จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย ครั้นเมื่อเกิดเหตุอุทกภัย ที่เกิดขึ้นกับตัวผมครับ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย ครั้นเมื่อเกิดเหตุอุทกภัย ที่เกิดขึ้นกับตัวผมครับ  (อ่าน 91 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Petchchacha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25869


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 04:20:17 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หากพูดคุยกันถึงเรื่องของสถานการณ์ภัยธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม วาตะภัย ในประเทศไทยนั้น ล้วนแล้วเกิดจากฝีมือของคนอย่างเราทั้งปวง แต่เรื่องราวที่จะมีขึ้นได้บ่อยครั้งที่สุด พร้อมกับก่อความลำบากได้บ่อยครั้งมากที่สุดก็คงหลบหนีไม่พ้นเรื่องของน้ำท่วม หรือ น้ำท่วมที่เกิดขึ้นตามชานเมือง หรือแม้แต่ในกทม. ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และเมื่อมีเหตุเกี่ยวกับน้ำท่วมสิ่งที่จะช่วยอำนวยความคล่อง และช่วยเหลือทุกท่านได้ นั้นก็หนีไม่พ้นเรือกู้ภัย ที่ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภยันตรายรวมไปถึงช่วยเหลือในเรื่องราวของการส่งข้าวสารของแห้ง ให้กับทางผู้พบภัยอีกด้วย หากสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง จะมาเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม ที่เคยพบเจอมากับตัวเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึง การแสดงถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะว่าผมต้องบอกก่อนเลยว่า หากวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม มิตรสหายๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะท่วมเนี่ย เราก็ได้ยินข่าวสารมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลลงมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงที่อยู่อาศัยผมนั้น ทางตอนเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากทีวี ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอาเรือกู้ภัย ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุการณ์โดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา กระทั่งถึง กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่า มันค่อนข้างไกลตัว และอีกอย่าง กรุงเทพฯแทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมสาหัสสากรรจ์อะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปกติธรรมดาเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงที่อยู่เราด้วย สักพักก็มีประกาศว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับณ ตอนนั้น ผมก็ศึกษาอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีข่าวคราวมี ให้ระดมคนไปสนับสนุนกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อคุ้มกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้ไปช่วยเหลือและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในตอนต้น ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มใจคอไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในครอบครัว ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นละม้ายๆ เรือกู้ภัย เผื่อมันท่วมมาถึงที่อยู่อาศัยเราจริง จะได้มีไว้ขนย้ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีคุณตา ยาย ซึ่งแก่และแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ในขณะนั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่ปรึกษากัน ว่าถ้าสมมติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอาอย่างไรกัน แต่ทางพ่อของผมเอง ก็ไม่เชื่อและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากเถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีประกาศว่า ฝายกั้นตรงแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวอาณาบริเวณนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ห่างไกลจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำท่วมยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านผมก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้มากอะไรมาก ตอนแรก ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะพ่อจะไปหาเรือกู้ภัยมาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาคุณตาคุณยายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด คุณพ่อท่านบอกว่า อยู่ที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงเกินหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินหัวเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้าไม่เช่นนั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการเตรียมเรือกู้ภัยเอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับเพราะในใจผมเองเนี่ย มองว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอครู่หนึ่ง น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำออกจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามาขวางน้ำไว้ เพื่อระแวดระวังไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่สุดท้าย มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากด้านในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ทั้งวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันสังเกตเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นไปจนถึงต้นขาบนแล้ว และที่พักอาศัยผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาปรึกษาหารือกันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะมันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยปลงใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ นอกเมืองกันครับ แต่ปมปัญหาก็คือ น้ำมันท่วมสูงพอควร สำหรับคนแก่ ที่ขาไม่ค่อยมีแรง เป็นอะไรที่ลำบากมากครับ และการเคลื่อนย้ายก็ลำบาก เนื่องจากบ้านเราเป็นคนตัวใหญ่ จะให้แบกพวกท่านก็ไม่น่าจะไหวกันครับ ก็เลยตัดสินใจ ไปหาพวกให้บริการเรือกู้ภัย เพื่อมารับเราไปส่งในที่ ๆ น้ำยังท่วมไม่ถึงครับ แต่ปัญหาก็คือ หาไม่ได้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่อนข้างมีราคาสูง อีกอย่างคือคนใช้บริการจำนวนมาก พวกที่ทำมาหากินทางนี้ ก็เลยชาร์จมูลค่ากันเต็มที่เลย ข้อแม้ก็คือ เราไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอะไรสักอย่าง ตัวเงินก็ไม่ได้กดไว้เลย คือไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเช่าเรือราคาแพงเพียงนี้ ตู้ ATM ก็ใช้งานไม่ได้ครับ ทีนี้เราก็ค่อนข้างจะจะเครียดกันมากและ เพราะหาเรือให้เราอาศัยไม่ได้เลย และน้ำก็เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆๆ เลย แต่สุดท้าย เจอพวกจิตอาสาครับ คอยขี่เรือกู้ภัย รับส่งผู้ที่ประสบภัย ลอยผ่านเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เพื่อน้ำข้างของมามอบให้ให้สำหรับคนที่มีบ้าน 2 ชั้น และไม่ต้องการจะออกไปไหน ข้าพเจ้าก็เลยออกไปคุย และขอร้องพี่เขา ว่าช่วยไปส่งพวกผมหน่อย เดี๋ยวถ้าถึงที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึงแล้ว จะรีบกดเงินมาให้ เขาก็บอกได้ ๆ ให้พวกเราขึ้นเรือไปครับ ผมนี้คือแบบดีใจมาก เพราะเราหมดทางเลือกแล้วจริง ๆ ณ ตอนนี้ ดีที่ได้พบพวกพี่จิตอาสาพวกนี้ผ่านเข้ามาพอดี และพอเขานำพวกผมไปส่งเสร็จ พ่อผมกำลังจะไปรีบไปหาตู้ สำหรับกดเงิน มาเป็นการขอบคุณพี่เขา เขาบอกกลับมาว่า " ช่างเถอะครับ ผมไม่รับ มีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยครับ คนไทยด้วยกันครับ " (แล้วก็ยิ้ม) ประโยคนี้ ทำให้ผมซึ้งใจมาก ๆ ในน้ำใจพี่ ๆ อาสาสมัครครับ แบบถ้ามิได้เรือกู้ภัยของพวกพี่เขา เราคงยากลำบากมาก ๆ แน่ ๆ และทำให้รู้ว่า คนไทยรักกัน และใจดีจริง ๆ แถมอีกทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังรางวัลอะไรเลย
อย่างน้อยในเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็แฝงไปด้วยความเป็นมิตรดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเราเฝ้าคอยช่วยเหลือกันและกันในยามทุกข์ยากครับ ผมซึ้งใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ มันจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร สำหรับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้ประสบกับภัยน้ำท่วมนั้น คงมองว่า ผมโอเว่อร์หรือเปล่าแต่สำหรับผม มันคือน้ำใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ และทำให้ครอบครัวของผมผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ยังไงก็ขอบพระคุณพวกพี่ ๆ จิตอาสากลุ่มนั้นมาก ๆ ครับ ถึงเขาอาจจะไม่ได้รับรู้ก็ตาม และเรื่องราวนี้ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่า หากมีใครที่ยากลำบากกว่าเรา และเราพอที่จะช่วยเหลือเขาได้ เราก็ควรจะช่วยเหลือเขานะครับผมเพราะอย่างน้อย ก็เป็นน้ำใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และจะทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นครับ
 

Tags : ตกปลาช่อน,ตกปลาทะเล, เรือกู้ภัย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ