ขายดีมากเป็นกระแสในการช่วยเหลือผิวของคุณให้มีผิวขาวสวยปรับสภาพผิวของคุณแบบมืออาช

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขายดีมากเป็นกระแสในการช่วยเหลือผิวของคุณให้มีผิวขาวสวยปรับสภาพผิวของคุณแบบมืออาช  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
anonchobpost
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20030


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2017, 04:14:00 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ครีม v2 มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีความสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ถึงผิวมนุษย์เราจะผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองแต่ในตอนนี้มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณมากมายกมายที่มีองค์ประกอบไม่เป็นมิตรกับผิว มีฤทธิ์ระคายทำให้ผิวอ่อนแอและก็ผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ต่ำลง การบำรุงผิวโดยพิจารณาถึงส่วนประกอบของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็เลยมีความจำเป็นเหมือนกัน บางคนหน้ามันแล้วกลัวว่าหากใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะมีผลให้ผิวยิ่งมันครีม v2เป็นความรู้ความเข้าใจที่ผิดนัก เนื่องจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลากหลายชนิดสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับสภาวะผิวได้

ต้องการมีผิวสวย โปรดอ่านนี้ก่อน

ผิวหนังชั้นนอกสุด (stratum corneum หรือชั้นคราบไคล) เป็นชั้นที่เรามองดูเห็นด้วยสายตา ในสายตาคนรอบข้างหรือตอนพวกเราส่งกระจก ผิวเราจะดูแห้ง ขาดเลือดฝาด ไม่สดชื่นหรือสวย ขึ้นตรงต่อความสมบูรณ์ของชั้นนี้เป็นหลัก ต้องการให้ผิวมองสวยในสายตาผู้ชม ก็จำต้องมารีบทำให้ผิวชั้นไคลบริบูรณ์กันจ้ะ

คำศัพท์ที่จะเจอในบทความนี้

Epidermis : ผิวหนังชั้นนอกสุด ภาษาไทยเรียกว่าชั้นผิวหนังชั้นนอกมี 5 ชั้นย่อย
stratum corneum : ชั้นไคล เป็นชั้นย่อยชั้นนอกสุดชองชั้นหนังกำพร้า
Corneocyte : เซลล์ในชั้นไคล มีการเรียงตัวเป็นชั้นๆโดยประมาณ 25-30 ชั้น บางแบบเรียนเรียก Corneocyte ว่าhorny cell
Brick and Motar Model : แบบจำลองการเรียงหน้าเป็นชั้นๆของเซลล์ Corneocyte
Keratinocyte : เป็นคำรวมๆที่ใช้เรียกเซลล์ผิวทั้งสิ้นของชั้นepidermis เนื่องจากว่าเซลล์ผิวในชั้นผิวหนังชั้นนอกจะมี keratinเป็นส่วนประกอบข้างใน ทำให้ทุกเซลล์ในชั้น Epidermis ขึ้นชื่อว่าเป็น keratinocyte ทั้งหมด
NMFs : ย่อมาจาก Natural moisturizing factors เป็นสารประกอบหนึ่งที่อยู่ข้างในเซลล์ Corneocyteทำหน้าที่เก็บน้ำและก็รักษาความชื้นให้ผิวหนัง ภาษาไทยเรียก NMFsว่า "น้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ"
Intercellular lipids : ชั้นไขมันกันระหว่างเซลล์Corneocyteปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองไม่ให้ NMFs ภายในเซลล์ Corneocyte รั่วออกมาข้างนอก บางหนังสือเรียนเรียกIntercellularlipids ว่า intercellular matrix หรือ Lipidbarrier
Sebaceous gland : ต่อมไขมันที่ปฏิบัติหน้าที่ผลิตน้ำมัน(sebum) มาฉาบผิว
TEWL : ย่อมาจาก Transepidermal Water Loss คือการสูญเสียน้ำผิวผ่านชั้น Epidermis ยิ่ง TEWL มีค่าสูงหมายความว่ายิ่งมีการสูญเสียน้ำมากไม่น้อยเลยทีเดียว

ส่วนประกอบผิวหนังชั้นคราบไคล (stratumcorneum)
ชั้น stratum corneum มีการเรียงตัวของเซลล์corneocyte อย่างเรียบร้อยเป็นชั้นๆราว25-30 ชั้น โดยมีintercellular lipidsเป็นตัวประสานล้อม ตำราเรียนฝรั่งได้เรียกการเรียงหน้าแบบนี้ว่าBrick and Motar Model ภาพการเรียงตัวของก้อนอิฐที่ก่อด้วยปูน Brick and Motar Model
Brickหมายความว่าก้อนอิฐ Motarแปลว่าปูนภาพจำลองการจัดเรียงตัวของเซลล์ corneocyte เป็นชั้นๆโดยมีintercellularlipids เป็นตัวประสานซึ่งมีลักษณะเสมือนการเรียงหน้าของอิฐที่ก่อด้วยปูนก็เลยถูกเรียกว่า Brick and Motar Model ก้อนอิฐแต่ละก้อน เทียบเคียงได้กับเซลล์ corneocyte

ข้างในเซลล์ corneocyte มี NMFs ครีม v2ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำภายในเซลล์
NMFs ที่หลักๆเป็นAmino acids, PCA และน้ำตาลGlucose
NMFs เป็นสารที่เซลล์ชั้นหนังกำพร้าสามารถสร้างขึ้นได้เองในระหว่างที่มีการเจริญเติบโตเป็นเซลล์เต็มวัย (keratinocytedifferentiation)
แม้มีต้นเหตุใดไปก่อกวนการเติบโตของเซลล์keratinocyteก็จะทำให้ NMFs ถูกทำน้อยลง แล้วก็มีผลถึงความชุ่มชื้นของชั้น stratumcorneum

ปูนประสาน เทียบได้กับIntercellular lipids
เป็นตัวยึดเหนี่ยวเซลล์ ให้เรียงกันอย่างแน่นหนาและเรียบร้อย
Intercellular lipids ประกอบไปด้วยสารประเภทไขมันอาทิเช่น ceramides 47 %, cholesterol 24%, freefatty acids 11 % รวมทั้ง cholesterol esters 18 %

ผิวสวยเริ่มความสมบูรณ์ของชั้น stratum corneum
อยากได้ให้ผิวดูงาม ควรหันมาดูแลผิวชั้น stratumcorneum ให้บริบูรณ์โดยการรักษาระดับ NMFs รวมทั้งintercellular lipids ให้บริบูรณ์สูงที่สุด
การที่ระดับความชุ่มชื้นในผิวพอเพียงจะช่วยปรับให้

เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่นดี ถูกรังแกได้ยาก
เสริมแนวทางการทำงานขอวเอนไซม์ที่ช่วยในวิธีการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ถ้าหากผิวขาดความชุ่มชื้นที่เหมาะเหม็งเอนไซม์กลุ่มนี้จะดำเนินการไม่ดีการผลัดเซลล์ผิวก็เลยรวน ผิวหน้าหมองคล้ำ ฝ้ากระ สะสม รูขุมขนตัน เป็นสิว
เกื้อให้ส่วนประกอบมีความแข็งแรงรวมทั้งปฏิบัติภารกิจกรองสารที่จะผ่านเข้าออกผิวเจริญแล้วก็บริบูรณ์ หากผิวขาดความชุ่มชื้นที่สมควรเซลล์ corneocyte จะลีบแบน การเรียงตัวไม่เรียบร้อยกำเนิดช่องโหว่ น้ำใต้ผิวระเหยออกง่าย สิ่งปลอมปนจากภายนอกผ่านเข้าไปได้ง่าย ทำให้ผิวหนังอักเสบ มีการติดโรค อื่นๆอีกมากมาย
รักษาระดับ pH ของผิว : ผิวที่มี pH ผิวสมควร จะช่วยปรับให้NMFs ถูกสร้างรุ่งเรือง
สิวขึ้นลดน้อยลง : ผิวที่ขาดความชื้น ทำให้เซลล์ผิวเรียงตัวไร้ระเบียบครีม v2 มีการหลุดลอกไม่ดีเหมือนปกติรวมถึงไปตันตามรูขุมขนเมื่อรวมกับน้ำมันที่ระบายออกมิได้ ก็เลยมีการตันเป็นสิวตันสิวอักเสบ เมือผิวเปียกชื้น การผลัดเซลล์กลับมาปกติ การอุดตันเกิดต่ำลง สิวต่ำลง
รูขุมขนกระชับ : ผิวที่ชื้นแฉะเหมาะสม เซลล์ corneocyteจะมีความอ้วนอิ่มและขยายตัวแทรกกัน ทำให้รูขุมขนซึ่งอยู่ระหว่างจุดเชื่อมของเซลล์ corneocyte ถูกบีบอัดให้แคบลงผิวก็เลยมองละเอียดขึ้น ด้วยเหตุนี้ในคนที่ผิวแห้งจำนวนมากๆเว้นเสียแต่ผิวจะมองดูหยาบคายแล้ว รูขุมขนก็จะกว้างขึ้นด้วย อ่านเพิ่มอีกเกี่ยวกับที่บทความเรื่อง ตาข่ายผิวภาพเปรียบเทียบผิวหนังปกติแล้วหลังจากนั้นก็ผิวหนังที่แห้งผิวปกติ :เซลล์เรียงหน้าชิดกัน เป็นระเบียบเรียบร้อย
inter cellular matrix บริบูรณ์
เหนือผิวด้านบนมีน้ำมัน (hydro lipid film) ฉาบอยู่เพียงพอ
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้น้อยผิวแห้ง การเรียงตัวของเซลล์ผิวไม่ถ้วนถี่ ไม่มีระเบียบ
intercllular matrix มีน้อย/ไม่มีคุณภาพ
น้ำมันฉาบผิว (hydro lipid film) น้อย
น้ำใต้ผิวระเหยออกได้มาก (TEWL สูง)บักเตรี สิ่งเจือปนไปสู่ผิวได้ง่าย ผิวก็เลยเคืองและจากนั้นก็อักเสบง่ายผิวแห้ง ผิวขาดความชื้นเหมือนหรือแตกต่างยังไง?
ผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้นคล้ายกันแม้กระนั้นแตกต่างคำว่าผิวแห้งเป็นคำใช้แบ่งภาวะผิวที่ประจำตัวมา เป็นต้นว่า คนนี้ผิวมัน คนนี้ผิวผสม คนนี้ผิวแห้ง ซึ่งใช้ปริมาณน้ำมันที่สร้างขึ้นจากต่อมไขมันเป็นตัวแบ่งประเภทและชนิด


ผิวแห้ง(dry skin)หมายถึงผิวที่ขาดน้ำมัน (sebum)ฉาบผิวข้างบนเนื่องจากว่ามีต่อมน้ำมัน ( sebaceous gland) ใต้ผิวน้อย ก็เลยผลิตน้ำมันได้น้อย เมื่อจำนวนน้ำมันฉาบผิวน้อยก็เลยสูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย ด้วยเหตุดังกล่าวคนที่ผิวแห้งยังคงมีความสมบูรณ์ของ intercllular matrix และมีน้ำใต้ผิวที่พอเพียง ก็แค่ขาดน้ำมันที่ผิว
ผิวมัน (oily skin) คือ ผิวที่มีต่อมไขมันมากมายทั่วทั้งหน้ารวมถึงผลิตน้ำมันมาฉาบผิวได้มาก ผิวภายนอกก็เลยมองมัน การสูญเสียน้ำใต้ผิวก็เลยเกิดขึ้นน้อย
ผิวผสม (mix skin) คือ ผิวที่มีต่อมไขมันรอบๆt-zoneมากมายก่ายกอง, u-zone น้อยทำให้หน้ามันเฉพาะบริเวณt-zoneส่วน u-zone ธรรมดาหรือแห้ง

ส่วน ผิวขาดความชุ่มชื้น (dehydrated skin) เป็นผิวที่มีน้ำใต้ผิวต่ำ วัดน้ำใต้ผิวได้ < 10% เหตุอาจเกิดจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายใน

1.ปัจจัยภายนอก

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์มากจนเกินความจำเป็น : ทำให้หนังกำพร้ามีการหมุนเวียนเร็วกว่าธรรมดา ผิวหนังที่มีการหมุนเวียนเร็วจะไม่สามารถที่จะสร้าง NMFsรวมทั้ง intercellular lipids ได้ทัน ก็เลยเสียความรู้ความเข้าใจในการดูแลและรักษาน้ำให้ยังคงอยู่ในผิวหนัง
การใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างที่มีคุณลักษณะกำจัดน้ำมันฉาบผิวมากจนเกินไปครีม v2 : น้ำมันฉาบผิวน้อย สูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย
รังสี UV : ได้รับรังสี UV จำนวนมากต่อเนื่องกัน ไม่ทาครีมที่เอาไว้กันแดด รังสี UV จะรบกวนการสร้าง NMFs
ความชื้นกลางอากาศ : ความชื้นกลางอากาศต่ำยิ่งกว่า10% จะดึงน้ำในผิวออกสู่ด้านนอก โดยเหตุนี้ในห้องปรับอากาศในฤดูหนาว ซึ่งมีความชุ่มชื้นต่ำ สามารถพรากน้ำใต้ผิวได้ตลอดเวลา

2. ปัจจัยภายใน

อายุ : อายุหนเยอะขึ้น การผลิต NMFs แล้วก็ sebum ลดลง
เชื้อชาติ : ชาวเอเชีย มีปริมาณ NMFs ต่ำลงมากยิ่งกว่าเชื้อชาติอื่น
โรคผิวหนัง: โรคผื่นแพ้กรรมพันธุ์ (atopicdermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) โรคเด็กดักแด้(Ichthyosis) โรคพวกนี้จะมีการแบ่งตัวของkeratinocyte (keratinization) เร็วกว่าธรรมดาหลายเท่า แล้วก็เคลื่อนมาที่เปลือกนอกอย่างรวดเร็วเป็นต้นว่า 4 วัน (ธรรมดาใช้เวลา 28วัน) ทำให้ผิวหนังดกเป็นปื้นในขณะขั้นตอนสร้าง NMFs , intercellular lipids ยังเกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ เซลล์ผิวหนังก็เลยขาดแรงยึดเหนี่ยวกันตามธรรมดา เซลล์ผิวก็เลยหลุดลอกออกเป็นแผ่นๆได้ง่าย เหมือนเป็นสะเก็ดหรือเกล็ดขึ้นกับความร้ายแรง

ลักษณะของผิวหนังที่ขาดความชื้น(dehydrated skin)
- ผิวไม่เรียบ มีขุยไหมมีขุยก็ได้ แม้กระนั้นถ้าเกิดมีขุยเป็นอาการหนักทาแป้งไม่ติด (หน้ามันมาก ทาแป้งไม่ติด หน้าแห้งไปก็ทาแป้งไม่ติดเหมือนกัน)ครีม v2
- แลเห็น fine line ชัด (ริ้วเล็ก) โดยเฉพาะอย่างยิ่งใต้ตา มุมปาก
- ผิวแดงง่าย สีผิวไม่บ่อยนัก
- คันและจากนั้นก็เกิดผิวหนังอักสบ
- ระคายง่าย แพ้ง่ายครีม v2
การรักษาความชื้นให้ผิวหนัง ก็เลยจะต้องทำทั้งเพิ่มความชื้นเข้าไปก่อน ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วก็เลือกใช้มอยพบร์ไรเซอร์ประเภท humectant
กีดกันความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออก ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จำพวกocclusive
เพิ่มความรู้ความเข้าใจในการเก็บกักน้ำใต้ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับ NMFs และ Intercellular lipids
เลือกมอยพบร์ไรเซอร์เป็น ช่วยอะไรบ้าง?Repairingtheskin barrier : สร้างเสริมเกราะคุ้มครองผิว ผิวแข็งแรงขึ้นเคืองลดน้อยลง ไม่แพ้ง่าย
Increasing water content : เพิมจำนวนน้ำใต้ผิว
Reducing TEWL : ลดการสูญเสียน้ำผ่านออกทางผิวหนังชั้นอีพิเดอร์มิส
Restoring the lipid barriers’ ability to attract, holdandredistribute water : ซ่อม intercellular lipidsให้สามารถเก็บกักน้ำและรักษาสมดุลน้ำใต้ผิว
สารช่วยเพิ่มความชื้น (มอยส์เจอร์ไรเซอร์) แบ่งออกได้เป็น 2พวกเป็น

1. สารช่วยเพิ่มน้ำในชั้นผิวหนัง (Humectant) สารกลุ่มนี้มีคุณลักษณะในการจับกับน้ำ (water binding)ดังเช่นว่า colloidaloatmeal, Amino acid,Hyaluronic Acid, Sodium PCA, glycerin, น้ำผึ้ง, กรดแลคติค (lactic acid), soduimlactate, propylene glycol,sorbitol, pyrolidonecarboxylic acid (PCA) , gelatin,collagen , lastin,urea

ทั้ง Sodium-PCA รวมถึงhyaluronic acid (HA) จัดเป็นสารจำพวกglycosaminoglycans ในธรรมชาติสารนี้เจอแทรกสอดในชั้นหนังแท้ ขึ้นรถ HA จะซับน้ำได้ 1000 เท่า ก็เลยทำให้ผิวหนังเด็กเต่งตึง แต่เมื่อวัยสูงมากขึ้นสาร HA ในชั้นหนังแท้จะลดน้อยลงทั้งสมรรถนะแล้วก็ปริมาณ ผิวหนังก็เลยเหี่ยวย่น ในครีมหรือโลชันผิวแห้งก็เลยนิยมผสมสาร HA ครีมv2เพื่อช่วยซับน้ำในผิวหนังชั้นไคลด้วยเหตุว่าสารในกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มน้ำให้กับผิวได้โดยตรง ทำให้ผิวเรียบนุ่มเปียกชื้นโดยไม่เพิ่มความมันมอยส์เจอร์ไรเซอร์กลุ่ม Humectant ก็เลยเหมาะสมกับผิวมัน ผิวแห้ง และจากนั้นก็ผิวแพ้ง่าย

2. สารเพื่อคุ้มครองปกป้องการระเหยของน้ำจากผิว (occlusivemoisturizers)สินค้าผิวแห้งจะผสมน้ำมันหลายแบบ เมื่อทาน้ำมันฉาบผิวการระเหยของน้ำจากชั้นผิวหนังจะลดน้อยลงน้ำมันที่ใช้มีหลายกลุ่ม เป็น





เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://sites.google.com/site/v2centerthailand/[/url]

Tags : ครีม V2 ดีไหม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ