สาวงามกับอุบายของชายหนุ่มเซ่นสังเวยความรักใคร่อย่างหวานฉ่ำ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สาวงามกับอุบายของชายหนุ่มเซ่นสังเวยความรักใคร่อย่างหวานฉ่ำ  (อ่าน 77 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ttads2522
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19505


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2017, 07:19:41 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


เปลือก ตาของอิสตรีที่ปิดอยู่ค่อยๆขยับขึ้น กรณิการ์ที่จำความปัจจุบันได้ว่าตัวเธอนั้นได้ทำหักพวงมาลัยหลบสุนัขตัว หนึ่งที่ดันวิ่งมาปาดหน้า จนรถพลิกคว่ำ แต่ว่าเพราะเหตุไรถึงไม่เคยรู้สึกเจ็บเลยล่ะ หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความไม่รู้เรื่อง

“นี่ หลินซูเหยาได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่” ผู้ชายที่สวมอาภรณ์สีฟ้า พูดถามด้วยความเบื่อหน่ายใจ วันนี้ตัวเขาตั้งอกตั้งใจจะมาบอกสตรีข้างหน้าให้เลิกมาตอแยตัวเขาเสียที เมื่อครู่จู่ๆสตรีที่น่ารำคาญก็หลับตาไม่ว่าเขาจะพูดอะไรไป ก็เสมือนจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเสียแบบงั้น จึงอดไม่ได้ที่จะตะคอกใส่คนตรงหน้า

จวงลี่มี่กระตุกชายเสื้อของบุรุษที่กำลังเต็มไปด้วยความโมโหก่อนเอ่ย “องค์ชายสี่เพค่ะ ทรงใจเย็นๆก่อนเถอะเพขา เห็นหรือไม่เธอหลินตกอกตกใจจนกระทั่งนิ่งเงียบไปแล้ว” องค์ชายสี่นามหานเฟิงเทียน ค่อยๆเปลี่ยนแปลงอารมณ์พร้อมทั้งมองยังสตรีข้างกาย ที่ตนหลงรักอย่าคลั่งไคล้

กณิการ์ ไม่ได้สนใจคำพูดคุยของสองคนที่อยู่ข้างหน้า คุณยกมือขึ้นตรวจบาดแผลตามร่างกายแม้กระนั้นก็จะต้องฉงนใจกับเสื้อผ้าที่ตนเองสวม ใส่อยู่ นี่มันชุดอะไรกันเนี่ย เพราะเหตุไรดูรุ่มร่ามขนาดนี้ หรือนี่เป็นความฝัน ใช่!!ฉันฝันไปแน่นอน โดยเหตุนั้นคุณจึงส่ายตาดูบรรยากาศรอบๆตัว ภาพทิวทัศน์ทิวภาพก็มองแปลกตาไปเหมือนกัน กรรณิการ์ยกมือกุมขมับ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย เธอใช้มือของตนหยิกกับต้นขา ก็รู้สึกได้โดยทันทีว่ามันเจ็บ!!

หาน เฟิงเทียน ดูอาการของสตรีตรงหน้าอย่างหงุดหงิด นี่ตัวนางจะทำให้เสียเวลาไปถึงเมื่อไหร่กัน “นี่หลินซูเหยาเจ้าหูหนวกหรือยังไง ข้าถามหลายรอบแล้วเพราะอะไรไม่ตอบเสียรู้!!!” หานเฟิงเทียนกระแทกเสียง


ปัง…!!!. “เสียงดังอะไรหนักหนาคนเขาใช้ความนึกคิดอยู่ไม่เห็นหรือไร ขี้บ่นน่าเบื่อหน่ายจริง” กรณิการ์ตีโต๊ะ แล้วตวาดกลับด้วยความหงุดหงิด ดวงตาฉายแววความรู้สึกไม่ถูกใจออกมา ที่ตัวเธอกำลังใช้ความนึกคิดแล้วดันถูกขัดจังหวะ

“นี่ เจ้ากล้าตะคอกใส่ข้าแบบนั้นรึ” หานเฟิร์นเทียนยืนขึ้นกับชี้หน้าของหลินซูเหยาด้วยมือสั่นระริก ตัวเขาเป็นถึงองค์ชายสี่ที่ดินแดนเว่ย เป็นบุรุษที่มีธาตุน้ำ แล้วก็ดินบริสุทธิ์ขั้นสอง ที่เขามาในวันนี้ก็เพราะได้ยินสายข่าวของเขารายงานมาว่าคุณหนูหลินผู้ ซึ่งไร้พลังอะไรก็ตามรบเร้าบิดาของนางให้ไปพูดคุยกับเสด็จพ่อ พระราชทานรางวัลเมื่อสามารถปราบโจรได้สำเร็จ โดยที่ให้ตบแต่งนางเป็นพระชายาเอกของเขา

แล้วซึ่งเขาเป็นถึงอัจฉริยะซึ่งสามารถใช้พลังธาตุได้ถึงสองธาตุ จะให้มาแต่งกับคนที่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เนี่ยน่ะหรือ หากไม่ติดว่าบิดาของนางเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ที่มีกำลังควบคุมกองทัพใหญ่มีทหาร ในดูแลร่วมแสนนาย ยังไม่รวมกองกำลังส่วนตัวที่มีราวๆอีกสามหมื่นกว่าและก็ไหนจะพี่ชายของนางที่ บรรลุพลังธาตุขั้นห้า ตอนนี้ตัวเขาคงจะสั่งคนให้จับนางไปฆ่าทิ้งในป่า ไม่เสียเวล่ำเวลาจำต้องเดินทางมาพูดจาอย่างงี้แน่นอน

“เอ้อ..ก็ใช่น่ะสิ เห็นอยู่ว่าคนกำลังใช้สมาธิยังเรียกซ้ำซากจำเจอยู่ได้” กรรณิการ์กล่าวอย่างไม่พอใจ

“ดี..ถ้าเกิด อย่านั้นเจ้าก็ต้องไปบอกบิดาของเจ้าให้ยกเลิกการหมั้นหมายของพวกเราที่กำลังจะ เกิดขึ้นด้วย” องค์ชายสี่หานเฟิงเทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

คุณ หนูตระกูลจวนประสานมือของชายแฟนให้ใจเย็นๆถ้าสตรีตรงหน้านี้เกิดโมโหแล้ว ให้เลื่อนกำหนดการ นางเอกไม่ห่วยหรอกหรือ หานเฟิงเทียนคล้ายกับจะฟื้นเขาได้หย่อนยานกายนั่งดังเช่นว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยต่อ “เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบพอกับคุณหนูจวง”

กรรณิการ์ แค่นยิ้ม ตัวคุณไม่รู้เรื่องว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นแต่คงจะต้องไหลตามน้ำไปก่อนสินะ “อ๋ออ..แล้ว??” กรณิการ์ที่ไม่เคยรู้ว่าสองคนด้านหน้านี้เป็นผู้ใดกันแล้วเอ๋ยถึงเรื่องอะไรอยู่ ดูการกระทำของคนทั้งสองด้วยหางตา อย่างที่ตัวคุณชอบทำประจำเวลาจะประเมินอะไรสักอย่าง

“เจ้าต้องบอกบิดาของเจ้าว่าขอยกเลิกพิธิหมั้นหมายกับคุณชายหาน” จวงลี่มี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแล้วก็รอยยิ้มที่สุภาพ

แม้กระนั้น คนระดับกรณิการ์จะมองไม่ออกเชียวหรอ ว่าสตรีข้างหน้าหลอกแค่ไหน คุณก็เลยหัวเราะในลำคอก่อนที่จะถามสองคนข้างหน้า “คุณทั้งคู่ก็เลยจับมือกันแล้วมาขอความช่วยเหลือตัวฉันให้เห็นใจในความรักของ พวกคุณว่างั้นเหอะ”

หาน เฟิงเทียนและก็จวงลี่มี่รู้สึกงงงวยกับคำพูดคำจาแปลกๆของคนข้างหน้านิดหน่อย แต่ว่าก็ตกลงใจเออออตามไป “ถ้าหากเจ้าจะเข้าดวงใจอย่างนั้นก็มิผิด” จวงลี่มี่เอ่ยตอบพร้อมทั้งหัวใจที่เปียกชื้นขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าดูเหมือนสตรีข้างหน้าจะไม่มีท่าทางต้าน ก่อนทุกคนจะพังครืนลงมาเพราะประโยคถัดไป


กรณิการ์ลูบคางเบาๆก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “คุกเข่าขอร้องฉันสิ”


“นี่เจ้า พวกเราสองคนมาพูดด้วยดีๆเพราะอะไรเจ้าถึงจะต้องทำแบบนี้” จวงลี่มี่เอ่ยอย่างหมดความทรหดอดทน

“หืม??.. พูดดีๆที่ไหนกันที่พูดดี ข้าได้ยินแต่พวกเจ้าพูดจากระชากเสียงใส่เรา แบบนี้น่ะหรอที่คนเขาเรียกว่าพูดจาดีๆน่ะหาาาา” กรรณิการ์กล่าวด้วยสีหน้ายียวน กวนใจ

“อย่า มีความรู้สึกว่าเจ้าเป็นลูกสาวของแม่ทัพหลินแล้วเราจะไม่กล้าทำอะไรน่ะ ถ้าตัวเจ้าไม่มีพ่อและก็พี่ชายคอยหนุนหลังสตรีที่ซึ่งไร้พลังธาตุแบบเจ้าใครกันแน่ เขาจะต้องการคบค้าด้วย เป็นสตรีไร้ประโยชน์ ยังจะมีหน้าเชิดหน้าชูหัวอย่างงั้นอีกน่ะหรือ” หานเฟิงเทียนเอ่ยด้วยบริเวณใบหน้าแดงก่ำด้วยเหตุว่าความขุ่นเคือง

“ขนาด ฉันเป็นตัวไร้ประโยชน์ ทำไมคุณทั้งคู่คนผู้แสนจะมีประโยชน์หนักหนาจำเป็นต้องถ่อมาถึงนี่เพื่อผู้หญิง ไร้ประโยชน์อย่างฉันเคลียปัญหาพวกนี้ด้วย” กณิการ์ตอบกลับอย่างเย้ยหยัน

“เจ้า นี่พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง อย่างไรเจ้าก็ต้องไปคุยกับบิดาเจ้าในเรื่องนี้” หานเฟิงเทียนเอ่ยด้วยอารมณ์ครุกรุ่น ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นจวนของแม่ทัพเขาซัดพลังใส่คนข้างหน้านี้แล้ว

“ถ้าเกิด ฉันไม่ทำล่ะ” กรณิการ์นอนมือบางจับชายเสื้อของตัวเองเล่น เช่นเดียวกันกับไม่ได้เอาใจใส่กับคำพูดของคนข้างหน้าที่มีท่าทีรุกรามเธอแม้แต่น้อย

“ถ้าหากไม่พวกเราจะได้เห็นดีเห็นชอบกัน” หานเฟิงเทียนข่มขวัญ

มือบางยกมือขึ้นปิดปากก่อนเอ่ย “นี่ฉันจำต้องกลัวด้วยรีไม่เนี่ย อุ๊ยตายน่ากลัวจริงๆเชียว”

จวง ลี่มี่ทนไม่ได้มือบางผลักมือของชายคู่รักให้ยืนขึ้น “องค์ชายหม่อมฉันว่าพวกเราสลับกันก่อนเหอะเพขา วันนี้เห็นทีเราอาจคุยกับนางไม่รู้เรื่อง”

หาน เฟิงเทียนก้มศีรษะ ก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วหันหลังเดินออกมาจากศาลาไปโดยไม่มีการกล่าวลาสตรีที่ยังคง นั่งอยู่ กรณิการ์นึกหมั่นไส้จึงตะเบ็งออกไป “เดินกันดีๆจะประเดี๋ยวจะสะดุดความรักหัวทิ่มแทงหัวตำโดยไม่ได้คาดคิด อ้ออีกอย่างฉันไม่ส่งนะ”




ทันทีที่ทั้งสองเดินจากไปก็มีคนรับใช้นางหนึ่งเดินเข้ามาในศาลาพร้อมด้วยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “หนูน้อยเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าค่ะ”

กรณิการ์คิ้วขมวดก่อนจะชี้นิ้วมายังตนเอง “ฉันหรอ เป็นสิเป็น”

“คุณ หนูเป็นอะไรมากหรือเปล่าเจ้าคะให้บ่าวตามหมอดีไหม” สาวใช้เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน แม้คุณหนูตรงหน้านี้ ไม่สบอารมณ์อะไรมีหวังข้างหลังเธอได้ลายเนื่องจากว่าถูกสั่งเฆี่ยนตีอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่ๆไม่ต้องเอ่อคือ..” กรรณิการ์มองดูบริเวณก่อนจะเอ่ยกระซิบกระซาบเบาๆ“เธอรู้จักฉันมานานแค่ไหนแล้ว”

หญิงรับใช้ยอมรับขึ้นมานับก่อนที่จะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “จะสิบปีแล้วเจ้าค่ะหนูน้อย”

กรณิการ์เอานิ้วเคาะปลายคางเบาๆเธอทำอย่างนี้ประจำเวลามีเรื่องมีราวให้ต้องคิด “ถ้าเช่นนั้นเธอก็ต้องรู้จักฉันดี ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นฉันมีปัญหา”

“ถามอะไรหรือเจ้าคะ” คนรับใช้ถามกลับด้วยน้ำเสียงงุนงง

“ปัญหากล้วยๆคุณอยู่กับฉันมาสิบปีฉันว่าคุณตอบได้สบายๆเลย” กรรณิการ์พูดพร้อมด้วยยิ้มน้อยๆอย่างมีเลศนัยจนถึงสาวใช้รู้สึกขนลุกตาม

“หากคุณหนูคิดเช่นนั้น บ่าวก็จะตอบเจ้าค่ะ”

“ดีเลิศ ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นเริ่มจาก..ที่นี่คือตรงไหน”กรรณิการ์เริ่มถาม

“ที่นี่เป็นบ้านของคุณหนูอย่างไรเล่าเจ้าขา” สาวใช้ตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อ


กรณิการ์ กุมขมับพลางคิด ฉันผิดเองที่ถามคำถามคลุมเครือ ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถามคำถามอื่นถัดไปเรื่อยสาวใช้ก็ตอบออกมาอย่างไม่ขัดข้อง กระทั่งคุณเพียงพอจะได้ข้อมูลอย่างคร่าวๆของที่นี่แล้วสรุปเป็น ที่แห่งนี้คือดินแดนโจว รวมทั้งยังมีแคว้นที่อยู่ชิดกันอีกสามแว่นแคว้นซึ่งก็คือแว่นแคว้นเอี้ยน แว่นแคว้นเซียง และดินแดนซีเป่ย

ใน ที่แห่งนี้วัดความสามารถของคนด้วยพลังธาตุซึ่งมีด้วยกันอยู่ทั้งหมดห้าธาตุ หลักด้วยกัน โน่นคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ และธาตุพิเศษที่ไม่มีปรากฎมานานราวกับหายสาบสูญ โน่นเป็นธาตุมืดหรือมิติธาตุ แต่ที่น่าแปลกเป็นหลินซูเหยาคนนี้ไม่มีธาตุแม้สักธาตุในตนเอง ให้ตายสินี่ฉันฟั่นเฟือนขนาดฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนี้เลยหรอเนี่ย


หลิน ซูเหยามีเพียงแต่บิดาและก็พี่ชายที่คอยเลี้ยงดู ส่วนแม่นั้นได้ล้มป่วยภายหลังจากคลอดคุณก่อนจะเสียชีวิตในเวลาถัดมา กอปรกับพ่อและพี่ชายต้องออกไปตรวจการความเรียบร้อยแถวแนวชายแดนหลายครั้ง ก็เลยทำให้หลินซูเหยาจะต้องอยู่บ้านเพียงลำพังกับบรรดาคนใช้

ส่วน คนรับใช้ในจวนก็ใช่ว่าจะให้ความเคารพนับถือในตัวซูเหยา เนื่องจากว่าเมื่อบิดา แล้วก็พี่ชายของเธอไม่อยู่ คนพวกนี้ก็มักจะนำเรื่องขอซูเหยาไปลือในทางเสียๆหายๆหลายครั้ง ซูเหยาที่รู้เรื่องก็เพียงแต่เฆี่ยนตีกับตัดเบี้ยหวัดเล็กน้อยเท่านั้น

เหอะ นี่ฉันฝันเหมือนจริงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย กรณิการ์พึมพำกับตัวเองหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด แต่ว่าก็เอาเถอะถ้าเกิดหลับอีกสักรอบครั้งนี้คงจะได้ลืมตาแล้วเห็นฝาผนังสีขาวในโรง พยาบาลแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น เนื่องจากไอ่การทะลุมิติหรือข้ามโลกข้ามชาตินี่คุณไม่คิดที่จะเชื่ออย่างแน่นอน คิดได้ด้วยเหตุผลดังกล่าวกณิการ์ก็เลยบอกให้หญิงรับใช้พานางไปพัก เผื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นอีกรอบทุกๆอย่างที่คุณเผชิญในวันนี้ จะเป็นแค่เพียงความฝันเสมือนที่คาดไว้

ทันที ที่คุณหนูของนางหลับ หญิงรับใช้นามว่าซื่อซินก็ย้อนกลับมายังศาลา นางจับถ้วยชาของคุณหนูยกขึ้นสูดดม ก่อนที่จะปรากฎสายตาโกรธเกรี้ยว เพราะเหตุว่าขอบถ้วยชาของคุณหนูมีกลิ่นแปลกๆผสมอยู่ นี่ถึงกับขนาดแอบทายากล่อมประสาทให้คุณหนูของนางเชียวหรือ เห็นทีจำต้องรีบแจ้งให้นายท่านกับคุณชายใหญ่ให้ทราบเรื่องอย่างรวดเร็วที่ สุด
 
เพิ่มเติม https://goo.gl/d9s0C1

Tags : หลินซูเหยา,สตรี



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ