โปรโมทออนไลน์แย่หรือดี ให้มองที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทพๆจำเป็นต

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โปรโมทออนไลน์แย่หรือดี ให้มองที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทพๆจำเป็นต  (อ่าน 6 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kittipong99010
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15531


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 09, 2017, 08:46:09 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ปวดศรีษะอย่างยิ่ง โฆษณา Facebook นับวันยิ่งแพง ทำยังไงดีเนี่ย?
ตอนนี้ปฎิเสธมิได้ว่าการทำประชาสัมพันธ์บน Facebook นั้นการแข่งขันชิงชัยค่อนข้างสูงมาก…
แต่ว่าครั้นจะไม่ทำโฆษณาโพสต์ไปก็ไม่มีผู้ใดเห็นอีก โลกมันชั่งน้ำหนักอยู่ยากจริงๆภายหลังจากโปรโมทไปและก็จำเป็นต้องเจอกับตัวเลขอีกเยอะไม่หมดไม่ทราบอะไรเป็นอะไร
วันนี้แม่ค้าเลยมีสถิติ 4 ตัวไว้สำหรับประเมินผลประชาสัมพันธ์ Facebook มาฝากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ลองดูกันค่ะ
1.”CPM” ตัวช่วยประเมินรายจ่ายเบื้องต้น
Cost per 1,000 Impression หรือ CPM เป็นวิธีวัดผลจากจำนวนการเข้าถึงคนโดยจะคิดเงินทุกๆ1,000 การเข้าถึง โดยการคิด CPM ของ Facebook จะมีปัจจัยสำคัญๆอยู่ 2 อย่างร่วมกัน คือ
1)จำนวนคู่แข่งที่มีเป้าหมายเดียวกัน
2)ความเฉพาะหรือความยากง่ายในการเข้าถึง ยิ่งเฉพาะเจาะจงมากๆ(จำนวนคนน้อย) ค่า CPM ยิ่งแพงเป็นธรรมดา
ในการนำ CPM มาใช้ประเมินผลนั้น ให้จดจำไว้ว่า “ยิ่งถูกเท่าไหร่ ยิ่งดี” เพราะว่าเท่ากับว่าเราประหยัดเงินในการเข้าถึงคนได้เพิ่มมากขึ้น
2.”CTR” มองว่าโฆษณาของพวกเราน่าดึงดูดแค่ไหน
Facebook StatCTR หรือ Clickthrough Rateหมายถึงอัตราจำนวนคนที่ Click เข้ามาดูโปรโมทของพวกเรา ต่อปริมาณคนทั้งปวงที่มองเห็นโฆษณาของเรา CTR ช่วยบอกถึงความน่าดึงดูดใจของโปรโมท ทั้งรูปภาพและก็ข้อความในการใช้ หากรูปภาพรวมทั้งข้อความตรงกับความพอใจของกรุ๊ปเป้าหมาจำนวนนี้ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น หากจะให้ดีอัตราการ Click น่าจะอยู่ที่ 10% แต่ถ้าหากไม่ถึงจำนวนก็น่าจะสูงที่สุดเท่าที่ทำได้
3.”CPC” สำหรับวัดประสิทธิภาพของโฆษณา
CPC หรือ Cost per Clickหมายถึงราคาต่อ Click จะมีการคิดเงินทุกๆครั้งที่มีคน Click บนโฆษณาของพวกเราค่ะ โดยใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพของประชาสัมพันธ์ทั้งรูปภาพและใจความ ว่ามีความน่าดึงดูดใจมากมายน้อยแค่ไหน โดยค่า CPC นั้นควรจะต้องสวนกับ CTR เนื่องจากว่ายิ่งคน Click มาที่ประชาสัมพันธ์ของพวกเรามากแค่ไหน ค่า CPC ควรจะจะต้องลดน้อยลงรวมทั้งอัตราการ Click เข้ามานั้นจะสูงมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
4.”Relevance Score” ปังไม่ปังวัดกันตรงนี้
Relevance ScoreRelevance Score เป็นตัวที่ Facebook ไม่ค่อยได้บอกอย่างเห็นได้ชัดว่าใช้อะไรบ้างที่อยู่ในการคำนวนบ้าง แต่ว่าจากการหาข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งต่างๆที่มีการทดสอบกันมาจะสรุปได้ว่า มันคือ คะแนนความเกี่ยวข้องของประชาสัมพันธ์ของคุณกับกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจัยสำคัญๆที่จำต้องใส่ใจจะมีดังนี้
1)Negative Signals ที่ User มีต่อประชาสัมพันธ์ของคุณ ตัวอย่างเช่นผู้กระทำด “หลบซ่อนโปรโมท” หรือการรายงานไปยัง Facebook ส่วนนี้จะทำให้ Relevance Score ต่ำลง
2)Campaign Objective ถ้าเกิดเรามีการเลือกเป้าหมายของ Campaign รวมทั้งทำมันก้าวหน้านี้ก็จะนำมาใช้ในการเพิ่ม Relevance Score ได้ ดังเช่นว่า เราเลือกเป้าหมายของ Campaign เป็น Website Clicks โดยหวังให้มีคน Click ไปที่ Website มากที่สุด ยิ่งคน Click เยอะแค่ไหนค่า Relevance Score ก็จะสูงขึ้นเท่านั้น
3)”CTR” อัตราคนที่ Click เข้ามามองโฆษณายิ่งมากแค่ไหนยิ่งดี
4)Like, Comments, and Shares ทั้งหมดทั้งปวงนี้เรียกว่าจำนวน Engagements ยิ่งคนมีส่วนร่วมกับประชาสัมพันธ์ของพวกเรามาก นั่นถือว่าโปรโมท Facebook ของเราได้รับความพอใจเป็นอย่างดี จะมีผลให้ Relevance Score สูงมากขึ้น
เพียงพอจะได้ข้อมูลกันแล้วนะคะ ว่าสถิติตัวไหนเป็นอย่างไรบ้าง ต่อนี้ไปก็เหลือเพียงการเอาไปใช้ โดยแม่ค้าต้องการจะฝากไว้ว่า “การตลาดในทุกวันนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จ ทั้งหมดทุกอย่างล้วนต้องลองถูกลองผิด รวมทั้งวัดผลอย่างสม่ำเสมอ”
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เริ่มต้นขายของออนไลน์

เครดิตบทความจาก : [url]http://xn--22cap6ea7bify1fba3dza2p0cvcze.blogspot.com/[/url]

Tags : เริ่มต้นขายของออนไลน์



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ