ความแตกต่างของการสอน seo รวมทั้งการสอน sem มีความแตกต่างกันอย่างไรในวิธีการทำธุร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความแตกต่างของการสอน seo รวมทั้งการสอน sem มีความแตกต่างกันอย่างไรในวิธีการทำธุร  (อ่าน 20 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Puttichai9876
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25904


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มีนาคม 26, 2017, 05:24:35 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ภายหลังที่มีผมได้อธิบายคำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนสนใจถามคำถามเกี่ยวกับวงการนี้เข้ามาพอสมควรครับผม ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังครึกโครมมากในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทสัญชาติไทยแล้วก็กลุ่มบริษัทข้ามชาติ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวหัวข้อการโฆษณาเว็บไซท์แล้วก็หนทางวิธีขายทางไฟฟ้ากันอีกรอบ



ด้วยเหตุดังกล่าว ฉบับนี้ผมจึงอยากะขออนุญาติพูดถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักหนึ่งครั้ง โดยฉวยโอกาสชี้แจงลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนมักจะงงมากกันเสมอๆเวลาผมได้โอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้าขอรับ ซึ่งก็คือคำว่า “SEO” แล้วก็ “SEM”



สำหรับท่านที่เคยมีความสนใจประเด็นการตลาดออนไลน์นั้น อาจจะเคยได้ยินคำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งหากจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อบอกความหมายถูกนั้น จริงๆจำต้องจัดคำพูดใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับ Search Engine”



คำว่า “Search Engine” นี้หมายคือเว็บไซท์ที่ใช้ในลัษณะของการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ยอดนิยมสุดในปัจจุบันนั่นก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่แข่งขันยอดนิยมด้อยกว่าลงมาคือ “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของประเทศเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย



ในโลกที่มีเว็บไซท์มหาศาล กระบวนการที่ Search Engine กลุ่มนี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างและก็แต่ละเว็บไซท์มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อสามารถแสดงผลการค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น คือการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำการ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั่วทั้งโลกโดยอัตโนมัติ เพื่อกระทำการอ่านเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีรายละเอียดอะไร รวมทั้งแต่ละเว็บไซท์นั้นควรจะได้รับจุดสำคัญแค่ไหน ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท



ดังนี้ เพราะว่าในปัจจุบันนั้น แนวทางการหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าสนใจที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”กลุ่มนี้ โดยเหตุนี้ “SEO” นั้นจึงคือการปรับเนื้อหาและก็โครงสร้างเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านรายละเอียดพวกเราได้ง่าย แล้วก็ทำให้เว็บไซท์เราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนกระทำการ “Search” รายละเอียดที่พวกเรามีความรู้สึกว่าตรงกับเนื้อหาเว็บไซท์เรานั่นเอง



แน่ๆว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในมากไม่น้อยเลยทีเดียวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆก็ตามทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์แต่ละที่นั้นต้องการที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตนเองให้ติดอันดับสูงๆจนกระทั่งเกิดเป็นวงการผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆอย่างมาก เพื่อให้คนสามารถศึกษาและทำการค้นพบเว็บไซท์ตนเองได้เมื่อเขากระทำ “Search”โดยใช้คำกล่าว (“keywords”) ที่เกี่ยวเนื่อง ยกตัวอย่าอย่างเช่น ถ้าเกิดพวกเราเป็นร้านค้าขายเฟอร์นิเจอร์ เราก็คงจะอยากให้เว็บไซท์ของพวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เฟอร์นิเจอร์”หรือ “ร้านค้าขายเฟอร์นิเจอร์” ฯลฯ



ดังนี้วิธีการทำ SEO หลักๆมีสองแบบ แบบอันดับที่หนึ่งเป็นการมีส่วนประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นกับการดีไซน์รายละเอียดเว็บไซท์ และการเขียนโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงรายละเอียดได้อย่างละเอียดซึ่งก็เปรียบได้กับการทำหนังสือหรือนิตยสารที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำเนื้อหา แล้วเมื่อพิมพ์บนเว็บไซท์ก็สามารถปลดปล่อยให้ Search Engine พินิจต่อเอง



ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่ชอบทำกันเป็นรายเดือนหรือสม่ำเสมอ โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บไซต์ โดยว่าจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนั้น จะมีความรู้ความเข้าใจว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรที่อยู่ในการประเมินความสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ และจะใช้มายากลยุทธวิธีต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อให้เว็บไซท์พวกเรานั้นติดอันดับสูงขึ้นๆเร็วทันใจกว่าที่มันอาจจะควรเป็นตามธรรมดา (ตัวอย่างการ“ปั่น” ในอดีตกาลที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เหมือนปัจจุบันนี้เป็น การที่ชาวต่างประเทศปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดลำดับต้นๆเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google)



แนวทางการทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยอาจจะเสียแค่ค่าใช้สอยในตอนทำเว็บไซท์ แม้กระนั้นไม่ต้องเสียถัดไปเมื่อทยอยทำเนื้อหาเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ แม้กระนั้นวิธีการทำ SEO แบบลำดับที่สองนั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่จำต้องทำสม่ำเสมอเนื่องจากว่าคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะกระทำการปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดระยะเวลา



อย่างไรก็แล้วแต่ ตามที่เป็นจริงแล้ว SEO นั้นไม่ได้เป็นกระบวนการหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงแต่วิธีเดียว เนื่องด้วยตัว Search Engine แต่ละที่ โดยเฉพาะ Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงโปรโมท โดยจะกระทำการขึ้นประชาสัมพันธ์เมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่เราได้เจาะจงไว้ ซึ่งการลงประชาสัมพันธ์อย่างงี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง



รายจ่ายในการลงโฆษณานั้น จะขึ้นตามจำนวนการคลิกเข้ามาชมเว็บไซท์ของผู้เข้าชมแค่นั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยากลงโฆษณาเมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำพูด (keywords) เดียวกันกับที่เราอยากเยอะมากมายสักเท่าไหร่ ถ้าหากเป็นคำพูดที่กว้างๆอย่าง “เครื่องเรือน” แล้ว ค่าใช้สอยก็มักจะแพง แต่ว่าแม้เป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เครื่องเรือนไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง รวมทั้งตรงต่อกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นด้วย



แต่ หลายๆครั้ง เจ้าของเว็บไซท์จะทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับการทำ SEO รายเดือนแทนที่จะทำ SEM เพราะเหตุว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงประชาสัมพันธ์นั้นไม่น่าจะได้ผล บางทีอาจเนื่องจากว่าตัวเองมีนิสัยเกลียดคลิกคำโฆษณาชวนเชื่อ หรือจ่ายค่าSEO จนลืมตัวและคิดไปว่า ที่จริงแล้วเปลี่ยนแปลงงบมาจ่ายลงโฆษณาแบบ SEM อาจทำให้สามารถคุมรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นไปได้ เนื่องจากว่าค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างผู้ที่มีความชำนาญทำ SEOนั้นก็มิได้ถูกนัก



จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบพวกเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อพูดถึงแล้วก็ชี้แนะสินค้าของพวกเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แต่ว่าหากคำบอกเล่าที่พวกเราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วๆไปเขาคิดจริงๆก็บางทีอาจก่อให้เกิดผลกระทบกลับมา รวมทั้งยังจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเสมือนการใช้ Marketing Tools และก็ MarketingChannels ธรรมดา เพื่อคนสนใจ แล้วก็เกิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากกว่า



อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ววิธีการทำ SEO รวมทั้ง SEMนั้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบกิจการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องเชิงพาณิชย์หรือหนทางการประชาสัมพันธ์อย่างเอาจริงเอาจังทั้งสอง ก็เลยเกิดเรื่องที่ควรศึกษาเรียนรู้แล้วก็ทำความเข้าใจเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกเส้นทางการเดินที่เหมาะกับธุรกิจของเราให้ได้ขอรับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สอน seo

Tags : สอน seo,เรียน seo,seo



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ