Advertisement
สมุนไพรกวาวเครือขาว จัดเป็นไม้เลื้อย หรือพืชในตะกูลถั่ว โดยเป็น 1 ใน 4 ประเภทของกวาวเครือขาวทั้งหมด มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะกลม มีหลายขนาด ถ้าหัวที่มีอายุมากอาจหนักถึง 20 กิโลกรัม เมื่อเอามีดผ่าออกจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนมเนื้อในจะมีสีขาวคล้ายมันแกว เนื้อเปราะ มีเส้นมาก ส่วนหัวเล็ก เนื้อในจะละเอียดมีน้ำมาก และชอบเพาะปลูกหรือพบมากทางภาคเหนือและอีสานของประเทศ
กวาวเครือขาวเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้หญิงแต่สำหรับเพศชายก็อาจกินได้เช่นกัน ซึงตามสรรพคุณช่วยทำให้สาธารณสุข จัดให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำหรับยาแผนโบราณและยาแผนโบราณสามัญประจำบ้าน ซึ่งอาจรับประทานได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
กวาวเครือขาว ในปัจจุบันมีจำหน่ายในรูปของแคปซูลที่เป็นกระปุกหลากหลายยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะกิน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะนำ ไม่ควรทานผงกวาวเครือขาวเกินวันล้ะ 1-2 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กรรมการอาหารและยากำหนดขนาดในการรับประทานว่าห้ามเกินวันล้ะ 100 มก. เวลา เช้า-เย็น ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง ( หรือตอนตื่นกับนอน) และเว้นช่วงที่มีประจำเดือนหรือต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อนแล้วค่อยเริ่มอุปโภคสำหรับผู้ที่อุปโภคยาคุมแบบ 21 เม็ดก็ให้เว้นช่วง 7 วันที่หยุดกิน แต่ถ้าเป็นแบบ 28 เม็ดก็ให้เว้นการกินในช่วงที่กินเม็ดแป้ง 7 เม็ด (แต่อีกตำราบอกว่าไม่ควรรับประทานกวาวเครือขาวร่วมกับยาคุมกำเนิด เพราะอาจทำให้เกิดผลที่ขัดแย้งกัน ควรเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง) หรืออีกวิธีใช้ผงกงกราวเครือขาวผสม กับน้ำผึ้งปั่นปั่นเป็นลูกขนาดเท่าเมล็ดพริกไทยรักินวันละ 1 เมล็ด
กวาวเครือขาวผลเคียง1.ตำรายาแผนโบราณระบุไว้ว่า คนหนุ่มสาวห้ามบริโภค (ในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี )
2.ห้ามใช้ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะตัวยาอาจจะไปรบการทำงานของฮอร์โมนเพศและระบบประจำเดือนได้ หรือควรขอความเห็นแพทย์ก่อนรับประทาน
3.เด็กผู้หญิงวัยก่อนมีประจำเดือน ไม่ควรอุปโภค
- ผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร ไม่ควรบริโภค
5.ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นลูกต่อมไทรอย์โต ไม่ควรกิน
6.ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เช่น เป็นซีสต์ พังพืดเนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ก็ไม่ควรกิน
7.ผู้ที่กินสุรา และมีประวัติเป็นโรคตับเป็นพาหนะไวรัสตับอักเสบบีมีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง ก็ไม่ควรอุปโภค
8.กวาวเคครือขาวอันตรายไม่ควรไม่ควรบริโภคในคุณภาพมากและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือติดต่อกันนานกว่า 2 ปี
9.ห้ามรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ (ไม่เกินวันล้ะ 100 มก.)
10ห้ามกินของหมักดองเปรี้ยว ดองเค็ม (ตำราแผนโบราณ)
11.ควรอาบน้ำวันละ 3 ครั้ง (ตำราแผนโบราณ)
12.ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป (ตำราแผนโบราณ)
13.ฮอนโมนเหล่านี้หากได้รับมากจนเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
14.โทษของของกวาวเครือขาว อาจจะทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวและอาจเป็นมะเร็ง
อันฑะในเพศชายได้ หากอุปโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน
15.อันตรายจากกวาวเครือขาวในเพศหญิง อาจมีผลทำให้เต้านมแข็งเป็นก้อนหรืออาจทำให้เกิดเนื้องอกจนเป็นมะเร็งเต้านมได้ หากทานติดต่อ กันเป็นเวลา
16.กวาวเครือขาวนั้นมีพิษทำทำให้เมาเบื่อตัวเองการบริโภคมาเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ด้วยเหตุนี้ควรทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาอาการท้องอืดร่วมด้วย เช่น พริกไทย เป็น
17.หากอุปโภคกวาวเครือขาวแล้วอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ จนบางท่านรู้สึกกังวล แต่การที่ประจำเดือนมามากนี้ก็ถือเป็นผลดีต่อร่างกายในการขับของเสียทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น จึงไม่ต้องกังวล
- สามารถใช้ครีมบำรุงทรวงอก (Breast Cream) ร่วมกับกวาวเครือขาวได้ในการเพิ่มขนาดทรวงอกได้
19.
กวาวเครือขาว ผลข้างเคียงและอาการอื่นๆที่พบได้ทั่วไป เช่น เจ็บเต้านม ปวดศรีษะ คลื่นไส้ มีเลือดออกไม่ปกติทางช่องคลอด เป็นต้น
Tags : กวาวเครือขาว