วิวัฒนาการสิ่งน่าทึ่งสรรพสิ่งหลอดไฟ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิวัฒนาการสิ่งน่าทึ่งสรรพสิ่งหลอดไฟ  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2017, 04:00:10 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


 
ตั้งแต่หนหลังจนถึงช่วงปัจจุบันเจ้าหลอดใสๆ ก็ให้รัศมีแก่มนุษย์ในยามราตรีได้รวมหมด เริ่มขนมจากเมื่อร้อยกว่าปีเพรงที่หลอดไฟเริ่มมีบทบาทในการดำรงชีพของเรา และใช้ต่อเนื่องมาถึงช่วงปัจจุบัน มีการเพิ่มขึ้นต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ หมดหนทางมาถึงหลอดไฟ LED ในปัจจุบัน กับมีแนวโน้มในการพัฒนาไปอีกในภายภาคหน้า วันนี้เราจึงมีถนนการพันาของเจ้าหลอดไฟนี้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ มาเริ่มกั้นในยุคปฐมภูมิเลยค่ะ หมายความว่า
 
 ยุคหลอดไส้ ไม่ก็ชื่ออย่างเป็นทางราชการว่า หลอด Incandescent
ร้อยกว่าปีมาแล้ว ที่เชื้อสายนักวิทยาศาสตร์พบหลอดไส้ แต่น่าเสียดายว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่อาจทำได้จริง จวบจนถึง โทมัส เอวา เอดิสัน ก็ได้นำกรอบความคิดที่ว่านี้ มาปฏิรูปต่อจนประสบผลสำเร็จ และในภายต่อมา เขาก็ทำเป็นค้นพบวิธีการสร้าง หลอดไฟ หลอดแรก ของโลก เพราะว่าเป็นหลอดไส้ ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งต่อมาก็ได้รับความชื่นชอบไปทั่วโลก แต่ก็ยังมีจุดด้อยตรงที่ว่า หลอดไส้ของโทมัสสามารใช้งานได้เจ็ดชั่วโคตรที่สุดแค่ 13 ชม. เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจึงคิดค้นวิธีที่จะทำให้มีระยะการใช้งานที่จำเนียรขึ้น ด้วยกันในที่สุดก็ได้พัฒนาเป็นหลอดไส้แบบทังสเตนที่เป็นได้ทนความร้อนได้สูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส ทำให้ใช้งานได้จำเนียรขึ้นจาก 13 ชม. เป็น 1,000 - 3,000 ชม.

ยุคหลอดก๊าซปรอท หลอดไฟยุคกลาง (ประมาณ 80 ปี โดยประมาณ)
 หลอดก๊าซปรอทหรือไม่ก็เรียกง่าย ๆ ว่า หลอดนีออน หรือไม่หลอด ฟลูออเรสเซนต์ และที่เรียกว่าหลอดก๊าซก็เพราะว่าบรรจุก๊าซไว้ข้างใน แนวง่าย ๆ ของหลอดวรรณะนี้คือ การใช้กระแสไฟไหลผ่าน บัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ (คุ้น ๆ ใช่มั้ยหล่ะ) เพื่อกระตุ้นให้ก๊าซในปรอท เกิดการเลื่อนไหลและช่างพลังงานออกมา 2 อย่าง ด้วยกัน นั่นคือ ความร้อนและแสงสว่าง แต่เพราะว่าแสงที่ได้ยังเป็นน่ากลัวต่อการแลเห็นของมานพ จึงจำเป็นต้องมาสารเคลือบฟอสฟอรัส ที่มาเคลือบที่ผิวหลอดข้างใน ด้วยให้เกิดเป็นปรากฎการณ์เรืองแสง และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก็เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกจนถึงสมัยนี้ จะมีเยอะแยะขนาด ตั้งแต่รุ่น T10 จนพัฒนามาเป็น T8 พร้อมด้วยปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ T5 กันบ้างแล้ว
** คำว่า T10 ตกว่าขนาด 10 หุ้น หมายเหตุ 1 นิ้ว มี 8 หุ้น T8 คือขนาด 8 หุ้น หรือยังมีชีวิตอยู่ขนาด 1 นิ้วพอดี T5 หรือขนาด 5 หุ้น ประมาณ 1/2 นิ้วกว่าๆ หลอดฟลูออเรสเซนต์ได้เริ่มใช้กัน ปี 1940 จนมาถึงปัจจุบันนี้ ประสิทธิภาพการให้แสงสว่างอยู่ในระดับปานกลาง รกินไฟ ปานกลาง แต่ติดตรงที่ ต้องใช้ปัลลาสต์ พร้อมทั้งบัลลาสต์ ใช้ไฟสูงถึง 10-12 W

ยุคสมัยนี้ ยุค LED ชื่อเต็มคือ Light Emitting Diode
หลอดไฟ LED ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ สิ่งของกระบิลแสงสว่าง ที่ตอนนี้กำลังเข้ามากลายเป็นระบบแสงสว่างใหม่ ของคนทั้งโลก เป็นการเพิ่มขึ้นจากแง่มุมของสารกึ่งตัวนำ ไดโอด พร้อมทั้งหลอดไฟ LED มีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันแปลงเป็นหลอดไฟที่เขียมไฟ และอัจฉริยะ เก่งทำงานได้มากมายฟังก์ชั่น ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหลอดไฟอย่างเดียว แต่ยังสามารถเข้าไปอยู่ในหน้าจอทีวี ป้ายไฟต่าง ๆ และอีกมายมาย และยังเสถียร ไม่มีการปล่อยความร้อน พร้อมด้วยแสง UV ออกมาอีกด้วย
 
ในสมัยนี้หลอดไฟก็ได้ถูกจัดเป็น 1 ข้างใน 5 เทคโนโลยีที่เด่นมัตถกะของโลก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวมายักกระสายระบบไฟฟ้าของพื้นแผ่นดิน ในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้และสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแม่นมั่น รอจับตาดูกันนะคะ ว่าจะวิวัฒน์ไปได้ไกลลิบแค่ไหน ^^
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หลอดไฟภาษาอังกฤษ

เครดิต : [url]http://www.classifiedthai.info/index.php?topic=199003.new#new[/url]

Tags : ไฟ led,หลอดไฟภาษาอังกฤษ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ