เข้าเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มจม สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า สติ๊กเกอร์ เข้าหัวป

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เข้าเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มจม สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า สติ๊กเกอร์ เข้าหัวป  (อ่าน 5 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
penpaka2tory
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13922


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2019, 12:45:28 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า จดหมาย กำมะหยี่ ด้วย  ปั๊มไดคัปั๊มเคทอง ปั๊มไดคัท
การขอเลข ISBN การขอ CIP แล้วก็การทำบาร์โค้ด (Barcode)

ISBN เป็นยังไง จำเป็นต้องมีหรือเปล่า
เลข ISBN (International Standard Book Number) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ คือรหัสที่กำหนดให้ใช้กับงานเอกสารชนิดหนังสือ เพื่อใช้เพื่อการแบ่งแยกหนังสือแต่ละเรื่องออกมาจากกันครับผม แล้วยังเอาไปใช้อำนวนความสบายในแนวทางการทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่นำเข้าคลังสินค้าตามร้านจำหน่ายหนังสือ ไปจนถึงวิธีขายที่หน้าร้านค้าเลยครับผม โดยรหัสที่ใช้ในประเทศไทยจะเป็น Code EAN 13 หลัก โดย 3 หลักแรกจะแบบเดียวกันทั้งผองทั่วประเทศเนื่องจากว่าเป็นรหัสระบุว่าเป็นหนังสือจากเมืองไทย นั่นก็คือ 978 ส่วนรหัสหลักสุดท้ายจะเป็นรหัส checksum เอาไว้ตรวจทานรหัสในชุดอีกครั้งหนึ่ง


หากสงสัยว่าแล้วหนังสือที่พวกเรากำลังจะพิมพ์ต้องมีเลข ISBN ไหมยังไง กล้วยๆเลยก็คือถ้าหากเรามีแผนการที่จะขายในร้านจำหน่ายหนังสือ หรือต้องการให้หนังสือเข้าระบบวิธีขายที่ใช้ barcode สำหรับเพื่อการตรวจนับผลิตภัณฑ์ ก็จำเป็นต้องมีเลข ISBN ขอรับ แต่ว่าแม้เป็นหนังสือที่ไม่ได้เข้าระบบการขายตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใช้งานในหน่วยงานหรือคิดแผนจะทำขายด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมีก็ได้ครับผม

CIP คืออะไร จำต้องมีหรือเปล่า
CIP (Cataloging in Publication) หรือภาษาไทยคือ ข้อมูลทางบรรณานุกรมหนังสือ CIP คือการกำหนดข้อมูลรายละเอียดทางบรรณานุกรมตามหลักกฏเกณฑ์สำหรับในการทำบัตรรายการ เลขกลุ่มหนังสือ หัวเรื่อง เพื่อกำเนิดความสบายในการศึกษาหรือค้นหาในห้องสมุดโดยปกติบรรณารักษ์ตามหอสมุดต่างๆจะใช้เลขหมวดกลุ่มนี้จัดหนังสือขึ้นชั้นในห้องหนังสือครับ ถ้าถามว่าแล้วหนังสือที่จะพิมพ์ ต้องมีเลข CIP รึเปล่า หากพวกเรามีแผนสำหรับการที่จะนำหนังสือเข้าไปใช้งานในหอสมุด ก็ควรมีไว้ครับผม เพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรณารักษ์ แต่ถ้าหากดูแล้ว หนังสือของเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใส่เข้าไปอยู่ในห้องสมุดแน่นอนก็ไม่จำเป็นที่ต้องมีก็ได้ครับ

บริการขอเลข ISBN และ CIP
ทางสำนักพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสำหรับเพื่อการขอเลข ISBN และข้อมูล CIP ได้ แต่ว่าลูกค้าจึงควรจัดเตรียมข้อมูลพื้นฐานสำหรับในการเขียนเลข ISBN ให้ทางสำนักพิมพ์ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์มจากไฟล์นี้แล้วส่งให้สถานที่พิมพ์ทางอีเมล์ wacharinpp@gmail.com และก็duudesign@gmail.com ครับผม

กระบวนการทำบาร์โค้ด Barcode
เมื่อได้เลข ISBN มาแล้ว ก็จำต้องนำ ISBN ที่ได้มาทำเป็น Barcode เพื่อใช้ในการสแกนตามร้านขายของ ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางโรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. มีบริการทำ Barcode ให้ด้วยโดยไม่คิดรายจ่ายแต่อย่างใดนะครับ โดยจะรับทำบาร์โค้ดให้เฉพาะเลข ISBN ในระบบEAN 13 หลักแค่นั้น barcode ที่เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆหรืออยู่ในรหัสชุดอื่น ทางสถานที่พิมพ์จะมีผลให้ไม่ได้ครับผม

ข้อเสนอแนะสำหรับการทำบาร์โค้ด
สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำบาร์โค้ดใช้งานเองทางโรงพิมพ์มีข้อเสนอนิดหน่อยดังต่อไปนี้ครับ
1. บาร์โค้ดจำเป็นต้องทำเป็นดำลำพังมาแค่นั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดเด็ดขาด(ดำคนเดียว ดำ 4 เม็ดคืออะไร อ่านได้จากที่นี่)
2. บาร์โค้ดจำต้องทำให้อยู่ในรูปแบบ Vector แค่นั้น เพื่อที่จะเอาไปใช้งานต่อในโปรแกรมเช่น Adobe Illustrator ได้ ห้ามทำเป็นไฟล์รูปภาพ JPG, PSD มาโดยเด็ดขาด
3. การย่อหรือขยายบาร์โค้ดสามารถทำได้ แต่จำต้องย่อ-ขยายตามรูปร่างเพียงแค่นั้น (Proportional Scaling) ห้ามย่อขยายบาร์โค้ดข้างในด้านหนึ่งแค่นั้น เพราะว่าจะมีผลให้สัดส่วนของแท่นบาร์โค้ดผิดเพี้ยนไป แล้วก็จะสแกนไม่ได้
 
 
ปั๊มไดคัท (Die-Cuting)
การกดกระดาษ หรือชิ้นงานต่างๆ ลงบนบล็อกปั๊ม เพื่อให้กระดาษหรือชิ้นงานมีขนาดหรือรูปร่างตามที่ต้องการ ได้แก่ แจ๊กเก็ตหุ้มหนังสือ เป็นต้น

ปั๊มนูน (Embossing)
การใช้บล็อกดันกระดาษให้นูนสูงขึ้น เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่  ป้ายแขวนสินค้า เป็นต้น

ปั๊มจม (Debossing)
การใช้บล็อกกดกระดาษให้จมต่ำลง เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ ป้ายแขวนสินค้า เป็นต้น

การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นอย่างไร?
เป็น การพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิมพ์ เครื่องปรินเตอร์ที่อยู่ตามบ้านของคนธรรมดาทั่วไป ก็เป็นการพิมพ์ดิจิตอล แต่ว่ายังไม่อาจจะสนองความจำเป็นต้องได้ครบสมบูรณ์ ทั้งด้านจำนวน ,คุณภาพ,เวลาทีใช้สำหรับในการพิมพ์ ตัวอย่างเช่น แนวทางการทำโปสเตอร์ขนาด A3 โดยประมาณ 100 แผ่น เครื่องปรินท์ตามบ้านสามารถปรินท์ได้ แต่ คุณภาพ เวลา ที่ได้อาจจะส่งผลให้ผู้ครอบครองปรินท์เตอร์กำเนิดความรู้สึกไม่คุ้มค้ากับเวลาคราวเสีย รวมทั้งได้มาซึ่งคุณภาพที่ไม่สามารถที่จะตอบสนองการใช้แรงงานได้ ก็เลยกำเนิดเครื่องปรินท์ ที่มารองรับความต้องการในรูปแบบนี้ คือ เครื่อง Digital Press ที่ให้ท่านภาพงานพิมพ์รายละเอียดใกล้เคียงกับระบบ offset มากกระทั่งเกือบจะแยกไม่ออก และยังทำความเร็วได้ทันความอยากได้ รวมทั้งสามารถพิมพ์ได้นานาประการอุปกรณ์ดังเช่น กระดาษปอนด์,กระดาษอาร์ตมัน, กระดาษมีลวดลาย, กระดาษหนาไม่เกิน 300 เอ็งรม, สติกเกอร์pvc ขุ่น-ใส, แผ่นใส, สติ๊กเกอร์วอยย์เปลือกไข่, ฉลากผลิตภัณฑ์, โฮโลมึงรม ฯลฯ

จุดเด่น ระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing)
1. ประหยัดเวลาสำหรับในการทำงาน ความสะดวกเร็ว ลดขั้นตอนกระบวนการทำฟิล์มแล้วก็แม่พิมพ์ หากงานที่ต้องการนั้นเร่งด่วนก็เลือก แนะนำพิมพ์ระบบดิจิตอล

2. ปรับปรุงแก้ไขงานได้ง่าย ในกรณีที่ปรารถนาแก้ไขเนื้อหาข้อมูล ก็แค่ส่งไฟล์ใหม่มาแทนไฟล์เดิมข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลใหม่ ปรับแก้ได้โดยทันที

3. ใช้งบประมาณน้อยกว่า (ในกรณีที่พิมพ์ปริมาณน้อย) เพราะไม่ต้องทำเพลทพิมพ์ ซึ่งราคาโดยรวมเวลาพิมพ์จะถูกกว่า

4. มัธยัสถ์ทรัพยากร เหมาะกับงานพิมพ์ปริมาณน้อย ลดของเสียในกรรมวิธีการผลิต เวลา,กระดาษ,น้ำหมึก,แรงงาน

5. มาตรฐานงานพิมพ์ มีระบบระเบียบการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เสมอกันในทุกๆหน้า เนื่องด้วยไม่ต้องควบคุมหมึกและน้ำ เป็นต้นว่าการ พิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) ที่จะต้องใช้ผู้ควบคุมที่มีความชำนิชำนาญเป็นพิเศษ

6. ผลิตตามปริมาณที่ปรารถนา เหมาะสำหรับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด หากอยากได้ 100 เล่ม ก็พิมพ์เพียงแค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากกว่าปริมาณที่ปรารถนา มีความยืดหยุ่นสำหรับการทำงาน
 
เทคโนโลยีการพิมพ์ Industrial Technology
การแข่งขันชิงชัยด้านอุตสาหกรรมต่างๆในขณะนี้ มีการเติบโตที่สูงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งยังในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนั้นเทคโนโลยีก็เลยมีหน้าที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการคิดค้นหรือวางแบบประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆการสร้างนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาดผู้สร้างควรต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในงานอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตนั้นมีคุณภาพและก็ตรงตามต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด

เนื้อหานี้จะขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมด้านการบรรจุภัณฑ์และเทคโนโลย ีที่ใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆคือ

1. บรรจุภัณฑ์จำพวกแข็งตัว (Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ได้แก่ แก้ว กระป๋องโลหะ และพลาสติกแข็ง บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้มีความแข็งแรงรวมทั้งอาจจะรูปเจริญ สามารถลำเลียงถ่ายบนสายพานได้

2. บรรจุภัณฑ์ประเภทครึ่งหนึ่งแข็งตัว (Semi-Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้อย่างเช่นขวดพลาสติกแก้วพลาสติก ถ้วยใส่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะมีความจำกัดสำหรับการรับแรงอัดและแรงดึง

3. บรรจุภัณฑ์ชนิดนุ่ม (Flexible Packaging) บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้อย่างเช่นซองใส่อาหารสำเร็จรูปต่างๆหรือสินค้าถุงก๊อบแก๊บ


เทคโนโลยีที่ใช้เพื่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งได้ 3 ส่วนหลักๆดังเช่น...
1. เทคโนโลยีเพื่อช่วยสำหรับในการดีไซน์จะใช้วัสดุอุปกรณ์สองส่วนด้วยกันนั้นก็ คือ ด้าน Hardware แล้วก็ Software เพื่อช่วยสำหรับในการสร้างสรรค์ดีไซน์สินค้า วางแบบด้านกราฟฟิก บางทีอาจรวมไปถึงหัวข้อการพัฒนาสินค้าในลักษณะต่างๆSoftware ที่ใช้ออกแบบในตอนนี้ได้พัฒนาให้เป็นแบบ 3D เพื่อให้ไม่ยุ่งยากต่อการตรวจดูความถูกต้องชัดเจนรวมทั้งการติดต่อสื่อสารที่เข้าใจได้ง่ายเข้าไปใหญ่หรือสามารถผลิตผลงานตัวอย่างออกมาเพื่อให้มองเห็นรูปลักษณ์ของสินค้านั้นๆได้

2. เทคโนโลยีการสร้างและการพิมพ์นำมาใช้สำหรับการพิมพ์ฉลาก เพื่อใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ขวดเครื่องแต่งตัวหรือถุงใส่เครื่องแต่งตัว ของกินเเละอุตสาหกรรมอื่นๆจำนวนมากซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์นั้นมีมากมายแบบอย่าง อาทิเช่นการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบเกรียวกราวเวียร์ รวมทั้งการพิมพ์แบบเฟ็กโซ ตอนนี้วัสดุอุปกรณ์รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับในการพิมพ์มีความทันสมัยและก็มีเทคโนโลยีสูงเพื่อได้สีสันที่งามรวมทั้งดึงดูดความจำเป็นของผู้ใช้

3. เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ ปริมาณของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตหรือบรรจุได้ในขณะนี้ บางทีอาจยังไม่ใช้จำนวนสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบันเพียงแค่นั้น การเลือกเครื่องจักรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรองรับการสร้างในอนาคตแล้วก็ยังจำเป็นต้องทำงานร่วมกับสิ่งของบรรจุภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการลำเลียงขน ใส่ หรือหน้าที่อื่นๆได้อย่างถูกต้องแล้วก็เร็ว

การบรรจุภัณฑ์ หรือการบรรจุจัดใส่หีบห่อ เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกรรมวิธีทางการตลาดเพราะในขณะนี้บริษัทต่างๆมากมายได้พัฒนาตัวสินค้าและก็บริการกระทั่งมีคุณภาพทัดเทียมกันแทบทุกตราแบรนด์ โดยเหตุนั้นนักการตลาดจึงได้หันมาเน้นหัวข้อการบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนาลักษณะของการบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยอีกทั้งในด้านการเก็บรักษาวิธีขาย การตลาด การโฆษณา การบรรจุภัณฑ์ก็เลยเข้ามามีบทบาททางการตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีแล้วก็เหมาะสม จะช่วยทำให้การปฏิบัติการขาย การขนส่งย้ายที่และก็ผู้กระทำระจายผลิตภัณฑ์ดำเนินไปได้ด้วยดีสบายรวดเร็ว อดออม

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือเรื่องการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน ผู้อุปโภคบริโภคมีความสนใจต่อบรรจุภัณฑ์มากเป็นสองเท่า ผู้บริโภคนอกจากจะมีความต้องการความสวยสดงดงามภายนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังอยากบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องพิจารณาถึงความสามารถสำหรับเพื่อการลดจำนวนบรรจุภัณฑ ์ที่ใช้แล้วสิ่งที่ต้องการดังกล่าวข้างต้นนี้ได้นำมาซึ่งกระแสทางด้านสังคมในประเทศที่ปรับปรุงแล้ว ส่งผลให้สินค้าที่ส่งไปขายประเทศพวกนี้ จะต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางด้านสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆด้วยเป็นต้นว่า ในประเทศเยอรมันการนำเอากล่องกระดาษแข็งกลับมาใช้ใหม่ในลูกค้าจะนำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นใน ดังเช่นว่า ขวดที่บรรจุผลิตภัณฑ์กลับบ้าน ส่วนตัวกล่องชั้นนอกจะให้ผู้ขายนำกลับไปใช้ใหม่ แผนการนำกลับมาใช้ ซึ่งออกจะใหม่นี้ย่อมช่วยเหลือกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้หมดไปในระยะเวลาอันใกล้
 
รับเข้าหัวปฏิทินทุกชนิด ‪#‎เย็บท้ายปฏิทิน ‪#‎embossing  ‪#‎ปั๊มนูน ต่อรองราคาได้
บริกาเข้ารูปเล่มหนังสือ ด่วนติดต่อ  คุณชนนิกานต์ มือถือ 087-550-8099

เครดิตบทความจาก : [url]https://rvydiecut.com/[/url]

Tags : ปั๊มเคทอง,ปั๊มนูน, ปั๊มปรุฉีก



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ