ม่านปรับแสงคืออะไร บทความนี้มีคำตอบ ?

[iampropostweb]

Advertisement

                 ม่านปรับแสงสว่าง หรือม่านปรับแสงสว่างแบบแนวดิ่งมีลักษณะโดยทั่วไปเป็นตัวใบม่านว่างตัวในแนวดิ่งมีขนาดมาตรฐาน89มิลลิเมตร
 จำพวกของใบม่านมีหลายหลายแบบสามารถเลือกเอามาทำเป็นตัวใบได้ทั้ง ใบสังเคราะห์ ใบทึบแสง ใบเส้นใยแบบซันสกรีน ใบอลูมิเนียม ใบพีวีซี
แม้ที่นิยมประยุกต์ใช้กว่า90%จะเป็นจำพวกใยสังเคราะห์

               ซึ่งในขณะนี้ม่านปรับแสงจำพวกใยสังเคราะห์เป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าใบอลูมิเนียมแล้วก็พีวีซี เพราะว่าราคาแพงไม่สูง ให้ความยุติธรรมชาติมากยิ่งกว่าเนื่องมาจากผลิตขึ้นมาจากใยสังเคราะห์ ไม่ส่งเสียงก่อกวนในขณะเปิดปิดม่าน สำหรับตัวใบม่านแบบใยสังเคราะห์ก็มีให้เลือกใช้ถึง3ประเภทตามลักษณะการนำไปใช้งานในแบบต่างๆอย่างเช่นใบจำพวกทึบแสง(blackout) ใบม่านปรับแสงสว่างแบบทึบแสงนี้ช่วยคุ้มครองปกป้องแสงสว่างและก็ความร้อนได้ดียิ่งกว่าแบบอื่น
 
              ส่วนใหญ่ตัวใบจะมีผิวมันทำให้ฝุ่นละอองไม่เกาะแล้วก็สามารถเช็ดถูชำระล้างได้ง่ายเหมาะสมกับห้องที่แสงอาทิตย์แรงๆใบประเภทแสงสว่างสามารถส่องผ่านได้บ้าง(ไม่ทึบแสง)การส่องผ่านของแสงสว่างจะขึ้นกับสีของตัวม่านที่เลือก โดยเมื่อปิดม่านจะช่วยทำให้ห้องสว่างได้ในช่วงเวลากลางวัน สีม่านส่วนมากจะเป็นสีโทนพื้นให้บรรยากาศสบายๆเมื่อจัดตั้งแล้วใบม่านปรับแสงสว่างจำพวกแลเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ โดยที่ยังป้องกันแสงแดดได้ สามารถใช้ได้ทั้งในที่อยู่อาศัยและออฟฟิต ตัวใบมีลักษณะเป็นเส้นใยทอกันแบบไม่ติดเหมือนตาข่าย

คุณลักษณะเด่นของใบม่านปรับแสงสว่างประเภทนี้เป็นสามารถแลเห็นทิวทัศน์ข้างนอกได้ในช่วงเวลาที่ปิดตัวม่านเพื่อบังแสงอาทิตย์อยู่
ม่านอีกชนิดหนึ่งซึ่งนิยมใช้กันในตอนนี้อย่างเช่น ม่านปรับแสงสว่าง ซึ่งมีลักษณะใบม่านวางตัวในแนวดิ่ง ผู้ใช้งานส่วนมากมักเรียกงงกับม่านอีกประเภทที่ตัวใบวางตัวในแนวยาวเป็นฉาก ม่านปรับแสงสว่างแต่แรกเริ่มนั้นใบม่านสร้างจากโลหะเช่น อลูมิเนียม ซึ่งในตอนนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กันในบ้านเพราะว่ามีเสียงในขณะใช้งานเปิดปิดหรือเมื่อมีลมพัดที่ตัวใบตัวใบม่านในรุ่นต่อมามีการทำเป็นใยสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อขจัดปัญหาเสียงดังรบกวน ซึ่งมีโทนสีให้เลือกเยอะแยะ สำหรับจุดที่จำต้องการบดบัง ความร้อนจากแดดสามารถเลือกใช้เป็นประเภททึบแสง ตัวใบทำมาจากใยสังเคราะห์อย่างเดียวกัน สามารถเปิดปิดและก็ปรับม่านปรับแสงในองศาที่พวกเราอยากได้

ที่มา : https://goo.gl/dt4WH9[/color][/color]