Advertisement
ผลิตภัณฑ์ยาสูบทางเลือกที่ให้นิโคตินกับผู้ใช้ มีชื่อทางการว่า Electronic Nicotine Delivery Systems (ENDS) เรียกกันทั่วไปว่า บุหรี่ไฟฟ้า (e-cigarette) บางคนเรียกว่าบุหรี่ไอน้ำ บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ e-cig บุหรี่ไร้ควัน (smokeless tobacco) Vaporizer และ Vape เป็นต้น
ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย บ้างใกล้เคียงกับบุหรี่มวนทั่วไป บ้างคล้ายซิการ์ หรือบางทีมีลักษณะคล้ายปากกา เป็นต้น (รูปที่ 1 ตัวอย่างรูปทรงและขนาดของบุหรี่ไฟฟ้า) บุหรี่ไฟฟ้าใช้พลังงานแบตเตอรี่ให้ความร้อน ทำให้นิโคตินเหลวซึ่งถูกสกัดมาจากใบยาสูบที่อยู่ในรูปแบบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเกิดการระเหย และผู้ใช้ก็สูบไอระเหยนั้นเข้าไป ช่วยให้ผู้สูบยังคงได้รับสารนิโคติน (เรียกว่า Vape) จึงช่วยลดความเสี่ยงในการรับสารพิษเพราะไม่มีการเผาไหม้เหมือนบุหรี่มวนทั่วไป ในปัจจุบันผู้ใช้สามารถปรับระดับของนิโคตินในน้ำยาได้ตามความต้องการ (แม้กระทั่งเหลือ 0)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ไม่มีหลักฐานว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย 100% (เพราะการจะยืนยันได้ต้องติดตามผลเป็นระยะเวลาเป็นสิบปี)แต่ก็มีงานวิจัยจำนวนมากทั่วโลกสรุปไปในทางเดียวกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนทั่วไป จึงทำให้ในปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าถูกใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้สูบบุหรี่ที่ยังคงต้องการสูบบุหรี่ต่อไปแต่ต้องการสุขภาพที่ดีขึ้น และผู้ที่ใช้เพื่อต้องการลดการบริโภคบุหรี่มวนเพื่อนำไปสู่การเลิก หรือใช้ทดแทนบุหรี่มวนสำหรับผู้ที่ต้องพึงพิงสารนิโคติน ซึ่งจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นนี้ บางประเทศบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐให้ใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยเลิกบุหรี่ เช่น หน่วยงานสาธารณสุขในประเทศอังกฤษ และหน่วยงานสาธารณสุขประเทศนิวซีแลนด์ รวมถึงสมาคมโรคมะเร็งในสหรัฐอเมริกา และสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา หรือแม้กระทั่งองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าการเลิกใช้ยาสูบไปเลยย่อมดีที่สุดแต่สำหรับผู้ที่ไม่คิดจะเลิกหรือยังเลิกไม่ได้บุหรี่ไฟฟ้าคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
ที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2506 ในประเทศสหรัฐอเมริกา จดชื่อทางสิทธิบัตรว่า “Smokeless non-tobacco cigarette” โดย Herbert A. Gilbert ซึ่งอธิบายไว้ว่า สิ่งประดิษฐ์นี้ทำการแทนที่การเผาใบยาและกระดาษ ด้วยความร้อน ความชุ่มชื้น และกลิ่นไอในอากาศ อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นของบุหรี่ไฟฟ้าในครั้งนั้นยังไม่เป็นที่นิยมนัก เนื่องจากยังไม่มีสารนิโคตินในตัวอุปกรณ์ จึงยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการนิโคตินของผู้สูบบุหรี่ได้
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2546 Hon Lik เภสัชกรชาวจีน ประดิษฐ์บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดของบิดา โดย Hon Lik อธิบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าไว้ว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการสูบนิโคตินที่สะอาดและปลอดภัยกว่า และได้วางขายในประเทศจีนเป็นประเทศแรกในปีถัดไป ตามด้วยประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2549 – 2550
ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวอุปกรณ์ และการริเริ่มใช้ในเยาวชน หน่วยงานรัฐในหลายประเทศจึงเลือกที่ออกกฎหมายเพื่อควบคุมมาตรฐานทั้งตัวอุปกรณ์และน้ำยา รวมถึงมาตรการป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน
การทำงานของบุหรี่ไฟฟ้าบุหรี่ไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ทำความร้อน เมื่อน้ำยา (e-liquid หรือ e-juice) ที่ถูกบรรจุใส่ในสำลีสัมผัสเข้ากับขดลวด จึงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไอระเหยส่งผ่านนิโคตินไปยังผู้ใช้ ทั้งนี้ จุดเด่นของบุหรี่ไฟฟ้าคือ การตัดการเผาไหม้ ไม่มีควัน ไม่มีขี้เถ้า จึงลดความเสี่ยงจากการรับสารพิษต่างๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้ในบุหรี่ธรรมดา เช่น สารคาร์บอนมอนนอกไซด์ และทาร์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
น้ำยา Pod