Advertisement
E-Commerce อันดับ 1 อย่าง Alibaba ผู้ครอบครอง Lazada กำลังเจอคู่แข่งขันที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง JD.com ที่รวมกับ Central ซึ่งจัดแจงเปิดตัวในไทยในนาม JD.co.th
JD.co.th เตรียมเปิดตัวในไทย
จากการร่วมแรงระหว่าง JD.com และ Central
E-Commerce ในทวีปเอเชียของเรา เจ้าใหญ่ๆมีแค่ 2 เจ้าในตอนนี้ โน่นเป็น เครือ Alibaba และก็ JD.com, Inc., สำหรับตัว Alibaba ชาวไทยน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว จากการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ Lazada แต่ว่า ตัว JD.com น่าจะเป็นเรื่องใหม่ของคนไทย แต่ว่าในตลาดเอเชียนั้น ทาง JD ถือได้ว่าชั้น 2 เป็นรองแค่ Alibaba เท่านั้น
เพราะอะไร JD.com ก็เลยประสบความสำเร็จในจีน
ในประเทศจีน ผลิตภัณฑ์ Brand name ได้รับความนิยมเยอะขึ้น และตัว JD.com เองก็ได้เปิดขายของแบรนด์เนมของแท้ เจาะตลาดนี้โดยเฉพาะ ในเวลาที่ตัว Alibaba ผู้ครอบครอง T Mall เคยได้รับการจู่โจมจากลูกค้าในเรื่องนี้ ทำให้ JD.com เริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในรูปภาพลักษณ์ที่สวยงาม โดยตัวอย่าง Brand ที่ร่วมกับ JD.com ในจีนนั้น คือ
La Perla
Emporio Armani
Trussardi
Rimowa
Louis Vuitton
พูดอีกนัยหนึ่ง หนึ่งลักษณะเด่นหลักๆของ JD.com ในจีน นั่นคือการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า ว่าได้ของแท้ คุณภาพดี ราคาถูกเกินความจำเป็น และเจาะตลาดชนชั้นกลางก่อน เพื่อสร้าง Brand Loyalty
JD.com กับผู้สนับสนุนยักษ์ใหญ่ อย่าง Walmart และ Tencent
#1 Tencent
ในปี 2014 จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้ JD.com ในจีนยิ่งใหญ่ขึ้น คือการที่ Tencent ซึ่งเป็นบริษัท IT อันดับ 1 ไม่สามารถสู้กับ Alibaba ในตลาด E-Commerce ได้ Tencent จึงตัดสินใจซื้อหุ้น 15% ใน JD.com ยิ่งกว่านั้น Tencent ได้ผนวกธุกิจ E-Commerce ของตัวเองเข้ากับชื่อ JD.com ทำให้ปริมาณผู้ใช้งานของ JD.com เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวทันที
** หากผู้ใดยังไม่เคยรู้ Tencent ก็ไม่ได้ยากอะไรเป็น บริษัทนี้เป็นเจ้าของ Joox , Sanook.com , ต้นแบบเกมส์ ROV by Garena ใต้ชื่อ Tencent Game , Wechat , QQ จะมองเห็นได้ว่า Tencent ไม่ได้ใหญ่แค่ในจีน แม้กระนั้นในประเทศไทยเอง ก็ได้ดำเนินธุรกิจมากนาน เพียงแต่ไม่ได้โฆษณาบริษัทแม่เพียงเท่านั้น อาทิเช่น ตัว Garena เจ้าของ Shopee , AirPay และก็ ROV มีชื่อในตลาดหลักทรัพย์ว่าหุ้น SEA ก็มีผู้ถือหุ้นหลักก็คือ Tencent
#2 Walmart
ในปี 2016 Walmart ห้างขายปลีกเบอร์ต้นของ อเมริกา เพียรพยายามแข่งขันกับ Alibaba ในจีนแต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จ จึงได้ขายธุรกิจการค้าให้ JD.com แม้กระนั้นยังคงถือหุ่นใน JD.com อยู่ถึง 5.9% ทำให้ JD.com ได้ปรโยชน์จากระบบคลังสำหรับเก็บสินค้าที่ Walmart วางไว้ ในเมืองใหญ่ๆอย่าง เมืองปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และ เสิ่นเจิ้น อีกทั้ง ยังได้ผลิตภัณฑ์จาก Walmart เข้ามาขายบนหน้าเว็บไซต์ในทันที ความร่วมมือคราวนี้เป็นได้ดีจนทำให้ Walmart ซื้อหุ่นเพิ่มใน JD.com เป็น 10.8% ในปีเดียวกัน
JD.com ไม่ได้ขยายอาณาจักรในจีนจนกระทั่งขึ้นมาเป็นที่ 2 แค่นั้น แต่ว่ายังขยายกิจการออกนอกประเทศด้วย ยังเปิดเกมรุกธุรกิจนอกประเทศด้วย ซึ่งในปี 2015 มีการเปิดตัว JD Worldwide ในนาม joybuy.com ยิ่งกว่านั้น ยังได้ลงทุนในอีก 4 ประเทศหลักๆโน่นคือ
เปิดตัว JD.ru ที่รัสเซีย โดยเป็นตลาดต่างชาติแห่งแรกของ JD รวมทั้งปรารถนาเป็นที่ 1 ในตลาด E-Commerce ในปี 2020
JD Singapore ได้ร่วมมือกับ เว็บไซต์ IKnow ทำให้การจัดส่งผลิตภัณฑ์ใน Singapore เร็วขึ้น ไม่ต้องคอยการขนส่งจากจีน
JD ลงทุนใน Startup ด้าน E-Commerce ในอเมริกากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นคือ wish.com ซึ่งรองรับสกุลเงินบาทด้วย
มีการทำ MOU กับบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Yamato Logistics ก็ทำให้การขนส่งของจากประเทศญี่ปุ่นไปจีนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสด
JD ได้ลงทุนที่ Indonesia กว่า 100 เหรียญสหรัฐ ในบริษัท Taxi คู่แข่งทางตรงกับ Grab อย่าง Go-Jek เพื่อเป็นวิถีทางการพัฒนาตลาด E-Commerce ในอนาคต
JD.co.th ปลายปีนี้ เปิดแน่!
ภายใต้ความร่วมมือกับ Central ในนาม JD Central
111
ในไทยก็ด้วยเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ JD.com ประกาศร่วมมือกับกรุ๊ปเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าอันดับ 1 ในไทย โดยจะขยายธุรกิจเรื่อง E-Commerce แล้วก็ FinTech ในไทย โดยเป็นการถือหุ่นครึ่งต่อครึ่ง รวมจำนวนเงินกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ความหวังเป็น อยากได้ให้ไทยเป็น Hub ของ E-Commerce ในทวีปเอเชียตะวันอกเฉใต้ ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับ Lazada โดย Alibaba
ความคาดหวังดังกว่าน่าจะเป็นไปได้ ด้วยเหตุว่า การร่วมมือกับ Central Group ซึ่งบริษัทค้าปลีกในไทยอันดับ 1 มานานกว่า 70 ปี ทั้งยังยังมีการขนายธุรกิจไปทั่วโลก มีอีกทั้งห้างสรรพสินค้า เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อสังหาริมทรัพย์ แล้วก็ ร้านขายของออนไลน์ อย่าง Central.co.th ซึ่งนับว่าเป็นโครงข่ายที่ใหญ่ที่สุดในไทย และ อุษาคเนย์
ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น มีอยู่ 3 จุดเด่นคือ
ทำให้ JD.com เป็น Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดในไทย แล้วก็ ภูมิภาคในอนาคต
ให้บริการระบบจ่ายเงินออนไลน์ E-Payment รวมทั้ง Wallet
ปรับปรุงระบบ E-Logistic ซึ่งตอกย้ำซ้ำเติมการบรรลุเป้าหมายเดิมที่ JD.com เคยทำสำเร็จมาแล้วในจีน โดยมีการใช้โดรนเข้ามาช่วย ซึ่งทำให้เงินลงทุนต่ำลงกว่า 75%
Dealcha จะร่วมมือกับ JD.co.th ไหม?
Dealcha.com เป็นผู้สนับสนุนใกล้ชิดกับกรุ๊ป Central โดยยิ่งไปกว่านั้น Central.co.th อยุ่แล้ว ซึ่งแน่ๆว่า Dealcha.com ที่มีความมุ่งหมายที่แน่แน่วสำหรับเพื่อการสนับสนุน E-Commerce ในไทย ย่อมร่วมสนทนาเป็นพันธมิตรกับ JD.co.th อย่างแน่นอน โดยมีเป้าหมายสำหรับเพื่อการสะสมข้อมูลที่มีประโยชน์แก่สมาชิกดังนี้
ซึ่งนักอ่านสามารถติดตามข้อมูลต่างๆได้จาก Dealcha.com เว็บแคชแบ็คที่แรกในไทย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
[url]http://upgradechallenge.net[/url]
Tags : upgradechallenge,upgradechallenge.net
