Advertisement
Credit :
http://oknation.nationtv.tv/blog/thaicarshow/2015/07/14/entry-11การตรวจเช็คยางเพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ยางรถยนต์ ถือเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญและเป็นส่วนที่รับภาระหนักที่สุดส่วนหนึ่งของรถเลยก็ว่าได้ด้วยลักษณะการทำงานของล้อรถยนต์ที่จะต้องรับทั้งแรงเสียดทานกับพื้นถนน และช่วยในเรื่องการยึดเกาะถนนเป็นอย่างดี รับภาระทั้งในเรื่องของการเบรคทั้งแบบธรรมดาและแบบกระทันหัน ยังจะต้องทนรับภาระแรงกดดันจากน้ำหนักของรถ คน และสัมภาระอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งแรงอัดหรือแรงกระแทกเหล่านี้ถือเป็นส่วนที่ทำลายโครงสร้างบของยางด้วยกันทั้งสิ้น
และจากการรับภาระที่ถือว่าค่อนข้างหนักมากของยาง
รถยนต์นี้ จึงส่งผลให้ผู้ที่ขับขี่จะต้องให้ความใส่ใจดูแลในเรื่องของลมยางให้ดีตามไปด้วยเช่นกัน เพราะแท้จริงแล้วการดูแลเรื่องลมยางให้มีขนาดของลมที่พอดีนั้นไม่ใช่แค่เพียงจะช่วยในเรื่องการขับเคลื่อนที่ดีของรถเท่านั้น แต่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องถึงในเรืองของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกด้วย เพราะหากเจ้าของรถเติมลมยางให้มีขนาดที่พอดี ก็จะสามารถช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดน้ำมันได้เนื่องจากหน้ายางจะสัมผัสกับถนนได้น้อยกว่า ทำให้เกาะถนนได้ดีกว่า ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่หนักมากจึงสามารถช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี
โดยการตรวจเช็คลมยางให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของ
รถยนต์ควรวัดปริมาณของลมให้อยู่ในมาตรฐานตามที่บริษัท หรือเงื่อนไขการใช้รถยนต์แต่ละประเภทได้มีการกำหนดไว้ซึ่งอาจทำการตรวจสอบด้วยตัวเอง หากว่าผู้ใช้รถมีอุปกรณ์ในการวัดลมยางเป็นของตัวเอง และมีทักษะหรือประสบการณ์ในการวัดลมยางด้วยตัวเอง แต่หากเป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์หรือกังวลว่าจะไม่ถูกต้องตามที่มาตรฐานกำหนดไว้ก็สามารถทำได้ด้วยการให้ช่าง หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์วัดความหนาแน่นของลมยางในล้อตามศูนย์ให้บริการ หรือปั๋มน้ำมันต่าง ๆ ได้ ส่วนความดันของลมของรถยนต์ที่ใช้งานกันอยู่ทั่วไปจะแบ่งเป็นรถขนาดเล็กควรมีความดันสูงสุดไม่เกิน 25 – 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้วขึ้นอยู่กับขนาดของรถ ส่วนรถกระบะจะมีความดันลมยางไม่ควรเกิน 65 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ที่มา :
[url]http://www.carpresent.com/[/url]
Tags : รถยนต์