Advertisement
ความรู้เกี่ยวกับหนังเทียม[url=http://www.decopvc.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%91%E0%B8%91%E0%B9%8C/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1/]หนังเทีย
- หนังเทียมประเภทพียู (PU)
หนังเทียมพียู เป็นหนังเทียมที่มีคุณสมบัติเหมือนหนังแท้มากที่สุดและยังถือว่าเป็นหนังเทียมที่ดีที่สุดในหนังเทียมที่มีทั้งหมด 3 ประเภท นั้นเพราะหนังเทียมพียูมีขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ไร้มลพิษ และไร้สารตกค้างในผลิตภัณฑ์ ทำให้หนังเทียมพียูเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตของเล่นเด็กในแทบยุโรป และในประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งที่หนังเทียมพียูนั้นมีราคาสูงและมีอายุการใช้งานที่จะเสื่อมตามอายุการใช้งาน แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภค ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากหนังพียูมีจำนวนอยู่ในตลาดปัจจุบัน ทั้งนี้ก็อาจมีผลมาจากการรณรงค์ต่อต้านการใช้หนังแท้ด้วย ซึ่งหนังเทียมพียูสามารถแบ่งอออกได้เป็น 2 ประเภทตามรูปแบบการผลิต คือ หนังเทียมพียูแบบอบแห้ง (Dry process) ที่มี 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นสี ชั้นกาว และชั้นผ้า และแบบผ่านน้ำ (Wet process) ที่มี3 ชั้นเช่นเดียวกันกับหนังเทียมแบบอบแห้ง แต่จะแตกต่างกันในชั้นผ้าที่หนังเทียมแบบผ่านน้ำจะต้องนำไปโค๊ตหรือเคลือบด้วยเนื้อพียูก่อน นั้นก็เพื่อให้มีเนื้อสัมผัสที่เหมือนหนังแท้มากขึ้น และยังสามารถแยกหนังเทียมแบบพียูออกตามประเภทของเนื้อผ้าได้ 3 ประเภท คือแบบ Polycarbonate based PU ที่มีอายุการใช้งานได้นานถึง 20 ปีและมีความทนกรดด่างสูง แบบ Polyether based PU นั้นจะมีอายุการใช้งานได้นานถึง 7 ปีและมีความทนกรดด่างสูง และแบบPolyester based PU จะมีอายุการใช้งานนานถึง 3 ปี มีความทนกรดด่างพอควร มีราคาถูกเป็นที่นิยมในการนำมาผลิตสินค้าประเภทแฟชั่น
- หนังเทียมประเภทเซมิพียู (Semi-PU)
หนังเทียมเซมิพียู เป็นหนังเทียมที่มีคุณสมบัติเหมือนหนังเทียมพียูแบบผ่านน้ำ (wet process)จะแตกต่างกันตรงขั้นตอนการผ่านน้ำจากที่เคลือบเนื้อพียูมาเป็นแบบพีวีซีแทน แต่ก็ยังคงชั้นสีและชั้นกาวเป็นแบบหนังพียูเพื่อรักษาสัมผัสของความเหมือนหนังแท้ของพียูเอาไว้
- หนังเทียมประเ