จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์อุทกภัย ที่มีขึ้นกับตัวข้าพเจ้าครับผม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์อุทกภัย ที่มีขึ้นกับตัวข้าพเจ้าครับผม  (อ่าน 44 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
raraymondas
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37247


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2016, 04:58:29 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หากพูดคุยกันถึงเรื่องของสถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม วาตะภัย ในประเทศไทยนั้น ล้วนแล้วเกิดจากฝีมือของคนอย่างเราทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ที่จะมีขึ้นได้บ่อยครั้งที่สุด และสร้างความลำบากได้บ่อยครั้งมากที่สุดก็คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นเรื่องราวของน้ำท่วม หรือ อุทกภัยที่เกิดขึ้นตามนอกเมือง หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็เคยปรากฏมาแล้ว และขณะมีเหตุเกี่ยวกับน้ำท่วมสิ่งที่จะช่วยเหลืออำนวยความคล่อง และช่วยเหลือทุกท่านได้ นั้นก็หนีไม่พ้นเรือกู้ภัย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วยเหลือผู้ประสบอันตรายรวมไปถึงช่วยในเรื่องของการส่งข้าวสารอาหารแห้ง ให้กับทางผู้พบภัยด้วย หากสำหรับตัวผมเอง จะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องราวน้ำท่วม ที่เคยพบเจอมากับตัวเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึง การแสดงถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะว่าผมต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม มิตรสหายๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวๆปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะล้นเนี่ย เราก็ได้ยินประกาศมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลลงมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงบ้านผมนั้น ทางตอนเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากทีวี ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอาเรือกู้ภัย ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุการณ์โดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา กระทั่งถึง กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่า มันออกจะไกลตัว และอีกอย่าง กรุงเทพฯแทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมหนักหนาอะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปรกติเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงที่พักอาศัยเราด้วย สักพักก็มีข่าวคราวว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับผมณ ตอนนั้น ผมก็เรียนอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีข่าวมี ให้ระดมคนไปช่วยเหลือกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวผมเอง ก็ได้ไปช่วยเหลือและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในตอนแรก ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มใจไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในญาติพี่น้อง ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อหาเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นคล้ายๆ เรือกู้ภัย เผื่อมันท่วมมาถึงที่พักอาศัยเราจริง จะได้มีไว้เคลื่อนย้ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีตา ยาย ซึ่งมีอายุและแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ตอนนั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่ปรึกษากัน ว่าถ้าสมมติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอายังไงกัน แต่ทางพ่อของผมเอง ก็ไม่เชื่อและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากโต้เถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีข่าวว่า ฝายกั้นตรงจุดแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวอาณาบริเวณนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ห่างไกลจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มใจเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำท่วมยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านข้าพเจ้าก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้มากอะไรมาก ตอนต้น ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะคุณพ่อจะไปหาเรือกู้ภัยมาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาคุณตายายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด คุณพ่อท่านบอกว่า อาศัยที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงพ้นหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินหัวเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้ามิเช่นนั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว โดยส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติธรรมดาแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการจัดเตรียมเรือกู้ภัยเอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับเพราะในใจผมเองเนี่ย เห็นว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอสักพัก น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมซาบขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามาขวางน้ำไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่ในที่สุด มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากข้างในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ทั้งวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันสังเกตเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่ในที่สุด ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นจนถึงต้นขาบนแล้ว และบ้านเรือนผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาหารือกันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะว่ามันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยตกลงใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ ต่างจังหวัดกันครับ แต่ปัญหาก็คือ น้ำมันท่วมสูงพอสมควร สำหรับคนแก่ ที่ขาแข้งไม่ค่อยมีแรง เป็นอะไรที่ยากลำบากมากครับ และการเคลื่อนย้ายก็ลำบาก เพราะว่าบ้านเราเป็นคนตัวใหญ่ จะให้แบกหามพวกท่านก็ไม่น่าจะไหวกันครับ ก็เลยตัดสินใจ ไปหาพวกให้บริการเรือกู้ภัย เพื่อมารับเราไปส่งในที่ ๆ น้ำยังล้นไม่ถึงครับ แต่อุปสรรคก็คือ หาไม่ได้เลยครับ เพราะส่วนมากก็จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และโดยมากมีราคาสูง อีกอย่างคือคนใช้บริการมากมาย พวกที่ทำมาหากินทางนี้ ก็เลยชาร์จมูลค่ากันเต็มที่เลย ประเด็นก็คือ เราไม่ได้มีการเตรียมพร้อมสิ่งไรสักอย่าง เงินสดก็ไม่ได้กดไว้เลย คือไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเช่าเรือราคาแพงขนาดนี้ ตู้ ATM ก็ใช้งานไม่ได้ครับ ทีนี้เราก็ค่อนข้างจะเครียดกันมากและ เนื่องจากหาเรือให้เราอาศัยไม่ได้เลย และน้ำก็เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เลย แต่สุดท้าย เจอพวกจิตอาสาครับ คอยขับขี่เรือกู้ภัย รับส่งผู้ที่ประสบภัย แล่นผ่านเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เพื่อน้ำข้างของมามอบให้สำหรับคนที่มีบ้าน 2 ชั้น และไม่ต้องการจะออกไปไหน ข้าพเจ้าก็เลยออกไปคุย และขอให้พี่เขา ว่าช่วยไปส่งพวกผมหน่อย ประเดี๋ยวถ้าถึงที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึงแล้ว จะรีบกดสตางค์มาให้ เขาก็บอกได้ ๆ ให้พวกเราขึ้นเรือไปครับ ผมนี้คือแบบดีใจมาก เพราะเราหมดช่องทางแล้วจริง ๆ ณ ตอนนี้ ดีที่ได้เจอพวกพี่จิตอาสาพวกนี้ผ่านเข้ามาพอดี และพอเขานำพวกเราไปส่งเสร็จ พ่อผมกำลังจะไปรีบไปหาตู้ สำหรับกดเงิน มาเป็นการขอบคุณพี่เขา เขาบอกกลับมาว่า " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รับ มีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยครับ คนไทยด้วยกันครับ " (แล้วก็ยิ้ม) ประโยคนี้ ทำให้ผมซาบซึ้งใจมาก ๆ ในน้ำใจพี่ ๆ อาสาสมัครครับ แบบถ้ามิได้เรือกู้ภัยของพวกพี่เขา เราคงลำบากมาก ๆ แน่ ๆ และทำให้รู้ว่า คนไทยรักกัน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จริง ๆ แถมอีกทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย
อย่างน้อยในเหตุที่เลวร้าย ก็แฝงไปด้วยความเป็นมิตรดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเราเฝ้าคอยช่วยเหลือกันและกันในยามทุกข์ยากครับ ผมซึ้งใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่า มันจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร สำหรับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้ประสบกับภัยน้ำท่วมนั้น อาจจะมองว่า ผมโอเว่อร์หรือไม่แต่สำหรับผม มันคือความมีน้ำใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ และทำให้ญาติของผมผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ยังไงก็ขอบคุณพวกพี่ ๆ จิตอาสากลุ่มนั้นมาก ๆ ครับ ถึงเขาอาจจะไม่ได้รับรู้ก็ตาม และเรื่องนี้ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่า หากมีใครที่ยากลำบากกว่าเรา และเราพอที่จะช่วยเหลือเขาได้ เราก็ควรช่วยเหลือเขานะครับเพราะอย่างน้อย ก็เป็นน้ำใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และจะทำให้โลกน่าอาศัยยิ่งขึ้นครับ
 

Tags : ขายเรือ,เรือตกปลา,ตกปลาช่อน



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ