Advertisement
แม้ผู้ครอบครองคนใดกันแน่ ไปซื้อลูกหมา (หรือแมว) จากแหล่งที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม หรือเปล่ามีการรับประกันมาตรฐาน มักจะพบว่าพอนำมาเลี้ยงได้ไม่กี่วัน ก็ชอบเจออาการ ซึม คลื่นไส้ ท้องเสียเป็นเลือด ใช่แล้วล่ะ ในตอนนี้สัตว์เลี้ยงของคุณไปสู่อาการน่าของโรคติดเชื้อไวรัสในกลุ่มที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบ (canine viral enteritis; CVE) โดยขึ้นชื่อว่าไวรัสก็ควรมีการติดต่อจากสัตว์สู่สัตว์แน่ๆ (แม้กระนั้นเชื้อไวรัสนี้ไม่ติดสู่คนนะ) โดยเชื้อที่มีความหมายอย่างมากก็คือเชื้อพาร์โวไวรัส (parvovirus) ซึ่งก่อโรครุนแรงรวมทั้งทนต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้แพร่ระบาดได้นาน ส่วนเชื้ออื่นๆอย่างเช่น coronavirus หรือ rotavirus เป็นต้น การติดต่อส่วนมากมีสาเหตุมาจากการสัมผัสโดยตรง กับเชื้อในอุจจจาระ แต่ว่าอย่างที่ได้กล่าวแล้วว่า parvovirus มีความคงทนในสิ่งแวดล้อมมาก สามารถติดต่อทางอ้อมโดยมากับเสื้อผ้าหรือรองเท้าของเจ้าของก็เป็นได้
อาการที่สำคัญ
เชื้อ parvovirus สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการ หลักๆ2 ระบบ อย่างแรกคือทางเดินอาหาร ตัวอย่างเช่น การอาเจียน ท้องเดินเป็นเลือด เนื่องจากว่าไวรัสจะไปทำลายเซลล์ของผนังลำไส้ให้หลุดลอก การดูดซึมสารอาหารไม่ดี ทำให้ผอมแห้ง มีอาการแห้งน้ำ ซึมรวมทั้งหมดแรง และก็จะปวดเกร็งท้องเมื่อคลำ จำนวนมากมักเกิดในลูกหมาอายุ 6 สัปดาห์ – 6 เดือน ส่วนอีกรูปแบบนึงเป็น อาจจะเป็นผลให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจในลูกสุนัขแรกคลอดได้ ซึ่งอย่างหลังส่วนมากแล้วจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
การตรวจวิเคราะห์
โดยมากสัตวแพทย์จะเริ่มต้นจากการตรวจอุจจาระ เพื่อแยะแยะถึงการรับเชื้ออื่นๆเช่น แบคทีเรีย หรือพยาธิ แต่ก็จะแบ่งอุจจาระเล็กน้อยมาตรวจในชุดตรวจ ซึ่งชอบใช้ตรวจหาทั้ง coronavirus และ parvovirus ถ้าหากชุดตรวจสำเร็จบวก ก็แสดงถึงการ “ติดเชื้อโรค” แน่ๆ สัตวแพทย์บางทีอาจกระทำการตรวจเลือดเพื่อพินิจพิจารณาค่าความเป็น กรด-ด่าง รวมมถึงมองการได้รับเชื้อสอดแทรกที่อาจเกิดขึ้นได้ เป็นต้น
การรักษา
โรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากการรับเชื้อไวรัสในสัตว์เป็นโรคที่ “ไม่มียารักษาโดยตรง” โดยมากจะเป็นการรักษาตามอาการเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การให้ยาลดอาเจียน ยาลดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรก การเสริมสารน้ำและก็แร่ รวมทั้งการใช้ยาช่วย “กระตุ้นภูมิคุ้มกัน” เหตุเพราะการดูแลและรักษาโรคที่มีต้นเหตุเนื่องมาจากการติดเชื้อไวรัส จำเป็นต้องให้ภูมิต้านทานของเจ้าตูบแข็งแรงแล้วก็จัดการกับเชื้อเอง ดังนั้นหากสุนัขยิ่งเด็กมาก ภูมิคุ้มกันยังไม่ดี ก็มักจะพบว่าจังหวะรอดชีวิตน้อย แต่ถ้าเกิดได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ช่องทางมีชีวิตรอดบางทีอาจมากถึง 70%
การดูแลและจัดแจง
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการ “คุ้มครองป้องกัน” ไม่ให้หมามีการติดโรคไวรัส นั้นสำคัญกว่า โดยพวกเราสามารถคุ้มครองปกป้องการรับเชื้อได้ตั้งแต่อายุ 8-9 อาทิตย์ และก็กระตุ้นไปเรื่อยๆจนถึงอายุ 16 อาทิตย์ แล้วต่อจากนั้นควรฉีดยาซ้ำในปีถัดมารวมทั้งกระตุ้นซ้ำทุกสามปี ส่วนในรายที่ค้นพบว่ามีการติดโรคไปแล้ว เพราะว่าเชื้อมีความทนทานในสิ่งแวดล้อมมาก ชี้แนะให้ใช้ยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของ sodium hypochlorite ชำระล้างทั้งหมดทั้งปวงรวมทั้งพ่นตามเสื้อผ้าแล้วก็มือของผู้ครอบครองเอง เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่ไปยังตัวอื่นในบ้าน รวมถึงแพร่ออกไปยังสภาพแวดล้อมด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
table219Tags : table219,table219.com,http://table219.com