สอนทำขนมปัง ทำหน้าเค้ก หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ สอนทำอาหารญี่ปุ่น

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สอนทำขนมปัง ทำหน้าเค้ก หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ สอนทำอาหารญี่ปุ่น  (อ่าน 31 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กันยายน 22, 2017, 12:31:24 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

เรียนทำขนมปัง เค้กอร่อย หลักสูตรเปิดร้านเบเกอรี่ อาหารญี่ปุ่น เรียนทำขนมปั ทำเค้ก, เรียนทำเค้ก เบเกอรี่ฝรั่งเศส
กลเม็ดขนมไทยโบราณ ทำอย่างไรให้อร่อย
ขนมไทยโบราณ... หัตถกรรมความอร่อยที่แสดงออกถึงความงอนงามของความเป็นเอกราชย ขนมไทยโบราณหลายชนิดผ่านกระบวนการแต่งรวมทั้งลงมือกระทำละเอียดลออ กระทั่งกำเนิดเป็นขนมไทยโบราณที่อร่อย น่ารับประทาน ด้วยเคล็ดวิธีอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย วันนี้ไม่พลาดที่จะนำ วิธีการทำ ขนมไทยแต่ละประเภทมาฝากกันครับผม
ของหวานชนิดทอด
ขนมไทยโบราณที่ใช้ขั้นตอนการทอดมีอยู่หลายแบบร่วมกัน แต่ที่คุ้นหูรวมทั้งเคยได้เห็นขายในตลาดอยู่เป็นประจำเป็นต้นว่า ขนมฝักบัว ของหวานกรอบเค็ม ของหวานดอกจอก ของหวานเกลียว ขนมงา ขนมท้องพลุ เป็นต้น แต่ว่าจะทอดของหวานเหล่านี้เช่นไรให้น่าอร่อย และเลี่ยงปัญหากลิ่นกลิ่นหืนของน้ำมันที่ติดมาพร้อมกับของหวาน เรามีวิธีการทอดและก็การใช้ความร้อนที่เหมาะสมกับรูปแบบของขนมแต่ละชนิดมาบอกกันขอรับ
การเลือกน้ำมัน เป็นของที่จำเป็นมากสำหรับการทอดขนมไทยโบราณ เพราะเหตุว่าน้ำมันบางจำพวกเมื่อทอดแล้วจะมีกลิ่นหืนหลงเหลืออยู่ในของหวาน ชี้แนะให้เลือกใช้น้ำมันที่สกัดมาจากปาล์มเพื่อหลบหลีกปัญหากลิ่นหืนที่ติดมากับของหวาน
การใช้ไฟในขณะทอด อุณหภูมิของการทอดขนมจะขึ้นกับแต่ละชนิดของของหวาน บางชนิดต้องใช้อุณหภูมิต่ำบางจำพวกจำต้องใช้อุณหภูมิปานกลางถึงสูงแต่สำหรับเพื่อการทอดทีแรกบางครั้งก็อาจจะใช้น้ำมันที่ร้อนมากเพื่อให้ของหวานฟูขึ้น เมื่อฟูเต็มกำลังแล้วจึงลดไฟลงเป็นไฟกลาง และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆลดลงมาเหลือไฟอ่อนๆได้แก่ การทอดของหวาน ทองพลุ
การนำลงทอด ขณะทอดไม่ชี้แนะให้คนเสมอๆควรปลดปล่อยให้สุกหรือแทบเหลืองก็เลยกลับอีกด้าน การทอดแต่ละครั้งไม่ควรทิ้งเศษของหวานให้ตกค้างในน้ำมันต้องคอยช้อนเศษของหวานขึ้นจากน้ำมันให้หมด เพราะว่าจะก่อให้อุณหภูมิของน้ำมันต่ำลงเร็วส่งผลให้น้ำมันกลายเป็นสีคล้ำทำให้ของหวานสีไม่สวย
-ของหวานจำพวกกวน
ถ้าพูดถึงขนมไทยโบราณที่ใช้กรรมวิธีการกวนสำหรับเพื่อการทำ ผู้คนจำนวนมากอาจเคยลิ้มชิมรสชาติขนมกลุ่มนี้มาบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็นขนมตะโก้ ขนมแฉะปูน ลอดช่องไทย ซ่าหริ่ม เผือกกวน กระยาสารท กะละแม ฯลฯ กว่าจะได้มาเป็นขนมที่อร่อยมั่นใจว่าจำเป็นต้องผ่านกระบวนการเคล็ดลับต่างๆและไม่พลาดที่จะคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี
จัดเตรียมแป้งก่อนกวนทุกครั้ง แป้งที่ใช้สำหรับการกวนควรจะเป็นแป้งที่เก็บไว้ไม่นานจนกระทั่งเหลือเกิน เมื่อใดก็ตามนำแป้งมาใส่ภาชนะเพื่อกวนกับส่วนประกอบอื่นๆเสนอแนะให้เบาๆเทส่วนประกอบอื่นลงไปทีละน้อยพร้อมทั้งนวดแป้งให้เหนียวอย่างเบามือประมาณ 10 นาที ก็เลยใส่ของเหลวที่เหลือทั้งหมดทั้งปวงลงไป แล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
การใช้ไฟในขณะกวน การกวนของหวานควรจะใช้ไฟกึ่งกลางหรือไฟอ่อน ไม่ควรใช้ไฟแรงเป็นอันขาด ด้วยเหตุว่าจะก่อให้ขนมจับเร็วขึ้น เนื้อของหวานไม่เหนียวหรือบางทีอาจไหม้ได้ง่าย เสนอแนะให้ใช้ไฟอ่อนๆเพื่อให้ของหวานสุกทั่วและก็ปกป้องการไหม้ของของหวานระหว่างกวน
แนวทางการกวน พายที่ใช้กวนส่วนมากเป็นพายไม้ เพราะเหตุว่ามีความแข็งแรงและไม่มีส่วนใดละลายลงไปปนเปื้อนขนมแนวทางกวนที่จะทำให้ได้ขนมมีความเหนียวดีต้องกวนไปทางเดียวกันตลอดจนขนมถึงที่กะไว้
-ขนมชนิดวุ้น
วุ้นนับว่าเป็นขนมที่คนจำนวนไม่น้อยประทับใจ สามารถรับประทานได้ทั้งยังเด็กและก็ ผู้ใหญ่มีวิธีการทำที่ไมยุ่งยากเหมือนวิธีการทำขนมประเภทอื่นๆเพราะเหตุว่ามีผงวุ้นสำเร็จรูปที่วางขายในตลาดให้เลือกหลายแบบหลายรส เช่น วุ้นน้ำกะทิใบเตย วุ้นลาย วุ้นชั้น วุ้นดวงตาล หรือวุ้นสังขยา แต่กระบวนการทำวุ้นให้ได้รสชาติที่ถูกปากนั้นควรรู้เรื่องสำหรับเพื่อการเลือกวัตถุดิบและก็ศึกษาวิธีการทำอย่างรู้เรื่อง
การใช้ผงวุ้น ในตลาดมีวุ้นหลายแบรนด์ร่วมกัน ซึ่งจะมีคุณลักษณะต่างกัน เช่น มีความเหนียวน้อยเหนียวมากมายไม่เหมือนกันออกไป ธรรมดาแล้วผงวุ้นจะใช้อัตราส่วนมาตรฐานคือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ถ้วยตวง
การตั้งไฟ ควรใช้ไฟปานกลางในการเคี่ยวต้มวุ้นให้ใสเป็นเงา จะต้องให้ผงวุ้นละลายก่อนก็เลยใส่น้ำตาล ส่วนกระบวนการทำวุ้นให้เป็นชั้นๆไม่ควรทิ้งผิววุ้นให้แห้ง เนื่องจากว่าเมื่อเราหยอดชั้นต่อไปจะก่อให้วุ้นไม่ติดกันจนกระทั่งทำให้แต่ละชั้นหลุดออกจากกันได้ถ้าเกิดต้องการให้วุ้นมีความกรอบชี้แนะให้ตั้งไฟเคี่ยวนานๆเพื่อเหนียว แล้วรอตักฟองออก
-ขนมจำพวกอบ
การอบขนมเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพียงแต่นำส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้เข้าเตาอบใช้เวลารอไม่นานก็ได้ขนมอบสุก มีกลิ่นหอมยวนใจน่ารับประทาน นอกจากนี้การอบยังเป็นการต่ออายุสำหรับการเก็บรักษาของหวานไว้ได้เป็นเวลายาวนานกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น ของหวานกลีบลำดวน ขนมผิง ขนมหม้อแกง ขนมไข่ ฯลฯ ซึ่งการอบของหวานเเต่ละครั้งอาจจะมิได้ดังที่เราอยากเสมอ แต่ว่าอาจขึ้นอยู่กับการเลือกเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับในการอบ
การเลือกพิมพ์อบหรือถาดอบ จำเป็นต้องเลือกใช้วัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียมแล้วก็อะลูมิเนียมฟอยล์ ไม่สมควรใช้พิมพ์อบที่ทำมาจากสเตนเลสเพราะว่ามีความร้อนสูงและเก็บความร้อนได้นาน ทำให้ขนมไหม้เร็วไม่น่ารับประทาน ส่วนการอบของหวานเป็นชิ้นเล็กๆนิยมใช้ถาดอบเตี้ยหรือถาดไม่มีขอบด้วยเหตุว่าจะก่อให้ความร้อนกระจัดกระจายทั่วถึง สำหรับการอบขนมชิ้นใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ขนมบ้าบิ่น ของหวานหม้อแกง ควรที่จะใช้ถาดมีขอบสูงโดยประมาณ 1 นิ้ว เมื่ออบสุกตามที่ต้องการแล้วสามารถยกเสิร์ฟหรือขายทั้งยังถาดได้เลย
 
ที่มาที่ไปของเค้กแต่งงาน
ในสมัยก่อน เจ้าสาวจะไม่มีช่องทางได้ชิมรสเค้กแต่งงานเลย เนื่องจากว่าเค้กแต่งงานในสมัยเริ่มต้นนั้น ทำขึ้นเพื่อ “ขว้าง” ใส่เจ้าสาว ขนมเค้กแต่งงานมีวิวัฒนาการในฐานะที่เป็นเลิศในบรรดาสัญลักษณ์แห่งความบริบูรณ์ สมบูรณ์ที่จะขาดเสียมิได้ในพิธีสมรส ในสมัยที่ผ่านๆมา ผู้คนจะคาดหมายว่า ลูกสืบสายเลือดจะติดตามมาทันหนตอนหลังการแต่งงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่ๆเท่าๆกับมีตอนกลางวันแล้วจะต้องมีช่วงเวลาค่ำคืน
ข้าวสาลีซึ่งถือกัน มานานแล้วว่า เป็นสัญลักษณ์ที่ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญ เป็นธัญญาหารที่ใช้โปรยปรายใส่เจ้าสาวตามพิธีกรรม หญิงสาวที่ยังไม่มีคู่ครองจะแย่งกันเก็บเมล็ดข้าวสาลีเพื่อเป็นเครื่อง รับรองว่า พวกเธอก็จะได้แต่งงานในไม่ช้า การแย่งเมล็ดข้าวข้าวสาลีนี้มีคตินิยมเหมือนกับการแย่งช่อดอกไม้ของเจ้าสาวใน ช่วงปัจจุบัน
-ช่างทำของหวานชาว โรมันซึ่งมีฝีมือการอบของหวานเป็นที่ยกย่องเลื่องลือ เป็นผู้เปลี่ยนแปลงประเพณีปฏิบัติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยเมื่อราว 100 ปีก่อนคริสต์ศักราช พวกช่างทำขนมได้ริเริ่มอบขนมเค้กชิ้นเล็กๆมีรสหวาน ทำมาจากข้าวสาลีเพื่อใช้รับประทานในงานแต่งงานแทนที่จะใช้ “ขว้าง” อย่างไรก็ตาม แขกที่มาร่วมงานไม่ค่อยประทับใจนักที่อดสนุกสนานกับการโปรยปรายเมล็ดข้าวสาลีใส่เจ้าสาว จึงมักจะโยนเค้กชิ้นเล็กๆนี้แทน
-ประพันธ์แล้วก็ปราชญ์ชาวโรมัน ชื่อ ลูครีเชียส บันทึกไว้ว่าความก้าวหน้าของการโยนขนมเค้กใส่เจ้าสาวลดความ “รุนแรง” ลงโดยเปลี่ยนเป็นการละเลงขนมลงบนหัวของเจ้าสาว และก็เพื่อตกทอดความหมายในเชิงเครื่องหมายของความอุดมสมบูรณ์คู่บ่าวสาวจำต้องรับ ประทานส่วนของขนมที่ถูกละเลงแล้วด้วยกันด้วย
ประเพณีปฏิบัตินี้ แพร่หลายไปทั่วยุโรปตะวันตก ในประเทศอังกฤษเมื่อคู่แต่งงานกินของหวานแล้ว จำต้องจิบเหล้าจำพวกพิเศษซึ่งเรียกกันว่า “สุราเจ้าสาว” ตามด้วยพิธีโยนขนมเค้กสมรสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว “มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง” นั้นเปลี่ยนไปอีกในสมัยกลางตอนแรก เมื่อเกิดภาวะสินค้าต่างๆมีราคาแพง เมล็ดข้าวสาลีดิบถูกนำกลับมาใช้โปรยปรายใส่เจ้าสาวอีกรอบหนึ่ง เค้กซึ่งเคยอบอย่างพิธีการพิถันก็กลายเป็นเพียงขนมปังกรอบ หรือขนมปังก้อนเล็กๆจำพวกนุ่มรสหวานที่เรียกว่า “สคอน” (scone) เพื่อกินร่วมกันในงานสมรส แขกที่มาร่วมงานก็จะอบของหวานกันมาเอง ที่เหลือจะนำไปแจกให้คนอนาถา จารีตประเพณีปฏิบัติที่ออมเรียบง่ายนี้เอง เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยความช่างประดิษฐ์ประกอบกับการดูแคลุกลี้ลุกลนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอังกฤษของชาวประเทศฝรั่งเศส กลับกลายต้นเหตุของขนมเค้กสมรสเป็นชั้นๆซึ่งหรูที่สุด
-ตำนานเล่าว่า ทั่วทุกแห่งหนในเกาะอังกฤษจะนับว่าเป็นธรรมเนียมที่จะนำขนมปังกรอบ และก็สคอน ซึ่งแขกเอามาช่วยงานวางซ้อนๆกันเป็นกองใหญ่มหึมายิ่งกองสูงเท่าใดยิ่งดี ด้วยเหตุว่าถือกันว่าความสูงของกองของหวานชี้ถึงความรุ่งเรืองของคู่ชีวิตในอนาคต และก็ยุติธรรมเนียมอีกว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวจำต้องแลกเปลี่ยนจุมพิตกันบนกองขนม
-ในช่วงค.ศ. 1660-1669 ระหว่างยุคของพระผู้เป็นเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 พ่อครัวชาวประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง ได้ท่องเที่ยวกรุงลอนดอนและก็มองเห็นพิธีการ “กองขนมเค้ก” พ่อครัวคนนี้รู้สึกใจหายใจคว่ำกับลักษณะที่ชาวอังกฤษเรียงขนมเค้กซ้อนๆกันและก็บ่อยครั้งที่กองขนมพังครืนลงมา เขาก็เลยได้เรื่องคิดที่จะทำขนมเค้กก้อนใหญ่เป็นชั้นๆฉาบด้วยน้ำตาลไอสิง ซึ่งให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจเหมาะกับพิธีสมรส มากยิ่งกว่ากองเทือกเขาขนมปังกรอบที่แสนจะธรรมดา หนังสือพิมพ์อังกฤษในยุคนั้นพากันประสานเสียงวิจารณ์ความฟุ้งเฟ้อ ฟุ้งเฟ้อของชาวประเทศฝรั่งเศส
-แต่ปรากฏว่าก่อนจะ หมดศตวรรษที่ 17 ช่างทำขนมคนอังกฤษก็พร้อมใจกันทำเค้กแต่งงานก้อนมหึมาเป็นชั้นๆบริการให้แก่บรรดาลูกค้าของพวกเขา เค้กสมรสโดยส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ มีรูปร่างเป็นชั้นๆเรียงกันขึ้นไป และก็มีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยครีมและก็น้ำตาลแต่งหน้าเค้ก ซึ่งในบางครั้งอาจมีการนำอัลมอนด์มาเป็นส่วนผสมสำหรับเพื่อการทำ โดยส่วนยอดของขนมเค้กนั้นมักแต่งแต้มด้วยตุ๊กตาแทนตัวคู่บ่าวสาว หรือในบางความนึกคิดบางทีอาจใช้เป็นรูปนก รูปแหวนทอง หรือรูปเกือกม้า ซึ่งสิ่งต่างๆพวกนี้เป็นเครื่องหมายของความโชคดี แล้วก็ความเจริญก้าวหน้าสำหรับบ่าวสาว ซึ่งลักษณะของขนมเค้กสมรสที่ดีควรจะมีเนื้อแน่นสามารถรับน้ำหนักของชั้น ขนมเค้กที่ตกแต่งอย่างงดงามได้และก็ที่สำคัญยังจำต้องกินได้แล้วก็อร่อยอีกด้วย สิ่งต่างๆกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความถนัด ความสามารถความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แล้วก็ความปราณีตอย่างใหญ่โตจากพ่อครัว หรือผู้ทำของหวาน
ส่วนขนบธรรมเนียมการตัดเค้กนั้น โดยส่วนใหญ่เจ้าสาวควรเป็นคนตัดขนมเค้กเอง โดยที่เจ้าบ่าวมีบทบาทแค่คอยช่วยเหลือ ซึ่งในจารีตโบราณ ฝ่ายเจ้าสาวจะต้องตัดเค้กแล้วนำเค้กที่ตัดแล้วไปมอบให้แก่บุคคลต่างๆในครอบครัวของเจ้าบ่าวเพื่อแสดงความเคารพนับถือ และก็ชี้ให้เห็นว่าเธอกำลังจะก้าวเข้าไปยอดเยี่ยมในสมาชิกของครอบครัวเจ้า บ่าวต่อจากนี้เป็นต้นไปเป็นต้นไป ทั้งยังมีขนบธรรมเนียมที่ให้คู่แต่งงานป้อนขนมเค้กให้กันและกัน เป็นการสื่อความหมายถึงการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องสร้าง ครอบครัวใหม่ร่วมกัน แล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่จะต้องดูแลกันและกันตลอดไป หลังตัดเค้กเป็นชิ้นๆแล้วฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะแบ่งขนมเค้กพวกนั้นให้กับคนที่มา ร่วมพิธีการได้รับประทานกันซึ่งบางทีอาจจะรับประทานเลยหรือนำกลับไปอยู่บ้านไปฝากบุคคลที่ ไม่ได้มาร่วมงานก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งในจารีตประเพณีโบราณเชื่อว่า หากเพื่อนเจ้าสาวใครกันแน่ต้องการฝันมองเห็นเนื้อคู่ของคนในอนาคต ให้นำเค้กสมรสไปไว้ใต้หมอนหรือข้างหมอนแล้วนอนหลับ สาวคนนั้นจะฝันเห็นคู่รักของตัวเอง
-ภายหลังวันสมรสของ เจ้าบ่าวเจ้าสาวในยุโรปนิยมเก็บขนมเค้กข้างบนสุดไว้แล้วก็ค่อยนำออกมารับประทานใหม่ในวัน ครบรอบสมรสหนึ่งปีแล้วก็การฉลองอีกครั้งก็น่าจะหนีไม่พ้นหัวข้อการให้กำเนิด เจ้าตัวน้อย เพราะเหตุนี้เค้กบางส่วนในพิธีแต่งงานบางทีก็อาจจะถูกเก็บไว้กินเพื่อสังสรรค์ในวันครบ รอบสมรสของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในปีถัดๆไปใช้ฉลองในวันที่คลอดลูกคนแรกแม้กระนั้นโดยส่วนมากจะใช้ในพิธีการตั้งชื่อลูกตาม หลักศริสต์ศาสนา ซึ่งจะเก็บรักษาขนมเค้กด้วยการนำเข้าช่องแช่แข็งเอาไว้ ส่วนมากจะเก็บชั้นบนสุดของขนมเค้กที่มักจะตกแต่งด้วยผลไม้ซึ่งสามารถรักษา เอาไว้ได้เป็นเวลานานด้วยการแช่แข็ง (ในสมัยก่อนวิธีการรักษาขนมเค้กให้เก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานๆก็คือการใช้น้ำตาลในปริมาณมากๆเป็นส่วนผสมสำหรับการทำรวมทั้งแต่งหน้าเค้ก เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและลดช่องว่างไม่ให้อากาศเข้าไปในเนื้อขนมเค้ก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กหมดอายุหรือเสียเร็วขึ้น)
การทำครีมแต่งหน้าเค้ก
สูตรบัตเตอร์ครีมไอซิ่ง สูตรของpiggy_sun
ส่วนผสม
เนยสดชนิดเค็ม 300 กรัม
เนยขาว 200 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 250 กรัม
เกลือป่น 1 ช้อนชา
วานิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา
น้ำร้อน 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ผสมน้ำตาลไอซิ่ง วานิลลา เกลือป่นและน้ำร้อน คนให้ละลายเข้ากันดี คลุมผ้าชื้นพักไว้ (ถ้าไม่ใช้ผ้าชื้นคลุมเดี๋ยวเนื้อครีมไม่เนียน)
- ตีผสมเนยสดและเนยขาว ใช้หัวใบไม้ตีความเร็วปานกลางประมาณ 15 นาที
- เติมส่วนผสมน้ำตาลไอซิ่ง ตีต่อ 10 นาที จนส่วนผสมเนียน
 
 
สูตรคัพเค้ก
คัพเค้กมะพร้าว
เพื่อน ๆ ที่ชอบกินมะพร้าวต้องปลื้มกับคัพเค้กมะพร้าวแน่นอน เนื้อเค้กใส่มะพร้าวทุกอณู โปะด้วยครีมมะพร้าวฟรอสติ้งละมุนลิ้น และยังโรยด้วยมะพร้าวขูดอีกด้วย ยิ่งกินตอนอบสุกใหม่ ๆ ยิ่งอร่อยเลยล่ะ
ส่วนผสม คัพเค้กมะพร้าว
- น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
 - น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
 - กะทิ 1 ถ้วย
 - กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
 - แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
 - ผงฟู 1/2 ช้อนชา
 - เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
 - เกลือป่น
 - มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
ส่วนผสม ครีมมะพร้าวฟรอสติ้ง
- เนยจืด 1/3 ถ้วย
 - กะทิ 1/4 ถ้วย
 - กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
 - น้ำตาลไอซิ่ง 2+1/2 ถ้วย ถึง 3 ถ้วย
 - มะพร้าวขูด (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำคัพเค้กมะพร้าว
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
 2. ทำคัพเค้กโดยตีผสมน้ำมันมะพร้าวกับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน ใส่กะทิและกลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมจนเข้ากัน เตรียมไว้
 3. ตีผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือป่น และมะพร้าวขูดให้เข้ากัน
 4. วางพิมพ์มัฟฟิน 10 ถ้วยบนถาดอบ หยอดส่วนผสมคัพเค้กลงไปประมาณ 1/3 ของถ้วย นำเข้าไปอบประมาณ 18 นาที หรือจนสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็น
 5. ทำครีมมะพร้าวฟรอสติ้งโดยตีเนยจืดจนเนื้อเนียน ใส่กะทิและกลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมจนเข้ากัน ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป 2 ถ้วย ตีผสมจนเข้ากัน ใส่น้ำตาลไอซิ่งที่เหลือลงไปตีให้เข้ากัน นำไปบีบตกแต่งบนหน้าคัพเค้ก ตกแต่งด้วยมะพร้าวขูด พร้อมเสิร์ฟ

ของหวานชื่อก้องโลก
ทีรามิสุ (Tiramisu)
ขนมเค้กชื่อดังของอิตาลีสร้างขึ้นจากเล ดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ ใส่ไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าครั้งรามิสุมีต้นกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่ สองทำเค้กให้ผัวรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังรวมทั้งแคล้วคลาด จากอันตราย ช่างโรแมนว่ากล่าวคเสียนี่กะไร เหมาะจะเป็นของหวานรับวันวาเลนไทน์โดยแท้
-บาคลาวา (Baklava)
ความเป็นมาที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะกำหนด ให้เด่นชัด เนื่องจากว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจาก จักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมียและก็อาหรับ โดยของหวานชนิดนี้สร้างขึ้นจากการนำแป้งฟิลปลาโลมาใส่ไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม แม้อยากลิ้มรสรส แบบต้นตำรับก็จะต้องไปกินถึงถิ่นที่กล่าวถึงว่าเป็น ต้นกำเนิด ทั้งยังกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุตแม้กระทั้งละที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีรสต่างๆนาๆบ้าง แต่ว่าก็ยังการันตีได้ถึงความอร่อย
 -ไดฟุกุ (Daifuku)ของหวานเจลลาตินทรงกลมจากดินแดนอาทิตย์อุทัยมักใส่ไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และก็บางครั้งก็บางทีอาจเป็นแยมสตอเบอร์ปรี่โรยด้วยแป้งบางๆโดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้อีกทั้งจากกรุงเมืองโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในประเทศญี่ปุ่น
-กุหลับ จามาน (Gulab Jamun)
ก้อนขนมปังหวานที่อาจจะไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำ ข้าว แต่ว่าคอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายนามขนมลำดับที่หนึ่งของคนประเทศอินเดีย แล้วก็เมื่อมีคนกว่าพันล้านคนพอใจ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น ได้รับความนิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาลแล้วก็ประเทศในแถบเอเชียใต้
 -ฮาโล ฮาโล (Halo Halo)
จานเด็ดของชาวประเทศฟิลิปปินส์ที่มีชื่อมีชื่อเสียงไม่แพ้ไข่บาลุท แต่ค้ำประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ดังนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรกระบวนการทำที่แน่นอน แต่ดูๆไปก็ไม่ได้ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านพวกเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเพิ่มด้วยเครื่องแนม ดังเช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นแล้วก็น้ำเชื่อมโดยสามารถหารับประทานได้ทุก ที่ในกรุงมะนิลา
 -กางล็คฟอเรสท์ขนมเค้ก (BlackForestCake)
ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย ก็เลยไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะเปลี่ยนเป็นสถานที่ดื่ม-รับประทานยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในตอนต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมนี(ตอนหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์เพิ่มขึ้นด้วยฝีมือ ของช่างทำเค้กในกรุง เบอร์ลิน)แล้วก็เดี๋ยวนี้เป็นทื่ติดอกติดใจของคนทั่วโลก
-ข้าวเหนียวมะม่วง
อาหารหวานแบบไทยๆที่นำมะม่วงสุกเหลืองงามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยกะทิ ฟังแล้วเชิญชวนน้ำลายหกเป็นอย่างยิ่งโดยได้รับความนิยมจากชาวไทยและก็ชาวต่าง ชาติ ทั้งสามารถหาลิ้มรสได้ทั้งๆที่โฮเต็ล ห้าง ร้านอาหาร แล้วก็ร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป
 -แอปเปิ้ล พาย (Apple Pie)เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ้ะ แต่ว่าอันที่จริงแล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และก็ปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้นในแต่ก่อน ในระหว่างที่คนประเทศอังกฤษอพยพมาตั้งถิ่นฐานในอเมริกา พวกเขาได้นำเม็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย ก็เลยทำให้มันมีความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โฮเต็ลในลอนดอนหรือห้องอาหารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ต้องใจบรรดาลูกค้าแบบเดียวกัน
 -นาไนโม บาร์ (Nanaimo Bars)
แคนาดาลือชื่อเรื่องของหวาน ? ได้ยินแล้วไม่มีความต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อลือชาเรื่องทะเลยังไงแบบนั้น ถึงกระนั้น ของหวานรสเลิศดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม เมืองบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากความสามารถแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าของหวานทรง สี่เหลี่ยมจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในวารสารแล้วก็ครอบครองรางวัลชนะเลิศมาได้ เดี๋ยวนี้ เป็นที่พึงพอใจของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ
 -แครมบรูเล่ (Creme Brulee)
ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆแต่ว่าอย่าพึ่งด่วนวินิจฉัยว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างถึงว่าพวกเขาเป็นเจ้าตำรับผู้คิดค้น ขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 แม้กระนั้น ถึงจะมีแหล่งกำเนิดจากอังกฤษ แต่ว่าเชื่อแน่ว่าอาจจะไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆโรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้พอๆกับใต้หอพักไอเฟลที่แต่งแต้มด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส
|
ขมป้งบ้านครูแอน อร่อย การันตี เรียนแล้วทำเป็น ชัวร์
|
อยากทำขนมเค้กเป็น อยากทำขนมอร่อยๆ เรียนกับครูแอนเลย
|
ทำขนมเค้กกินเอง ขนมปัง เบเกอรี่ บ้านครูแอน สอนเป็นกันเอง เรียนจบต้องทำเป็นให้จงได้
}
คอร์สแต่งหน้าเค้ก ไส้ขนมปัง เปิดร้านเบเกอรี่ (สอนส่วนตัว)

ที่มา : [url=http://www.annann201.com/][url]http://www.annann201.com/
[/url]

Tags : เรียนทำขนมไทย,สอนทำขนมไทย,สอนทำอาหาร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ