Advertisement
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7.jpg" alt="" border="0" />เจตมูลเพลิงขา[/size][/b]
ชื่อท้องถิ่นอื่น ปิดปิวขาว (ภาคเหนือ) ตั้งชู้รักอ้วย , ตอชุวา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เจตมูลเพลิงขาว (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumbaga zeylanica L.ชื่อวงศ์ PLUMBAGINACEAEชื่อสามัญ White leadwort.ลักษณะทั่วไปทางวิชาพฤกษศาสตร์ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงประมาณ 1-1.5 เมตร กิ่งอ่อนด้อยกว่าและเป็นเหลี่ยมสีเขียว แตกกิ่งก้านสาขารอบๆต้นมากไม่น้อยเลยทีเดียว
ใบ เป็นใบลำพัง ออกตรงข้ามกัน ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนานปนรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบของใบเรียบหรือเป็นคลื่นนิดหน่อย ใบมีสีเขียวเข้ม ลักษณะก็จะคล้ายกับใบมะลิแม้กระนั้นจะใหญ่มากยิ่งกว่า
ดอก ออกดอกเป็นช่อที่ส่วนยอดของต้น ดอกมีสีขาว โคนหลอดจะเป็นหลอดเล็กๆแต่ว่าส่วนปลายจะบานคล้ายจานมีอยู่ 5 กลีบ กลีบจะบางมากมาย กลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว และมีขนปกคลุมอยู่ ซึ่งขนนี้จะมีต่อมเหนียวๆติดมือ
ผล เป็นผลแห้ง ลักษณะรูปรี ยาว กลม สีเขียวและมีขนเหนียวรอบผล แตกออกได้
นิเวศวิทยามีบ้านเกิดเมืองนอนในอินเดีย และก็เขตร้อนทั่วๆไป กำเนิดตามปาสดงดิบและป่าเบญจพรรณปกติ เป็นไม้ที่ถูกใจอยู่ร่มรำไร
การปลูกรวมทั้งขยายพันธุ์เจริญเติบโตได้ดิบได้ดีในที่ที่มีอากาศร้อนชื้น และสภาพดินปกติ แพร่พันธุ์ด้วยการเพาะเม็ด หรือการปักชำกิ่ง
ส่วนที่ใช้ รส รวมทั้งสรรพคคุณ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร ราก รสร้อน ใช้เป็นยาขับเมนส์ แก้ปวดข้อ ขับพยาธิ ใช้ทาแก้ขี้กลากเกลื้อน ยับยั้งลักษณะของการปวดฟัน และแก้ท้องเดิน ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ ขับโลหิตระดู แก้ริดสีดวงทวาร ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ต้น รสร้อน แก้เลือดอันเกิดแต่กองกำเดา
ใบ รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
ดอก รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
วิธีใช้รวมทั้งปริมาณที่ใช้- ขับประจำเดือนหรืบขับโลหิตระดู โดยใช้รากสด 5-10 กรัม หรือแห้งราวๆ 3-5 กรัม ล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นต้มในน้ำที่สะอาด 500 ซีซี นานประมาณ 10 นาที แล้วกรองเอาน้ำ ดื่มวันละ 2 เวลา รุ่งเช้า-เย็น
ข้อควรทราบ รากมีสาร plumbagin ลำต้นมีเช่นกัน แต่ว่าน้อยกว่าราก
อยากให้เป็นยาช่วยสำหรับการย่อยหรือเจริญอาหาร ให้นำผงของรากเจตมูลไฟแดงมาผสมกับ
ลูกสมอพิเภก ผงดีปลี และก็เกลือ อย่างละเท่าๆกัน กินครั้งละ 2.5 กรัม
สตรีที่ตั้งท้องห้ามกินรากของต้นนี้ เพราะว่ารากจะมีสารบางอย่างที่ทำให้แท้งบุตรได้