Advertisement
ความลับของการมีความสุขตลอดกาล ? เพียรพยายามรู้เรื่องคนอื่นๆ
ถ้าเกิดคุณมีความคิดว่าคุณเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมตามธรรมชาติ คุณอาจไม่ได้ตกใจเมื่อได้ยินว่าการใช้เวลากับเพื่อนฝูงและก็ครอบครัวนั้นจะก่อให้คุณสุขสบายมากยิ่งขึ้น แต่ว่าถ้าคุณเป็นพวกต้านสังคม คุณไม่สมควรละเลยหัวข้อนี้ เนื่องจากว่าคุณจะแฮปปี้เยอะขึ้นเมื่อได้ออกไปพบปะกับคนอื่นจริงๆ
มีการวิจัยเกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติและสังคมต่อสุขภาพมายาวนานหลายปี โดยจากการเรียนรู้พบว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคมซึ่งปรารถนาการติดต่อกับมนุษย์คนอื่นๆเพื่อสามารถอยู่รอดได้
จริงๆแล้ว การขาดการติดต่อทางสังคมนั้นถูกเรียกว่าเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากยิ่งกว่าการสูบบุหรี่ด้วยซ้ำ การอยู่ตามลำพังมีผลต่อระบบภูมิต้านทานของคุณเหมือนกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรควิตกกังวล หม่นหมอง และก็ความประพฤติปฏิบัติหลีกเลี่ยงสังคม (มันง่ายมากที่จะพบว่าเรื่องกลุ่มนี้เกิดขึ้นเป็นวงจรจัญไร: การไม่เข้าสังคมทำให้เพิ่มความประพฤติปฏิบัติที่จะมีผลต่อการเข้าสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแสดงว่าจะมีความประพฤติดังที่กล่าวมาแล้วมากขึ้นไปอีก) แล้วก็นี่เป็นสิ่งที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับการเข้าสังคมรวมทั้งความสบาย
การเข้าสังคมนั้นเป็นโรคติดต่อ
ประโยชน์จากการเข้าสังคมอีกทั้งความรัก ความรู้ความเข้าใจ และความสบายนั้นเป็นเหมือนโรคติดต่อที่สามารถส่งผ่านความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้ และโน่นเป็นข่าวดี เนื่องจากหมายความว่าคุณสามารถได้รับผลดีจากโครงข่ายของคุณ (มันก็คือผู้ที่คุณมีความเกี่ยวข้องด้วยไม่ว่าจะเป็นทางโทรคำศัพท์หรือออนไลน์) ในแบบที่ไม่คาดคิด และถึงแม้ความเกี่ยวเนื่องแบบลึกซึ้งจะมีผลให้คุณได้รับคุณประโยชน์สูงสุด แต่การปฏิสัมพันธ์ง่ายๆก็สามารถส่งผลดีมาได้เหมือนกัน
นักค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดบางบุคคลรู้สึกว่าเครือข่ายทางสังคมซึ่งมีสาเหตุจากกลุ่มเพื่อนนั้นกระตุ้นให้เกิดผลในทางที่ดีตลอดในหลายทาง ซึ่งคนที่กำลังได้รับบางครั้งอาจจะไม่เคยสังเกตมาก่อน
การผลิตความเกี่ยวข้องนั้นขึ้นอยู่กับมุมมอง
การที่คุณรู้สึกหงอยเหงาแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางหมู่คนหรือรู้สึกโดดเดี่ยวแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางครอบครัวและก็เพื่อนนั้น แสดงว่าคุณมีความเกี่ยวข้องลดน้อยลงเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำโดยขึ้นกับมุมมองที่คุณมีต่อความเกี่ยวพันเหล่านั้น
ควรใช้เวลาในการรู้สึกขอบพระคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตซึ่งทำให้ความสัมพันธ์นั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่านั่นจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของความประพฤติปฏิบัติของคุณหรือไม่ก็ตาม
การมีความเกี่ยวเนื่องทำให้เราใจดีเยอะขึ้น
การสัมผัสถึงความเกี่ยวเนื่องของตัวเรากับบุคคลบริเวณได้จะเพิ่มระดับความเอาใจใส่ การทดลองที่เป็นที่รู้จักของ Jonathan Stark ที่เผยแพร่ข้อมูลบัตร Starbucks ของเขาให้สาธารณะแล้วก็ช่วยเหลือให้ไม่ว่าใครสามารถใช้มันหรือบริจาคได้ตามที่ปรารถนา นั้นเป็นการนำบัตรดังที่กล่าวมาแล้วมาใช้เชื่อมโยงอีกทั้งทางโครงข่ายออนไลน์ทำให้คนอื่นอยากที่จะมีส่วนร่วม มันเช่นเดียวกับสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งดึงเอาความรู้สึกต้องการที่จะให้ของแต่ละคนออกมา ซึ่งก็เกิดเรื่องที่เป็นได้เมื่อพวกเรานำมาเปรียบเทียบกับการบริการในชุมชนและก็ความโอบอ้อมอารีอื่นๆผู้ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อบุคคลอื่นนั้นมิได้ทำให้สุขภาพและความสำราญของตนเพิ่มขึ้นแค่นั้น แต่ยังส่งผลให้พวกเขามีความคิดว่าตนเองเชื่อมโยงกับผู้อื่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ และผู้ที่ได้รับการบริการนั้นก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วยเหมือนกัน
พวกเราสามารถเก็บเกี่ยวจากความข้องเกี่ยวได้
ใช่แล้ว แม้แต่คนที่ไม่ค่อยถูกใจแสดงออกก็ยังสามารถหาวิธีที่จะสร้างแล้วก็ปรับปรุงความสัมพันธ์กับคนอื่นๆได้ ในโลกตอนนี้ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทำให้การหาจุดยืนหรือกรุ๊ปของคุณนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะบุคคลจริงๆหรือผ่านสื่อออนไลน์ ข่าวดีก็คือความเกี่ยวพันที่ดีทั้งผองนั้นทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพแล้วก็ความสบาย ด้วยเหตุดังกล่าวคุณก็เลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องมองหาเฉพาะเพื่อนสนิทหรือความเกี่ยวเนื่องแบบลึกซึ้งถึงจะแฮปปี้ การเข้าร่วมความสัมพันธ์ในทางบวกใดๆก็ตามจะเพิ่มความรู้สึกดีให้กับคุณ ยิ่งคุณติดต่อกับคนอื่นมากเยอะแค่ไหน คุณก็จะยิ่งแฮปปี้มากเพิ่มขึ้นแค่นั้น และคุณก็จะสามารถสร้างเครือข่ายได้มากขึ้นถัดไป
ความเกี่ยวข้องคือคำตอบ
หากคุณได้อ่านเกี่ยวกับ Grant study ซึ่งเป็นการเรียนรู้ระยะยาว 75 ปีสำหรับการมานะมองหาว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขสูงที่สุด George Vaillant ผู้อำนวยการของงานศึกษาวิจัยนี้ได้ออกมาสรุปว่า ความสำราญซึ่งก็คือความรัก แล้วก็เมื่อมองหาแล้วก็มานะตั้งคำถามว่าอะไรทำให้พวกเขารู้สึกรัก คำตอบนั้นก็คือผู้อื่นไม่ใช่ข้าวของหรือประสบการณ์ แต่เป็นความสโมสรกับผู้อื่นเพราะว่าโน่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นสุขสูงที่สุด
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
compareprovidersTags : compareproviders.net,http://compareproviders.net