โรคพาร์กินสัน- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคพาร์กินสัน- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 44 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หนุ่มน้อยคอยรัก007
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 31, 2018, 09:07:27 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคพาร์กินสัน (Parkinson ‘s disease)


นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอีกเช่น   คนไข้อาจมีอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย (เช่น ขา หลัง) โดยเฉพาะเวลานอน หรือช่วงกลางคืน อาจปวดจนนอนไม่หลับ บางรายอาจมีอาการซึมเศร้า ความดันตก ในท่ายืน ท้องผูก มีภาวะความจำเสื่อม หรืออาจมีปัญหากินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย น้ำหนักลด ในรายที่เดินลำบาก อาจหกล้ม กระดูกหักหรือศีรษะแตก ในรายที่เป็นมาก อาจนอนบนเตียงมากจนเป็นแผลกดทับ อาจมีอาการถ่ายปัสสาวะลำบาก และมีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้ง่าย คนไข้ที่ปล่อยไว้ไม่รักษาจนมีอาการรุนแรง (กินเวลา ๓-๑๐ ปี) มักจะตายด้วยโรคปอดอักเสบแทรกซ้อนหรือภาวะเลือดเป็นพิษจากการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ

  • สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่นำมาซึ่งโรคพาร์กินสัน
  • อายุ ถ้าหากมีอายุมากขึ้นก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • กรรมพันธุ์ โดยพบว่าผู้เจ็บป่วยโดยประมาณ 15-20% จะมีประวัติคนภายในครอบครัวเป็นโรคพาร์กินสัน (แม้มีญาติสายตรงเป็นโรคนี้ 1 คนจะเพิ่มจังหวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ 3 เท่า และก็แม้มี 2 คนก็จะเพิ่มการเสี่ยงเป็น 10 เท่าเป็นลำดับ)
  • เป็นคนที่สัมผัสกับยากำจัดแมลงหรือยาฆ่าวัชพืช ดื่มน้ำจากบ่อและอาศัยอยู่ในเขตกันดาร เนื่องจากว่ามีรายงานว่าเจอโรคนี้ได้มากในชาวนาชาวไร่ที่ดื่มน้ำจากบ่อ
  • เป็นผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ในหญิงที่ตัดรังไข่และก็มดลูก ผู้หญิงวัยทองยังไม่ครบกำหนด ซึ่งคนพวกนี้จะได้โอกาสเป็นโรคนี้ได้สูง แต่แม้ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนตอบแทนก็บางครั้งก็อาจจะช่วยลดการเกิดโรคนี้ได้
  • เคยประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนทางสมอง
  • นอกเหนือจากนั้นยังมีแถลงการณ์ว่า คนที่ขาดกรดโฟลิกจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคพาร์กินสันด้วยเหมือนกัน
  • ขั้นตอนการรักษาโรคพาร์กินสัน โดยปกติถ้าเกิดคนเจ็บปรากฏอาการแจ่มกระจ่าง สามารถวิเคราะห์ได้จากลักษณะของการเกิดอาการรวมทั้งการตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดลออ ระยะเริ่มต้นเริ่ม บางทีอาจวิเคราะห์ยาก ควรต้องวินิจฉัยแยกโรคก่อนเสมอผู้ที่สงสัยว่าจะมีอาการป่วยด้วยโรคพาร์คินสัน ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา หรือที่เรียกว่าประสาทแพทย์

การวินิจฉัยโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) จึงจำต้องแยกโรคอื่นๆที่มีลักษณะอาการของพาร์กินสัน รวมถึงแยกอาการ หรือสภาวะพาร์กินสันทุติยภูมิ (Secondary parkinsonism) ออก ไปด้วย เหตุเพราะการรักษาจะไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีลักษณะอะไรบางอย่างคล้ายคลึงกันก็ตาม
การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันจะอาศัยอาการผู้ป่วย และความไม่ปกติที่แพทย์ตรวจพบเป็นหลัก รวมถึงลักษณะของอาการที่ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป อายุที่เริ่มเป็น และก็ความเป็นมาในครอบครัว ไม่มีการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการใดที่ตรวจแล้วพูดได้ว่าคนเจ็บกำลังเป็นโรคพาร์กินสันอยู่ การตรวจทางห้องทดลองจะใช้เพื่อรับรองการวิเคราะห์โรคอื่นๆบางโรคที่มีลักษณะของโรคพาร์กินสันและก็มีลักษณะอาการเฉพาะของโรคนั้นๆร่วมด้วย เพื่อซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่แตกต่างออกไปเพียงแค่นั้น อย่างเช่น การตรวจหาระดับสารพิษในกระแสโลหิต การตรวจหาระดับสาร Ceruloplasmin ในเลือดเพื่อวินิจฉัยโรค Wilson’s disease การเอกซเรย์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เอมอาร์ไอ/MRI) เพื่อวินิจฉัย โรค Normal pressure hydrocephalus เป็นต้น
ในอดีตหมอเข้าใจว่าโรคพาร์กินสันนี้มีความผิดปกติที่ไขสันหลัง แต่ในตอนนี้เป็นที่ทราบกันแน่นอนแล้วว่า พยาธิภาวะของโรคนี้กำเนิดที่บริเวณตัวสมองเองในส่วนลึกๆรอบๆก้านสมอง ซึ่งมีกรุ๊ปเซลล์ประสาทที่มีสีดำมีจำนวนเซลล์ต่ำลง หรือขาดตกบกพร่องในหน้าที่สำหรับการปลดปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า โดพามีน (dopamine) ก็เลยส่งผลให้เกิดอาการเคลื่อนช้า เกร็งและก็สั่นเกิดขึ้นเป็นลำดับ โดยเหตุนั้นในตอนนี้การดูแลและรักษาโรคนี้จึงหวังมุ่งให้สมองหรูหราสารโดพามีนกลับสู่ค่าธรรมดา ซึ่งอาจทำได้โดยการกินยาการทำกายภาพบำบัด หรือผ่าตัดสมอง
การดูแลรักษาโรคพาร์กินสันมี 3 แนวทาง คือ

  • รักษาโดยใช้ยา ซึ่งแม้ว่ายาจะไม่อาจจะทำให้เซลล์สมองที่ตายไปแล้วฟื้นหรือกลับมาแตกออกตอบแทนเซลล์เดิมได้ แต่ว่าก็จะทำให้สารเคมีโดปามีนในสมองมีจำนวนพอเพียงกับสิ่งที่จำเป็นของร่างกายได้ สำหรับยาที่ใช้ในปัจจุบันเป็นยากลุ่ม LEVODOPA แล้วก็ยากลุ่ม DOPAMINE AGONIST เป็นหลัก (การใช้ยาแต่ละชนิดขึ้นกับการวินิจฉัยจากแพทย์ ตามความเหมาะสม)
  • ทำกายภาพบำบัด จุดมุ่งหมายของการดูแลและรักษาก็คือ ให้ผู้ป่วยคืนสู่สภาพชีวิตที่ใกล้เคียงคนธรรมดาที่สุด สามารถเข้าสังคมได้อย่างยอดเยี่ยม สุขสบายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งมีหลักแนวทางปฏิบัติกล้วยๆคือ

ก) ฝึกการเดินให้เบาๆก้าวขาแม้กระนั้นพอดิบพอดี โดยการเอาส้นเท้าลงเต็มอุ้งเท้า รวมทั้งแกว่งไกวแขนไปด้วยขณะเดินเพื่อช่วยสำหรับการทรงตัวดี ยิ่งไปกว่านี้ควรจะหมั่นจัดท่าทางในอิริยาบถต่างๆให้ถูกสุขลักษณะ รองเท้าที่ใช้ควรจะเป็นแบบส้นเตี้ย แล้วก็พื้นต้องไม่ทำมาจากยาง หรือสิ่งของที่เหนียวติดพื้นง่าย
ข) เมื่อถึงเวลานอน ไม่สมควรให้นอนเตียงที่สูงเหลือเกิน เวลาจะขึ้นเตียงจำต้องเบาๆเอนตัวนอนลงตะแคงข้างโดยใช้ศอกกระทั่งถึงก่อนชูเท้าขึ้นเตียง
ค) ฝึกการพูด โดยพี่น้องจะต้องให้ความเข้าอกเข้าใจค่อยๆฝึกคนไข้ และก็ควรจะทำในสถานที่ที่สงบเงียบ

  • การผ่าตัด โดยมากจะได้ประสิทธิภาพที่ดีในคนไข้ที่แก่น้อย และก็มีอาการไม่เท่าไรนัก หรือในคนที่มีลักษณะอาการเข้าแทรกจากยาที่ใช้มาเป็นเวลานานๆอาทิเช่น อาการสั่นที่ร้ายแรง หรือมีการเคลื่อนแขน ขา มากไม่ปกติจากยา ปัจจุบันมีการใช้แนวทางกระตุ้นกระแสไฟฟ้าที่สมองส่วนลึกโดยผ่าตัดฝังไว้ภายในร่างกาย พบว่าเป็นผลดี แม้กระนั้นรายจ่ายสูงมาก ผู้เจ็บป่วยโรคพาร์กินสัน ควรต้องได้รับการดูแลใส่ใจจากคนรอบข้างในการพัฒนาฟื้นฟูด้านร่างกาย รวมทั้งจิตใจ ด้วยเหตุนั้นหากท่านมีคนใกล้ชิดที่เป็นโรคจำพวกนี้ ควรต้องรีบนำมาเจอหมอเพื่อรับการวินิจฉัยโรคอันจะนำมาซึ่งการดูแลรักษาที่ถูกและก็เหมาะสมต่อไป
  • การติดต่อของโรคพาร์กินสัน เพราะว่าโรคพาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สมองเกิดการตาย และก็ทำให้สารสื่อประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายมีปริมาณต่ำลง จึงนำมาซึ่งอาการต่างๆของโรค ซึ่งไม่สามารถที่จะติดต่อจากคนสู่คน หรือ จากสัตว์สู่คนได้ (แต่สามารถถ่ายทอดทางจำพวกกรรมไปสู่บุตรหลานได้)
  • การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน คนป่วยและญาติสามารถดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ตลอด ดังต่อไปนี้
  • ติดตามรักษากับแพทย์บ่อยๆ
  • กินยาควบคุมอาการจากที่หมอชี้แนะให้ใช้
  • กินอาหารประเภทที่มีกากใยเพื่อช่วยลดท้องผูก
  • หมั่นฝึกหัดบริหารร่างกาย โดยการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำเป็น อย่านอนหรือนั่งนิ่งๆรวมทั้งแนวทางการทำงานกิจวัตร บริหารร่างกาย เพื่อเพิ่มความคล่องตัวแล้วก็ความยืดหยุ่นของกล้าม ลดเกร็งแล้วก็ปรับการเลี้ยงตัวให้ดียิ่งขึ้น เป็นต้นว่า การเดิน วิ่งเหยาะๆรำไท้วางท่า หรือเต้นแอโรบิก    ฝึกหัดเดิน ยืนยืดตัวตรง วางเท้าห่างกัน ๘-๑๐ นิ้ว นับจังหวะก้าวเท้าแกว่งไกวแขน เสมือนเดินสวนสนามหรือเดินก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ เมื่อใดที่ก้าวไม่ออกให้จังหวะกับตนเองกระดกข้อเท้าแล้วก้าวเดิน    ฝึกพูดโดยให้คนไข้เป็นข้างกล่าวก่อน หายใจลึกๆแล้วออกเสียงให้ดังกว่าที่ตั้งใจไว้
  • รอบๆทางเท้าหรือในส้วมต้องมีราวเกาะและไม่วางของขวางทางเดิน
  • การแต่งตัว ควรจะใส่เสื้อผ้าที่ถอดใส่ง่าย เป็นต้นว่า กางเกงเอวยางยืด เสื้อติดแถบกาวแทนกระดุม
  • วงศ์ญาติ ควรที่จะเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ระแวดระวังการเกิดอุบัติเหตุ อาทิเช่น การเดินหกล้ม ฯลฯ

สิ่งจำเป็นก็คือ คนสนิทของคนป่วยและเครือญาติ ควรจะศึกษาและก็ทำความเข้าใจคนป่วยพาร์กินสัน  แม้จะมีข้อมูลว่าการดื่มกาแฟ การสูบยาสูบ การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน(ในสตรีวัยหมดประจำเดือน) จะช่วยลดการเกิดโรคพาร์กินสันได้ แต่ว่าก็ไม่เสนอแนะ ด้วยเหตุว่ามีโทษทำให้เกิดโรคอื่นๆที่น่าสยดสยองเป็นโทษต่อชีวิตได้มากกว่า

  • การป้องกันตนเองจากโรคพาร์กินสัน เพราะเหตุว่ามูลเหตุที่จริงจริงของการเกิดโรคพาร์กินสันยังไม่ทราบแจ้งชัด โดยเหตุนั้นการป้องกันเต็มที่จึงเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าบางการเรียนพบว่า การกินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ในจำนวนที่สมควร โดยจำกัดของกินกรุ๊ปไขมันและเนื้อแดง (เนื้อของสัตว์เลือดอุ่น) จำกัดของกินในกรุ๊ปสินค้าจากนม รับประทานผัก ผลไม้มากขึ้นให้มากมายๆเหตุเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อาจช่วยลดจังหวะกำเนิดอาการ หรือ ลดความร้ายแรงจากอาการโรคนี้ลงได้บ้าง นักค้นคว้าแห่งแผนกแพทยศาสตร์ Chapel Hill มหาวิทยาลัยนอร์ธแคโลไรนาได้คิดแนวทางทดลองแบบง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ รวมทั้งทำเสร็จภายในช่วงระยะเวลาเพียงแต่ ๑ นาที

แนวทางทดลองดังกล่าวมี 3 ขั้นตอนกล้วยๆคือ

  • ให้ผู้เจ็บป่วยยิ้มให้ดู
  • ให้ยกแขนขึ้น 2 ข้างและให้ค้างเอาไว้
  • ท้ายที่สุดให้คนป่วยกล่าวประโยคกล้วยๆให้ฟังสักประโยค

นักวิจัยทดลอง ด้วยการให้คนที่เคยมีลักษณะอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นตัวแสดงร่วมกับคนปกติผู้อื่นรวมแล้ว ๑๐๐ คน แล้วหลังจากนั้นให้อาสาสมัครสมมุติตัวเป็นคนผ่านมาเจอเรื่องที่มีคนไข้กำเนิดอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ให้อาสาสมัครลองทดลองด้วยคำสั่งข้างต้นกับศิลปินทั้ง ๓ ข้อ เวลาเดียวกันก็โทรศัพท์บอกผลของการทดลองให้นักวิจัยทราบ โดยผู้ทำการวิจัยอยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งไม่เห็นท่าทีหรือการแสดงออกของคนที่สงสัยจะมีลักษณะอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ผลที่ออกมาพบว่า นักวิจัยสามารถแยกคนไข้ออกจากคนธรรมดาได้อย่างเที่ยงตรงถึงปริมาณร้อยละ ๙๖ ทีเดียว โดยแยกอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง (facial weakness) ได้ปริมาณร้อยละ ๗๑ แยกกล้ามแขนเหน็ดเหนื่อยได้ถึง ปริมาณร้อยละ ๙๕ และแยก  ประสาทกลางสถานที่ทำงานไม่ดีเหมือนปกติทางคำกล่าวได้ปริมาณร้อยละ ๘๘ ซึ่งนับได้ว่าถูกต้องแม่นยำมากภายในสถานการณ์ที่พยาบาลไม่อยู่ในจุดเกิดเหตุ

  • สมุนไพรที่ช่วยปกป้อง/รักษาโรคพาร์กินสัน สารสกัดจากบอระเพ็ด ชื่อ columbamine เป็นสารกรุ๊ปอัลคาลอยด์ ที่มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า สามารถยั้งฤทธิ์ของเอ็นไซม์ชื่อ acetyl cholinesterase ได้สูงมากมาย ซึ่งการยับยั้งเอนไซม์ acetyl cholinesterase เป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการเป็นยารักษาคนป่วยสมองเสื่อม (Senile dementia), คนป่วยความจำไม่ดี (Alzheimer’s diseases), โรคพาร์กินสันที่มีภาวการณ์สมองเสื่อมร่วมด้วย (Parkinson’s disease with dementia, PDD) อาการเซ หรือ ภาวการณ์กล้ามเนื้อเสียการร่วมมือ (Ataxia) แล้วก็โรคกล้ามเนื้ออ่อนกำลัง (myasthenia gravis)

               ผลของการรักษาด้วยบอระเพ็ดในคนไข้พาร์กินสัน สอดคล้องกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่มีการค้นพบในงานศึกษาเรียนรู้วิจัย โดยได้ผลสำหรับในการรักษาแน่ชัดในด้านภาวการณ์รู้คิด     การกระทำโดยรวมและก็ อาการทางประสาทดียิ่งขึ้นในภาวะโรคสมองเสื่อมที่เจอในคนป่วยพาร์กินสัน เพราะเหตุว่าโรคพาร์กินสันเมื่อมีการดำเนินของโรคมานาน 5-10 ปี จะเกิดความเสื่อมของสมองในส่วนอื่นๆตามมา นำไปสู่ความไม่ปกตินอกเหนือจากการเคลื่อนไหว ดังเช่นว่า การนอน ความแตกต่างจากปกติทางด้านอารมณ์และจิตใจ ภาวะย้ำคิดย้ำทำ อาการเศร้าหมอง วิตก เป็นต้น
                แต่ยังไม่มีข้อมูลในทางคลินิก หรือการศึกษาในคนเจ็บกลุ่มโรคดังที่กล่าวถึงแล้วอย่างมีระบบ ชี้แนะถ้าเกิดพอใจใช้บอระเพ็ด ควรจะใช้ในแง่เสริมการดูแลและรักษาพร้อมกันกับยาแผนปัจจุบันเป็นหลัก และควรจะมีตอนที่หยุดยาม้าง เป็นต้นว่า ชี้แนะใช้ยาเดือนเว้นเดือน หรือ 2-3 เดือน เว้น 1 เดือน
ยิ่งกว่านั้นข้อควรคำนึงหมายถึงห้ามใช้บอระเพ็ดในผู้ที่มีภาวะเอนไซม์ตับบกพร่อง หรือคนป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับ หรือโรคไตรุนแรง ผู้ที่มีลักษณะท่าทางความดันโลหิตต่ำเกินความจำเป็น หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ สตรีตั้งครรภ์ สตรีให้นมบุตร
หมามุ่ยประเทศอินเดีย เป็นสมุนไพรที่ศาสตร์อายรุเวทของอินเดีย ใช้รักษาโรคพาร์กินสันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ผลวิจัยพบว่าเม็ดหมามุ่ยประเทศอินเดีย เป็นแหล่งธรรมชาติของสาร แอล-โดขว้าง (L-dopa)พบ 3.1-6.1% และก็อาจเจอมากถึง 12.5% ซึ่งสารแอล-โดปานี้จะเป็นสารเริ่มต้นของโดพามีน โดยพบว่าสารแอล-โดปาในหมามุ่ยอินเดียมีข้อดีกว่ายาสังเคราะห์ Levodapa ตรงที่มีความแรงในการออกฤทธิ์มากยิ่งกว่า Levodopa 2-3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบในขนาดเท่ากันกับ Levodapa เดี่ยว
โดยมีการตั้งสมมุติฐานว่าในสารสกัดเมล็ดหมามุ่ยอินเดียอาจมีสารสำคัญบางตัวที่ทำหน้าราวกับ Dopamine Decarboxylase Inhibitors ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ต้องให้ร่วมกับ Levodopa เสมอ เพื่อยับยั้งเอนไซม์ Dopamine Decarboxylase ที่จะทำลาย Levodopa อันจะมีผลให้การออกฤทธิ์ของ Levodopa ต่ำลง นอกจากนี้ยังพบว่าเมล็ดหมามุ่ยประเทศอินเดียยังออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า แล้วก็มีระยะเวลาการออกฤทธิ์เป็นเวลายาวนานกว่า  Levodopa/Carbidopa
แม้กระนั้นยังไม่มีข้อมูลในการศึกษาเรียนรู้ทางคลินิกแล้วก็การศึกษาในคนป่วยโรคพาร์กินสัน ด้วยเหตุนั้นจำเป็นที่จะต้องรอให้มีการทำการศึกษาเรียนรู้เพิ่ม รวมทั้งมีผลการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยยืนยันว่าปลอดภัยก่อนจะใช้
เอกสารอ้างอิง

  • นพ.อัครวุฒิ วิริยเวชกุล.โรคพาร์กินสัน.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่382.คอลัมน์ โรคน่ารู้.กุมภาพันธ์.2554
  • ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์.โรคพาร์กินสันกับผู้สูงอายุ.ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
  • Kedar, NP. (2003). Can we prevent Parkinson,s and Alzheimer,s disease?. Journal of Postgraduate Medicine. 49, 236-245.
  • หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2. “โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 641-645.
  • Parkinson’s disease, in Harrison’s Principles of Internal Medicine, 17th edition, Braunwald , Fauci, Kasper, Hauser, Longo, Jameson (eds). McGrawHill, 2008 (electronic book). http://www.disthai.com/[/b]
  • โรคพาร์กินสัน.วิกิพีเดียสารานุกรม
  • โรคพาร์กินสัน-โรคสั่นสันนิบาต.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่219.คอลัมน์โรคน่ารู้.กรกฎาคม.2540
  • พญ.สลิล ศิริอุดมภาส.โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) .หาหมอ.com
  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ