผู้กู้ร่วมเสียชีวิต ธนาคารจะพิจารณาให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกเป็นผู้ชำระหนี้ร่วมกัน
เมื่อผู้กู้ถอน การกู้ร่วม เช่น สามีภรรยาที่หย่าร้างกัน หรือผู้กู้ร่วมมีเรื่องไม่พอใจกัน เมื่อมีการถอนกู้ร่วม ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยของผู้กู้ร่วมที่เหลือจากนั้นทำการรีไฟแนนซ์ กรณีที่ผู้กู้ร่วมไม่สามารถชำระหนี้ได้จำเป็นต้องขายบ้านหลังนั้นไป
   
   โดยเงื่อนไขของผู้กู้ร่วม คือ ต้องเป็นญาติซึ่งมีนามสกุลเดียวกัน กรณีที่ผู้กู้ร่วมมีการเปลี่ยนนามสกุลจำเป็นต้องแสดงหลักฐาน เช่น สูติบัตร หรือทะเบียนบ้าน หรือถ้าเป็นคู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะต้องแสดงรูปภาพงานแต่งงานหรือหนังสือรับรองบุตร
   
   เอกสารการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมีดังต่อไปนี้
เอกสารส่วนบุคคล
บัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบมรณบัตร เอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุล และเอกสารอื่นเพื่อยืนยันสถานะทางครอบครัว
เอกสารทางการเงินสำหรับพนักงานประจำ
หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน
สมุดบัญชีธนาคาร รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
เอกสารทางการเงินสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือธุรกิจส่วนตัว
หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาทะเบียนการค้า
หลักฐานรายได้และสินทรัพย์
บัญชีเงินฝาก รายการเดินบัญชีเงินฝากกระแสรายวันย้อนหลัง 6 - 12 เดือน
เอกสารหลักประกัน
สัญญาจะซื้อจะขาย
สำเนาโฉนด หรือสำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด
   
แนะนำว่าควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ กู้บ้านร่วม ผ่อนบ้าน กรุงไทย กรณีที่ไม่ต้องการพบปัญหาระหว่างการผ่อนชำระหนี้อาจใช้เวลาเก็บเงินให้มากขึ้นหรือเลือกราคาบ้านที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระเงินกู้ รีไฟแนนซ์บ้าน กรุงไทยแทนการกู้ร่วม ศึกษาข้อมูลผ่อนบ้าน   เพิ่มเติมที่ [url=http://sawasdmarket.com/view/822755/3-ขั้นตอนช่วยลดดอกเบี้ยค่าบ้าน]http://sawasdmarket.com/view/822755/3-ขั้นตอนช่วยลดดอกเบี้ยค่าบ้า
2  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / เงินน้อยลงทุนอะไรดี ความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้กำไรสูงและถูกกฎหมาย เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2024, 11:56:07 pm
การมีรายได้แค่ทางเดียว วันใดที่เราล้มเชื่อว่าแรกกระแทกจะแรงแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพเศรษฐกิจอย่างในปัจจุบันที่มีแต่ความไม่แน่นอน คนที่ทำงานมาเป็นสิบปีก็ถูกเลิกจ้างได้ง่าย ๆ  ด้วยเหตุนี้หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะแบ่งเงินเก็บส่วนหนึ่งไปลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังคิดไม่ออกว่า เงินน้อยลงทุนอะไรดี วันนี้มีช่องทางการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้กำไรสูงมาฝากกัน

ฝากเงินแบบดอกเบี้ยสูง
หากใครที่ไม่ชอบความเสี่ยงเลย แนะนำให้เปิด “บัญชีฝากประจำ” เพราะจะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าฝากแบบออมทรัพย์ แต่ก็มีข้อที่ต้องพิจารณาคือให้ผลตอบแทนค่อนข้างน้อยและต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ผลตอบแทน
สลากออมทรัพย์
      มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี ความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ต้องนี่เลย “สลากออมทรัพย์” ข้อดีคือใช้เงินลงทุนน้อย เงินต้นจะไม่หาย (หากไม่ไถ่ถอนก่อนครบ 3 เดือน) ได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด และยังได้ลุ้นรางวัลทุกงวด หากถูกรางวัลใหญ่ก็กลายเป็นเศรษฐีได้ง่าย ๆ แต่ก็มีข้อที่ต้องพิจารณาคือผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยค่อนข้างน้อย หากไม่ถูกรางวัลเลยก็อาจจะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
กองทุนรวม
“กองทุนรวม” คือ การให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากร่วมกันระดมทุนเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ และได้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล เช่น กองทุนตลาดเงิน, กองทุนตราสารหนี้, กองทุนตราสาร
3  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / รู้จักดอกเบี้ยบ้านให้ดีขึ้น พร้อมแชร์เทคนิคผ่อนบ้านหมดไว กู้ได้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2024, 04:33:45 pm
การกู้ซื้อบ้าน/คอนโดถือเป็นสินเชื่อก้อนโตของใครหลาย ๆ คน การเลือกซื้อหาบ้าน/คอนโดที่ตรงตามความต้องการว่าใช้เวลานานแล้ว เมื่อเทียบกับการตัดสินใจเลือกสินเชื่อบ้านก็อาจใช้เวลานานไม่แพ้กัน ส่วนหนึ่งเพราะโปรโมชันสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคารมีความแตกต่างกัน อีกส่วนที่สำคัญคือลักษณะหรือคุณสมบัติที่เรามีอยู่จะสามารถเลือกสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยได้ต่ำมากที่สุดแค่ไหน และควรกู้สินเชื่อกับธนาคารใดจึงจะคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

การจะเลือกสินเชื่อบ้านให้ได้ดอกเบี้ยต่ำผู้กู้จำเป็นต้องรู้จัก ดอกเบี้ยบ้าน ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เสียก่อน เริ่มจากประเภท ดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลอยตัว
ดอกเบี้ยคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ที่ทางธนาคารกำหนดตายตัวไว้ตั้งแต่ต้น เช่น ธนาคาร A กำหนดให้ผู้กู้ ผ่อนบ้านกับธนาคาร ในอัตราดอกเบี้ย 1.99% ในช่วง 3 ปีแรก
ดอกเบี้ยลอยตัว คือ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ที่ทางธนาคารกำหนดโดยยึดโยงกับ MRR (Minimum Retail Rate) ซึ่งประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ธนาคาร A คิดอัตราดอกเบี้ย 1.99% ในช่วง 3 ปีแรก สำหรับปีที่ 4 เป็นต้นไปกำหนดให้ผู้กู้ ผ่อนบ้านกับธนาคาร ในอัตราดอกเบี้ย MRR-1.50% ซึ่งหากปีที่ 4 ของการผ่อนชำระหนี้บ้าน MRR ประกาศอยู่ที่ 6.5% ก็เท่ากับผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 5% ต่อปีนั่นเอง
และแม้ว่า ดอกเบี้ยกู้บ้าน จะถูกแบ่งออกเป็นดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของ ดอกเบี้ยกู้บ้าน ก็คือการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ดังนั้นหากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไวกว่ากำหนดผู้กู้สามารถใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือใช้หลายวิธีร่วมกันได้ ดังนี้
ชำระเกินค่างวด เช่น ค่างวดกำหนดที่ 5,000 บาทต่อเดือน ผู้กู้สามารถชำระเกินค่างวดเป็น 8,000 บาท หรือ 10,000 บาทเป็นประจำก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ผู้กู้ผ่อนบ้านหมดไวกว่ากำหนดโดยไม่กระทบกับสภาพคล่องและไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในคราวเดียว
นำเงินก้อนมาโปะหนี้บ้าน เช่น ได้เงินก้อนจากการขายที่ดินแปลงหนึ่งมา 300,000 บาท ต้องการแบ่งมาโปะหนี้บ้าน 100,000 บาท ก็สามารถจ่ายพร้อมค่างวดบ้านได้เลย ส่วนต่างจากดอกเบี้ยจะถูกนำไปลดต้น ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดไวกว่ากำหนดในสัญญาแน่นอน
ทำเรื่องขอลดดอกเบี้ย (Retention) เช่น ผู้กู้ได้ทำเรื่อง กู้เงินทำบ้าน กับธนาคารแห่งหนึ่ง ผ่อนชำระครบ 3 ปีแล้ว ในสัญญาระบุว่าเมื่อผ่อนชำระครบ 3 ปี ผู้กู้จะสามารถปิดบัญชีหนี้ได้โดยไม่เสียค่าปรับ แต่ผู้กู้ไม่สะดวกทำรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่น ในกรณีนี้ผู้กู้สามารถทำเรื่องขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมที่ผ่อนอยู่ได้ โดยทางธนาคารจะมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขกำหนดไว้ หากคุณสมบัติของผู้กู้ตรงกับเงื่อนไขดังกล่าวก็สามารถยื่นขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมได้
ทำเรื่องรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารอื่นเพื่อรับอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า  [url=https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1553]รีไฟแนนซ์บ้านคืออ
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย