กระทู้ล่าสุดของ: cavalry-x

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ตำนานสาว Rokurokubi เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 04:25:57 pm


    Rokurokubi  เป็นประเภทของญี่ปุ่น yōkai (ผี) พวกมันดูเหมือนมนุษย์เกือบทั้งหมดที่มีความแตกต่างกันสองอย่าง มีประเภทหนึ่งที่คอเหยียดและอีกประเภทหนึ่งที่หัวแยกออกและบินไปมาอย่างอิสระ ( nukekubi ) สาวคอยาวปรากฏในคลาสสิก Kaidan (นิทานจิตวิญญาณ) และ yōkaiงาน มีการเสนอแนะว่าความคิดของ rokurokubiอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความบันเทิงล้วนๆโดยกำเนิดจากความเชื่อหรือตำนานพื้นบ้าน พวก nukekubi คือ rokurokubi ซึ่งหัวออกมาแล้วลอยไป นี่เป็นครั้งสุดท้ายของ rokurokubi ในขณะที่อีกประเภทหนึ่งมาก่อน  Nukekubi บางครั้งก็ทำสิ่งเลวร้ายเช่นโจมตีตอนกลางคืนและดื่มเลือดของเหยื่อ มันมีทฤษฎีว่า nukekubi มีจุดอ่อนเมื่อหลับและหัวลอยอยู่รอบ ๆ : หากร่างกายเคลื่อนไหวแล้วศีรษะก็ไม่สามารถรวมตัวกันใหม่ในร่างกายได้ วรรณกรรมคลาสสิกเกี่ยวกับ rokurokubi บรรยายเรื่องราวของผู้คนที่เห็นและเผชิญหน้ากับหัวที่ลอยอยู่ในเวลากลางคืน  บางครั้งการกระทำของศีรษะที่แยกออกจากร่างกายถูกมองว่าเป็นวิญญาณที่หลงทางไปจากร่างกายนั่นคืออาการง่วงซึม (somnambulism) ยกตัวอย่างเช่นในSorori Monogatari  2206 ซีอี)

     ในบทความคิดของผู้หญิงคนหนึ่งเดินป่าคิดไปรอบ ๆ (On , Onna no Mōnen Mayoiaruku Koto ) หัวที่แยกออกจากร่างกายตีความว่าเป็น วิญญาณของผู้หญิงคนนั้นหลงขณะหลับ ในหนังสือเล่มเดียวกันชายคนหนึ่งเห็นนูกุคาบิที่เปลี่ยนเป็นลูกไก่และหัวของผู้หญิงดังนั้นเขาจึงเอาดาบของเขาและไล่ล่าหัว หัวหนีเข้าไปในบ้านและผู้คนบอกว่าพวกเขาได้ยินเสียงจากข้างในพูดว่า "ฉันมีความฝันที่น่ากลัวฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งไล่ล่าด้วยดาบฉันวิ่งหนีกลับบ้านแล้วก็ตื่นขึ้นมา"  เรื่องราวที่แตกต่างกันปรากฏใน Shokoku Hyaku Monogatari (1677 CE) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากมายจาก Sorori Monogatari ในเกี่ยวกับ Rokurokubi ในจังหวัด Echizen ( ซึ่งเป็นวิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งที่แยกตัวออกจากร่างกายของเธอ) Echizen no Kuni Fuchū Rokurokubi no Kotoมีเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ไล่ล่า nukekubi บ้าน. มันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นได้รับความละอายจากอาชญากรรมที่เธอทำดังนั้นเธอจึงทิ้งสามีโกนผมและฆ่าตัวตาย  Hokusō Sadan (1910 CE) เป็นบทความเกี่ยวกับสมัยเอโดะโดย Tachibana Nankei  ที่นี่เช่นกันมันถูกตีความว่าเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในวิญญาณที่แยกออก มีเรื่องเล่ากันในปีแรกของการKanseiในEchigo จังหวัด (ตอนนี้จังหวัดฟุกุอิ ) มีบ้านสาวใช้ที่มีหัวรีดออกหมอนขณะที่เธอกำลังนอนหลับออกจากร่างกาย ต่อมาในเรื่องนี้มีการอธิบายว่ามันไม่ได้เป็นหัวจริง ๆ แต่เป็นวิญญาณที่ทำให้ดูเหมือนศีรษะ  ในKokon Hyaku Monogatari Hyōban (1686 CE) หนังสือเรื่องผีที่อธิบายเรื่องราวyōkaiโดยYamaoka Genrinมีบทหนึ่งที่เรียกว่าพระสงฆ์ Zetsugan เห็น Rokurokubi ใน Higo  ในจังหวัด Higo (ปัจจุบันคือจังหวัด Kumamoto) หัวหน้าภรรยาของเจ้าของโรงแรมออกจากร่างกายแล้วลอยขึ้นไปในอากาศ มันกลับมาเป็นปกติในวันรุ่งขึ้น แต่มีเส้นรอบคอของเธอ ผู้เขียนอ้างถึงตัวอย่างจากหนังสือจีนแล้ววิจารณ์ "สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มักจะเห็นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียง แต่ จำกัด การสร้างสวรรค์และโลกมันยากที่จะเข้าใจพวกเขาด้วยสามัญสำนึกเช่น เป็นความคิดที่ว่า octopi ไม่มีตาและสิ่งเหล่านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนในเมืองหลวงทุกสิ่งแปลก ๆ อยู่ในดินแดนที่ห่างไกล " ในหนังสือเล่มเดียวกันมีเป็นเรื่องราวที่บอกของผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้าน Tawa, ที่Nagao , Ōkawaอำเภอ , จังหวัดคะงะวะ (ตอนนี้Sanuki) ใครคือ rokurokubi และมีรอยช้ำคล้ายวงแหวนรอบคอของเธอ  ในChuryō Manroku  เป็นเรื่องเล่าที่บรรยายถึง "หมู่บ้าน Rokurokubi"

สนับสนุนบทความโดย Allforbet.com
เว็บ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด

     ในซอกของMount Yoshinoที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยทุกคนรวมถึงเด็ก ๆ สวมผ้าพันคอเพื่อปกปิดริ้วรอยรอบคอของพวกเขา  ในKasshi Yawa แคลิฟอร์เนีย 1821 CE) โดยMatsura Seizanเป็นเรื่องราวที่เล่าถึงผู้หญิงในจังหวัดฮิตาชิที่ป่วยเป็นโรค คนเร่ขายของบอกสามีว่าตับของสุนัขสีขาวจะรักษาเธอ สามีฆ่าสุนัขสัตว์เลี้ยงและให้ตับแก่สุนัขของเขาเป็นยารักษาโรค ผู้หญิงนั้นหายขาด แต่ลูกสาวที่เกิดครั้งต่อไปของเธอคือโรคุโรโคบี เมื่อหัวของ roukorkobi หลุดและบินไปในอากาศสุนัขสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นมากัดหัวและฆ่า rokurokobi  แม้ว่า rokurokubi และ nukekubi มักเป็นเพศหญิงในShousai Hikki เรื่องราวสมัยเอโดะมี nukekubi ที่เป็นเพศชาย นักบวชกำลังหลับอยู่ในวิหารของเขาเมื่อมีหัวปรากฏขึ้นและเข้าหาหน้าอก เขาคว้ามันแล้วโยนมันทิ้งและทิ้งมันไว้ ในตอนเช้าคนรับใช้ขอให้ออกไปและเมื่อถูกถามว่าทำไมคนรับใช้จึงถามว่า "มีหัวหน้ามาเยี่ยมเมื่อคืนไหม?" นักบวชตอบว่าใช่ผู้รับใช้นั้นก็อธิบายว่า "ฉันมีอาการป่วยเป็น nukekubi และฉันกลัวว่ามันจะรบกวนการทำงานของฉันมากเกินไปนับจากนี้ไป" ผู้รับใช้ไปที่บ้านของเขาในจังหวัดShimōsaที่ซึ่ง "ความเจ็บป่วย" นี้คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา  ในเรียงความMimibukuroโดยNegishi Shizumoriผู้หญิงที่ถูกลือว่าเป็น rokurokubi แต่งงาน แต่ก็สามารถดำเนินชีวิตได้ดีเนื่องจากข่าวลือไม่มีอะไรมากไปกว่าข่าวลือ เธอไม่ใช่ rokurokubi จริง ๆ แล้วเธอประสบความสำเร็จอย่างมีความสุขซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับนิทานเกี่ยวกับ rokurokubi เพราะโชคร้ายมักส่งผลเมื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริงของ rokurokubi ในสารานุกรมสมัยเอโดะWakan Sansai Zue Rokuokubi เหมือนสิ่งมีชีวิตจากตำนานจีนถูกอธิบาย พวกเขาเขียนเป็น หมายถึงหัวป่าเถื่อนที่บินได้ พวกเขาใช้หูเหมือนปีกและกินแมลง คนจากจีนและญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นชาวต่างชาติ  nukekubi ชาวต่างชาติที่ยังปรากฏอยู่ในสาวคอยาวโดยLafcadio เฮิร์น ในเรื่องราวของเขาวิญญาณสวมหน้ากากเป็นครอบครัวของคนตัดไม้จากเมืองที่ฆ่าและกินนักท่องเที่ยว
2  Sitemap SMB / SMB Privilegecard / ผีแม่หม้ายเฮี้ยน เมื่อ: มิถุนายน 15, 2020, 03:27:13 pm



    เรื่องนี้ส่งมาจากคุณเนมครับ คุณเนมเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีมาแล้ว ผมเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิด แต่เรื่องราวไม่ได้เกิดที่หาดใหญ่หรอกนะครับ คือที่บ้านผมส่วนใหญ่จะรับราชการกันหมด ช่วงนั้นลุงของผมต้องเดินทางไปรับตำแหน่งบริหารใหม่บนเกาะแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล ค่อนข้างมีความเจริญ เพราะเป็นตำบลที่มีเกาะท่องเที่ยวอยู่มาก ซึ่งแน่นอนว่าลุงผมก็จะต้องหาบ้านพักครับ บ้านพักของสำนักงานก็เต็มหมดแล้ว เลยต้องเช่าบ้านข้างนอก ก็ไปเจอบ้านหลังหนึ่งสภาพใช้ได้ แต่ว่าอยู่ในสวนยางพารา ห่างไกลจากบ้านหลังอื่นพอสมควร แต่ที่น่าตกใจคือราคาเช่าเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ลุงเลยตกลงเช่าไปครับ วันแรกที่ลุงย้ายไปอยู่ ก็ไปส่งกันหลายคนครับ นอนกันที่นั่นเลย เพียงแค่คืนแรกก็มีเหตุต้อนรับเลยล่ะครับ พอฟ้าเริ่มมืดไฟในบ้านก็ดับหมดเลย ลุงผมเลยออกไปดู (แกเป็น ผอ.กองช่างในสมัยนั้นครับ เลยมีความรู้เรื่องช่างพอตัว) ก็ปรากฏว่าทุกอย่างปกติดีไม่มีอะไรเสียแต่ไฟมันไม่ติดเอาดื้อๆ คืนนั้นก็เลยต้องจุดเทียนนอนกันครับ ที่แปลกคือ พอตื่นเช้ามาไฟก็ติด ทีวีก็เปิดตามปกติครับ เหตุการณ์มันก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยมา

     แต่ที่เป็นหนักๆ คือไฟห้องน้ำครับ มันจะติดๆ ดับๆ พอจะเปิดใช้ดันดับ พอจะปิดก็ดันติดขึ้นมา แต่ลุงผมก็ไม่อะไร ยังพอรับได้อยู่ ทีนี้พอช่วงปิดเทอม ผมก็ไปเที่ยวหาลุงครับ สัญญาณมือถือผมก็ปกติมาตลอด แต่พอถึงบ้านหลังนี้ สัญญาณก็หายไปดื้อๆ ครับ ผมก็ได้แต่ทำใจ ไม่มีมือถือเล่น (สมัยนั้นติดบีบีมาก) วันแรกผ่านไปก็ไม่มีอะไรครับ แต่พอวันที่ 2 นี่ล่ะ กลางวันแสกๆ เลยครับ ระหว่างที่ผมเปิดทีวีดู จำได้เลยตอน 9 โมงกว่า อยู่ๆ ก็มีคนเดินผ่านจอทีวีไปทางหลังบ้าน แต่งชุดขาวเหมือนชุดละหมาดผู้หญิงมุสลิม ผมตกใจมาก มันวูบเดียวเร็วมาก แต่ก็ชัดมาก ที่บ้านผมก็สอนมาบ้างครับ เจออะไรแบบนี้ให้เงียบๆ ไว้ ผมเลยปิดทีวี แล้วไปหายายที่หลังบ้าน คืนนั้นลุงก็ต้องไปลงพื้นที่อีก เลยไม่ได้กลับบ้าน ก็มีแค่ผมนอนกับยาย 2 คนเท่านั้น.. เวลาประมาณ 3 ทุ่มฝนก็ตกครับ ผมได้ยินเสียงคน 2 คนคุยกันที่หน้าประตูบ้าน คุยเป็นเรื่องราวเลย ยายก็ได้ยิน ยังบอกผมเลยว่า สงสัยเขามาหลบฝนกัน ผมกับยายก็นอนต่อ แต่ฝนหยุดแล้ว เสียงคุยก็ยังมีอยู่ ยายเลยไปเปิดผ้าม่านจากห้องนอนดู ปรากฏว่าหน้าบ้านไม่มีใครเลยครับ ว่างเปล่า.. เสียงรถก็ไม่มีผ่าน เสียงเดินหรือวิ่งก็ไม่มี หลอนเลยสิครับ กว่าจะหลับคืนนั้นได้ ล่อไปดึกเหมือนกัน อยู่บ้านหลังนี้มีเหตุแปลกๆ แบบนี้เสมอครับ แถมยังมีเรื่องให้เลือดออกเกือบทุกวัน อยู่ได้สักอาทิตย์ผมก็กลับบ้านละครับ ช่วงหลังๆ นี้เริ่มหนักครับ ลุงกับยายเคยเล่าว่า มีคราบเลือดหยดมาตามฝาผนังบ้าง มีรอยเท้าคนเดินขึ้นไปที่เพดานบ้าง

สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88
เว็บ [url=https://lucaclub88.com/]บา คาร่าออนไลน

   จนยายเริ่มทนไม่ได้ ก็คอยเผาพริกเผาเกลือแช่ง (ยายผมพอมีวิชาอยู่บ้าง แต่แกไม่สอนลูกหลานครับ แกบอกมันไม่ดี) พอเริ่มเผาไปสักพัก ไฟในบ้านนี่ดับหมด ไฟที่เผาก็ดับ หลังจากนั้นมานี่ยิ่งหนักเลยครับ ลุงก็เริ่มป่วย ทรุดโทรมเร็วมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ น้ำหนักลดลงไปเยอะเลย ยายก็เป็นห่วงลุงมาก ทำอะไรไม่ได้จนต้องไปหาหมอผีคนหนึ่ง หมอผีบอกว่า บ้านหลังนี้ไปตั้งทับสุสานเก่า มีผีผู้หญิงตนหนึ่งเฮี้ยนมาก จะเอาลุงไปอยู่ด้วย.. แล้วหมอผีแกก็ทำของแก้มาให้ครับ แล้วทำน้ำมนต์ให้ไว้รดรอบบ้าน และในบ้าน เชื่อไหมครับ ตอนน้ำหยดลงดินเนี่ย ลมพัดวูบมาเลย ประตูหน้าต่างเปิดๆ ปิดๆ เองเหมือนในหนังเลยครับ แล้วก็มีเสียงผู้หญิงร้องโหยหวนดังมาก หลังจากนั้นนี่ลุงกับยายย้ายบ้านใหม่เลยครับ แต่ลุงเกิดลืมของเลยกลับเข้าไปในบ้าน ลุงถึงกับผงะ เพราะในบ้านมีแต่คราบเลือดครับ หนู แมลงสาบ ตายเกลื่อน เหม็นคละคลุ้งไปหมด ทั้งๆ ที่ลุงเพิ่งออกจากบ้านไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง.. พอไปถามชาวบ้านแถวนั้น เขาบอกว่าเป็นผีแม่หม้ายแขก ตายไปนานแล้ว แต่เฮี้ยนมาก เคยให้พระเชิญวิญญาณไปที่อื่น แต่ก็ไม่ยอมไป ใครที่เป็นผู้ชายจะอยู่บ้านนี้ไม่ได้ ถ้ามีภรรยาเป็นอันต้องเลิกกัน ถ้าโสดก็จะป่วยหนักเลย เพราะผีแม่หม้ายเนี่ยจะเอาไปอยู่ด้วย..
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เรื่องเล่าผี เมื่อ: มิถุนายน 13, 2020, 11:13:01 am
ปอบยายนวล


    เรื่องนี้ส่งมาจากคุณเรญ่า (นามสมมติ) ครับ คุณเรญ่าเล่าว่า.. ย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน สภาพบ้านในชนบทที่ห่างไกลตัวเมืองทางภาคอีสาน ถนนเข้าหมู่บ้านจะเป็นทางลูกรัง ส่วนในหมู่บ้านไม่ต้องพูดถึง เป็นแค่ทางเท้าที่เดินย่ำบนหญ้าจนเกิดรอยเป็นทางยาว หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านเล็กๆ น่าจะ 30 หลังคาเรือนได้ ลักษณะตัวบ้านแต่ละหลังจะเป็นบ้านไทยใต้ถุนโล่ง แต่ละหลังก็จะมีพื้นที่เขตบ้านของตัวเองเยอะพอสมควร ปลูกห่างกันอย่างน้อยน่าจะ 50 เมตรขึ้นไป ส่วนบ้านที่เราอยู่เป็นบ้านมรดกตกทอดมาจากตากับยาย หลังใหญ่พอสมควร ตั้งอยู่ในสุดท้ายหมู่บ้าน มีเนื้อที่ 3 ไร่ หลังบ้านเรามีสวน ถัดจากสวนของเราไปก็จะเป็นทุ่งนาทั้งหมด วันเกิดเรื่อง ตอนนั้นเรายังเด็ก อายุราว 6-7 ขวบ เราเป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่ๆ ทั้งหมด 6 คน (เราคนที่ 7) เป็นลูกหลง ไม่สบายบ่อยๆ ประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง เรานั่งเล่นกับแม่อยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน ไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะไม่สบาย อยู่ๆ ยายนวล กับหลานชายก็เดินเข้ามาในบ้าน มาถามแม่เรา ;อีหนูนี่ไม่ไปเรียนหรือ? พร้อมกับมานั่งลงข้างๆ ห่างจากแม่แค่ช่วงแขน ตาก็จ้องมาที่เรา แม่กับเราต่างก็ตกใจ เพราะไม่รู้ว่าแกมาตอนไหน แต่แม่จำได้ว่าแกเป็นคนจากอีกหมู่บ้านหนึ่ง เลยไม่ได้คิดอะไร แม่ตอบแกไปว่าเราไม่สบาย และถามแกกลับไปว่าแกจะไปไหน? แกก็ว่าจะมาหาหยวกกล้วยไปต้มให้หมูกิน แต่แถวนี้ไม่มีใครมีเลย เลยว่าจะเดินลัดทุ่งข้างหลังนี่กลับบ้านแน่ะ.. ในขณะที่แม่กับยายนวลคุยกัน ก็เหมือนคนคุยกันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสายตาของยายแกจ้องเขม็งมาที่เราตลอด เราหันไปสบตาแกแวบหนึ่ง เห็นแววตาแกแดงก่ำ หน้านิ่งๆ น่ากลัวมากๆ เราจึงขยับไปนั่งตักแม่ และเอาหน้าซุกที่อกแม่ แม่เลยถามเราว่าเป็นอะไร? แต่เราไม่ได้ตอบ.. สักพักยายนวลกับหลานแกจึงลากลับ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ;ไว้จะมาหาใหม่..พอตกกลางคืน ทุกคนเข้านอนตามปกติ คืนนั้นเป็นคืนเดือนหงาย จึงทำให้มองเห็นอะไรๆ ได้ค่อนข้างชัด เรานอนกับพ่อแม่ ขอบอกลักษณะบ้านเรานิดนึง พอขึ้นไปบนบ้านก็จะเป็นชานบ้าน ทำไว้นั่งรับลม และรับแขก ส่วนโซนที่เป็นห้องนอน จะทำบันไดขึ้นไปอีก 5 ขั้น ถ้าผู้ใหญ่ยืนเทียบก็น่าจะประมาณหน้าอก ซึ่งก็สูงพอสมควร ห้องนอนที่เรานอนกับพ่อแม่จะเป็นห้องแรกติดกับบันได 5 ขั้นที่ว่านั้น แต่จะไม่มีประตูห้อง และอยู่ติดกับชานบ้านเลย.. คืนนั้นเราตื่นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงเหมือนหมาวิ่งมาแต่ไกล เสียงหอบ แฮ่กๆๆ เหมือนเหนื่อยมาก แล้ววิ่งมาหยุดที่ใต้ถุนบ้านเรา ยืนหอบอยู่อย่างนั้น เราก็นอนนิ่งฟัง แต่แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียงหมาที่ว่ามันค่อยๆ ไล่มาทางบันไดขึ้นบ้าน ตึงๆๆ และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88

    จากเสียงที่ดังน่าจะเป็นหมาตัวใหญ่มากๆ แล้วจากเสียงก็กลายเป็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ที่ชานบ้าน มาจนเห็นเป็นหลังของหมาค่ะ ใช่เลย คือช่วงบนหลังของหมาสีดำ! เรามองจากห้องนอนที่ยกสูงยังเห็นหลังของมันแบบนี้ ลองคิดดูว่ามันจะตัวใหญ่ขนาดไหน.. มันค่อยๆ เดินมาจนถึงบันได 5 ขั้นที่จะขึ้นห้องนอน แล้วมันก็เดินขึ้นมาจริงๆ พร้อมกับกวาดสายตาแดงก่ำของมันไปรอบๆ บ้าน น้ำลายหยดเป็นทางราวกับหิวโซ เราได้แต่นอนนิ่งมองตาค้างอยู่อย่างนั้น แล้วจู่ๆ มันก็มองมาที่เราเหมือนรู้ว่าเราก็มองมันอยู่! มันไม่รอช้า เดินตรงมางับเข้าที่ข้อเท้าเราแล้วออกแรงดึง ครั้งแรกเรามีความรู้สึกได้ว่าตัวเองไหลปรื้ดไปตามแรง มันกระชากอีกทีเราก็ไหลลงไปอยู่ระหว่างช่วงต้นขาของพ่อแม่แล้ว เราตกใจมากพยายามร้องยังไงก็ร้องไม่ออก มันปล่อยแล้วก็ยืนมองสักพัก แล้วมันก็งับอีก เดชะบุญยังไม่ถึงคราวตาย เราเปล่งเสียงร้อง กรี๊ดดดดด ออกมาลั่นบ้าน จนพ่อแม่ และพวกพี่ๆ ที่นอนอยู่อีก 2-3 ห้องตื่นกันหมดทั้งบ้าน พ่อแม่รีบลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ถามว่าเราเป็นอะไร ร้องทำไม? เราก็ได้แต่ร้องไห้กอดพ่อแน่น แล้วชี้ไปทางหมาดำตัวใหญ่ตัวนั้น ปากก็พูดว่า หมาๆๆ หมาดำตัวใหญ่! พ่อกับแม่มองไม่เห็นมัน แต่ก็ทำเป็นไล่ส่งๆ เพื่อปลอบขวัญเราว่าหมาที่ไหนออกไปๆ ถ้ามึงไม่ไป กูจะเอาดาบฟันให้ขาดสองท่อนเลยไป! ซึ่งไอ้หมาดำตัวนั้นมันก็ไม่ได้วิ่งหนีแต่อย่างใด ยังคงยืนจ้องมองเราด้วยสายตาแดงก่ำ และน้ำลายหยดย้อย สักพักมันถึงวิ่งลงจากบ้านหายไป.. วันรุ่งขึ้นช่วงสายๆ ก็มีป้าบ้านตรงข้ามเดินเข้ามาหา ถามว่าเมื่อคืนไอ้ตัวเล็ก (เรา) ไข้ขึ้นเหรอ? ทำไมร้องเสียงดังมาถึงบ้านนี้เลย แม่ก็เลยเล่าให้ป้าแกฟังว่าเราไม่สบาย แล้วละเมอว่าเห็นหมาดำมาขึ้นบ้าน ป้าแกก็ตอบอย่างทันควันว่า ว่าแล้วเชียว! เมื่อวานเห็นยายนวลมาที่บ้านแกนี่ แกไม่รู้เหรอ เขาลือกันทั้งบางว่ายายนวลมันเป็นปอบ! มันชอบเด็ก ยิ่งป่วยยิ่งเข้าหาเลยล่ะ! พวกเราได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเลยค่ะ.. เหตุการณ์นี้ถึงจะผ่านมานานมากแล้ว แต่จนทุกวันนี้เรายังจำได้ไม่มีวันลืมเลยค่ะ
4  Sitemap SMB / E-Coupong / อย่าไปทำลายหัวใจของฉัน เมื่อ: มิถุนายน 11, 2020, 11:08:55 am
 
Don't Go Breaking My Heart


   อย่าไปทำลายหัวใจของฉัน " เป็นคู่ปี 1976 โดยเอลตันจอห์นและดีดี้กิกี้ มันถูกเขียนโดยElton JohnกับBernie Taupinภายใต้นามแฝง "Ann Orson" และ "Carte Blanche" ตามลำดับและตั้งใจให้เป็น pastiche ที่น่ารักของสไตล์Motownโดยเฉพาะคู่หูที่บันทึกโดยMarvin Gayeและนักร้องเช่นTammi Terrellและคิมเวสตัน มันไม่ควรจะสับสนกับBurt Bacharach / ฮัลเดวิดเพลงชื่อเดียวกันที่บันทึกไว้ในปี 1965 โดยดิออนวอร์วิกสำหรับอัลบั้มที่นี่ฉัน เดิมที John และ Taupin ตั้งใจจะบันทึกเพลงด้วยDusty Springfieldแต่ในที่สุดก็ถอนข้อเสนอออกไป ซูคาเมรอนหุ้นส่วนของสปริงฟิลด์กล่าวในภายหลังว่าเป็นเพราะเธอป่วยเกินไปในเวลานั้นประสิทธิภาพของแผนภูมิ นักเขียน John และ Taupin ได้รับรางวัล 1976 Ivor Novelloสาขา Best Music Music and Lyrically  ซึ่งแตกต่างจากจอห์นซิงเกิ้ลจากปี 1970 มันก็ไม่เคยรวมอยู่ในอัลบั้มเดิม (แม้ว่ามันจะถูกบันทึกในช่วงฟ้าย้ายครั้ง) แต่ก็ปล่อยเป็นหนึ่งในสามในอัลบั้มDuetsในช่วงต้นปี 1994 รุ่นนี้ เพลงที่ถูกบันทึกไว้ด้วยRuPaulและเอื้อมหมายเลขเจ็ดในอังกฤษใจซื่อแผนภูม
สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88


    ระยะเวลา 21 ปีนี้รวมเพลงฮิตคู่หนึ่งในอเมริกากับคู่ค้าทางดนตรี: " นั่นคือสิ่งที่เพื่อน ๆ มีให้ " โดยDionne and Friendsในปี 1986 และ 1992 สร้างขึ้นใหม่ของจอห์น " อย่าปล่อยให้ดวงอาทิตย์ตกลงมาที่ฉัน "กับจอร์จไมเคิลให้เครดิตในฐานะคู่หู The B-side, "Snow Queen" ได้รับแรงบันดาลใจจากCherโดย John ได้อ้างถึง Sonny & Cher ที่ผ่านมาว่า " I Got You Babe " และ " The Beat Goes On " รวมถึงเพลง Cher เดี่ยว " Bang Bang (My Baby Shot Me Down) "ในช่วงที่เพลงนี้หายไป ในปี 1977 จอห์นเป็นแขกรับเชิญในการแสดง Muppetและดำเนินการติดตามกับมิสพิกกี้ ในปี 1985 จอห์นและดีดำเนินการติดตามกับฝูงชนที่สนามกีฬาเวมบลีในช่วงการตั้งค่าของจอห์นที่ช่วยชีวิต (ที่ดีร้องเพลงสำรองข้อมูล) ในปี 1987 จอห์นปรากฏตัวพร้อมกับมินนี่เม้าส์ในซีรีส์ของ NBC โดยมินนี่ล้อเลียนเพื่อติดตาม เขาแสดงเพลงประกอบกับอลันพาร์ทริดจ์ ( สตีฟคูแกน ) ในปี 2001 รางวัลคอเมดีคอมเมดี้ นอกจากนี้เขายังทำมันด้วยเครื่องเทศสาวของเขาไอทีวีส่วยโปรแกรมผู้ชมด้วย ... Elton John ในเดือนมิถุนายน 2013, 37 ปีหลังจากเปิดตัวครั้งแรกยอดขายทะลุหนึ่งล้านในสหราชอาณาจักรเพลงนี้สามารถพบได้ในElton John's Greatest Hits Volume II (1977) และGreatest Hits 1976-19-1986 ; แผ่นซีดีเพลงร็อคออฟเดอะเวสต์ของสหราชอาณาจักรในปี 2538 รวมเอาไว้เป็นโบนัสแทร็ก ในปี 2002 ก็ยังปรากฏตัวบน 2 แผ่นอัลบั้มฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจอห์นเอลตันจอห์นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1970-2002 เวอร์ชั่นตัวอย่างของเพลงถูกบันทึกโดย John ในฐานะศิลปินเดี่ยว [ อ้างอิงที่จำเป็น ]รุ่นนี้ยังไม่ได้เปิดตัวในเชิงพาณิชย์ B-ด้าน "ราชินีหิมะ" ยังคงไม่สามารถใช้งานบนแผ่นซีดีนอกประเทศออสเตรเลียจนถึงเมษายน 2019 เมื่อมันถูกรวมเป็นเงินปันผลตามออกใหม่ของ Kiki ดีของกรง Songbirdอัลบั้มรวมอยู่ใน 5 กล่องซีดีตั้งปีจรวด ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 มันก็รวมอยู่ในกล่องซีดี 3-Set Goldซึ่งเป็นการย้อนหลังของอาชีพของ Dee ซึ่งประกอบไปด้วยฉลากหลากหลาย
5  Sitemap SMB / New Product / สวยสังหาร เมื่อ: มิถุนายน 09, 2020, 05:41:38 pm
 
Stephanie McMahon



   สเตฟานีแม็คมาฮอนเลเวส (24 กันยายน 2519), เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันและมวยปล้ำอาชีพบุคลิกภาพ เธอเป็นเจ้าหน้าที่แบรนด์หัวหน้า (CBO) ของWWEและปรากฏเป็นรูปบนหน้าจออำนาจและนักมวยปล้ำครั้งคราวทั้งดิบและSmackDownแบรนด์ เธอเป็นโปรโมเตอร์มวยปล้ำรุ่นที่สี่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลแมคมาฮอนเธอทำงานให้กับ WWE ตั้งแต่เธอเป็นเด็กสาว (ทำแบบเสื้อยืดและสินค้าอื่น ๆ สำหรับแคตตาล็อก WWE) ที่ทำงานให้กับพนักงานต้อนรับ งานออฟฟิศมากถึงและรวมถึงตำแหน่ง CBO ปัจจุบันของเธอ เธอเป็นหลานของRoderick "Jess" ฮอนหลานสาวของวินเซนต์เจแม็คมานลูกสาวของ WWE ประธานและซีอีโอของ วินเซนต์เคแม็คมานและเกษียณ WWE ซีอีโอและอดีตผู้บริหารของบริหารธุรกิจขนาดเล็ก ลินดาแม็คมาน , น้องสาวของ WWE เจ้าของ / นักมวยปล้ำShane McMahonและเป็นภรรยาของ WWE ผู้บริหาร / นักมวยปล้ำพอล "สามเอช" Levesque แม็คมาฮอนเริ่มปรากฏตัวเป็นประจำในอากาศสำหรับ WWE (จากนั้นเป็น WWF ในฐานะสหพันธ์มวยปล้ำโลก) ในปี 1999 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงเรื่องกับ Undertaker หลังจากความสัมพันธ์บนหน้าจอสั้น ๆ กับการทดสอบเธอหมั้นกับทริปเปิลเอชซึ่งเธอแต่งงานทั้งบนจอและต่อมาในชีวิตจริงซึ่งส่งผลให้เนื้อเรื่องของThe McMahon-Helmsley Faction เธอจัดการแข่งขันWWF Women's Championshipครั้งหนึ่ง

   ในปี 2001 เธอเป็นเจ้าของบนหน้าจอของแชมป์มวยปล้ำระหว่างการบุกรุก ปีต่อมาเธอเป็นผู้จัดการทั่วไปSmackDown แต่หยุดปรากฏตัวทางโทรทัศน์เป็นประจำหลังจากการแข่งขัน"I Quit"กับพ่อของเธอ Vince McMahon หลังจากที่ปรากฏตัวเป็นระยะ ๆ มานานหลายปีแมคมาฮอนก็เริ่มปรากฏตัวเป็นประจำในRawในปี 2008 ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ Raw ก่อนที่จะหายไปอีกครั้ง ภายในกลางปี 2013 แมคมาฮอนกลับมาปรากฏตัวตามปกติใน WWE ในครั้งนี้ภายใต้กลไกของเจ้าของที่ไม่ยุติธรรมผู้พิพากษากลั่นแกล้งพร้อมกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการบนหน้าจอสามี Triple H. จากปี 2556 ถึง 2559 พวกเขาทำหน้าที่เป็นคู่อำนาจที่รู้จักในฐานะผู้มีอำนาจทำให้สิ่งที่เป็นพระราชกฤษฎีกามักจะร่มรื่นในขณะที่อ้างเท่านั้นที่จะมีความกังวลสำหรับ "สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ" ทั้งหมดในขณะที่อุกอาจแต่ละอื่น ๆ ในกระบวนการที่มีการแสดงสาธารณะของความรัก ผู้มีอำนาจในภายหลังจะขยายสู่ความมั่นคงกับผู้นำร่วมของมันคือ Triple H และตัวเธอเองสเตฟานีมารีแม็คมานเกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน 1976

สนับสนุนบทความโดย Lucaclub88
เว็

      ในฮาร์ตฟอร์ดเพื่อลินดาและวินซ์แม็คมาน เธอมีพี่ชายคนหนึ่งเชนแม็คมาน ไม่นานหลังจากที่เธอคลอด, ครอบครัวย้ายไปกรีนนิช ที่นั่นเธอเข้าเรียนที่Greenwich Country Day Schoolซึ่งเป็นโรงเรียนที่คัดเลือกตลอดปีที่เรียนระดับประถมศึกษาของเธอ ตอนอายุ 13 แม็คมาฮอนปรากฏตัวในแคตตาล็อกสินค้าของWorld Wrestling Federation (WWF) การสร้างแบบจำลองเสื้อยืดและหมวก หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมกรีนวิชในปี 1994 เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบอสตันและในปี 1998 ได้รับการศึกษาระดับปริญญาในการติดต่อสื่อสาร หลังจากสำเร็จการศึกษาในปี 2541 เธอเริ่มทำงานให้กับ WWF แบบเต็มเวลาแม็คมาฮอนเข้าสู่สหพันธ์มวยปล้ำโลก (WWF / E) เป็นแบบอย่างและเป็นฝ่ายขายและสินค้าของ WWF แต่เริ่มอาชีพธุรกิจของเธอในฐานะผู้บริหารบัญชีสำหรับสำนักงาน WWF ในนิวยอร์ก ในช่วงปีแรก ๆ ของเธอกับ บริษัท เธอทำงานรับออกแบบสร้างสรรค์ผลิตรายการโทรทัศน์และทำหน้าที่เป็นนักแสดงแหวน ในเดือนพฤศจิกายน 2543 แมคมาฮอนกลายเป็นหัวหน้านักเขียนของ บริษัท หลังจากใช้เวลาในฐานะผู้อำนวยการการเขียนเชิงสร้างสรรค์งานที่เธอมีในปี 2545 เธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองประธานอาวุโสของการเขียนเชิงสร้างสรรค์ในปี 2549
6  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / เรื่องเล่า ผีในคุก เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2020, 04:35:28 pm
ผีในคุก



   เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งที่อดีตเคยเป็นเรือนกักขังนัก โทษเก่ามาก่อน จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นดินแดนที่ใช้ประหารนักโทษมากมายหลายศพจนนับไม่ถ้วน !! นัก เรียนชมรมสังคมต้องอยู่ศึกษาประวัติที่โรงเรียนจนดึก กว่าอาจารย์จะปล่อยกลับก็ล่วงเลยเวลามาเกือบสี่ทุ่ม ห้องสังคมนั้นตั้งอยู่ที่ตึก 5 ชั้น 3 บริเวณมุมด้านหลังสุด ดังนั้น เมื่อจะกลับก็ต้องเดินจากด้านหลังมาลงบันไดด้านหน้า ขณะที่ตามรายทางก็มีไฟเพียงไม่กี่ดวง ระหว่างที่เหล่านักเรียนสังคมต่างรีบเดินออกมาเพื่อกลับบ้าน ปรากฏว่า ลิง ดันลืมโทรศัพท์มือถือไว้จึงต้องเดินกลับไปเอา พร้อมบอกให้ นัด เพื่อนสนิทรออยู่ตรงนี้อย่าไปไหน จะรีบไปรีบกลับ ขณะที่ครู และเพื่อนคนอื่นๆ ต่างรีบกลับจึงขอตัวไปก่อน ขณะที่ นัด รอเพื่อนอยู่เพียงลำพังนั้น ก็เกิดได้ยินเสียงเพลงคล้ายๆ รำสวด แล้วก็เสียงคนตะโกนโวยวาย อย่าๆๆๆ ผมไม่ไป ปล่อยผม !!!! อย่าทำผมเลย วินาทีนั้น นัด เริ่มแปลกๆ ที่ดึกแล้วจะมีใครมาตะโกนร้องแบบนี้ได้ เวลาผ่านไปสักพัก เสียงทุกอย่างเงียบไปจนน่าวังเวง นัด เริ่มรู้สึกกลัว พยายามมองซ้ายมองขวา แต่เพื่อนที่ไปเอาของก็ยังไม่กลับมา

  ตอนนี้เริ่มมีเสียงคล้ายๆ คนลากอะไรซักอย่างคล้ายโซ่แว่วมา มันเริ่มดังขึ้นๆ ๆ แล้วก็ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ๆ จังหวะนั้น นัด ทนไม่ไหวจึงคิดที่จะวิ่งหนีออกไป แต่พรึ่บบบ มีมือหนึ่งมาจับที่แขนของเธอไว้ แต่พอหันไปก็พบว่าคนที่มาจับมือคือ ลิง เพื่อนสนิทของเธอเอง.. นัด รีบถาม ลิง ว่าได้ยินเสียงคนลากอะไรหรือเปล่า ? ซึ่ง ลิง ก็ตอบกลับมาทันทีเลยว่า ได้ยิน เสียงคล้ายโซ่ใช่ไหม เท่านั้นแหละทั้งสองคนต่างจับมือวิ่งลงตึกแบบไม่คิดชีวิต ระหว่างที่วิ่งลงตึกอยู่ดีๆ นัด สะบัดมือ ลิง ออกอย่างกระทันหัน!! แล้วเดินกลับไปทางเดิมราวกับเหมือนโดนสะกด ลิง รู้แล้วว่าเพื่อนต้องโดนอะไรบางอย่างแน่ๆ จึงวิ่งไปหาพร้อมเขย่าตัว และตบหน้าเรียกสติเพื่อนอย่างนัด กับ ลิง ไม่รีรออะไรแล้ว ทั้งคู่รู้แก่ใจแล้วว่าเป็นสิ่งลี้ลับแน่นอน จึงรีบวิ่งลงตึกแบบไม่คิดชีวิตจนกระทั่งไปชนกับใครคนหนึ่ง โครมมม !! พอตั้งสติได้ก็รู้ว่าคนที่ชนนั้นคือ คงพ่อของลิง คนเก่าแก่ของโรงเรียน ทั้งสองจึงเล่าเรื่องที่เจอให้ลุงคงฟังทันที หลังจากที่ได้ฟังเรื่องจากนักเรียนทั้งสอง

สนับสนุนบทความโด
เว็

   ลุงคงถึงกับตกใจ พร้อมเตือนว่า ทำไมถึงไม่รีบลงมาพร้อมกันเยอะๆ ที่นี่เฮี้ยนมาก ลุงยังไม่กล้าขึ้นไปเลย หลายปีก่อนเคยมีเด็กหายไปไม่มีแม้กระทั่งศพ สองสาวได้ฟังถึงกับสั่นผวา ด้าน นัด ก็เล่าให้ฟังอีกว่า ตอนที่สะบัดมือ ลิง เพราะระหว่างวิ่งได้หันกลับไป เห็น ลิง ยืนอยู่ จึงสะบัดมือออกเพราะคิดว่าเป็นมือผี แต่พอเดินไปหา ลิง ร่างของลิงก็กลับเปลี่ยนเป็นผู้ชายเหมือนนักโทษมีโซตรวนคล้องขาอยู่ จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีถูกตบหน้า นับแต่เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครได้พบเห็นสองสาวนักเรียนสังคมนั้นอีกเลย เพราะอาจจะลาออกไปเรียนที่อื่น แต่เรื่องนี้ก็ยังคงถูกบอกเล่าจากปากต่อปากสู่รุ่นน้องที่เข้ามาเรียนโรงเรียนแห่งนี้อยู่เรื่อยๆ
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย