โรคหูดหงอนไก่ รู้เร็ว รักษาด่วน หายได้ ป้องกัน สังเกตจากตุ่มที่ขึ้นเป็น ฝี ปล่อย

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหูดหงอนไก่ รู้เร็ว รักษาด่วน หายได้ ป้องกัน สังเกตจากตุ่มที่ขึ้นเป็น ฝี ปล่อย  (อ่าน 31 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teeratum123
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20032


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2017, 11:26:31 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

โรคหูดหงอนไก
ละก้อ ให้เตรียมตัวจองวัดได้เลย ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่
น่ากลัวหรือไม่
ส่วนท่านที่เคยเป็นโรคเริม หรือมีญาติพี่น้องเป็นโรคเริม คงจะค่อนข้าง เบื่อหน่ายกับการ กลับเป็นซ้ำได้อีกของโรคเริมนี้ บางท่านเป็นผื่น
ตุ่มใส ไปซื้อยาทาที่ร้านขายยา ให้แพทย์ตี๋จัดยาให้ แพทย์ตี๋บาง ร้านบอกว่า คุณเป็นโรคเริม แต่บางร้านบอกว่า คุณเป็นโรคงูสวัด อย่า
กระนั้นเลยเรามาดูรายละเอียดกันดีกว่านะคะ ว่าโรคเริม และโรคงูสวัด นี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไรและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
โรคเริม (Herpes simplex)
โรคเริมเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อ"H. simplex" ซึ่งเชื้อ ไวรัสตัวนี้มีอยู่ 2 ชนิด
ลักษณะผื่น --จะพบกลุ่มของตุ่มน้ำใสอยู่บนผิวหนังที่มีสีค่อนข้างแดง ประมาณ 1-2 วัน จากนั้นตุ่มน้ำใสนี้ จะแตกออก และตกสะเก็ดแต่บาง
รายอาจเป็นนานกว่านั้นเกือบถึง 1 สัปดาห์
อาการ -- ระยะแรก จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย จากนั้นจึงพบกลุ่มของ ตุ่มน้ำใสดังกล่าว ต่อมาจะรู้สึกเจ็บแสบร้อนคันเล็กน้อย ตำแหน่งที่พบ
ชนิดที่ 1 มักจะพบที่บริเวณริมฝีปาก ทั้งบนและล่าง หรือมุมปาก พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ชนิดที่ 2 มักจะพบที่บริเวณอวัยวะเพศ พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
การติดต่อ --เริมทั้ง 2 ชนิดนี้ ติดต่อกันได้ ทางการสัมผัส โดยตรง (direct contact) เช่น การใช้แก้วน้ำร่วมกัน การจูบกัน และติดต่อทาง เพศสัมพันธ์ เป็นต้น
ปัญหาที่เกิดขึ้น -- เชื้อไวรัสเริมนี้อาจเกิดเป็นซ้ำได้อีก ไม่มีทาง หายขาดได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสเริมนี้จะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่
ในปมประสาท (ganglion) ของคุณ วันดีคืนดีก็จะคืบคลานออกมาทำ ให้คุณกลับเป็นเริมซ้ำได้อีก และมักจะเป็นเริมซ้ำที่บริเวณเดิม หรือ
ใกล้เคียงกับตำแหน่งเดิมเสมอ
เมื่อใดจะเกิดเป็นเริมซ้ำได้อีก
1. การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
2. ความเครียด วิตกกังวล เช่น ทำงานหนัก ใกล้สอบ เป็นต้น
3. ความเจ็บป่วย ช่วงที่สุขภาพอ่อนแอ ทรุดโทรม ไม่ค่อยสบาย จะกลับเป็นเริมได้อีก
4. อากาศร้อน
วิธีการรักษา
1.ยาทากลุ่มอะไซโคลเวีย (acyclovir)
2. ยากินกลุ่มอะไซโคลเวีย
3. หายเองได้ ถ้านอนหลับพักผ่อนเพียงพอ อาจหายเองได้ใน 2-3 วัน

 
 
คนไทยหลายคนยังคงติดอยู่กับภาพเดิมๆ ว่าผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องทนทุกข์ทรมาน มีแผลขึ้นตามตัว และสุดท้ายก็เสียชีวิตทุกราย เพราะยังไม่มียารักษาให้หายขาดได้ 100% แต่อันที่จริงแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวล้ำไปถึงไหนแล้ว Sanook! Health จะมาอัพเดตให้อ่านกันค่ะ

{รู้ไว้ก่อน ผู้ติดเชื้อ HIV กับ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ไม่เหมือนกัน!

อาจจะมีบางคนที่สับสนว่า คนที่ติดเชื้อ HIV กับคนที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ คือคนเดียวกัน ความหมายเหมือนกัน ซึ่งอันที่จริงแล้วทั้งสองอย่างให้ความหมายต่างกัน

|ผู้ติดเชื้อ HIV คือ ผู้ที่ได้รับเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกายแล้ว และยังไม่มีอาการป่วยใดๆ

ผู้ป่วยเอดส์ คือ ผู้ที่ติดเชื้อ HIV และมีอาการป่วยด้วยโรคฉวยโอกาส ซึ่งหมายถึงป่วยด้วยโรคอื่นๆ ที่เข้ามาทำร้ายร่างกายขณะที่ร่างกายกำลังมีภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง เช่น วัณโรคในปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา หรือโรคผิวหนังบางชนิด (อย่างที่เรามักจะเห็นกันว่าผู้ป่วยเอดส์มีแผลเต็มร่างกาย ซึ่งไม่ได้มาจากการเป็นโรคเอดส์ แต่มาจากโรคอื่นๆ ที่เข้าทำร้ายร่างกาย หลังภูมิคุ้มกันบกพร่อง)
ซึ่งเมื่อผู้ป่วยเอดส์รักษาโรคฉวยโอกาสต่างๆ จนหายดีแล้ว ก็จะกลับมาอยู่ในสถานะผู้ติดเชื้อ HIV อีกครั้ง

|เอดส์ ไม่ได้เป็นแล้วต้องมีแผลเต็มตัว แล้วสุดท้ายก็เสียชีวิต อย่างที่ใครหลายๆ คนคิด!

ปัจจุบันโรคเอดส์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด ถึงแม้จะไม่ได้รักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV ซึ่งครอบคลุมอยู่ในสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพ ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อทุกคน ได้รับยาต้านไวรัสทันทีที่ตรวจพบ ยิ่งเริ่มทานยาเร็วเท่าไร ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันไม่ถูกทำลาย สามารถไปเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เหมือนคนปกติทั่วไป
กรณีที่พบผู้ป่วยร่างกายทรุดโทรม จนต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงเริ่มมีแผลขึ้นตามเนื้อตามตัว และเสียชีวิตนั้น เกิดจากการที่ผู้ป่วยติดเชื้อ แล้วไม่ได้เข้ารับการรักษา ไม่ได้รับยาต้านไวรัส และเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนเท่านั้น

|พบเชื้อไวรัสโรคเอดส์ได้จากไหนบ้าง

จากสารคัดหลั่งที่ออกมาจากร่างกายเกือบทุกชนิด โดยระดับความเข้มข้น ดูจากปริมาณเม็ดเลือดขาว และเลือดที่อยู่ในสารคัดหลั่งนั้น เช่น
ที่พบมาก - เลือด, น้ำจากช่องคลอด, ตกขาว, น้ำจากเลือดประจำเดือน, น้ำนมแม่
ที่พบน้อย - น้ำตา, น้ำลาย, น้ำมูก, เสมหะ
แทบจะไม่พบ - อุจจาระ, ปัสสาวะ , เหงื่อ{

เอดส์ ติดต่อได้ทางไหนบ้าง

 ร่วมเพศ โดยไม่ใช่อุปกรณ์ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง ชายชาย ไม่ว่าจะทางอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก และผ่านการ oral sex ซึ่งหมายถึงการใช้ปากกับอวัยวะเพศ หรือทวารหนักด้วย



ดังนั้นสรุปได้ว่า นอกจากเอดส์เป็นแล้วไม่เป็นแผล ไม่ตายแล้ว เรายังสามารถอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อได้อย่างปกติ ซักผ้า ว่ายน้ำในสระเดียวกันได้อย่างปลอดภัยค่ะ สิ่งที่ต้องจำไว้มีเพียง อย่าให้เลือดของเขาเข้าสู่ร่างกายของเราได้เป็นพอ
 
 
การจัดส่ง แบ่งเป็นรอบนะครับ เวลาบ่าย 2 โมงตรงเวลาครับ

 
ขั้นตอนการสั่งยา
1. โทรติดต่อโดยตรง  092-9899456   หรือทางไลน์  nitipon998  และ Email:
nitipon998@gmail.com
ผมจะแจ้งรายละเอียดตัวยาที่เหมาะสมและแจ้งยอดโอนเพื่อชำระเงิน
 
2. ทำการโอนเงินตามวันเวลาที่สะดวก  (โปรดเก็บสลิปการโอนเงินไว้ยืนยัน)
 
3. แจ้งโอน + ที่อยู่ และหลักฐานการโอนครับ
 
สำหรับต่างจังหวัดภาคอื่นๆ นอกเขตปริมณทล ระยะเวลาการจัดส่ง 2 วัน
กทม และ ปริมณทล  1  วันทำการครับ
 


[url=http://2.bp.blogspot.com/-2D8RUbP_Zaw/VnuX7KYBApI/AAAAAAAAAJQ/SL6eFfrv3zE/s1600/12272921_1642066602716882_223460990_n.jpg]
จัดส่งไปรษณีย์มิดชิด เป็นความลับ ยารักษาหูดหงอนไในผู้หญิง: พบได้ที่ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูกทวารหนัก และฝีเย็บ




เครดิตบทความจาก : [url=http://wartscaring.blogspot.com/][url]http://wartscaring.blogspot.com/
[/url]

Tags :  wart no more, โรคหูดหงอนไก่,ยารักษาหูดหงอนไก่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
Posthizzt555
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12778


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2017, 10:17:18 am »

[url=http://www.getcondomz.com/]ขายถุงย

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ