Advertisement
การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชของไคโตซาน จากการศึกษาในหนู พบว่า ไคโตซานและ
ไคติน และช่วยลดการเพิ่มของน้ำหนักได้ 143% และจากการค้นพบในคนอ้วน โดยให้ทานไคโตซาน วันละ 3 กรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าช่วยลดการเพิ่มของน้ำหนักได้ 22%
ในปีค.ศ.2007 และมีการค้นคว้าเชิงระบาดวิทยากับประชากรกลุ่มใหญ่ เพื่อค้นหาการลดน้ำหนัก พบว่ากลุ่มที่กินไคโตซาน มีน้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญเฉลี่ย 1.7 กิโลกรัม และเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินไคโตซาน
มีรายงานการใช้ไคโตซาน ในงานศึกษาลดน้ำหนักที่เมือง Helsinki ประเทศ Finland ในคน 100 คน น้ำหนักตัวเฉลี่ย 80 กิโลกรัมต่อคน พบว่าไคโตซาน สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกายได้ถึง 8% และ ลดน้ำหนักเฉลี่ยได้ถึง 8 กิโลกรัม ต่อคน ภายใน 4 สัปดาห์ รวมทั้งลดความดันโลหิตลงด้วย
ที่จริงเรื่องของไคโตซานนี้ได้มีนักวิทยาศาสตร์ในประเทศต่างๆ เช่น ยุโรป และอเมริกา ทำการหากันมากมาย แต่ศาสตราจารย์ ดร.ชิกิฮิโร่ ฮิราโน่ (Prof. Shigehiro Hirano) จากมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นนักเคมีชาวญี่ปุ่นที่ทำการค้นคว้าเรื่องไคตินไคโตซานอย่างจริงๆจังๆ มานานเกือบตลอดชีวิต กว่า ๒๐๐ งานค้นหา เขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งไคโตซาน ดร.ฮิราโน่กล่าวว่า ถึงแม้เขาจะทำงานค้นพบเรื่องไคโตซานมามาก แต่สารธรรมชาติชนิดนี้ก็ยังเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเขาอยู่เสมอ เพราะทุกๆครั้งที่ทำการค้นหา เขาก็จะพบคุณสมบัติใหม่ๆขอ
ไคโตซาน[/url]อยู่เรื่อยๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคน สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม
ขนาดรับประทาน / ปริมาณที่ควรรับประทานไคโตซาน ไคโตซาน ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ช่วยลดความอ้วนได้ โดยขัดขวางการดูดซึมของไขมัน ในขณะที่ผ่านทางเดินอาหาร ไคโตซานจะช่วยดูดซับไขมันได้ 4-6 เท่าของน้ำหนักตัว ส่งผลให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกาย ก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมและเก็บไว้เป็นน้ำหนักส่วนเกิน
ขนาดกิน ในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดขนาดทาน หรือปริมาณที่แนะนำต่อวัน (RDA) ของไคโตซานอย่างแน่นอน แต่จากการศึกษาหลายกรณีชี้ให้เห็นว่าไคโตซาน 8 กรัม (ไคโตซานแคปซูล 250 มิลลิกรัมจำนวน 8 เม็ดต่อวัน หรือขนาดแคปซูลละ 500 มิลลิกรัมจำนวน 4 เม็ดต่อวัน) สามารถดูดซับไขมันได้ 10 กรัม และกำจัดออกจากร่างกายไปกับของเสีย
งานศึกษาทางการแพทย์ พบว่าไคโตซาน มีความปลอดภัยต่อมนุษย์สูง และ ไม่พบอันตรายจากการใช้ รวมทั้ง US Environmental Protection Agency ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ให้การรับรองว่า ปราศจากสารพิษ และ สารที่ก่อให้เกิดมลภาวะ
ข้อแนะนำ / ข้อระวังในการใช้ไคโตซาน ใช้ในผู้ที่แพ้อาหารทะเล เพราะเสมือนว่ากิน อาหารทะเลเข้าไป จึงทำให้เกิดอาการในผู้ที่แพ้อาหารทะเล รวมทั้งเด็ก หญิงมีครรภ์ และหญิงให้นมบุตรก็ไม่ควรรับประทาน ไคโตซาน ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีปัญหาการย่อยผิดปกติ
ไคโตซานจะดูดซับวิตามินที่ละลายในไขมันที่สำคัญอย่าง วิตามินเอ, วิตามินดี, วิตามินอี และวิตามินเค ไปด้วย จึงควรรับประทาน เฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็น และไม่ควรรับประทาน ต่อเนื่องกันนานเกินกว่า 2 อาทิตย์ และหากคุณรับประทาน ไคโตซาน จึงควรกิน อาหารที่มีวิตามินที่ละลายในไขมัน และกรดไขมันที่จำเป็นเพิ่มขึ้นด้วย
Tags : ไคติน