สัตววัตถุ ไก่ป่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ไก่ป่า  (อ่าน 29 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2017, 12:33:27 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2.jpg" alt="" border="0" />
ไก่ป่[/b]
ไก่ป่าฯลฯเชื้อสายของไก่บ้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus (Linnaeus)
อยู่ในสกุล Phasianidae
มีชื่อสามัญว่า red jungle fowl
มีถิ่นเกิด แถบเอเชียใต้ (ศรีลังกาและก็ประเทศอินเดีย) มาทางตะวันออก จนกระทั่งหมู่เกาะมลายู
ไก่ป่าที่เจอในประเทศไทยมีเพียงแต่ประเภทเดียวคือ Gallus gallus (Linnaeus) จำพวกนี้มีหน้าสีแดง ไม่มีขน หงอนสีแดง มีเหนียงสีแดงรวมทั้งติ่งหูอย่างละคู่ ขนบริเวณคอ ข้างหลัง ถึงสะโพกมีสีส้ม ขนปีกสีเขียววาวขลิบสีส้มใต้ท้องสีน้ำเงินดำ หางโค้งลาด ปลายพริ้ว สีเขียวแซมดำรวมทั้งสีน้ำเงินเข้มวาว ความยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๖๐ เซนติเมตร เพศผู้หนัก ๘๐๐ – ๑๓๐๐ กรัม ไก่ป่าเพศผู้มีลักษณะสำคัญที่ไม่เหมือนกับนกอื่นๆเป็น
๑.มีหงอนบนหัวที่เป็นเนื้อ ไม่ใช่หงอนที่เป้นขน
๒.มีเหนียงเป็นเนื้อแขวนลงมาทั้งสองข้างของโคนปากและก็คาง
๓.มีหน้าแล้วก็คอเป็นหนังเกลี้ยงๆ ไม่มีขน
๔.โดยปกติขนเรียกตัวมีสีสวยสดงดงาม มีขนหาง ๑๔ – ๑๖ เส้นตั้งเรียงกันเป็นสันสูงตรงกลาง คู่กลางยาวกว่าคู่ อื่น ปลายแหลมและก็อ่อนโค้ง เรียก หางกะลวย
๕.ลำแข้งมีเดือยข้างละอันเป็นอาวุธ
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/]ไก่ป่[/b]ตัวเมียมักมีขนาดเล็กกว่าเพศผู้ ขนไม่งาม สีไม่จัดจ้า แข้งไม่มีเดือย หงอนและก็เหนียงเล็กมาก หรือบางตัวดูเหมือนจะเป็นศูนย์ ไก่ป่าอาศัยตามพุ่มเล็กๆในป่าทั่วๆไป บินได้เร็ว แต่ในระดับต่ำๆและระยะทางสั้นๆเป็นปกติอยู่เป็นฝูงใหญ่หมดทั้งตัวผู้แล้วก็ตัวเมียรวมกันราว ๕๐ ตัว แต่จะแยกเป็นฝูงเล็กๆในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งตัวผู้จำต้องต่อสู้กันเพื่อครองพื้นที่แล้วก็ช่วงชิงตัวเมียกันตัวละ ๓ – ๕ ตัว หลังสืบพันธุ์แล้วตัวเมียจะทำรังเป็นหลุมตื้นๆบนพื้นดินหรือบนกองใบไม้แห้งๆในที่ปลอดภัย  แล้ววางไข่คราวละ ๕ – ๖ ฟอง ไข่สีขาวหรือน้ำตาล ใช้เวลาฟักราว ๒๑ วัน ลูกไก่ป่าอายุ ๘ วันก็เริ่มบินเกาะตามก้านไม้ได้ และก็เมื่ออายุโดยประมาณ ๑๐ วัน ก็เริ่มบินได้ในระยะทางสั้นๆ

ไก่ป่าที่พบในประเทศไทยมี ๒ จำพวกย่อย คือ
๑. ไก่ป่าติ่งหูขาว หรือ ไก่ป่าอีสาน (Cochin Chinese red jungle foml) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus gallus (Linnaeus) มีติ่งหูสีขาว พบได้ทั่วไปทางภาคทิศตะวันออกและก็ภาคอีสาน
๒. ไก่ป่าติ่งหูแดง หรือ ไก่ป่าจำพวกพม่า (Burmese red jungle fowl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus  spadiceus (Bonnaterre) มีติ่งหูสีแดง มักพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และก็ภาคใต้
สรรพคุณทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
โบราณไทยใช้ตับไก่เป็นทั้งของกินและก็เป็นยา  หนังสือเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณบันทึกไว้ว่า  ตับไก่ใช้แก้โรคตาฝ้าตาฟาง ตอนนี้พึ่งจะรู้ว่าโรคนี้มีเหตุที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ ซึ่งพบได้บ่อยในตับไก่ แพทย์แผนไทยรู้จักใช้เปลือกไก่ฟัก ไข่แดง ตับไก่ และเล็บไก่ป่า เป็นเครื่องยามาเป็นเวลายาวนานแล้ว แบบเรียนโบราณว่า ไข่แดงมีรสมัน คาว มีคุณประโยชน์บำรุงกำลังสร้างความเจริญให้แก่ร่างกาย ตับไก่มีรสมัน คาว มีสรรพคุณบำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง แก้โรคตาฝ้าตามัว รวมทั้งเล็บไก่ป่าใช้แก้พิษไข้ ไข้รอยดำ ไข้หัวทุกชนิด ยิ่งกว่านั้นไข่ขาวยังใช้เป็นตัวยาปรุงแต่งทางการปรุงยาสำหรับทำยาขี้ผึ้ง ตามที่ปรากฏในยาขนานที่ ๗๙ ใน แบบเรียนพระยารักษาโรคพระนารายณ์ ดังต่อไปนี้
ขนานหนึ่ง ให้เอาพิมเสน ๒ สลึง การบูร ๓ สลึง มาตะกี่ ๕ สลึง ชันตะคียน กำยาน สิ่งละ ๗ สลึง สีผึ้งขาว ๑๐ ตำลึง น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวอันใหม่ดีนั้นครึ่งทนาน ต้มขึ้นด้วยกันให้สุกดี  แล้วกรองกากออกเสีย เอาไว้ให้เย็น จึงเอาไข่ไก่ เอาแต่ไข่ขาว ๒ ลูก เอาสุรากลั่นราวจอกหนึ่ง กวนกับไข่ให้สบกันดี แล้วจึงแบ่งออกให้เป็น ๓ ภาคๆหนึ่งนั้น เอาน้ำทะแลงไซ้ ๓ สลึง การบูร ๓ สลึง กวนเข้าด้วยกันให้สบก็ดีแล้ว เป็นสีผึ้งแดง ก็เลยเอาสีผึ้งขาวภาค ๑ นั้น มากวนด้วยจุที่สีพอสมควร เป็นสีปากเขียว ภาคหนึ่งเป็นขี้ผึ้งขาว ปิดแก้เพ่งดูม์ แสบร้อนให้เย็น



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ