Advertisement
รวีวิริยะบริการห่อปก ปั๊มไดคัท
ปั๊มเคทอ
ให้บริการงาน [url=https://rvydiecut.com/]ปั๊มไดคัท รับ
ปั๊มจม, เข้ารูปเล่ม บริการเข้าห่วงกระดูกงู ด่วนทันใจ
โปสเตอร์ (Posters) โปสเตอร์เป็น Out of Home Media ที่สำคัญมาก ในการโฆษณาแบบ Mass Advertising มีการใช้โปสเตอร์มานานมากแล้วเพื่อดึงดูดความสนใจ และสื่อสารข้อมูลให้กับกลุ่มเป้าหมายทีเดียวพร้อมๆ กัน โปสเตอร์ที่ดีหาได้ยากมาก เพราะองค์กรส่วนใหญ่ใส่ข้อมูลมากมายในโปสเตอร์ 1 แผ่น จนไม่รู้ว่าต้องการสื่อสารอะไรผ่านโปสเตอร์นี้ หรือไม่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรในโปสเตอร์ จนไม่รู้ว่าจะทำโปสเตอร์นี้ไปทำไม
โปสเตอร์ที่ดีควรจะสื่อสารข้อความอย่างมีโฟกัส ซึ่งคุณควรจะสรุปใจความสำคัญที่โปสเตอร์นี้สื่อสารได้เพียงแค่ 1 ประโยคสั้นๆ คุณมีเวลาแค่ไม่กี่วินาที่ในการที่โปสเตอร์จะเป็นที่สนใจและถูกอ่าน ดังนั้น โปสเตอร์ไม่ควรมีข้อมูลเยอะแยะมากมาย จนโปสเตอร์นั้นดูรก และไม่สามารถอ่านและจับใจความสำคัญจากโปสเตอร์นั้นได้
ระบบงานพิมพ์ดิจิตอล (Digital) เป็นระบบงานพิมพ์ที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยิงฟิล์ม ออกเพลท (แม่พิมพ์) เช่นเดียวกับระบบออฟเซ็ท เพียงนำไฟล์งานที่ออกแบบไว้มาจัดหน้าด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค จากนั้น ส่งไฟล์เข้าสู่เครื่องพิมพ์ เมื่อเครื่องพิมพ์ ได้รับไฟล์งานดังกล่าวจะ Process งานออกมาเป็นงานพิมพ์ คล้ายกับการทำงานของ Printer ที่เราใช้อยู่ตามบ้านนั้นเอง สิ่งที่แตกต่าง คือ คุณภาพงานพิมพ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพ ใกล้เคียงกับงานพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ท หรือได้งานที่มีคุณภาพดีกว่างานที่พิมพ์ผ่านเครื่อง Inkjet หรือ เครื่อง Printer สีทั่วไป ซึ่งงานพิมพ์ระบบดิจิตอลช่วยลูกค้าประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และรวดเร็วสอดรับ กับการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของสื่อสิ่งพิมพ์ในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ข้อดีระบบการพิมพ์ดิจิตอล - ประหยัดทรัพยากร เหมาะกับงานพิมพ์จำนวนน้อย ลดของเสียในกระบวนการผลิต เวลา,กระดาษ,หมึก,แรงงาน
- ผลิตตามจำนวนที่ต้องการ เหมาะสำหรับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด หากต้องการ 100 เล่ม ก็พิมพ์แค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากกว่าจำนวนที่ต้องการ มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
Ink-jet เป็นระบบการพิมพ์ที่มีขั้นตอนการทำงานเช่นเดียวกับระบบดิจิตอล แต่ใช้ความร้อนเป็นตัวกลางทำให้หมึกเกิดแรงดันและพ่นสีออกมา เครื่อง Inkjet มีราคาถูก ทำให้เป็นที่นิยมกันมาก ข้อจำกัดของระบบ Inkjet คือ ความคมชัด และการไล่ระดับโทนสีไม่ดีนัก คุมสียาก และใช้เวลามาก ปัจจุบัน เครื่องพิมพ์ Ink-jet รุ่นใหม่ๆ มีการพัฒนาระบบควบคุมสี ใช้หมึกประมาณ 6 สี มีความละเอียดสูงขึ้น คุณภาพงานพิมพ์ดีขึ้น แต่ต้องใช้กระดาษและหมึกเฉพาะ ซึ่งต้นทุนต่อหน่วยก็สูงตามไปด้วย
เปิดร้านตัดสติกเกอร์ ธรุกิจที่ลงทุนต่ำ แต่ได้กำไรสูงสำหรับคนที่สนใจจะเป็นร้านตัดสติกเกอร์ ซึ่งธุรกิจตัดสติกเกอร์เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก แต่หลายคนคิดว่ามันต้องลงทุนค่อนข้างเยอะ ใช้งานยากหรือเปล่า ถ้าใช้คอมไม่เป็นแล้วจะเปิดร้านได้ไหม สำหรับปัญหาเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ เพราะในทุกวันนี้เครื่องตัดสติกเกอร์ถูกออกแบบมา ให้มีขนาดเล็กลง พร้อมทั้งราคาก็ถูกลงตามไปด้วย ซึ่งเราสามารถเป็นเจ้าของได้ทุกคน เพียงมีเงินลงทุนแค่หลักหมื่นเท่านั้น แม้แต่นิสิตนักศึกษาก็สามารถหาอาชีพเสริมให้ตัวเองได้เช่นกัน
เปิดร้านตัดสติกเกอร์ต้องใช้อะไรบ้าง อย่างแรกที่ต้องมีคือ
วัสดุตัดจำพวกสติกเกอร์ต่างๆ วัสดุเหล่านี้เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งจะมีหลายชนิดหลายประเภท
ประเภทของสติ๊กเกอร์ สำหรับ Inkjet สติ๊กเกอร์สำหรับ Inkjet นั้นภาษาในวงการ Inkjet จะเรียกว่า มีเดีย (Media) ประเภทของสติ๊กเกอร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
• สำหรับใช้ภายใน (Indoor)
• สำหรับใช้ภายในนอก (Outdoor)
สติ๊กเกอร์สำหรับ Inkjet นั้นจะใช้กับเครื่องพิมพ์ Inkjet เฉพาะเท่านั้น เช่นเครื่องพิมพ์ Indoor ก็จะใช้ สติ๊กเกอร์ Indoor เท่านั้น เครื่องพิมพ์ Outdoor ก็จะใช้ สติ๊กเกอร์ Outdoor ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ การใช้งานนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป
สติ๊กเกอร์สำหรับใช้ภายใน (Indoor Sticker)
การพิมพ์งานสำหรับติดตั้งภายในจะมีสติ๊กเกอร์ให้เลือกใช้หลายชนิดเพื่อตอบโจทย์งานทุกประเภท งานพิมพ์ Indoor เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วต้องทำการเคลือบงานกันการสัมผัสและความชื้น เนื่องจากหมึกที่ใช้เป็นหมึกน้ำ สติ๊กเกอร์ที่นิยมใช้หลักๆ เช่น
PP Sticker
เป็นสติ๊กเกอร์ที่มีผิวหน้าคล้ายกระดาษ ค่อนข้างแข็ง ลอกออกยาก ติดกับวัสดุได้ดี เหมาะกับงานชั่วคราว
งานพิมพ์ Outdoor นั้นได้เปรียบแบบงาน Indoor คือสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก เมื่อก่อนเครื่อง Inkjet Outdoor นั้นความละเอียดสู้ Indoor ไม่ได้จึงไม่นิยมใช้ จึงใช้แต่ภายนอกที่มีระยะดูไกลเท่านั้น ปัจจุบันเครื่อง Inkjet Outdoor มีความละเอียดใกล้เคียงเครื่อง Indoor มาก ลูกค้ามักจะใช้งานพิมพ์เครื่อง Outdoor ติดงานภายในในงานถาวรระยะเวลา 5 ปีขึ้นไปเช่น งานพิพิธภัณฑ์ งานตกแต่งออฟฟิศ งานห้างสรรพสินค้า คุณสมบัติของหมึกและสติ๊กเกอร์ Outdoor นั้นมีความคงทนยาวนานเมื่อติดภายในอาคาร
ส่วนงาน Inkjet สติ๊กเกอร์ Outdoor ที่ใช้ภายนอกนั้นจะเป็นพวกงาน ป้ายกล่องไฟ ตกแต่งร้าน ที่โดนแดด โดนฝน สติ๊กเกอร์ที่นิยมใช้หลักๆ เช่น
PVC Sticker
เป็นสติ๊กเกอร์ที่มีทั้งผิวเงา (Glossy) และผิวด้าน (Matt) ยืดหยุ่นดี นิยมใช้ติดกับวัสดุ เช่น PP Board, Plasswood ใช้กับงานตกแต่งได้ ตัวอย่างงานของเราที่ศิริราชกับ Project “SiMSET” เทคโนโลยี Green Printing ของเราไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ ส่วนงาน Wrap งานต่างๆ เช่น Car Wrap จะนิยมใช้ยี่ห้อ 3M, Avery ซึ่งยี่ห้อพวกนี้จะผลิต PVC Sticker สำหรับ Wrap โดยเฉพาะ
ประเภทของการพิมพ์ การพิมพ์แบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะต่าง ดังนี้
แบ่งตามจุดมุ่งหมายในการ พิมพ์ ได้ 2 ประเภท คือ
1 ศิลปภาพพิมพ์ (GRAPHIC ART) เป็นงานพิมพ์ภาพเพื่อให้เกิดความสวยงามเป็น งานวิจิตรศิลป์
2 ออกแบบภาพพิมพ์ (GRAPHIC DESIGN) เป็นงานพิมพ์ภาพประโยชน์ใช้สอยนอก เหนือไปจากความสวยงาม ได้แก่ หนังสือต่างๆ บัตรต่างๆ ภาพโฆษณา ปฏิทิน ฯลฯ จัดเป็นงาน ประยุกต์ศิลป์
สำหรับผู้ที่สนใจสั่งทำการ์ดแต่งงาน พิมพ์การ์ดแต่งงาน การ์ดเชิญ บัตรเชิญ โปสการ์ดต่างๆ สามารถติดต่อเพื่อขอราคางานและสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการทำการ์ดได้ สั่งทำได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้งาน ไม่มีจำนวนขั้นต่ำในการสั่งทำ
เคลือบยูวี เคลือบผิวกระดาษด้วยน้ำยาเงาและทำให้แห้งด้วยแสงยูวี ให้ความเงาสูงกว่าแบบวานิช ลูกค้าของโรงพิมพ์นิยมเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์และปกหนังสือ
เคลือบยูวีด้าน เคลือบผิวกระดาษแบบเคลือบยูวีแต่ให้ผิวออกมาดูด้าน
{ ระบบการพิมพ์แต่ละประเภทมีอะไรบ้าง
Offset เหมาะสำหรับการพิมพ์จำนวนมาก เนื่องจากมีการทำเพลทเพียงครั้งเดียว หากพิมพ์จำนวนมากราคาจะถูก เพราะมีตัวหารเยอะขึ้น อธิบายง่ายๆก็คือเพลทมีหน้าที่เหมือนตรายาง หากคุณปั๊มครั้งเดียวคุณก็จะเสียค่าตรายาง 1 อัน แต่ถ้ายิ่งปั๊มเยอะๆ ต้นทุนค่าตรายางก็จะเท่าเดิม ยิ่งพิมพ์มากจึงยิ่งคุ้มเพราะเป็นค่าต้นทุนคงที่
Digital Offset เหมาะสำหรับ งานพิมพ์จำนวนน้อย ไม่ต้องทำเพลท ทำให้เราลดค่าเพลทไปได้มาก ลูกค้าสามารถแก้ไขงานได้ตลอดเวลา ทดสอบงานพิมพ์ก่อนพิมพ์จริงได้ สร้างผลงานหลากหลายไม่ซ้ำแบบ ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งผลิต คุณภาพดีเทียบเท่าพิมพ์ระบบ Offset Inkjet เหมาะสำหรับขนาดพิมพ์ขนาดใหญ่ เป็นการสั่งพ่นหมึกน้ำเม็ดเล็กๆ ลงบนวัสดุโดยตรง ใช้สำหรับทำ Banner Poster Sticker ที่มีขนาดใหญ่ ข้อเสียคือความคมชัด คุมสีได้ยาก คุณภาพสีไม่คงดี|วัสดุที่เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง
- นามบัตร กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม และ กระดาษการ์ดขาว 210-280 แกรม
- ใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ กระดาษอาร์ตมัน อาร์ตด้าน 105-160 แกรม กระดาษปอนด์ 70-120 แกรม
- การ์ด กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม และ กระดาษการ์ดขาว 210-280 แกรม
- หนังสือ วารสาร แคตตาล็อก ปก กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม และ กระดาษการ์ดขาว 210-280 แกรม เนื้อใน กระดาษอาร์ตมัน อาร์ตด้าน 105-160 แกรม กระดาษปอนด์ 70-120 แกรม
- เมนู กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม
- กล่องบรรจุภัณฑ์ กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม
- สติ๊กเกอร์ สติ๊กเกอร์ PVC สติ๊กเกอร์กระดาษขาวมัน-ขาวด้าน
- แฟ้มกระดาษ กระดาษอาร์ตการ์ด 210-310 แกรม
** การ์ด, ปกเมนู, ปกหนังสือ ถ้าต้องการกระดาษแข็งกว่าปกติ แนะนำให้ใช้กระดาษอาร์ทมัน หุ้มกระดาษจั่วปัง **|ขนาดของงานแต่ละประเภท
- นามบัตร ขนาด 9 x 5.5, 9 x 5, 8.5 x 5.5, 8.5 x 5 ซม. หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- ใบปลิว ขนาด A4, A5, A6, 9.9 x 21 ซม. หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- แผ่นพับ ขนาด A3, A4, A5, 63 x 29.2 ซม. หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- โปสเตอร์ ขนาด A3, A2, A1, 40 x 60 ซม., 50 x 70 ซม. หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- การ์ด ขนาด 4 x 6 นิ้ว, 5 x 7 นิ้ว, A5, 10 x 21 ซม. หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- หนังสือ วารสาร แคตตาล็อก ขนาด A4, A5, B5 หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- เมนู ขนาด A3, A4 หรือตามแต่ลูกค้ากำหนด
- กล่องบรรจุภัณฑ์ ขนาดตามแต่ลูกค้ากำหนด
- ฉลากสินค้า ขนาดตามแต่ลูกค้ากำหนด
- แฟ้มกระดาษ ขนาดสำเร็จ 22 x 31 ซม.|จำนวนขั้นต่ำของงานพิมพ์แต่ละงานนามบัตร จำนวน 100 ใบ/ชื่อ
- ใบปลิว จำนวน 100 ใบ/แบบ
- แผ่นพับ จำนวน 100 ใบ/แบบ
- โปสเตอร์ จำนวน 1 ใบ/แบบ
- การ์ด จำนวน 100 ใบ/แบบ
- หนังสือ วารสาร แคตตาล็อก จำนวน 10 เล่ม/แบบ
- เมนู จำนวน 5 เล่ม/แบบ
- กล่องบรรจุภัณฑ์ จำนวน 500 กล่อง/แบบ
- สติ๊กเกอร์ จำนวน 100 ดวง/แบบ
- แฟ้มกระดาษ จำนวน 500 แฟ้ม/แบบ|ข้อแนะนำในการทำอาร์ตเวิร์ค
- เลือกใช้สีในการออกแบบสิ่งพิมพ์ควรเลือกเป็น CMYK Color Mode เท่านั้น เพราะระบบสีที่ใช้ในงานพิมพ์นั้นจะเป็นแบบ CMYK
- กำหนดพื้นที่รอบขอบของงาน ถ้าเราออกแบบสิ่งพิมพ์ให้บริเวณภาพและสีไปสิ้นสุดที่แนวของชิ้นงาน งานที่พิมพ์ออกมาจะปรากฎขอบขาวได้ ดังนั้นในการจัดหน้าสิ่งพิมพ์จึงต้องเผื่อพื้นที่ของภาพและสีให้เกินออกมาน อกขอบที่เป็นแนวของชิ้นงานไม่ต่ำกว่า 3 มม. และควรจะวางเนื้อหาให้ห่างจากแนวตัดเจียนเข้ามา 3 มม. ข้อความต่างๆก็จะไม่ถูกตัดหายไป
- การจัดการเรื่องฟอนต์ ก่อนที่จะส่งไฟล์งานที่ทำในโปรแกรม Illustrator เราควรจะ Create Outline เพื่อป้องกันปัญหาการไม่รองรับการใช้ฟอนต์ของโรงพิมพ์
- การใช้ตัวอักษรขาว เป็นการทำให้ตัวอักษรที่อยู่บนพื้นสีเข้มดูสะดุดตาขึ้น ถ้าใช้ตัวอักษรขนาดที่เล็กและบางมากจะทำให้ตัวอักษรขาดหายและอ่านไม่ออก เมื่อทำการพิมพ์ออกมา เพราะอาจมีการเหลื่อมกันของสีแต่ละสี หรือมีการจ่ายสีมากเกินไป วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ไม่ควรใช้ตัวอักษรที่เล็กและบางเกินไป
- ตัวอักษรขนาดใหญ่ ค่าสีที่ใช้ต้องมีค่าสีรวมกันจะต้องไม่เกิน 250% สี เช่นสีดำ c40 k100 = 140% หรือ k100 เท่านั้น และตักษรขนาดเล็ก ไม่ควรใส่ค่าสีเกิน 2 เม็ดสี เพราะจะมีโอกาสพิมพ์แล้วสีเหลื่อม
- ภาพที่ใช้ต้องมีความเข้มข้นของสีรวมกันไม่เกิน 250%
- ห้ามใช้ Effect lens เพราะว่าเวลาพิมพ์ออกมาสีจะเปลี่ยนไปคนละสี
- กรณีใช้ Effect Transparency ให้ convert ภาพ Background และ Effect รวมกันเป็นรูปภาพ|ระยะเวลาการผลิต
- งานพิมพ์ระบบ Inkjet 2-5 วัน หากมีการไดคัทระยะเวลาผลิต 5-7 วัน
- งานพิมพ์ระบบ Digital Offset 1-3 วัน หากมีการเพิ่มงานหลังพิมพ์ระยะเวลาการผลิต 3-7 วัน
- งานพิมพ์ระบบ Offset ระยะเวลาการผลิต 7-10 วัน
** ระยะเวลาการผลิตที่แจ้งเป็นเวลาหลังจากลูกค้าตรวจปรูฟแบบเรียบร้อยแล้ว และเป็นเวลาโดยประมาณการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับช่วงงานเยอะ งานน้อย โดยทางโรงพิมพ์จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนสั่งผลิตงาน|รายละเอียดในการขอราคางานแต่ละประเภท
- นามบัตร ขนาดเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น และจำนวนกี่ชื่อๆละกี่ใบ (ขั้นต่ำ 100 ใบ/ชื่อ)
- ใบปลิว ขนาดเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น จำนวนกี่แบบๆละกี่ใบ
- แผ่นพับ ขนาดกางออกเท่าไหร่ เมื่อพับแล้วขนาดสำเร็จเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น จำนวนกี่แบบๆละกี่ใบ
- โปสเตอร์ ขนาดเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น จำนวนกี่แบบๆละกี่ใบ
- การ์ด ขนาดเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท พับ ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น จำนวนกี่แบบๆละกี่ใบ
- หนังสือ วารสาร แคตตาล็อก ขนาดเท่าไหร่ ปก ใช้กระดาษอะไร พิมพ์กี่สีกี่ด้าน เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น เนื้อใน พิมพ์กี่สี กี่หน้า กระดาษอะไร และเข้าเล่มแบบไหน จำนวนกี่แบบๆละกี่เล่ม
- เมนู ขนาดเท่าไหร่ ปก ใช้กระดาษอะไร พิมพ์กี่สีกี่ด้าน ด้าน เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ไดคัท ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น เนื้อใน พิมพ์กี่สี กี่หน้า กระดาษอะไร และเข้าเล่มแบบไหน จำนวนกี่แบบๆละกี่เล่ม
- กล่องบรรจุภัณฑ์ ขนาดกางออกเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น ปะกาวกี่จุด จำนวนกี่แบบๆละกี่กล่อง
- สติ๊กเกอร์ ขนาดเท่าไหร่ พิมพ์กี่สี วัสดุเป็นสติ๊กเกอร์ PVC หรือสติ๊กเกอร์กระดาษ เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) รูปแบบการไดคัท จำนวนกี่แบบๆละกี่ดวง
- แฟ้มกระดาษ ขนาดกางออกเท่าไหร่ (ขนาดสำเร็จเท่าไหร่) พิมพ์กี่สี กี่ด้าน กระดาษอะไร กี่แกรม เคลือบด้วยหรือไม่ (มัน/ด้าน) มีเทคนิคอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือป่าว เช่น ปั๊มฟอยล์ ปั๊มนูน Spot UV เป็นต้น ติดกระเป๋า 1 หรือ 2 ด้าน จำนวนกี่แบบๆละกี่แฟ้มขนาดของกระดาษ
- ขนาดกระดาษ A0 คือ 84.1 ซม. x 118.9 ซม. หรือ 33.11 นิ้ว x 46.81 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A1 คือ 59.4 ซม. x 84.1 ซม. หรือ 23.38 นิ้ว x 33.11 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A2 คือ 42 ซม. x 59.4 ซม. หรือ 16.53 นิ้ว x 23.38 นิ้ว- ขนาดกระดาษ A3 คือ 29.7 ซม. x 42 ซม. หรือ 11.69 นิ้ว x 16.53 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A4 คือ 21 ซม. x 29.7 ซม. หรือ 8.26 นิ้ว x 11.69 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A5 คือ 14.8 ซม. x 21 ซม. หรือ 5.82 นิ้ว x 8.26 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A6 คือ 10.5 ซม. x 14.85 ซม. หรือ 4.13 นิ้ว x 8.26 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A7 คือ 7.4 ซม. x 10.5 ซม. หรือ 2.91 นิ้ว x 4.13 นิ้ว
- ขนาดกระดาษ A8 คือ 5.2 ซม. x 7.4 ซม. หรือ 2.04 นิ้ว x 2.91 นิ้วเทคนิคพิเศษที่ใช้ในงานพิมพ์ จุดประสงค์เพื่อเพิ่มความแตกต่างในกับงานพิมพ์ ให้มีความโดดเด่น หรือสวยงามให้กับงานพิมพ์ของตนเองมากขึ้น ซึ่งเทคนิคที่นิยมใช้จะมีดังนี้
- ปั้มฟอยล์: คือการปั้มฟอยล์สีที่เราต้องการลงไปบนงานพิมพ์ เช่น ฟอยล์ทอง ฟอยล์เงิน บางที่จะเรียกว่าการปั้ม K ทอง, K เงิน เป็นต้น นิยมใช้เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับงานได้มากทีเดียว
บริการสั่งงานพิมพ์์ #
ปั๊มเคทอง, #เคทอง, #ปั๊มฟอยส์ #ปฏิทินแขวน, #ปฏิทินตั้งโต๊ะ, #เย็บท้ายปฏิทิน #รวีวิริยะ ราคาประหยัดถูก
สามารถติดต่อที่ คุณชนนิกานต์ มือถือ 087-550-8099
ที่มา :
[url]https://rvydiecut.com/[/url]
Tags : เข้าหัวเหล็กปฏิทิน, ตอกตาไก่
