Advertisement
อาการอาหารไม่ย่อยที่พบได้มาก แตกต่างจากอาการอาหารไม่ย่อยที่เกิดร่วมกับอาการอื่นๆเช่นไร แล้วก็อาการแบบไหนที่นับว่าอันตราย แล้วก็ควรรีบไปพบหมอทันที
"อาหารไม่ย่อย (Dyspepsia)" เป็นภาวการณ์ไม่ปกติของทางเดินอาหารส่วนต้น รอบๆรอยต่อระหว่างกระเพาะกับลำไส้เล็กส่วนต้น ภาวะนี้ถือว่า เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่มีผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป ดังเช่นว่า ทำให้ผู้ที่เป็นรู้สึกป่วยหนักท้อง หรือไม่อยากกินอาหาร
ยิ่งกว่านั้น อาการของอาหารไม่ย่อยยังสามารถเป็นร่วมกับโรคอื่นๆได้ ดังเช่นว่า โรคกรดไหลย้อน หรือโรคไส้แปรปรวน เป็นต้น โดยเหตุนั้น วิธีสำหรับซักประวัติอย่างครอบคลุม เพื่อวิเคราะห์หาต้นเหตุหลักของปัญหา และก็ได้รับการดูแลรักษาที่สมควร จึงเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาภาวการณ์นี้
ต้นเหตุของอาหารไม่ย่อย
ทานอาหารมากมายแล้วก็เร็วเหลือเกิน
ดื่มคาเฟอีน แล้วก็แอลกอฮอล์ในปริมาณมากเหลือเกิน
กินอาหารรสจัด อาทิเช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด
ดูดบุหรี่
ถุงน้ำดีอักเสบ
กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
ตับอ่อนอักเสบรุนแรงหรือเรื้อรัง
แผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก
การใช้ยาปฏิชีวนะ
การกินยาแอสไพริน
การใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
โรคแผลในกระเพาะจากการรับเชื้อ
ไส้เลื่อนที่กะบังลม
ลักษณะของอาหารไม่ย่อย
อาการทั่วไปที่เจอได้
แสบร้อนกลางหน้าอก
เจ็บท้องส่วนบนหรือเจ็บอก
ไม่อยากกินอาหาร
อาเจียน
เรอ
อาการท้องอืด
อาการร่วมอื่นๆที่บ่งถึงโรคที่มีความร้ายแรง
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบปัจจัย
มีอาการปวดท้องมากเปลี่ยนไปจากปกติ
คนที่แก่มากยิ่งกว่า 45 ปีขึ้นไป และไม่เคยมีลักษณะอาการอาหารไม่ย่อยมาก่อน
อาการที่ควรจะเจอหมอทันที
คลื่นไส้มีเลือดผสม หรือมีเลือดสีราวกับกาแฟ
อ้วกเป็นเลือดสด
อาหารไม่ย่อยร่วมกับมีอาการคลื่นไส้คลื่นเหียน
แม้อาการจุกเสียดแน่นท้อง มาพร้อมกับอาการพะอืดพะอมอ้วก โดยไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ท้องร่วง ให้สงสัยว่า ปัญหาหลักอาจเป็นเพราะกระเพาะ
ถ้าเกิดอาการเกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะการทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือรับประทานอาหารจำนวนมากและเร็วเหลือเกิน ทำให้กระเพาะย่อยไม่ทัน แต่ว่าหากมีลักษณะเสมอๆต้นเหตุอาจเป็นเพราะเนื่องจากโรคกระเพาะของกินอักเสบก็ได้
การดูแลรักษาของกินไม่ย่อยร่วมกับมีอาการอาเจียนพะอืดพะอม
รับประทานยาลดกรดกลุ่ม PPIs (Proton pump inhibitor) หรือเอชทูบล็อกเกอร์ H2 blocker เพื่อยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
แม้เป็นกระเพาะอาหารอักเสบจากการรับเชื้อแบคทีเรีย อาจให้ยายาปฏิชีวนะร่วมกับยาลดกรดด้วย ทั้งนี้ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนทำรักษา
การปกป้องของกินไม่ย่อยร่วมกับมีลักษณะอาเจียนคลื่นเหียน
ทานอาหารให้ตามกำหนด เลี่ยงการทานอาหารปริมาณมากหรือรวดเร็วทันใจเหลือเกิน
เลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้เกิดกรดในกระเพาะมากเกินไป
อาหารไม่ย่อยร่วมกับมีลักษณะท้องร่วง
หากมีอาการของกินไม่ย่อยพร้อมกับอาการท้องร่วง ถ่ายเหลววันละหลายๆครั้ง บางครั้งถ่ายมีมูกเลือดปนและเจ็บท้องบิดรุนแรง มักมีสาเหตุมาจากไส้อักเสบและโรคบิด ซึ่งต้นสายปลายเหตุมาจากการรับเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ และโปรโตซัว ที่แปดเปื้อนมาพร้อมกับของกิน
อันตรายที่บางทีอาจเกิดขึ้นตามมา เป็น ภาวะร่างกายขาดน้ำแล้วก็แร่ รวมถึงอาจมีเลือดไหลในทางเดินของกินด้วย
การรักษา
ย้ำคุ้มครองป้องกันภาวการณ์ร่างกายขาดน้ำ โดยการกินน้ำผสมเกลือแร่ หรือให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดดำ
แม้ต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจให้รับประทานยายาปฏิชีวนะ หรือให้ยาทางเส้นโลหิต เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
ทานอาหารอ่อนๆที่ย่อยง่าย อาทิเช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หลบหลีกอาหารที่ย่อยยาก ของกินรสจัด นมวัว เครื่องดื่มคาเฟอีน แล้วก็เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การปกป้องคุ้มครอง
เลี่ยงการกินอาหารรวมทั้งน้ำที่ไม่สะอาด ของกินเก่าพักแรม แล้วก็ของกินดิบๆสุกๆ
ของกินไม่ย่อยร่วมกับมีอาการแสบร้อนกึ่งกลางอก
สิ่งที่ทำให้เกิดอาการจุกเสียดแน่นท้องแล้วก็แสบร้อนกลางอก มักมาจากโรคกรดไหลย้อน ซึ่งสาเหตุมักมีต้นเหตุที่เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างเปลี่ยนไปจากปกติ ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลกลับขึ้นมายังหลอดอาหารได้ ส่งผลให้มีอาการอาเจียน เรอบ่อย แล้วก็รู้สึกถึงรสเปรี้ยวๆในปากด้วย
เหตุที่ส่งผลให้เกิดโรคกรดไหลย้อนมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ความประพฤติการสูบยาสูบ ดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารมากเกินไป นอนในทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ รวมทั้งสภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน เป็นต้น
การดูแลรักษา
ยาลดกรด หรือยายับยั้งการหลั่งกรด ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต และการควบคุมน้ำหนัก
การคุ้มครองป้องกัน
หลบหลีกการนอนในทันที หลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ
ทานอาหารให้ตามเวลา
ลดการดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และการสูบยาสูบ
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ธรรมดา
อาหารไม่ย่อยร่วมกับมีภาวการณ์โรคดีซ่าน
ภาวการณ์โรคดีซ่าน เป็น สภาวะตัวเหลือง ตาเหลือง มีต้นเหตุมาจากความแตกต่างจากปกติของตับแล้วก็ท่อน้ำดี ตับทำหน้าที่ผลิตน้ำดีที่เป็นตัวช่วยให้ไขมันจากอาหารกระจายตัวในแนวทางการย่อย
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบ ตับแข็ง โรคมะเร็งตับ โรคพยาธิใบไม้ตับ นิ่วในถุงน้ำดี ท่อน้ำดีอุดตัน และมะเร็งท่อน้ำดี มักมีลักษณะปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อ้วก โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกินอาหารที่มีไขมันสูง ร่วมกับมีลักษณะอาการตัวเหลืองตาเหลืองด้วย
การดูแลรักษา
โรคเกี่ยวตับแล้วก็ท่อน้ำดีนั้นมีหลายโรค ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากต้นเหตุแตกต่างกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว การดูแลและรักษาจึงไม่เหมือนกันออกไปขึ้นกับความผิดแปลกนั้นๆยกตัวอย่างเช่น
ถ้าเป็นตับอักเสบจากไวรัส จะให้ยาต้านทานไวรัส
หากเป็นตับอักเสบจากต้นเหตุอื่นๆก็บางทีอาจให้ยากรุ๊ปคอร์ติวัวสเตียรอยด์ เพื่อยับยั้งการอักเสบ
มะเร็งตับแล้วก็โรคมะเร็งท่อน้ำดี จะรักษาโดยใช้แนวทางฉายแสงแล้วก็เคมีบำบัด
การปกป้องคุ้มครอง
งดเว้นดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันภาวการณ์ตับอักเสบจากพิษแอลกอฮอล์
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยการใส่ถุงยางอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ติดเชื้อเชื้อไวรัสตับอักเสบ
ควบคุมด้านการกินอาหาร ออกกำลังกาย แล้วก็ลดหุ่นให้เข้าขั้นธรรมดา เพื่อคุ้มครองภาวะไขมันเกาะตับ และก็นิ่วในถุงน้ำดี
หลบหลีกการกินปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดเกล็ดขาวดิบๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการรับเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ
ของกินไม่ย่อยร่วมกับมีลักษณะเวียนหัว
สาเหตุหลักของอาหารไม่ย่อยที่มาพร้อมด้วยลักษณะของการปวดหัว ตาลายหัว นั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความตึงเครียด เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะเครียด การบีบตัวของอวัยวะในทางเดินอาหารแล้วก็การหลั่งน้ำย่อยจะผิดปกติ กระตุ้นให้เกิดลักษณะของการปวดท้อง จุกเสียด และก็ไม่อยากกินอาหารด้วย
การรักษา
ทำกิจกรรมที่ช่วยเครียดน้อยลง เป็นต้นว่า บริหารร่างกาย ฟังเพลง นอน นั่งสมาธิ สวดมนต์ ฯลฯ
แม้มีภาวการณ์เครียดเรื้อรัง ควรจะหารือจิตแพทย์ เพราะเหตุว่าบางทีอาจทำให้เกิดลักษณะการป่วยด้านจิตได้
ใช้ยารักษา ยกตัวอย่างเช่น ยาเบตาบล็อกเกอร์ (Beta-blocker) ที่ช่วยยั้งการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่เกี่ยวกับความเคร่งเครียด รวมทั้งยาไดอะซีแพม (Diazepam) ซึ่งเป็นยาความเครียดลดลง แต่การกินยาเครียดน้อยลงจำต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เพียงแค่นั้น
การคุ้มครองป้องกัน
หากิจบาปทำยามว่างที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ หรือออกไปพบปะเสวนากับผู้คน
ถ้าหากปฏิบัติงานที่จำเป็นต้องเผชิญกับความตึงเครียดเป็นประจำหรือผ่านเหตุที่เศร้าโศก ควรพบจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ เพื่อปกป้องสภาวะเครียดเรื้อรังซึ่งจะทำให้เกิดโรคเหงาหงอย
ของกินไม่ย่อย เจ็บท้องร้ายแรง รวมทั้งเบื่อข้าว
ลักษณะของการปวดจุกเสียดท้องรอบๆสะดือแล้วก็ท้องน้อยด้านขวาเป็นช่วงๆหรือปวดตลอดเวลา ร่วมกับอาการไม่อยากอาหาร อ้วก รวมทั้งเป็นไข้ เป็นอาการที่ชัดเจนของสภาวะไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งถ้าเกิดกำเนิดไส้ติ่งแตกก่อนพบแพทย์ ลักษณะของการปวดท้องจะยิ่งร้ายแรง พร้อมด้วยจับไข้สูง ร้ายแรงที่สุด คือ เสียชีวิต
การรักษา
ถ้าหากมีภาวะไส้ติ่งอักเสบ ควรจะรักษาด้วยการใช้การผ่าตัด ซึ่งอาจเป็นการผ่าแบบเปิดท้องหรือแบบส่องกล้องก็ได้ ขึ้นกับความร้ายแรงของการอักเสบ
การคุ้มครองป้องกัน
ไส้ติ่งอักเสบมักเกิดขึ้นอย่างกระทันหันโดยไม่เคยทราบต้นสายปลายเหตุ ก็เลยไม่สามารถที่จะหาวิธีป้องกันได้ แต่ว่าถ้าเกิดมีอาการตามที่กล่าวข้างต้นก็ควรรีบไปพบหมอ เพื่อคุ้มครองสภาวะไส้ติ่งแตก และก็การรับเชื้อจากการอักเสบ
สรุป
อาการของกินไม่ย่อยสามารถกำเนิดได้หลายสาเหตุ เมื่อกำเนิดแล้วมักทำให้คุณภาพชีวิตห่วยลง ใช้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น และก็ยังสามารถกำเนิดร่วมกับสภาวะ หรือโรคอื่นๆได้ด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าว การดูแลและรักษาและก็การปกป้องที่ดีที่สุด เป็นการปรับพฤติกรรมต่างๆร่วมกับการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอหากจำเป็น เพื่อผลการรักษาที่ดี แล้วก็ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคได้อย่างยั่งยืน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
[url]http://centrofunzionaleabruzzo.org[/url]
Tags :
http://centrofunzionaleabruzzo.org