Advertisement
ถิ่นกำเนิดของมะขามแขก มะขามแขกนี้ชาวอาหรับรู้จักนำมาใช้เป็นยามานานแล้ว และได้นำมาใช้ในยุโรป ตั้งแต่สมัย ๑,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว ใบมะขามแขกมี ๒ ประเภท คือ Cassia acutifolia – Alexandrian Senna ซึ่งมีปลายใบแหลมกว่า เป็นพืชพื้นเมืองของอัฟริกาเขตร้อน เพาะมากในประเทศซูดาน เมืองคอร์โดฟาน (Kordofan) และเมืองเซนน่า (senna) และอีก ประเภทหนึ่งมีปลายใบเรียวคือ Cassia angustifolia Tinnevely Senna เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดที่เมืองโซมาลิแลนด์ ( Somaliland ) อาระเบีย แคว้นปัญจาบและสินธุ แต่แหล่งที่ ปลูกพืชนี้มากที่สุดคือ เมือง Tinnevelly ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย ปัจจุบันนี้ในไทย เพาะปลูกต้นมะขามแขกกันมากแถวพระพุทธบาทสระบุรี ในโครงการร่วมไทย – เยอรมัน เพื่อส่งเป็นสินค้าออกไปยังเยอรมัน
ลักษณะทั่วไปของมะขามแขก ต้นมะขามแขก จัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงของต้นประมาณ 0.5-1.5 เมตร เป็นพืชทนแล้ง ไม่ชอบที่น้ำท่วมขัง เพราะจะทำให้รากเน่า สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ คุณสมบัติร่อน มีความอุดมสมบูรณ์ ปลูกด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการใช้ต้นกล้า
ใบมะขามแขก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปวงรีและใบรูปหอก ใบแห้งมีสีเขียวอมน้ำตาล ขอบใบเรียบ ปลายและโคนใบแหลม โคนใบทั้งสองมีขนาดไม่สมมาตรกัน และมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร ใบมีกลิ่นเหม็นเขียว มีรสเปรี้ยว หวานชุ่ม
ดอกมะขามแขก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบตอนปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีเหลือง จะมี
กลีบที่รองดอกและกลีบดอกเกือบมีขนาดที่เท่ากันจำนวน 5 กลีบ ออกผลเป็นฝัก คุณสมบัติเหมือนกับถั่วลันเตา แต่จะแบนกว่า กว้างประมาณ 2 ซม. และยาวประมาณ 7 ซม. มีสีเขียวใสตอนยังอ่อน เมื่อแก่จะกลายเป็นสีดำ มีเมล็ดประมาณ 6 เมล็ด มีรสเปรี้ยว
การขยายพันธุ์ของมะขามแขก - มะขามแขกเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน ระบายน้ำดี ไม่มีน้ำท่วมขัง เป็นพืชที่ต้องการความชื้น ชอบขึ้นในที่ลุ่ม ทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้น้อย พบได้ตามพื้นที่ป่าหรือตามพื้นที่รกร้างทั่วไป
- มะขามแขก อาจขยายพันธุ์ด้วยการ ปลูกเมล็ด ด้วยวิธีการนำเมล็ดจากฝักแก่ที่ร่วงจากต้นหรือฝักแก่จากต้น นำเมล็ดมาตากแห้งประมาณ 1-2 แดด ก่อนนำไปหว่านลงพื้นที่ว่างหรือปลูกในถุงเพาะชำ ถุงดำ หรือ กระบะเพาะชำก่อนนำลง ปลูก ช่วงแรกหมั่นดูแลรักษาให้ดินมีความชุ่มชื่นตลอด เมื่อมะขามแขกเริ่มใหญ่แล้วจากนั้นรดน้ำตามความเหมาะสม ช่วงที่นิยม เพาะเป็นช่วงปลายฤดูฝน
- ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว การเก็บใบจะเริ่มการเก็บเกี่ยวเมื่ออายุได้ 50 วัน โดยตัดยอดเหนือใบแก่ รูดเอาแต่ใบย่อยใส่กระจาด เกลี่ยให้บาง ๆ แล้วนำไปผึ่งไว้ประมาณ 2-5 วัน
- การเก็บผลจะเก็บเมื่อผลมีอายุได้ประมาณ 20-23 วัน นำมาผึ่งในที่ร่ม โดยแผ่ออกบาง ๆ ผึ่งประมาณ 1-2 วัน แล้วนำไปผึ่งแดดอีกประมาณ 1 วันให้แห้งสนิท แล้วเก็บใสภาชนะที่สะอาดและมิดชิด
องค์ประกอบทางเคมี ใบ และฝัก มีสารกลุ่มไฮดรอกซีแอนทราซีน กลัยโคไซด์ ได้แก่ sennoside A, B, C, และ D , rhein, aloe emodin, emodin , dianthrone
สรรพคุณของมะขามแขก สมุนไพรมะขามแขก มีประโยชน์ที่โดดเด่นในเรื่องของการใช้เป็นยาถ่าย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีกำลังน้อย เด็ก คนที่เป็นริดสีดวง หรือผู้ที่มีปัญหาท้องผูกอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinones) ที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ให้ถ่ายท้องได้ โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้แก่ ส่วนของใบแห้งและฝักแห้งที่มีอายุในช่วง 1 เดือนครึ่ง (หรือช่วงก่อนออกดอก) แต่ควรใช้เป็นครั้งคราวเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
ตำรายาไทย: เป็นยาระบายท้อง แก้ท้องผูก ขับลมในลำไส้ ทำให้อาเจียน ถ่ายพิษอุจจาระเป็นมูก ถ่ายน้ำเหลือง ถ่ายพิษไข้ ถ่ายโรคบุรุษ ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวงทวาร ใบทำให้ไซ้ท้องมากกว่าฝัก ควรใช้ร่วมกับตัวยาขับลม เช่นกระวาน หรือกานพลู เป็นต้น เหมาะกับคนที่กำลังน้อย หรือเด็ก และคนที่เป็นริดสีดวงทวาร
- ใบมะขามแขกช่วยทำให้อาเจียน (ใบ)
- ช่วยถ่ายพิษไข้ (ใบ, ฝัก) ลักษณะมะขามแขก
- ช่วยถ่ายพิษเสมหะ (ใบ)
- ช่วยแก้อาการสะอึก (ใบ)
- ช่วยขับลมในลำไส้ (ใบ, ฝัก)
- ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ (ใบ)
- ช่วยถ่ายพิษอุจจาระเป็นมูก (ใบ)
- ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร (ใบ, ฝัก)
- ใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ (ใบ)
- ช่วยถ่ายโรคบุรุษ (ใบ)
- ช่วยถ่ายน้ำเหลือง (ใบ)
- ช่วยบรรเทาอาการบวมน้ำ (ใบ)
มีรายงานว่าได้มีการใช้มะขามแขกในคนไข้หลังผ่าตัดคว้านต่อมลูกหมาก และพบว่ามะขามแขกช่วยทำให้ถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะอันพึงประสงค์ได้ดีกว่าการใช้ Milk Of Magnesia (MOM) นอกจากนี้แคลเซียมเซนโนไซต์ ยังช่วยทำให้ผู้ป่วยสูงอายุหลังการผ่าตัดอาจขับถ่ายอุจจาระได้คล่องยิ่งขึ้น
รูปแบบ / ขนาดวิธีใช้ของมะขามแขก ใช้แก้อาการท้องผูกใช้ ใบแห้งวันละ 3-10 กรัม (1-2 กำมือ) ต้มกับน้ำดื่ม หรือบดเป็นผงชงน้ำดื่ม หรือฝัก 4-5 ฝัก ต้มกับน้ำจำนวนพอเหมาะ ดื่มก่อนนอน
สำหรับถ่ายพยาธิ ใบมะขามแขกหนัก 2 กรัม หรือ 2 หยิบมือ หรือใช้ฝัก 10-15 ฝัก ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว 5 นาที ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อกลบรสเฝื่อน กินครั้งเดียว หรือ ใช้วิธีบดใบแห้ง เป็นผงชงน้ำกิน บางคนดื่มแล้วเกิดอาการไซ้ท้อง แก้ไขโดย ต้มรวมกับยาขับลมจำนวนเล็กน้อย (เช่น กระวาน กานพลู อบเชย) เพื่อแต่งรสและบรรเทาอาการไซ้ท้อง
ตัวยาสำคัญ ผงใบมะขามแขก (Senna alexandrina Mill.) ข้อบ่งใช้ ลดอาการท้องผูก ขนาดและวิธีใช้ ชนิดชง กินครั้งละ ๒ กรัม ชงน้ำร้อนประมาณ ๑๒๐ - ๒๐๐ มล. ก่อนนอน ประเภทแคปซูล ทานครั้งละ ๘๐๐ มิลลิกรัม – ๑.๒ กรัม ก่อนนอน ข้อห้ามใช้ ผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน (gastrointestinal obstruction) หรือปวดท้อง โดย ไม่ทราบสาเหตุ ข้อควรระวัง - ควรระวังการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า ๑๒ ปี หรือในผู้ป่วย inflammatory boweldisease - การรับประทานยาในขนาดสูง อาจทำให้เกิดไตอักเสบ (nephritis) - ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ท้องเสีย ซึ่งส่งผลให้มีการสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไปโดยเฉพาะโพแทสเซียม และการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะทำให้ลำไส้ใหญ่ชินต่อยา ถ้าไม่ใช้ยาจะไม่ถ่าย - ควรระวังการใช้ในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร อาการไม่พึงประสงค์ ปวดมวนท้อง ผื่นคัน
ยามะขามแขก ประเภทตำรับ ยาในบัญชียาหลัก ยารักษากลุ่มทางเดินอาหาร – กลุ่มเยียวยาอาการท้องผูก ข้อบ่งใช้ ลดอาการท้องผูก วิธีใช้ คุณสมบัติชง รับประทานครั้งละ 2 กรัม ชงน้ำร้อนประมาณ 120 - 200 มล. ก่อนนอน ลักษณะแคปซูลและประเภทเม็ด อุปโภคครั้งละ 800 มก. – 1.2 กรัม ก่อนนอน
การเกิดอันตรกิริยากับยาแผนปัจจุบันNephrotoxic drug
Acetaminophen (in acute high doses),Acyclovir, parenteral,Aldesleukin,Aminoglycosides, parenteral and topical irrigation (only on denuded surfaces or mucous membranes),Amphotericin B cholestryl complex,Amphotericin B liposomal complex,Amphotericin B, systemic,Analgesic combinations containing acetaminophen and aspirin or other salicylates (with chronic high-,Anti-inflammatory drugs, nonsteroidal (NSAIDS),Bacitracin, parenteral,Capreomycin,Carmustine,Cholecystographic agents, oral,Cidofovir,Ciprofloxacin,Cisplatin,Contrast agents, radiopaque, water-soluble organic iodides (with intravascular administration),COX 2 inhibitors,Cyclosporin,Deferoxamine (with long-term use),Demeclocycline (in nephrogenic diabetes insipidus),Edetate calcium disodium (with high doses),Edetate disodium (with high doses),Foscarnet,Gallium nitrate,Gold compounds,Ifosfamide,Imipenem,Lithium,Methotrexate (with high-dose therapy),Methoxyflurane,Neomycin, oral,Pamidronate,Penicillamine,Pentamidine,Phenacetin,Plicamycin,Polymyxins, parenteral,Rifampin,Streptozocin,Sulfamethoxazole and Trimethoprim,Sulfonamides, systemic,Tacrolimus,Tetracyclines, other (except doxycycline and minocycline),Tiopronin,Tretinoin,Vancomycin, parenteral,Chlorpropamide
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
มะขามเเขกTags : กวาวเครือขาว,กวาวเครือแดง,ส้มแขก