Advertisement
ที่ว่าเพชรรัสเซียเพชรเบลเยี่ยมนั้นความจริงแล้วใช่เพชรแท้หรือไม่ ข้อเท็จจริงก็คือถึงแม้จะใช้ชื่อประเทศเป็นฉายาของเพชรเหล่านี้แต่ความจริงแล้วก็คือเพชรเทียมที่สังเคราะห์ขึ้นมาทนแทนเพชรแท้ที่หาได้ยากนั่นเอง ได้แก่ เพชรรัสเซีย เพชรสวิต เพชรโมอิส และอื่นๆเพชรรัสเซียนั้นไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากรัสเซีย แต่จะมีชื่อเรียกเฉพาะ CZ (Synthetic Cubic Zirconia) หรือแปลได้ว่าเพชรสังเคราะห์ แต่เรื่องคุณสมบัตินั้นไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะมีหน้าตาอย่างกับเพชรไม่มีผิดเพี้ยน ที่สำคัญเลยคือว่าราคาของเพชรสังเคราะห์รัสเซียนี้ไม่ได้สูงอย่างเพชร คนจึงนิยมเพชรที่มีราคาถูกว่าเพชรแท้หลายเท่าเมื่อใส่แล้วยังทำให้รู้สึกดีอีกด้วยว่าอย่างน้อยก็ได้ใส่เครื่องประเพชรสักชิ้น แต่ที่ดูออกง่ายเกินไปเพราะว่าเพชรรัสเซียนั้นดูออกได้ง่ายกว่า เมื่อนำมาเทียบกันจะรู้สึกถึงความเปล่งประกายมากว่าเพชรหลายเท่า
แม้ว่าเพชรรัสเซียจะเป็นเพชรเทียมขึ้นมาแต่ก็ผ่านการเจียระไนมาแล้วเช่นกัน การดูคัทของเพชรเทียมนั้นจะหมายถึงเหลี่ยมเพชร และความบริสุทธิ์และน้ำหนักรวมทั้งสีของเพชร มากกว่าจะบอกว่าเป็นเพชรที่มาจากที่ใด ซึ่งการเจียระไนเพชรนั้นเป็นปัจจัยคุณภาพของเพชรเพียงอย่างเดียวที่เกิดขึ้นเพราะน้ำมือของมนุษย์ นอกจากนั้นจะขึ้นอยู่กับการเลือกสรรเพชรมาเท่านั้นว่าเหมาะสมแค่ไหน และให้การเจียระไนเพชรในระดับใดได้บ้างเท่านั้นเอง
ถ้าว่ากันถึงเรื่องการเจียระไนเพชร การเจียระไนที่ดีไม่ว่าด้วยกับเพชรชนิดใดหรือแม้แต่เพชรสังเคราะห์เองก็ตาม อย่างไรก็ควรที่จะผ่านการเจียระไนให้ออกมาได้เป็นเพชรที่มีความสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด เช่นว่าเพชรที่ดีไม่ควรผ่านการเจียระไนที่บางเบาจนเกินไป หรือการเจียระไนในลักษณะ Shllow Cut เป็นลักษณะของเพชรที่แสงทะลุผ่านลงไปได้ไม่ทั้งหมด จึงทำให้แสงที่ส่องสะท้อนขึ้นมานั้นไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เพชรเม็ดนั้นเล่นไฟได้ไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น เพชรจะมีรูปพรรณที่ไม่แวววาวได้ดีนัก แต่กลับกันเพชรที่หนาจนเกินไป (Deep Cut) จะไม่ทำให้เล่นไฟได้อย่างสวยงามเช่นกันซึ่งมันจะดูมัวๆ และมืดมากว่าปกติอีกด้วย
แม้ว่าจะบอกไปในข้างต้นว่าเพชรรัสเซียนั้นไม่ได้มากจากรัสเซียโดยตรงนั้นเป็นเรื่องจริง และก็ต้องเข้าใจกันไว้อีกด้วยว่าแท้ที่จริงแล้วก็คือเพชรเทียมที่ทำสังเคราะห์ขึ้นมาอีกด้วย ถึงกระนั้นสำหรับเพชรแล้วถ้าประเทศใดที่เป็นผู้คิดค้นเพชรขึ้นมาและเป็นต้นตำรำในการพัฒนานั้นก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้พัฒนาเพชรนั้น
เอง เช่น เพชรที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศเบลเยี่ยม รัสเซีย อินเดีย ไทย หรือจีน เป็นต้น ซึ่งเวลาเรียกเองก็จะเรียกตามประเทศเหล่านั้นที่พัฒนาเพชรขึ้นมา อย่างไทยคัท (ThaiCut) อินเดียคัท (India Cut) ฯลฯ ยิ่งกว่านั้นยิ่งเพชรนั้นได้รับการเจียระไนที่มีฝีมือมากเพียงใดราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นตามไปด้วย นอกนั้นยังต้องบวกค่าความสามารถในการเจียระไนเพชรเข้าไปด้วย โดยเฉพาะเพชรที่มีความละเอียดลออเป็นพิเศษ ค่าแรงและฝีมือของช่างเองก็จะยิ่งบวกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สำหรับช่างเจียระไนฝีมือเองที่ก็มักจะมีค่าแรงสูงตามสเปคของการเจียระไนเพชร ฉะนั้นเมื่อผู้ผลิตได้เพชรคุณภาพมาแล้วก็ควรที่จะลงทุนเพื่อตั้งให้เป็นที่ประจักรถึงฝีมือของประเทศของตน แล้วสิ่งที่จะตามมาก็จะคือรายได้ในประเทศและชื่อเสียงที่สามารถเจียระไนเพชรได้อย่างสวยงามนั่นเอง
เนื่องจากว่าเพชรเป็นผลึกโปร่งใส เกิดจากคาร์บอน แต่ละผลึกจะมีรูปทรงแตกต่างกันไป ผู้เจียระไนจึงต้องมีการวางแผนอย่างละเอียด เพื่อจะออกแบบการเจียระไนให้เสียเนื้อน้อยที่สุดและได้รูปร่างที่สวยงามที่สุด ถึงแม้จะใช้การออกแบบการเจียระไนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็จะเน้นการเสียเนื้อเพชรให้น้อยที่สุดเช่นกัน เหลี่ยมเพชรจึงมีหลายแบบด้วยกันขึ้นอยู่กับรูปร่างของก้อนเพชรดิบที่ขุดมาได้ ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทรงไข่ ทรงมาคีส์ ทรงหยดน้ำ ทรงหัวใจ ซึ่งทรงกลมจะเป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะซื้อง่าย ขายคล่องและทรงหัวใจที่มีรูปร่างดีจะเป็นทรงที่แพงที่สุด เพราะจะเสียเนื้อมากที่สุดในการเจียระไน
แต่จะทำอย่างไรให้เราสามารถแยกแยะออกได้ว่าเป็นเพชรชนิดใดนั้นเราควรทดสอบด้วยวิธีการใดบ้าง นั่นคือเราจะต้องวัดจากค่าความถ่วงจำเพาะ (S.G.) นั่นคือเพชรรัสเซียจะหนักกว่าเพชรแท้ ซึ่งอาจทดสอบได้ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
- ความแข็ง ถ้าเกิดว่าส่องเพชรดูด้วยกล้องหรือแว่นขยาย 10 เท่า จะดูรู้ได้ว่าเหลี่ยมของเพชรแท้จะคมกว่าเพชรรัสเซีย
- ราคา เพชรรัสเซียเป็นเพชรที่สังเคราะห์ขึ้นมาตามธรรมชาติราคาจึงถูกกว่ามาก
- Diamond Tester หรือเครื่องจี้เพชร ซึ่งเจ้าเครื่องทดสอบเพชรตัวนี้จะร้องทุกครั้งที่จิ้มลงไปบนเพชรแท้เท่านั้น
ที่มา :
diamondmycollection.blog.comTags : รับซื้อเพชร,รับซื้อแหวนเพชร,รับซื้อเครื่องประดับ