ความสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดสภาวการณ์อุทกภัย ที่เกิดขึ้นกับตัวผมครับผม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดสภาวการณ์อุทกภัย ที่เกิดขึ้นกับตัวผมครับผม  (อ่าน 26 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Loriehammond
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12410


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2016, 09:16:36 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หากเล่ากันถึงเรื่องราวของเหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง อุทกภัย วาตะภัย ในไทยนั้น ล้วนแล้วเกิดจากฝีมือของคนอย่างเราทั้งปวง แต่สภาวการณ์ที่จะมีขึ้นได้บ่อยครั้งที่สุด และสร้างความเดือดร้อนได้บ่อยครั้งมากก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ของน้ำท่วม หรือ อุทกภัยที่มีขึ้นตามนอกเมือง หรือแม้แต่ในกรุงเทพมหานคร ก็เคยปรากฏมาแล้ว และเมื่อมีสถานการณ์เกี่ยวกับน้ำท่วมสิ่งที่จะช่วยให้ความคล่อง และช่วยเหลือทุกท่านได้ นั้นก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นเรือกู้ภัย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วยเหลือผู้พบภัยรวมไปถึงช่วยในเรื่องของการส่งข้าวสารของแห้ง ให้กับทางผู้เจอภัยด้วย หากสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง จะมาเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม ที่เคยพบเจอมากับตัวเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึง การแสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะว่าผมต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าหากวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม เพื่อนฝูงๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวๆปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะท่วมเนี่ย เราก็ได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลลงมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงที่พักอาศัยผมนั้น ทางภาคเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากทีวี ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอาเรือกู้ภัย ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุการณ์โดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา กระทั่งถึง กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่า มันค่อนข้างไกลตัว และอีกอย่าง กรุงเทพฯแทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมนักหนาอะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปรกติเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงที่อยู่อาศัยเราด้วย สักพักก็มีข่าวคราวว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับผมณ ตอนนั้น ผมก็ศึกษาเล่าเรียนอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีข่าวสารมี ให้ระดมคนไปสนับสนุนกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อคุ้มกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้ไปช่วยและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในตอนแรก ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มจิตใจไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในญาติพี่น้อง ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อหาเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นคล้ายๆ เรือกู้ภัย เผื่อมันท่วมมาถึงที่พักอาศัยเราจริง จะได้มีไว้ถ่ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีคุณตา คุณยาย ซึ่งแก่และแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ตอนนั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่ปรึกษากัน ว่าถ้าสมมติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอาไงกัน แต่ทางพ่อของผมเอง ก็ไม่ฟังและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากโต้เถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีข่าวว่า ฝายกั้นตรงจุดแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวอาณาเขตนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ไกลจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มใจเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนฝูงอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำเอ่อยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านผมก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้มากมายอะไรมาก แรกเริ่ม ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะพ่อจะไปหาเรือกู้ภัยมาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาตาคุณยายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด พ่อท่านบอกว่า อาศัยที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงเลยหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินหัวเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้าไม่อย่างนั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติธรรมดาแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการจัดเตรียมเรือกู้ภัยเอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับเพราะในใจผมเองเนี่ย เห็นว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอสักพัก น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามากันน้ำไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่ท้ายที่สุด มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากภายในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ตลอดวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันดูเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นจนถึงต้นขาบนแล้ว และบ้านเรือนผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาปรึกษากันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะว่ามันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การขับถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยตกลงใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ นอกเมืองกันครับ แต่ตัวปัญหาก็คือ น้ำมันท่วมสูงพอควร สำหรับคนแก่ ที่ขาแข้งไม่ค่อยมีแรง เป็นอะไรที่ลำบากมากครับ และการเคลื่อนย้ายก็ลำบาก เพราะว่าบ้านเราเป็นคนตัวใหญ่ จะให้แบกหามพวกท่านก็ไม่น่าจะไหวกันครับ ก็เลยตกลงใจ ไปหาพวกให้บริการเรือกู้ภัย เพื่อมารับเราไปส่งในที่ ๆ น้ำยังเอ่อไม่ถึงครับ แต่ปัญหาก็คือ หาไม่ได้เลยครับ เพราะส่วนมากก็จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่อนข้างมีราคาสูง อีกอย่างคือคนใช้บริการปริมาณมาก พวกที่ทำมาหากินทางนี้ ก็เลยชาร์จมูลค่ากันเต็มที่เลย ประเด็นก็คือ เราไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอย่างไรสักอย่าง ตัวเงินก็ไม่ได้กดไว้เลย คือไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเช่าเรือราคาแพงเช่นนี้ ตู้ ATM ก็ใช้งานไม่ได้ครับ ทีนี้เราก็ค่อนข้างจะเครียดกันมากและ เพราะว่าหาเรือให้เราอาศัยไม่ได้เลย และน้ำก็เริ่มขึ้นสูงขึ้นบ่อยๆ เลย แต่สุดท้าย พบพวกจิตอาสาครับ คอยขับขี่เรือกู้ภัย รับส่งผู้ที่ประสบภัย ลอยผ่านเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เพื่อน้ำข้างของมาให้ให้สำหรับคนที่มีบ้าน 2 ชั้น และไม่อยากจะออกไปไหน ผมก็เลยออกไปคุย และขอให้พี่เขา ว่าช่วยไปส่งพวกผมหน่อย เดี๋ยวถ้าถึงที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึงแล้ว จะรีบกดสตางค์มาให้ เขาก็บอกได้ ๆ ให้พวกเราขึ้นเรือไปครับ ผมนี้คือแบบดีใจมาก เพราะเราหมดหนทางแล้วจริง ๆ ณ ตอนนี้ ดีที่ได้เจอพวกพี่จิตอาสาพวกนี้ผ่านเข้ามาพอดี และพอเขานำพวกเราไปส่งเสร็จ พ่อผมกำลังจะไปรีบไปหาตู้ สำหรับกดเงิน มาเป็นการขอบคุณพี่เขา เขาบอกกลับมาว่า " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รับ มีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยครับ คนไทยด้วยกันครับ " (แล้วก็ยิ้ม) ประโยคนี้ ทำให้ผมซึ้งใจมาก ๆ ในน้ำใจพี่ ๆ อาสาสมัครครับ แบบถ้ามิได้เรือกู้ภัยของพวกพี่เขา เราคงยากลำบากมาก ๆ แน่ ๆ และทำให้รู้ว่า คนไทยรักกัน และมีน้ำใจจริง ๆ แถมอีกทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย
อย่างน้อยในเหตุที่เลวร้าย ก็แฝงไปด้วยความเป็นมิตรดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเราเฝ้าคอยช่วยเหลือกันและกันในยามเหนื่อยยากครับ ผมซึ้งใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ มันจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร สำหรับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้ประสบกับภัยน้ำท่วมนั้น อาจจะมองว่า ผมโอเว่อร์หรือไม่แต่สำหรับผม มันคือน้ำใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ และทำให้ญาติพี่น้องของผมผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ยังไงก็ขอบพระคุณพวกพี่ ๆ จิตอาสากลุ่มนั้นมาก ๆ ครับ ถึงเขาอาจจะไม่ได้รับรู้ก็ตาม และเรื่องนี้ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่า หากมีใครที่ยากลำบากกว่าเรา และเราพอที่จะช่วยเหลือเขาได้ เราก็ควรช่วยเหลือเขานะครับผมเพราะอย่างน้อย ก็เป็นน้ำใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และจะทำให้โลกน่าอาศัยยิ่งขึ้นครับ
 

Tags : ขายเรือ,เรือยอร์ช,เรืออลูมิเนียม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ