Advertisement
ชะมดเชีย[/size][/b]
ชะมดเชียงเป็นสัตว์หลากหลายประเภทในสกุล Moschus จัดอยู่ในสกุล Cervidae (ในความหมายหนึ่งของคำ “เชียง” หมายความว่าที่สูง) หนังสือเรียนบางเล่มเรียกสัตว์เหล่านี้ว่า กวางชะมด ตามชื่อสามัญที่เรียก musk deer แต่ว่าชะมดเชียงมีลักษณะหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับ
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87/]กวา[/b] ตัวอย่างเช่น ลำตัวมีขนาดเล็กถึงปานกลาง ตัวผู้มีเขี้ยวใหญ่แล้วก็ยาวมาก ข้างบนของกะโหลกไม่มีปุ่มกระดูกที่ทำหน้าที่เป็นฐานรองรับโคนเขา
ชีววิทยาของชะมดเชียงชะมดเช็ดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีกีบคู่ รูปร่างเหมือนสัตว์ประเภทกวาง มีขนาดเล็ก วัดจากปลายจมูกถึงตูด ๘๐-๑๐๐ ซม. น้ำหนักตัว ๗-๑๗ กก. หัวเล็ก ไม่มีเขา เพศผู้มีเขายาวคล้ายใบมีด ยื่นพ้นฝีปากบนอย่างชัดเจน ตัวเมียมีเขี้ยวสั้นมากมายไม่ยื่นออกมาเสมือนตัวผู้ ใต้ลำคอมีแถบขนสีขาว ๑-๒ แถบ ขนบนลำตัวค่อนข้างจะหยาบ สีลำตัวเปลี่ยนแปลงไปสุดแต่ประเภทมีตั้งแต่ว่าสีน้ำตาลอมเหลือง น้ำตาลเข้มจนถึงสีคล้ำเกือบจะดำ ใต้ท้องสีจางกว่าลางจำพวกมีจุดสีจางๆบนด้านข้างของลำตัวมีถุงน้ำดี นมมี ๑ คู่ ขาคู่ขี้เกียจมากกว่าขาคู่หน้าราว ๕ เซนติเมตร กีบเท้ายาวเรียว เพศผู้เมื่อโตสุดกำลังมีต่อมคล้ายถุงอยู่ระหว่างของลับกับสะดือสำหรับผลิตสารที่มีกลิ่น ลักษณะเป็นน้ำมันคล้ายวุ้นสีน้ำตาลปนแดง เมื่อแห้งจะเป็นก้อน รวมทั้งกลายเป็นสีดำ เรียกชะมดเชียงหรือ musk ซึ่งแบบเรียนหลายเล่มเขียนผิดว่า ชะมดเช็ดได้จากอัณฑะ(testes) ของสัตว์พวกนี้ชะมดเช็ดที่ใช้เครื่องยาที่เรียก ชะมดเชียง เช่นกันนั้น บางทีอาจได้จากสัตว์ ๔ ประเภท เป็น
๑.ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Moschus moschiferus Linnaeus ชนิดนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดลำตัว ๕๕-๖๐ เซนติเมตร ลำตัวสีน้ำตาลเข้ม มักมีลายจุดรวมทั้งขีดสีจางกว่าบนลำตัว ขนค่อนข้างจะยาวและก็อ่อนนุ่ม คอมีแถบสีขาวพาดตามยาว ๒ แถบ กระดูกขายาวกว่าชนิดอื่นๆลูกชะมดเชียงชนิดนี้มีลายจุดรวมทั้งขีดสีขาวเด่นทั้งตัว พบอาศัยอยู่ในดินแดนไซบีเรียจนถึงเกาะแซ็กคาลินในประเทศรัสเซีย มองดูโกเลีย ประเทศเกาหลี รวมทั้งจีนภาคเหนือ
๒.ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Moschus chrysogaster (Hodgson) ขนาดลำตัว ๕๐-๕๖ ซม. หัวกะโหลกหัวมีส่วนปากยาวกว่าประเภทอื่น ลำตัวสีน้ำตาลเหลือง มีประสีจาง ไม่ชัดเจนนัก ปลายใบหูสีเหลือง ลำคอมีแถบกว้างสีขาวเพียงแค่แถบเดียวชนิดย่อยที่พบในเมืองสิกขิมของประเทศอินเดียและเนปาล มีลำตัวสีน้ำตาลคล้ำเกือบดำ ไม่มีแถบสีขาวที่คอ อาศัยอยู่ตามพื้นที่สูงแถบเทือกเขาหิมาลัยและก็แนวเขาใกล้เคียงในประเทศอัฟกานีสถานที่ ประเทศปากีสถาน ภาคเหนือของอินเดีย (ในเมืองชัมมูและกัศมีร์กับเมืองสิกขิม) ภูฏาน เนปาล และภาคตะวันตกของจีน
๓.ประเภทที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Moschus fuscus Li ขนาดลำตัว ๕๐-๕๓ เซนติเมตร ลำตัวสีดำเข้ม ไม่มีสีจางบนลำตัว มักอยู่ตามหุบเขาลึก ริมแม่น้ำในเขตยุนหนานของจีนรวมทั้งเขตปกครองตนเองประเทศทิเบต พม่าทางเหนือ เนปาล เมืองสิกขิมของประเทศอินเดีย รวมทั้งภูฏาน
๔.จำพวกที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Moschus berzovskii Flerov ประเภทนี้หนขนาดเล็กที่สุด ขนาดลำตัวสั้นกว่า ๕๐ ซม. ลำตัวสีน้ำตาลเข้ม มีจุดละเอียดสีน้ำตาลเหลืองประตลอดลำตัว คอมีลายแถบสีขาว ๒ แถบ ปลายใบหูมีสีดำ พบอาศัยอยู่ในป่าทึบของจีน ตั้งแต่ภาคตะวันตก ภาคใต้ ไปกระทั่งถึงชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ และในภาคเหนือของประเทศเวียดนาม
ชะมดเชียงเป็นสัตว์ประหม่ามักซุกซ่อนตัว มีประสาทรับเสียงดีมาก เมื่อตกใจจะกระโจนหนีไปอย่างเร็ว ในตอนเวลาเช้ารวมทั้งเย็นจะออกจากแหล่งที่พักนอน ซึ่งเป็นตามซอกหินหรือขอนไม้เพื่อทำมาหากิน อาทิเช่น ดอกไม้ ใบไม้ ยอดอ่อนของพืช และต้นหญ้า ในช่วงฤดูหนาวจะกินกิ่งไม้เล็กๆมอส และก็ไลเคนเหมือนปกติอยู่โดดเดี่ยวทั้งปี นอกจากกลุ่มของชะมดเชียงตัวเมียกับลูกแค่นั้นในเขตที่อาศัยมีทางเดินติดต่อกันระหว่างแหล่งอาหาร แหล่งหลบภัย รวมทั้งที่ถ่ายมูลหลังจากที่ถ่ายมูลจะใช้ขาคู่หน้าเขี่ยดินกลบ
[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/u][/url] ชะมดเช็ดตัวผู้แสดงเส้นเขตโดยเอากลิ่นจากต่อมทาไว้ตามต้นไม้ กิ่งไม้ และหิน พิจารณาได้จากคราบน้ำมันที่ติดอยู่รู้เรื่องว่ากลิ่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังคงใช้เป็นสื่อให้ตัวเมียเข้ามาหาด้วย
ฤดูสืบพันธุ์ของชะมดเชียงอยู่ในราวพ.ย.ถึงเดือนธันวาคม เพศผู้วิ่งไล่ต้อนตัวเมียแล้วก็สู้กับเพศผู้ตัวอื่นๆเพื่อแย่งชิงตัวเมีย เขี้ยวที่ยาวอาจส่งผลให้กำเนิดบาดแผลฉกรรจ์บนคอและบนแผ่นข้างหลังของคู่ปรับ ในตอนนี้ตัวผู้เกือบจะไม่กินอาหารเลย ทั้งตื่นตัวอยู่ตลอดระยะเวลาแล้วก็วิ่งไปมาในรอบๆกว้าง เมื่อสิ้นสุดฤดูสืบพันธุ์จึงจะกลับไปอาศัยอยู่รอบๆที่อยู่เดิมอีกทีหนึ่ง เมื่อสืบพันธุ์แล้ว ตัวเมียจะตั้งครรภ์นาน ๑๕๐-๑๘๐ วัน โดยปรกติจะออกลูกทีละตัว ลูกอ่อนเมื่อทารกมีน้ำหนัก ๖๐๐-๗๐๐ กรัม ลำตัวมีจุดรวมทั้งขีดสีขาวปิดบังหมดทั้งตัว ในตอนอาทิตย์แรก ลูกชะมดเชียงซุกตัวนิ่งอยู่ตามซอกหินหรือตามพุ่มทึบ ตัวเมียเข้าไปให้นมลูกเป็นบางโอกาส ในระหว่างกินนมลูกจะใช้ขาหน้าเกาะเขี่ยขาคู่ข้างหลังของแม่อยู่ตลอดเวลาเพื่อกระตุ้นให้น้ำนมไหล พฤติกรรมแบบนี้ไม่เจอในสัตว์พวกกวาง เมื่ออายุได้รา ๑ เดือน จึงออกไปหารับประทานกับแม่ ชะมดเชียงแก่ ๘-๑๒ ปี ถิ่นที่อยู่ส่วนใหญ่เป็นป่าที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน มักเป็นป่าสนหรือป่าผลัดใบที่รกทึบบนเทือกเขาหิน ในเขตหนาวและเขตอบอุ่นของซีกโลกภาคเหนือ ตั้งแต่ประเทศรัสเซีย มองโกเลีย เกาหลี จีน ลงมาถึงตามประเทศที่อยู่ตามแนวแนวเขา ในภูมิภาคทวีปเอเชียใต้ อาทิเช่น อัฟกานีสถานประเทศปากีสถาน ตอนเหนือของประเทศอินเดีย เมืองสิกขิม ภูฏาน เนปาล รวมทั้งภูมิภาคในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่พม่าจนถึงเวียดนาม
ประโยชน์ทางยาสรรพคุณทางโบราณว่า ชะมดเชียงมีรสหอมเย็นรวมทั้งคาวเล็กน้อย ใช้ปรุงเป็นยาชูกำลังแล้วก็บำรุง ดวงใจไม่ให้หม่นหมอง ใช้ผสมในยาแผนไทยต่างๆหลายขนาน ยกตัวอย่างเช่นยาแก้ลมยาแก้เจ็บคอยาแก้ไข้หนาวสั่น ยาแก้โรคเกี่ยวกับข้อ แก้อาการเกร็งของกล้ามในโรคไอกรน แต่ว่ามักใช้ในปริมาณน้อย ด้วยเหตุว่าราคาแพงแพงและก็หายาก ชะมดเชียงมีองค์ประกอบทางเคมี ชื่อสาร มัสโคลน(muscone)ยิ่งกว่านั้นยังมีชัน(resin)คอเลสเตอรีน(cholesterin) โปรตีนไขมันและสารอื่นๆอีกหลากหลายประเภท ใช้ในอุตสาหกรรมทำน้ำหอม