Advertisement
ในการสมัครบัตรเครดิต เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับการที่พนักงานบอกให้เลือกประเภทของบัตร ได้แก่ VISA, MasterCard, JCB และ UnionPay และแน่นอนว่าส่วนใหญ่มักจะเลือกแค่ให้ได้บัตรเครดิตมาใช้สักใบ โดยไม่ได้สนใจและไม่เคยรู้เลยว่าสัญลักษณ์เหล่านี้หมายถึงอะไรและมีความหมายอย่างไรบ้าง ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจกับ 4 ประเภทของบัตรเพื่อการเลือ
บัตรเครดิต VISA
VISA เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของอเมริกา ซึ่งจากสถิติพบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าประเภทอื่น ๆ แถมยังได้รับความนิยมที่สุดอีกด้วย โดยจุดเด่นของบัตรเครดิตประเภทนี้ คือ
- มีการนำเทคโนโลยีเพื่อการชำระเงินระดับโลกมาเชื่อมโยงเข้ากับการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคและธุรกิจเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้การชำระเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น
- มีร้านค้าที่ร่วมรายการมากกว่า 28 ล้านแห่ง ทำให้สามารถใช้บัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA ได้อย่างแพร่หลาย
- ให้สิทธิประโยชน์ในการเช่ารถแก่ผู้ถือบัตร เฉพาะบัตร Visa Classic
- ให้สิทธิพิเศษด้วยประกันการเดินทางสุดคุ้มและประกันการใช้จ่าย เฉพาะบัตร Visa Signature
- สามารถใช้จ่ายได้ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ เป็นบัตรที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทีเดียว
บัตรเครดิต MasterCard
MasterCard เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายผู้ให้บริการชำระเงินจากประเทศอเมริกา ซึ่งหากมองที่คุณสมบัติโดยรวม จะไม่ค่อยแตกต่างจากบัตรประเภท VISA มากนัก สำหรับจุดเด่นของบัตรประเภทนี้ คือ
- มีร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 30 ล้านแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก
- มีโปรโมชั่นที่ตอบสนองการใช้งานแก่ผู้ถือบัตรมากมาย เช่น โปรโมชั่นสุดพิเศษกับการท่องเที่ยว บริการห้องพัก โปรสุดคุ้มเมื่อชอปปิงหรือใช้จ่ายเกี่ยวกับการเอ็นเตอร์เทนเมนท์
- สามารถใช้งานในการจ่ายชำระค่าสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้รวดเร็วทันใจ และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
บัตรเครดิต JCB
JCB เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับ 2 แบบแรก แต่ก็กำลังแพร่หลายและเริ่มได้รับการตอบรับมากขึ้น แถมยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากมาย อีกท้งยังไม่ค่อยซ้ำกับบัตรค่ายอื่น ๆ อีกด้วย โดยจุดเด่นขอบัตรประเภทนี้ คือ
- สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้ที่ชื่นชอบการทานอาหารญี่ปุ่นได้ดี ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นที่เข้าร่วมรายการกับร้านอาหารญี่ปุ่นแทบทั้งประเทศ รวมถึงร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นด้วย
- สามารถนำไปใช้จ่ายในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสุดคุ้ม ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับส่วนลดหรือการสะสมแต้มจากร้านอาหารและแหล่งชอปในญี่ปุ่น
- นิยมนำมาใช้ในวงการท่องเที่ยว เช่นการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม และจะได้ราคาที่พิเศษสุด เมื่อใช้จองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือจองโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
- ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่รักการท่องเที่ยวได้ดี
บัตรเครดิต UnionPay
UnionPay ผู้ให้บริการชำระเงินโดยความร่วมมือของธนาคารในประเทศจีน ซึ่งในประเทศไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในวงกว้างมากนัก แต่ก็ยังคงมีผู้สนใจสมัครใช้งานอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้ที่มักจะเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนหรือทำธุรกิจการค้าร่วมกับจีน โดยมีจุดเด่นของบัตรประเภทนี้ คือ
- สามารถใช้ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมรายการในไทย ซึ่งก็มีหลากหลายแห่ง
- มีโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย โดยเฉพาะเมื่อซื้อสินค้าจากจีน หรือสินค้าจากร้านที่ร่วมรายการ เช่น ส่วนลด การสะสมแต้ม เป็นต้น
- เดินทางไปเที่ยวประเทศจีนได้อย่างสะดวก และสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าในประเทศจีนได้อย่างคล่องมือสุด ๆ
- เหมาะกับผู้ที่มักเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนบ่อย ๆ โดยเฉพาะมาเก๊าและฮ่องกง เพราะเป็นแหล่งที่มีการใช้บัตรเครดิตประเภทนี้อย่างแพร่หลายมากกว่าที่อื่น และสามารถใช้งานบัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
จากข้อมูลข้างต้นสรุปได้ว่า บัตรเครดิตทั้ง 4 ประเภท ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ต่างกันก็แค่โปรโมชั่นของบัตรและคุณสมบัติบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ในการสมัครบัตรเครดิต ควรเลือกประเภทของบัตรที่ตรงกับความต้องการของตัวเองที่สุด เพื่อให้ได้บัตรที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง นอกจากนี้ ควรใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงดอกเบี้ยบานปลายที่อาจสร้างปัญหาในอนาคตอีกด้วย
ขอขอบคุณ
บทความ ประเภทบัตรเครดิต:
https://wealthcare.krungthai-axa.co.th/4-credit-card-type/,
https://wealthcare.krungthai-axa.co.th/รีวิว
ประเภทบัตรเครดิต จาก Pantip:
www.pantip.comTags : ประเภทบัตรเครดิต,บัตรเครดิต,ประเภทบัตรเครดิต