ขายดีเลิศเป็นกระแสในการเกื้อกูลผิวของคุณให้มีผิวขาวสวยปรับสภาพผิวของคุณแบบมืออาช

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขายดีเลิศเป็นกระแสในการเกื้อกูลผิวของคุณให้มีผิวขาวสวยปรับสภาพผิวของคุณแบบมืออาช  (อ่าน 15 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
anonchobpost
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20030


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: เมษายน 08, 2017, 06:28:03 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ครีม v2 มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีความจำเป็นในการดูแลและรักษาความชื้นให้ผิว ถึงแม้ผิวมนุษย์เราจะผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองแต่เวลานี้มีสินค้าสำหรับการบำรุงรักษาผิวพรรณมากมายกมายที่มีส่วนประกอบไม่เป็นมิตรกับผิว มีฤทธิ์ระคายทำให้ผิวอ่อนแอและก็ผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ลดน้อยลง การบำรุงผิวโดยพิจารณาถึงส่วนประกอบของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็เลยมีความสำคัญเหมือนกัน บางบุคคลหน้ามันแล้วกลัวว่าถ้าเกิดใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะมีผลให้ผิวยิ่งมันครีม v2เป็นความรู้ความเข้าใจที่ผิดนัก เนื่องจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลายประเภทสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับภาวการณ์ผิวได้

อยากมีผิวสวย โปรดอ่านนี้ก่อน

หนังกำพร้าสุด (stratum corneum หรือชั้นคราบไคล) เป็นชั้นที่พวกเรามองดูเห็นด้วยสายตา ในสายตาคนรอบข้างหรือตอนเราส่งกระจก ผิวพวกเราจะดูแห้ง ขาดเลือดฝาด ไม่สดชื่นหรืองาม ขึ้นตรงต่อความสมบูรณ์ของชั้นนี้เป็นหลัก อยากให้ผิวดูสวยในสายตาผู้ชม ก็จำเป็นต้องมารีบทำให้ผิวชั้นไคลบริบูรณ์กันจ้ะ

ศัพท์ที่จะพบในบทความนี้

Epidermis : หนังกำพร้าสุด ภาษาไทยเรียกว่าชั้นหนังกำพร้ามี 5 ชั้นย่อย
stratum corneum : ชั้นไคล เป็นชั้นย่อยชั้นนอกสุดชองชั้นผิวหนังชั้นนอก
Corneocyte : เซลล์ในชั้นไคล มีการเรียงหน้าเป็นชั้นๆคร่าวๆ 25-30 ชั้น บางตำราเรียนเรียก Corneocyte ว่าhorny cell
Brick and Motar Model : แบบจำลองการเรียงหน้าเป็นชั้นๆของเซลล์ Corneocyte
Keratinocyte : เป็นคำรวมๆที่ใช้เรียกเซลล์ผิวทั้งสิ้นของชั้นepidermis เพราะเซลล์ผิวในชั้นผิวหนังชั้นนอกจะมี keratinเป็นองค์ประกอบข้างใน ทำให้ทุกเซลล์ในชั้น Epidermis ขึ้นชื่อว่าเป็น keratinocyte ทั้งปวง
NMFs : ย่อมาจาก Natural moisturizing factors เป็นสารประกอบหนึ่งที่อยู่ข้างในเซลล์ Corneocyteทำหน้าที่เก็บน้ำแล้วหลังจากนั้นก็รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ภาษาไทยเรียก NMFsว่า "น้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ"
Intercellular lipids : ชั้นไขมันกันระหว่างเซลล์Corneocyteปฏิบัติภารกิจคุ้มครองป้องกันไม่ให้ NMFs ข้างในเซลล์ Corneocyte รั่วออกมาภายนอก บางแบบเรียนเรียกIntercellularlipids ว่า intercellular matrix หรือ Lipidbarrier
Sebaceous gland : ต่อมไขมันที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำมัน(sebum) มาฉาบผิว
TEWL : ย่อมาจาก Transepidermal Water Loss คือการสูญเสียน้ำผิวผ่านชั้น Epidermis ยิ่ง TEWL มีค่าสูงแสดงว่ายิ่งมีการสูญเสียน้ำมากไม่น้อยเลยทีเดียว

องค์ประกอบผิวหนังชั้นคราบไคล (stratumcorneum)
ชั้น stratum corneum มีการเรียงตัวของเซลล์corneocyte อย่างเรียบร้อยเป็นชั้นๆราว25-30 ชั้น โดยมีintercellular lipidsเป็นตัวผสานล้อม หนังสือเรียนฝรั่งได้เรียกการเรียงหน้าแบบงี้ว่าBrick and Motar Model ภาพการเรียงหน้าของก้อนอิฐที่ก่อด้วยปูน Brick and Motar Model
Brickมีความหมายว่าก้อนอิฐ Motarหมายความว่าปูนภาพจำลองการจัดเรียงตัวของเซลล์ corneocyte เป็นชั้นๆโดยมีintercellularlipids เป็นตัวประสานซึ่งมีลักษณะเหมือนการเรียงตัวของก้อนอิฐที่ก่อด้วยปูนก็เลยถูกเรียกว่า Brick and Motar Model อิฐแต่ละก้อน เทียบเคียงได้กับเซลล์ corneocyte

ด้านในเซลล์ corneocyte มี NMFs ครีม v2ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำด้านในเซลล์
NMFs ที่หลักๆเป็นAmino acids, PCA แล้วก็น้ำตาลGlucose
NMFs เป็นสารที่เซลล์ชั้นหนังกำพร้าสามารถผลิตขึ้นได้เองในช่วงเวลาที่มีการเจริญเติบโตเป็นเซลล์เต็มวัย (keratinocytedifferentiation)
แม้มีต้นเหตุใดไปก่อกวนการเติบโตของเซลล์keratinocyteก็จะมีผลให้ NMFs ถูกทำต่ำลง และมีผลถึงความชื้นของชั้น stratumcorneum

ปูนประสาน เปรียบได้กับIntercellular lipids
เป็นตัวยึดเหนี่ยวเซลล์ ให้เรียงกันอย่างแน่นหนาและเรียบร้อย
Intercellular lipids ประกอบไปด้วยสารชนิดไขมันเป็นต้นว่า ceramides 47 %, cholesterol 24%, freefatty acids 11 % แล้วก็ cholesterol esters 18 %

ผิวสวยเริ่มความสมบูรณ์ของชั้น stratum corneum
อยากได้ให้ผิวมองงาม ควรจะหันมาดูแลผิวชั้น stratumcorneum ให้บริบูรณ์โดยการรักษาระดับ NMFs รวมทั้งintercellular lipids ให้บริบูรณ์มากที่สุด
การที่ระดับความชุ่มชื้นในผิวเพียงพอจะช่วยปรับให้

เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่นดี ถูกรังแกได้ยาก
เสริมรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ถ้าหากผิวขาดความชื้นที่เหมาะเหม็งเอนไซม์กลุ่มนี้จะดำเนินการไม่ดีการผลัดเซลล์ผิวก็เลยรวน ผิวหน้าหมองคล้ำ ฝ้ากระ สะสม รูขุมขนตัน เป็นสิว
เกื้อหนุนจุนเจือให้ส่วนประกอบมีความแข็งแรงแล้วก็ปฏิบัติหน้าที่กรองสารที่จะผ่านเข้าออกผิวเจริญรวมทั้งบริบูรณ์ ถ้าหากผิวขาดความชื้นที่เหมาะสมเซลล์ corneocyte จะลีบแบน การเรียงหน้าไม่เรียบร้อยเกิดช่องโหว่ น้ำใต้ผิวระเหยออกง่าย สิ่งเจือปนจากด้านนอกผ่านเข้าไปได้ง่าย ทำให้ผิวหนังอักเสบ มีการติดโรค ฯลฯ
รักษาระดับ pH ของผิว : ผิวที่มี pH ผิวเหมาะสม จะช่วยปรับNMFs ถูกทำรุ่งเรือง
สิวขึ้นน้อยลง : ผิวที่ขาดความชื้น ทำให้เซลล์ผิวเรียงตัวไร้ระเบียบครีม v2 มีการหลุดลอกไม่ปกติแล้วก็ไปตันตามรูขุมขนเมื่อรวมกับน้ำมันที่ระบายออกมิได้ ก็เลยมีการตันเป็นสิวตันสิวอักเสบ เมือผิวเฉอะแฉะ การผลัดเซลล์กลับมาธรรมดา การอุดตันเกิดลดลง สิวลดน้อยลง
รูขุมขนกระชับ : ผิวที่เปียกชื้นเหมาะสม เซลล์ corneocyteจะมีความอ้วนอิ่มรวมทั้งขยายตัวแทรกกัน ทำให้รูขุมขนซึ่งอยู่ระหว่างจุดเชื่อมของเซลล์ corneocyte ถูกบีบอัดให้แคบลงผิวก็เลยมองดูละเอียดขึ้น ด้วยเหตุนี้ในคนที่ผิวแห้งมากมายๆเว้นเสียแต่ผิวจะมองดูไม่สุภาพแล้ว รูขุมขนก็จะกว้างขึ้นด้วย อ่านเพิ่มอีกเกี่ยวกับที่บทความเรื่อง ตาข่ายผิวภาพเทียบผิวหนังธรรมดาและผิวหนังที่แห้งผิวปกติ :เซลล์เรียงตัวชิดกัน เป็นระเบียบ
inter cellular matrix บริบูรณ์
เหนือผิวข้างบนมีน้ำมัน (hydro lipid film) ฉาบอยู่พอเพียง
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้น้อยผิวแห้ง การเรียงหน้าของเซลล์ผิวไม่รอบคอบ ไม่มีระเบียบ
intercllular matrix มีน้อย/ไม่มีคุณภาพ
น้ำมันฉาบผิว (hydro lipid film) น้อย
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้มาก (TEWL สูง)บักเตรี สิ่งปลอมปนไปสู่ผิวได้ง่าย ผิวก็เลยเคืองและก็อักเสบง่ายผิวแห้ง ผิวขาดความชื้นเสมอเหมือนหรือไม่เหมือนกันอย่างไร?
ผิวแห้งแล้วก็ผิวขาดความชื้นคล้ายกันแม้กระนั้นไม่เหมือนกันคำว่าผิวแห้งเป็นคำใช้แบ่งแยกสภาวะผิวที่ประจำตัวมา เช่น คนนี้ผิวมัน คนนี้ผิวผสม คนนี้ผิวแห้ง ซึ่งใช้ปริมาณน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากต่อมไขมันเป็นตัวแบ่งประเภทและชนิด


ผิวแห้ง(dry skin) คือ ผิวที่ขาดน้ำมัน (sebum)ฉาบผิวด้านบนเพราะว่ามีต่อมน้ำมัน ( sebaceous gland) ใต้ผิวน้อย ก็เลยผลิตน้ำมันได้น้อย เมื่อจำนวนน้ำมันฉาบผิวน้อยก็เลยสูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย ด้วยเหตุนี้คนที่ผิวแห้งยังคงมีความสมบูรณ์ของ intercllular matrix และมีน้ำใต้ผิวที่พอเพียง ก็แค่ขาดน้ำมันที่ผิว
ผิวมัน (oily skin) คือ ผิวที่มีต่อมไขมันมากมายก่ายกองทั่วทั้งหน้าและก็ผลิตน้ำมันมาฉาบผิวได้มาก ผิวภายนอกก็เลยมองมัน การสูญเสียน้ำใต้ผิวก็เลยเกิดขึ้นน้อย
ผิวผสม (mix skin) คือ ผิวที่มีต่อมไขมันบริเวณt-zoneจำนวนมาก, u-zone น้อยทำให้หน้ามันเฉพาะรอบๆt-zoneส่วน u-zone ธรรมดาหรือแห้ง

ส่วน ผิวขาดความชุ่มชื้น (dehydrated skin) เป็นผิวที่มีน้ำใต้ผิวต่ำ วัดน้ำใต้ผิวได้ < 10% เหตุอาจเป็นเพราะเนื่องจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายใน

1.ปัจจัยภายนอก

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์มากเกินไป : ทำให้หนังกำพร้ามีการหมุนเวียนเร็วกว่าปกติ ผิวหนังที่มีการหมุนเวียนเร็วจะไม่อาจจะสร้าง NMFsแล้วก็ intercellular lipids ได้ทัน ก็เลยเสียความรู้ความเข้าใจในการรักษาน้ำให้ดำรงอยู่ในผิวหนัง
การใช้สินค้าชำระล้างที่มีคุณลักษณะกำจัดน้ำมันฉาบผิวมากจนเกินไปครีม v2 : น้ำมันฉาบผิวน้อย สูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย
รังสี UV : ได้รับรังสี UV เป็นจำนวนมากต่อเนื่องกัน ไม่ทาครีมที่มีไว้กันแดด รังสี UV จะรบกวนการผลิต NMFs
ความชื้นกลางอากาศ : ความชุ่มชื้นกลางอากาศต่ำยิ่งกว่า10% จะดึงน้ำในผิวออกสู่ด้านนอก ฉะนั้นในห้องปรับอากาศในหน้าหนาว ซึ่งมีความชุ่มชื้นต่ำ สามารถพรากน้ำใต้ผิวได้ตลอดระยะเวลา

2. ปัจจัยภายใน

อายุ : อายุครั้งเยอะขึ้นเรื่อยๆ การสร้าง NMFs และก็ sebum ลดลง
เชื้อชาติ : ชาวเอเชีย มีปริมาณ NMFs ต่ำกว่าเชื้อชาติอื่น
โรคผิวหนัง: โรคผื่นแพ้กรรมพันธุ์ (atopicdermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) โรคเด็กดักแด้(Ichthyosis) โรคเหล่านี้จะมีการแบ่งตัวของkeratinocyte (keratinization) เร็วกว่าปกติหลายเท่า รวมถึงขับมาที่เปลือกอย่างเร็วดังเช่นว่า 4 วัน (ธรรมดาใช้เวลา 28วัน) ทำให้ผิวหนังดกเป็นปื้นในขณะขั้นตอนสร้าง NMFs , intercellular lipids ยังเกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ เซลล์ผิวหนังก็เลยขาดแรงยึดเหนี่ยวกันตามธรรมดา เซลล์ผิวก็เลยหลุดลอกออกเป็นแผ่นๆได้ง่าย ราวกับเป็นสะเก็ดหรือเกล็ดขึ้นกับความร้ายแรง

ลักษณะของผิวหนังที่ขาดความชุ่มชื้น(dehydrated skin)
- ผิวไม่เรียบ มีขุยไหมมีขุยก็ได้ แต่หากมีขุยเป็นอาการหนักทาแป้งไม่ติด (หน้ามันล้นหลาม ทาแป้งไม่ติด หน้าแห้งไปก็ทาแป้งไม่ติดเช่นกัน)ครีม v2
- แลเห็น fine line ชัด (ริ้วเล็ก) โดยเฉพาะอย่างยิ่งใต้ตา มุมปาก
- ผิวแดงง่าย สีผิวไม่บ่อยนัก
- คันแล้วก็เกิดผิวหนังอักสบ
- ระคายง่าย แพ้ง่ายครีม v2
การดูแลรักษาความชื้นให้ผิวหนัง ก็เลยจะต้องทำทั้งเพิ่มความชื้นเข้าไปก่อน ด้วยการกินน้ำให้พอเพียง แล้วก็เลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภท humectant
กีดกันความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออก ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จำพวกocclusive
เพิ่มความรู้ความเข้าใจในการเก็บกักน้ำใต้ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับ NMFs และก็ Intercellular lipids
เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เป็น ช่วยอะไรบ้าง?Repairingtheskin barrier : เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวแข็งแรงขึ้นเคืองน้อยลง ไม่แพ้ง่าย
Increasing water content : เพิมจำนวนน้ำใต้ผิว
Reducing TEWL : ลดการสูญเสียน้ำผ่านออกทางผิวหนังชั้นอีพิเดอร์มิส
Restoring the lipid barriers’ ability to attract, holdandredistribute water : ซ่อมแซม intercellular lipidsให้สามารถเก็บกักน้ำรวมทั้งรักษาสมดุลน้ำใต้ผิว
สารช่วยเพิ่มความชื้น (มอยส์เจอร์ไรเซอร์) แบ่งออกได้เป็น 2ประเภทเป็น

1. สารช่วยเพิ่มน้ำในชั้นผิวหนัง (Humectant) สารกลุ่มนี้มีคุณลักษณะในการจับกับน้ำ (water binding)อาทิเช่น colloidaloatmeal, Amino acid,Hyaluronic Acid, Sodium PCA, glycerin, น้ำผึ้ง, กรดแลคติค (lactic acid), soduimlactate, propylene glycol,sorbitol, pyrolidonecarboxylic acid (PCA) , gelatin,collagen , lastin,urea

ทั้ง Sodium-PCA แล้วก็hyaluronic acid (HA) จัดเป็นสารชนิดglycosaminoglycans ในธรรมชาติสารนี้เจอแทรกสอดในชั้นหนังแท้ ขึ้นรถ HA จะซับน้ำได้ 1000 เท่า ก็เลยทำให้ผิวหนังเด็กเต่งตึง แม้กระนั้นเมื่อวัยสูงมากขึ้นสาร HA ในชั้นหนังแท้จะลดน้อยลงทั้งสมรรถนะและจำนวน ผิวหนังก็เลยเหี่ยวย่น ในครีมหรือโลชันผิวแห้งก็เลยนิยมผสมสาร HA ครีมv2เพื่อช่วยซับน้ำในผิวหนังชั้นไคลเนื่องจากสารในกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มน้ำให้กับผิวได้โดยตรง ทำให้ผิวเรียบนุ่มเปียกแฉะโดยไม่เพิ่มความมันมอยส์เจอร์ไรเซอร์กลุ่ม Humectant ก็เลยเหมาะสมกับผิวมัน ผิวแห้ง และผิวแพ้ง่าย

2. สารเพื่อปกป้องการระเหยของน้ำจากผิว (occlusivemoisturizers)ผลิตภัณฑ์ผิวแห้งจะผสมน้ำมันหลายแบบ เมื่อทาน้ำมันฉาบผิวการระเหยของน้ำจากชั้นผิวหนังจะต่ำลงน้ำมันที่ใช้มีหลายกลุ่ม เป็น




คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ครีมวีทู

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://sites.google.com/site/v2centerthailand/[/url]

Tags : ครีม v2,ครีมวีทู



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ