Advertisement
กล้องถ่ายภาพติดรถยนต์ นั้นคุณเชื่อไหมขาว่า มันสามารถลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณได้นะคะ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนประมาณร้อยละ 10 และจำนวนร้อยละ 15 มักจะจัดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ในรถกัน อีกอย่างเวลานี้ กล้องวงจรปิดสามารถหาซื้อได้ไม่ยากเลย ไม่ว่าจะเป็นตามห้างหรือตามเว็บไซต์อย่าง Amazon อย่างไรก็แล้วแต่ เว้นแต่กล้องถ่ายรูปติดรถยนต์จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว มันยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกด้วย และก็หากว่าผู้ใดกันแน่อยากรู้ว่า กล้องถ่ายรูปติดรถยนต์ นั้นมันสามารถลดเบี้ยประกันภัยได้อย่างไร วันนี้ MoneyGuru.co.th จะพาไปดูคำตอบกันค่ะ
กล้องถ่ายรูปติดรถยนต์ลดเบี้ยประกันได้
การติดตั้งกล้องถ่ายภาพติดรถยนต์ไว้บนรถยนต์นั้น สามารถช่วยลดราคาค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไปได้มากถึง 5-10% โดยมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซึ่งคุณต้องแสดงหลักฐานการตำหนิดตั้งกล้องติดรถยนต์ด้านในรถยนต์คันเอาประกันให้กับบริษัทสัญญาประกันภัยเพื่อรับการลดราคา โดยผู้ที่มีกล้องจัดตั้งอยู่ในรถยนต์ที่ซื้อประกันภัยไปก่อนวันที่ 3 มีนาคม 2560 สามารถขอรับส่วนลดเบี้ยประกันภัยย้อนกลังกับบริษัทได้ด้วย
การใช้มาตรการนี้ช่วยจูงใจให้ชาวไทยติดตั้งกล้องในรถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อมีการติดตั้งกล้องถ่ายรูปแล้วทำให้คนขับขี่รถยนต์มีความรอบคอบ แล้วก็เป็นห่วงว่ามีกล้องที่ติดตั้งอยู่กับรถยนต์คันอื่นบันทึกภาพขยับเขยื้อนในการกระทำผิดกฎจราจร ทำให้การขับขี่ทุกครั้งควรมีความระแวดระวังเยอะขึ้นซึ่งสามารถลดอุบัติเหตุทางถนนลงได้ นอกนั้น หลักฐานการเกิดอุบัติเหตุที่ถูกบันทึกได้โด
กล้องติดรถยนต์[/url] ยังสามารถช่วยทำให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้นด้วย
กล้องถ่ายภาพติดรถยนต์ เป็นหลักฐานชั้นยอด
ถ้าเกิดคุณติดตั้งกล้องรถยนต์ มันจะสามารถใช้เป็นหลักฐานชั้นดี ที่จะช่วยทำให้คุณพิสูจน์ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วคนใดกันแน่ผิดผู้ใดกันแน่ถูก เนื่องจากว่ากล้องถ่ายรูปนั้นมันโกหกเสมือนคนไม่ได้ มันก็เลยสามารถเป็นหลักฐานสำหรับเพื่อการบันทึกอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆและไม่สามารถหลอกผู้ใดกันได้ค่ะ ดังนี้มีเจ้าของรถยนต์ถึงร้อยละ 10 ที่มักจะจัดตั้งกล้องถ่ายภาพรถยนต์กับมืออาชีพ แม้กระนั้น กล้องรถยนต์นั้นคุณก็สามารถจัดตั้งเองได้เช่นเดียวกัน ซึ่งคุณอาจจะมองคลิปวิดีโอหรืออ่านคู่มือจากในเว็บไซต์ก็ได้ เพื่อการตำหนิดตั้งกล้องถ่ายรูปรถยนต์เป็นไปอย่างแม่นยำจ้ะ
บทความน่าอ่าน: สมาร์ทโฟน เป็นกล้องถ่ายภาพติดรถยนต์ ทริกเด็ดประหยัดเงิน
กล้องติดรถยนต์ปฏิบัติงานยังไง?
กล้องถ่ายรูปโดยทั่วไปจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ในขณะที่
กล้องติดรถยนต์จะใช้พลังงานจากไฟแบตเตอรี่ของรถยนต์โดยต่อผ่านที่จุดยาสูบ แม้กระนั้นก็มีบางเวลาที่ผู้ใช้กล้องถ่ายภาพติดรถยนต์ต่อพลังงานจากวัสดุอุปกรณ์เสริม พวก Power Bank ดังนี้กล้องติดรถยนต์จะปฏิบัติงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณไฟจากรถยนต์รวมทั้งเมื่อรถยนต์สตาร์ท ซึ่งมุมกล้องและการตั้งค่าจะได้รับการปรับตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่าให้กล้องทำงานตอนที่รถยนต์จอด ดังเช่น ในโหมด Motion Detection กล้องจะอยู่ในสถานะ Standby รวมทั้งจะเริ่มดำเนินการเมื่อมีวัตถุเคลื่อนไหวหรือวิ่งผ่านหน้ากล้องถ่ายภาพแค่นั้นค่ะ
โหมด Motion Detection เป็นอย่างไร?
ระบบตรวจจับการเปลี่ยนแปลง (Motion Detect) จะทำงานทันทีเมื่อมีการเคลื่อนเกิดขึ้นผ่านหน้ากล้องถ่ายภาพหรือหน้ารถยนต์ของคุณ โดยจะบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอออกมาเก็บเอาไว้ภายในทุกๆการเคลื่อนไหวที่ตรวจค้นได้ ไฟล์ที่ได้จะมีขนาดเล็กและมีเฟรมเรทที่ต่ำเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพื้นที่ของการ์ดหน่วยความจำ ระบบตรวจการเคลื่อนไหว (Motion detect) จะใช้งานได้ก็เมื่อคุณเปิดกล้องทิ้งเอาไว้เฉยๆแต่ว่าไม่ได้กระทำบันทึกภาพวิดีโอไว้นั่นเองค่ะ ได้แก่ ขณะรถติดหรือคุณหยุดรถทิ้งไว้เฉยๆที่ที่จอดรถ และก็ต้องการที่จะรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะรถยนต์หยุดอยู่เฉยๆว่ามีคนใดกันแน่มาทำอะไรกับรถคุณบ้างนั่นเอง แต่การจะใช้ระบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ตัวกล้องถ่ายภาพจำเป็นที่จะต้องมีไฟเลี้ยงตลอดเวลา ก็เลยจึงควรมีอุปกรณ์จ่ายไฟให้กล้องอย่าง Power Bank ต่อกับกล้องถ่ายภาพไว้ตลอดเวลาจ้ะ
การบันทึกไฟล์วิดีโอ
สำหรับในการบันทึกไฟล์วิดีโอลงในการ์ดหน่วยความจำ กล้องถ่ายภาพโดยปกติคุณต้องบริหารจัดการพื้นที่จัดเก็บไฟล์กันเอง ในเวลาที่กล้องถ่ายภาพติดรถยนต์นั้นจะมีระบบการบันทึกไฟล์วิดีโอแบบวน เป็นเมื่อบันทึกไปเรื่อยๆจนถึงพื้นที่ในหน่วยความจำหมดระบบจะวนกลับมายังจุดเริ่มต้นรวมทั้งบันทึกทับไฟล์ที่เก่าที่สุดโดยอัตโนมัติ (นอกจากจะมีคำสั่งจากผู้ใช้หรือจากระบบของกล้องถ่ายภาพที่จะปกป้องรักษาไฟล์สำคัญๆบางไฟล์ไม่ให้ถูกบันทึกทับก็จะผ่านไป) เป็นลักษณะการวนลูปเป็นวงกลมไปเรื่อยๆเพื่อกล้องถ่ายภาพสามารถบันทึกวิดีโอตลอดไปได้โดยไม่หยุด ลักษณะการบันทึกจะเป็นการบันทึกไฟล์สั้นแยกกันเก็บไว้ ดังเช่น บันทึกไฟล์ละ 3 นาที จบแล้วเริ่มบันทึกไฟล์ใหม่
กลเม็ดการซื้อกล้องถ่ายภาพติดรถยนต์
ถ้าเกิดคุณจะซื้อกล้องติดรถยนต์ทั้งที ขั้นต้นคุณจำต้องเลือกประสิทธิภาพของวิดีโอที่บันทึกก่อน เพราะกล้องถ่ายรูปติดรถยนต์จะใช้ประโยชน์งานได้จริงหรือไม่ก็อยู่ที่ตรงนี้ล่ะจ้ะ ปัจจุบันความละเอียดของกล้องถ่ายรูปติดรถยนต์ควรต้องอยู่ที่ระดับ FULL HD (1080p) หรือ HD Ready (720p) เป็นมาตรฐาน เพราะความละเอียดระดับนี้คุณสามารถที่จะนำภาพวิดีโอที่ได้ไปใช้งานได้จริงอย่างไม่มีปัญหาแน่ๆค่ะ
ดังนี้แม้ภาพชัดเจนแต่ว่าเคลื่อนไหวไม่สมูทก็คงไม่ดีเป็นแน่ คุณจะสามารถรู้ได้ว่ากล้องถ่ายภาพติดรถยนต์รุ่นไหนให้ภาพเคลื่อนไหวที่เหมือนจริงลื่นไหล ก็จะต้องดูที่ค่า FPS ย่อมาจาก Frame Per Second แปลมีอิสรภาพยว่าอัตราเฟรมภาพต่อวินาที เป็นหน่วยวัดการถ่ายภาพนิ่งของภาพเคลื่อนไหวในกล้องถ่ายภาพวิดีโอต่อ 1 นาที เป็นต้นว่า 25 FPS หมายถึง ใน 1 วินาที จะมีภาพนิ่งถูกบันทึกต่อเนื่องกัน 25 ภาพ แน่ๆว่าค่า FPS มากจะส่งผลให้ภาพเคลื่อนไหวที่ได้มีความเกี่ยวเนื่องดูลื่นไหล แต่ถ้าหากค่า FPS ต่ำ ภาพเคลื่อนไหวจะดูกระตุๆกไม่ตลอดค่ะ
ยิ่งไปกว่านี้ถ้าจะให้ดี ค่า FPS สำหรับกล้องถ่ายภาพติดรถยนต์หรูหราที่เหมาะสมอยู่ที่ระดับ 30 FPS หรืออย่างต่ำสุดก็อย่าน้อยไปกว่า 25 FPS ก็จะเพียงพอต่อการใช้แรงงาน แต่ว่าดังนี้จำเป็นต้องมองสเปกของกล้องถ่ายรูปด้วยนะว่าค่า FPS ที่กำหนดมานั้นเป็นค่า FPS ที่ทำได้ที่ระดับความละเอียดภาพเท่าไหร่ เพราะว่าค่า FPS สูงสุดที่ทำได้ก็น่าจะทำเป็นที่ความละเอียดภาพสูงสุดที่กล้องถ่ายภาพทำได้ เช่น กล้องถ่ายภาพความละเอียด FULL HD ก็ควรที่จะทำ 30FPS เหมาะค่าความละเอียด FULL HD ถึงจะถูกต้อง เพราะว่ามีกล้องถ่ายรูปติดรถยนต์ที่บางทีอาจจะคุณภาพต่ำหลอกมาในสเปกได้ว่าทำ FPS ได้สูงจริงแม้กระนั้นระดับความละเอียดต่ำนั่นเองจ้ะ
Tags : กล้องติดรถยนต์,กล้องหน้ารถ,กล้องติดหมวก
