ตำแหน่งของห้องครัวควรจะหันไปในทิศที่รับแสงสว่างและลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำแหน่งของห้องครัวควรจะหันไปในทิศที่รับแสงสว่างและลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่  (อ่าน 4 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
promiruntee
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19636


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2019, 02:49:08 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ทีมสถาปนิกมากฝีมือประสบการณ์สูงทั้งทั้งประเทศไทยและเทศ ออกแบบบ้าน สำนักงาน ห้องครัว ซ่อมซ่อมต่อเติม  ต่อเติมบ้าน คุยต่อรองได้
 
 
ตำแหน่งของครัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวเปิดแบบอยู่ข้างในตัวบ้านซึ่งสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสม่ำเสมอหรือเลือกครัวแบบปิด บางทีอาจตั้งอยู่นอกบ้าน เเต่ไม่ว่าจะห้องครัวแบบไหนก็ควรหันไปในทิศที่รับแสงแล้วก็ลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่องประตู หน้าต่าง แล้วก็ช่องแสง  รับเหมาต่อเติมบ้าน รีโนเวทให้บริการับต่อเติมบ้าน[/url]

ด้านของเเสงกับห้องครัว
เเนวคิดหลักก็คือห้องครัวควรอยู่ในทิศที่มีเเสงสว่างส่องเข้าถึงได้ เพื่อเเสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรคต่างๆและก็ไล่ความชุ่มชื้นข้างในห้องครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณอ่างล้างจานควรจะอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะได้ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทรวมทั้งระบายกลิ่นต่างๆเวลาทำกับข้าว นอกนั้นยังมีผลให้ครัวเย็นสบาย
...มาดูผลจากการตั้งครัวในเเต่ละด้านกันเลยดีกว่า…
- เเสงทางทิศเหนือให้ความสว่างกับครัวได้ตลอดทั้งวัน เเต่ไม่กำเนิดความร้อน เพราะเหตุว่าไม่ใช่ทิศทางโคจรของดวงตะวัน
- เเสงทางทิศใต้ชอบส่องครัวในช่วงฤดูหนาว เเละจะให้เเสงพอเหมาะพอควรในช่วงฤดูร้อน การที่ทำช่องเเสงบนหลังคาทางด้านทิศใต้จะช่วยให้ห้องครัวได้รับเเสงในฤดูหนาวได้เต็มกำลัง เพราะในฤดูหนาวดวงตะวันจะอ้อมไปทิศใต้
- เเสงทางทิศตะวันออก ครัวที่หันไปทางด้านนี้จะได้รับเเสงแดดช่วงเวลาเช้า ทำให้ห้องได้รับเเสงสว่างและก็ความร้อนเพราะเหตุว่าเป็นทิศที่ตะวันขึ้น
- เเสงทางทิศตะวันตก ครัวจะได้รับแดดบ่ายจนกระทั่งเย็นก็จะไม่ค่อยสะดวกถ้าหากทำอาหารในตอนนี้ หากมีหน้าต่างใช้มูลี่ปรับเเสงหรือม่านบัง หรือจะปลูกต้นไม้เพื่อลดแสงกับความร้อนก็ได้

ตำแหน่งที่สมควรของห้องครัวในบ้าน
โดยธรรมดาชาวตะวันออกมั่นใจว่าตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับห้องครัวที่สุดในบ้านคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงสว่างและก็ลมได้อย่างเหมาะเจาะ ส่วนถ้าเกิดเป็นความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จะถูกใจให้ครัวอยู่ทางทิศตะวันออกและก็ทิศใต้ เพราะทางทิศตะวันออกห้องครัวจะได้รับเเสงแดดตั้งเเต่รุ่งเช้าถึงเที่ยงตรง เเละเวลาเย็นจะเย็นสบายเวลาปรุงอาหาร ส่วนทิศใต้นั้นมีลมพัดผ่าน ทำให้อากาศถ่ายระบายได้สะดวก
สำหรับคนใดกันแน่ที่กำลังสร้างบ้าน เดี๋ยวนี้อาจตัดสินใจเลือกได้เเล้วใช่มั้ยค่ะว่าจะสร้างห้องครัวไว้ทางทิศไหนดี ชอบแบบไหนก็เลือกแบบงั้นได้เลย สิ่งจำเป็นเลยก็คือแสงสว่างเเละลมจำเป็นที่จะต้องส่องผ่านเข้าไปในห้องครัว เพื่อจะช่วยระบายอากาศ ไม่ให้กลิ่นตกค้างในห้องครัวนะคะ
 
นอกจากฮวงจุ้ยที่เหมาะกับก่อสร้างบ้านแล้ว เจ้าของบ้านควรจะทราบเหตุว่า ฮวงจุ้ยลักษณะไหน ที่ไม่สมควรไปก่อสร้างบ้านในบริเวณนั้น

1. มีกระแสลมแรงพัดผ่านตลอดเวลา พลังของลมจะพัดพาทรัพย์สินเงินทองไม่ให้เหลือเก็บ แต่ว่าถ้าเกิดไม่มีลมพัดเลย พลังงานที่ดีก็จะไม่เวียน ฮวงจุ้ยที่ดีเป็นมีลมพัดผ่าน อากาศระบายดี แม้กระนั้นไม่ใช่พัดแรงตลอดเวลา

2. มืดและเย็น มีความหมายว่ามีพลังหยินเยอะเกินไป กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย แล้วก็เป็นที่อยู่ของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ดี ไม่สมควรอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์

3. ทางชันพุ่งเข้าหาประตู เหมือนสร้างบ้านบนปลายอาวุธ มีแต่ว่าอันตราย ไม่ใช่เรื่องดี

4. ถนนพุ่งเข้าบ้าน เป็นรูปแบบของทางสามแพร่งหรือทางผีผ่าน ยิ่งถนนยาว มีรถมาก ยิ่งอันตราย

5. ใกล้ทางโค้ง เหมือนรูปเคียวโดยเฉพาะสะพาน หรือวงเวียน เห็นรถยนต์หรือสิ่งที่จะเข้ามาในบ้านได้ยาก บางทีอาจอันตรายอีกทั้งจากมิจฉาชีพลักขโมยรวมทั้งเป็นจุดดักพลังงานที่ไม่ดี

6. ประกบด้วยตึกสูง ทั้งซ้ายขวาหรือ หน้าข้างหลัง ในลักษณะเหมือนคีบบ้านที่อยู่ตรงกลาง ไม่ดี เนื่องจากเป็นรูปแบบของโลง บ้านที่อยู่กึ่งกลางเป็นศพ ตาย ไม่มีวันรู้สึกตัวพอๆกับทำมาหากินไม่ขึ้น

7. มุมแหลมของบ้านด้านข้างพุ่งเข้าหาตัวบ้าน รูปแบบนี้เป็นรูปแบบของศรพิฆาต พลังของความคิดร้ายต่างๆจะพุ่งเข้ามาที่บ้าน

8. ข้างหน้าบ้าน เป็นสถานีตำรวจ ศาลเจ้า คุกสถานดับเพลิง สถานที่พวกนี้เป็นแหล่งรวมของเรื่องร้อนใจและก็ความร้อนใจ ซึ่งจะส่งผลมาถึงคนในบ้านด้วย

9. ที่ดินปากทางน้ำ ถือว่าไม่เป็นมงคล เพราะน้ำไหลตลอดระยะเวลา เก็บทรัพย์มิได้ ทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกกัดเซาะแล้วก็อุทกภัยอีกด้วย

10. มีต้นไม้ต้น เสาไฟ หรือเสาหลัก ขวางตรงประตูหน้า ข้าวของเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งอัปมงคล ไม่ควรให้ตั้งอยู่หน้าบ้าน

11. มีลำคลอง ร่องน้ำ ไหลผ่านตัวบ้าน ทำให้เงินเสียหาย

12. มีแอ่งตรงกลางบ้าน หรือกลางตัวบ้านเป็นหลุมบ่อ กลางบ้านคือหัวใจของพลังงานในบ้าน ถ้ายุบหรือเป็นหลุมลงไปย่อมไม่เป็นมงคล
 
ไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่าง จะต้องรู้จักลักษณะเฉาพะตัวของไม้ที่นิยมใช้กันในบ้านเรา เพื่อจะได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเรียงลำดับความแข็งของแก่นไม้จากมากมายไปน้อย
ไม้แดง แก่นไม้มีสีแดงเรื่อๆถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอสมควร เนื้อเหนียวแข็งแรงและก็ทนทาน แต่ว่ายืดหดตัวค่อนข้างมากมาย จึงจำต้องผ่านการอบมาอย่างดี นิยมใช้ก่อสรา้งในส่วนที่ไม่ใช่องค์ประกอบ ได้แก่พื้น วงกบของประตูหน้าต่าง เครื่องตกแต่งบ้าน ถ้าเกิดปูพื้นจำเป็นต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนักมากยิ่งกว่าไม้ประเภทอื่น

ไม้ปประจำเดือน เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงก้อนอิฐเข้มมีความแข็งใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลายสวยงามเนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวรวมทั้งชักเงาเจริญ แต่ว่าคนไม่ค่อยชอบเพราะบางเวลาสีเป็นจ้ำ

ไม้เต็ง แรกๆเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วจะค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลแก่แกมแดง เนื้อหยาบแม้กระนั้นสม่ำเสมอ นิยมใช้ทำโครงสร้างอย่างคาน ตง และก็พื้น ในท้องตลาดมีทั้งไม้เต็งไทยแล้วก็ไม้เต็งมาเลย์ แต่ไม้เต็งไทยจะคงทนกว่า

ไม้มะค่า แก่นไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่และจะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งเอาไว้นาน มีเส้นเศษไม้ เนื้อออกจะหยาบ แต่เป็นประจำ เป็นมันเลื่อมเห็นลายไม้แน่ชัด ทนมอดปลวกได้ดิบได้ดี มีการยืดหดออกจะน้อย

ไม้สัก (บางตำราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน) เนื้อไม้มีสีเหลืองทองคำและเบาๆกลายเป็นสีน้ำตาลและน้ำตาลแก่ มีกลิ่นราวกับหนังขัดเก่าๆมีจุดเด่นที่ลายไม้สวยสดงดงามแต่ว่าถ้าเกิดใช้งานหนักๆจะเป็นรอยง่ายจำเป็นจะต้องเคลือบด้วยวาร์นิชที่ช่วยให้ไม้ทนการขัดเช็ดเยอะขึ้นเรื่อยๆ
 
พื้นไฟเบอร์ปูนซีเมนต์

เป็นการผสมเส้นใยไม้รวมทั้งปูปูนซีเมนต์จึงมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน รวมทั้งปลวกไม่กิน เนื้อเหนียวคล้ายไม้สามารถทำสีได้ตามปรารถนา เหมือนกับไม้ อายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,000-1,300 บาท

ไม้ผสมพอลิพรอพิลีน(PE)

คืออุปกรณ์ที่ผลิตมาจากเยื่อไม้ผสมกับวัสดุสังเคราะห์ชนิดพลาสติกหรือพอลิพรอพิลีน (PE) ทำให้มีผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น และคุณลักษณะคล้ายไม้ แต่ว่าทนทานอย่างพลาสติกผู้สร้างเสร็จจากโรงงาน และก็มีระบบระเบียบการตำหนิดตั้งที่สะดวก ผู้สร้างบางรายดีไซน์ให้มีตลอดตัวล๊อค ตงรวมทั้งไม้ปิดด้านข้างสำเร็จรูป อายุุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละโดยประมาณ2,000 บาท

ไม้สน

เป็นไม้นำเข้า ซึ่งมีให้เลือกทั้งยังไม้สนโตเร็ว (วงปีห่าง) ที่นิยมปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ รวมทั้งไม้สนโตช้า (วงปีถี่กว่า) ที่นิยมปลุกในประเทศแถบยุโปรตอนเหนือ แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อนแม้กระนั้นก็ผ่านการอบ อาบน้ำยาคุ้มครองปกป้องแมลง และเติมสารเคมีให้มีความทนทาน จึงสามารถใช้ภายได้ มีลักษณะเด่นที่มีสีอ่อน และก็สีสันจะเปลี่ยนเป็นสีอมเทามองสวยงามไปอีกแบบ อายุการใช้งาน10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท

แผ่นไม้พื้นระเบียบปฏิบัติสำเร็จรูป

เป็นการนำไม้เนื้อแข็งมาติดบนแผ่นตะแกรงพลาสติกพอลิพรอพิลีน มีระบบล็อกระหว่างแผ่น ส่วนใหญ่มีขนาดมาตราฐาน 30 x 30 แล้วก็ 45 x 45 ซม. สามารถวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้องเดิมได้โดยทันที ราคาขึ้นอยู่กับขนาดแล้วก็ดีไซด์ ราคาแผ่นละ 150-300 บาท
 
พื้นไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต(laminated Flooring)

เป็นหลักไม้สำเร็จรูปที่นำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนเรสิน เพื่อป้องกันการขีดข่วน และการยืดหดตัวของแผ่นไม้มีอีกทั้งประเภทผิวหน้าเรียบแล้วก็ประเภทมีผิวพิ้นสัมผัส

พื้นไม้ปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์(Wood Veneer Flooring)

เป็นไม้ปูพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับไม้ลามิเนตแต่ว่ามีความแข็งแรงน้อยกว่า มีผิวหน้าเป็นแผ่นวิเนียร์ไม้จริง รองด้วยไม้กระดานอัดหรือไม้ HDF (High Desity Fiber Board) เคลือบผิวหน้าด้วย น้ำยาฉาบแข็งหรือสารป้องกันรีงสีแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อความทนทาน

พิื้นไม้จริงแนวทางเอนจิเนียร์(Prenished Engineered Floor)

วัตถุดิบ ด้วยการใช้ผิวหน้าไม้จริงและตามติดด้านล่างด้วยแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF) หรือใช้ไม้จริงที่มีคุณภาพรองลงมาวางซ้อนกันหลายๆชั้นแล้วอัดผสานด้วยการพร้อมอัดน้ำยากันปลวกและฉาบข้างหลังไม้เพื่อคุ้มครองความชื้้น

พื้นไม้จริงสำเร็จรูป (Prenished Solid Floor)

เป็นไม้จริงทั้งแผ่นที่ได้ความก้าวหน้าผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยผ่านกรรมวิธีอบแห้ง อัดน้ำยากันปลวกทำสีและเคลือบผิวหน้ามาจากโรงงานพร้อมดีไซน์ระบบการปกป้องความชุ่มชื้นและก็การต่อไม้เข้าลิ้นให้จัดตั้งสบายขึ้นจึงจัดตั้งได้เร็ว ลดปัญหาไม้หดหรือปิดตัว อีกทั้งมีลวดลายและสีสันให้เลือกมากไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะมีอีกทั้งไม้จากยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริการวมทั้งเอเซีย ราคาพื้นไม้สำเร็จรูป ตารางเมตรละ 700-2000 บาท
 
แผ่นไผ่อัด

สร้างมาจากไม้ไผ่ในประเทศ โดยเอามาผ่านกรรมวิธีดูดอากาศ อัพน้ำยา และอบแห้ง เพื่อแก่นไม้แน่นรวมทั้งอยู่ตัว ก็เลยมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ปลอดแมลงกันกิน เอามาผ่าซีกและก็ไสตามขนาดที่ต้องการ อัดผสานด้วยกาวในระดับความร้อนสูงให้เป็นแผ่น และก็นำไปแปรรูปใช้งาน ได้นานัปการ อีกทั้งกรุผนัง ทำพื้นไม้ ฝ้าเพดานเฟอร์นิเจอร์ และหลังคา ราคาตารางเมตรละ1,000-3,000 บาท

อุปกรณ์ชดเชยไม้พร้อมโครงคร่าวสำเร็จรูป

ทำมาจากไม้ผสอมพอลิพรอพิลีน(PE) วางแบบให้มีหลายขนาดพร้อมโครงคร่าวๆ สามารถเอามาประกอบตามรูปแบบที่อยากได้ เหมาะสำหรับทำผนังและฝ้าเพดานทั้งยังด้านในและภายนนอกราคาตารางเมตรละ 1,500 -2,000 บาท

แผ่นผนังไม้สำเร็จรูป

เป็นไม้จริงและก็โครงพร้อมจัดตั้ง ขนาด 60×60 ซม. มีทั้งชนิดผนังโปร่งรวมทั้งผนังทึบ สามารถที่จะนำมาใช้ทำฝาผนังบังตา ผนังตกแต่งอีกทั้งข้างในแล้วก็ด้านนอก ราคาตารางเมตรละ 3,500-4,300 บาท
 
ติดต่อใช้บริการได้ที่: บริษัท คอมพลีทโฮม COMPLETE HOME จำกัด
รับ: ผู้รับเหมา ต่อเติมบ้าน
โทรศัพท์: 0846446655
Email: completehomecontact@gmail.com

เครดิตบทความจาก : [url]http://www.completehome.co.th/[/url]

Tags : รับต่อเติมบ้าน, renovate บ้าน , ต่อเติมบ้าน



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ