Advertisement
อันที่จริงโรคภัยอันตรายร้ายแรงของผู้หญิงโดยเฉพาะก็มีไม่กี่โรคหรอกค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือมะเร็งปากมดลูก ที่หลายๆ คนแอบสงสัยว่าตัวเองกำลังเสี่ยง หรือกำลังจะเป็นมะเร็งปากมดลูกอยู่หรือเปล่า เวลาปวดท้องประจำเดือนหนักๆ ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยโรคนี้หรือไม่ Sanook! Health หาคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
10 สัญญาณเตือนภัย “มะเร็งปากมดลูก”
1. มีเลือดออกจากช่องคลอดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เช่น ขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ หลังตรวจภายใน
2. ยังคงมีเลือดออกจากช่องคลอด หลังหมดประจำเดือนแล้ว หรือประจำเดือนมากะปริดกะปรอยผิดปกติ
3. มีตกขาวอย่างเห็นได้ชัด และอาจมีเลือดปน
4. มีอาการเจ็บ ขณะมีเพศสัมพันธ์
5. มีสารคัดหลั่งออกมาจากช่องคลอดมากผิดปกติ หรืออาจปนเลือด
6. ปัสสาวะบ่อย หรืออาจปวดบวม ปัสสาวะไม่ออก
7. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
8. เบื่ออาหาร ซูบผอม น้ำหนักลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
9. ปวดท้องน้อย
10. หากอาการรุนแรงขึ้น อาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ขาบวม ปวดหลัง ปัสสาวะมีเลือดปน เป็นต้น
จะเห็นว่าอาการที่เห็นได้ชัดเจน คือมีเลือดออกจากช่องคลอดขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงอาการตกขาวที่อาจมีเลือดปนนะคะ หากพบอาการดังกล่าว บวกกับอาการในข้ออื่นๆ ด้วยแล้วล่ะก็ พบแพทย์โดยด่วนเลยนะคะ แต่ถึงแม้จะเป็นมะเร็งปากมดลูก ก็ยังมีวิธีป้องกันด้วยนะ
มะเร็งปากมดลูกพบได้ในใครบ้าง ?
จากข้อมูลหนึ่งที่มีความน่าสนใจ โดยเป็นข้อมูลที่มาจากการสำรวจสถิติทั่วโลกพบว่า มะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นโรคมะเร็งอันดับที่ 2 ที่จะพบได้ในเพศหญิงรองลงมาจาก มะเร็งเต้านม ซึ่งข้อมูลนี้ก็รวมถึงในประเทศไทยด้วย อีกทั้ง มะเร็งปากมดลูกก็ยังเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 30 - 70 ปี พบมากในช่วงอายุ 45 - 55 ปี แต่ก็ไม่ได้มีการตรวจพบในผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีลงไป และผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป
ระยะของการเกิดมะเร็งปากมดลูก
ระยะเริ่มต้น หรือระยะที่ 0
เป็นระยะเริ่มแรกก่อนที่จะกลายเจียรเป็นมะเร็ง เป็นระยะที่เซลล์ของปากมดลูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็สามารถตรวจพบได้ลูกจากการตรวจแป๊บเสมียร์ ซึ่งหากเป็นการตรวจร่างกายธรรมดาก็ไม่อาจพบความผิดปกติได้
ระยะที่ 1
เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งเริ่มก่อตัวขึ้นเฉพาะที่บริเวณปากมดลูกเท่านั้น
ระยะที่ 2
เป็นระยะในมะเร็งจะลุกลามออกลูกจากบริเวณปากมดลูกไปยังบริเวณช่องคลอดส่วนบน หรือไม่ก็ที่บริเวณอุ้งเชิงกราน แต่ยังไม่ลุกลามไปจนถึงบริเวณผนังอุ้งเชิงกราน
ระยะที่ 3
เป็นระยะที่มะเร็งปากมดลูกจะลุกลามเจียรจนติดผนังอุ้งเชิงกราน ไม่ใช่หรือก้อนมะเร็งนั้นอาจมีการกดทับบริเวณท่อไต ทำมอบให้การทำงานของไตเสื่อมลงจนไตด้านนั้นๆ ไม่ทำงาน (อาจเกิดขึ้นได้กับไตทั้ง 2 ข้าง)
ระยะที่ 4
เป็นระยะที่มะเร็งปากมดลูกจะลุกลามเข้าไปสู่อวัยวะข้างเคียง ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ และ/หรือลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ไม่ใช่หรือเซลล์มะเร็งนั้นอาจกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ อาทิ กระดูก ปอด สมอง และ/หรือต่อมน้ำเหลือง
วิธีป้องกัน มะเร็งปากมดลูก
1. ตรวจ
สุขภาพ หามะเร็งปากมดลูกปีละครั้ง เพราะเฉพาะผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
2. ผู้หญิงที่ใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ควรตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 6 เดือน
3. ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
4. ดูแลรักษาสุขภาพแจกแข็งแรง หมั่นสังเกตอาการผิดปกติข้าวของร่างกายอยู่เสมอ
5. ข่าวดีคือ มีวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นได้ติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอฉีดวัคซีนได้ค่ะ
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และตรวจภายในเพื่อหามะเร็งปากมดลูกกันด้วยนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้นะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://health.sanook.com/2509/คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
กรดไหลย้อนTags : การดูแลสุขภาพ