Advertisement
บริษัทสร้างบ้ารับเขียนแบบโรงงาน[/i]ห้องรับแขก นอกเหนือจากการที่จะเป็นห้องสำหรับรองรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนแล้ว ยังสามารถแก้ไขให้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มานอนพักที่บ้านได้อีกด้วยนะซึ่งการจะแปลงโฉมห้องรับแขกให้เป็นห้องนอนนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย วันนี้เราก็มี 5 ทริคกล้วยๆมาฝากเช่นกัน
เคยไหมเวลามีแขกมาพักที่บ้าน แต่มีห้องนอนน้อยเกินไป จึงต้องให้แขกนอนในห้องรับแขก ซึ่งก็ไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ วันนี้เรามาสร้างความซาบซึ้งให้กับแขกแขกด้วยการแปลงโฉมห้องรับแขกให้กลายเป็นห้องนอนด้านในพริบตาเดียวกันเหอะ
1.จัดโซฟาชิดกันทั้งปวง
เริ่มต้นจึงควรดูก่อนว่าแขกที่มานอนมีกี่คน เพื่อจะได้จัดโซฟาได้ถูกนั่นเองโดยถ้ามีผู้คนจำนวนมากก็อาจจะนำโซฟามาชิดกันเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับเพื่อการนอนให้กว้างขึ้น แบ่งเป็นหลายๆคู่ จะเหมาะนอนหลายอัน แม้กระนั้นแม้มีแขกมานอนเพียงแค่ผู้เดียว ก็บางครั้งก็อาจจะจัดโซฟามาชิดกันทั้งสิ้นเลยก็ได้จะได้ที่นอนที่กว้างขวางจนถึงแขกของคุณจำเป็นที่จะต้องซาบซึ้งใจอย่างแน่แท้
2.เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยฉากกัน
ห้องรับแขกอาจจะมองไม่ค่อยเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ ทำให้นอนไม่ค่อยหลับเสมือนการนอนในห้องนอนนัก ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความส่วนตัวด้วยการกั้นผนังชั่วครั้งคราวกับฉากกันหรืออะไรก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและก็สบายขึ้นแล้วล่ะ
3.เครื่องนอนจำต้องพร้อมเสมอ
อย่าลืมเตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้ต่างหากสัก 1-2 ชุดหรือมากยิ่งกว่า เพื่อไว้รับรองแขกโดยยิ่งไปกว่านั้น ซึ่งเครื่องนอนที่ต้องเตรียมไว้ มี หมอน ผ้าสำหรับห่มรวมทั้งหมอนหนุนนั่นเอง โดยการเตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้พร้อมนั้นจะทำให้เราพร้อมที่จะต้อนรับแขกได้ตลอดตลอดเวลา และยังสร้างความซาบซึ้งให้กับแขกที่มาเยือนได้อีกด้วย
4.อุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อม
บางเวลาการนอนอยู่เฉยๆบนโซฟาก็อาจจะทำให้แขกรู้สึกเบื่อได้เช่นกัน แต่พอเพียงจะลุกไปเปิดโทรทัศน์ดูหรือจะไปหาหนังสืออ่าน ก็เกรงใจเจ้าบ้านและไม่ทราบว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง โดยเหตุนั้นพวกเราจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกไว้ให้กับเขา ด้วยการเตรียมรีโมททีวี หนังสือ และก็เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆจัดไว้ข้างโซฟาให้พร้อม เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการถือมาใช้งานนั่นเอง
5.ประทีปเพิ่มความสว่าง
การมีตะเกียงสักอันไว้ข้างๆโซฟาหรือที่นอนต้องในห้องรับแขก จะก่อให้แขกสบายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังรู้สึกอุ่นใจอีกด้วย ด้วยเหตุนั้นเมื่อปรับห้องรับแขกให้เป็นห้องนอนชั่วคราวแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมประทีปไว้ให้พร้อมด้วยนะ
พวกเราบางครั้งก็อาจจะเคยชินกับการสร้างบ้านด้วยส่วนประกอบคอนกรีตมาตลอดชีพ ซึ่งเป็นการก่อสร้างที่ใช้เวลานานแล้วก็ใช้แรงงานจำนวนมาก เช่นเดียวกันกับเป็นการก่อสร้างแบบผูกขาด ในขณะที่จริงโครงสร้างรูปแบบอื่นสามารถก่อสร้างบ้านได้เช่นเดียวกัน วันนี้คอนเทล โฮม ก็เลยขอนำเสนอเรื่องราวของการผลิตบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็คือ บ้านโครงสร้างเหล็ก
บ้านองค์ประกอบเหล็กเป็นเยี่ยมในทางเลือกของการผลิตบ้าน ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายในต่างแดน เพราะเหตุว่าความแข็งแรงและความรวดเร็วสำหรับการก่อสร้าง ทำให้บ้านองค์ประกอบเหล็กเป็นโอกาสในการก่อสร้างที่คุ้มค่า อีกทั้งคุณลักษณะองค์ประกอบเหล็กยังเหนือกว่าสิ่งของอื่น จึงสรุปข้อดีของบ้านส่วนประกอบเหล็กได้ดังต่อไปนี้
– ให้กำลังสูง โครงสร้างเหล็กก็เลยมีน้ำหนักค่อยกว่าโครงสร้างที่ทำด้วยอุปกรณ์อื่น ช่วยลดการใช้เสาเข็ม
– ใช้แรงงานปริมาณน้อย เพราะขั้นตอนการทำงานที่น้อยลง
– ช่วยลดเวลาก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ซึ่งค่าจ้างก็จะลดตามมา
– เป็นโครงสร้างที่รองรับการออกแบบสไตล์โมเดิร์นแปลกใหม่ได้ดี
– โครงสร้างเหล็กมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการรับแรงจากแผ่นดินไหวหรือแรงชน
– ทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้มาก
– เหมาะกับการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีข้อกำหนด เพราะเหตุว่าสบายสำหรับเพื่อการขนส่ง
– หน้าไซต์งานก่อสร้างสะอาด เป็นระเบียบ รวมทั้งยังช่วยลดอุปกรณ์เหลือทิ้งอีกด้วย
– สามารถต่อเติมได้ในภายหลัง
ในส่วนข้อกำหนดของโครงสร้างเหล็กก็มีเช่นกัน ได้แก่
– ราคาแพงสูงยิ่งกว่าองค์ประกอบจากวัสดุอื่น ทำให้ราคาบ้านแพงกว่าบ้านทั่วไป
– ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง ถ้าเกิดเกิดสนิม
– ขาดบุคลากรที่ชำนาญด้านการสร้างบ้านองค์ประกอบเหล็ก คนรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการใช้ส่วนประกอบคอนกรีต
จะมองเห็นได้ว่าภาพรวมของบ้านส่วนประกอบเหล็กนั้น แม้มองดูในเรื่องราคาก็ยังสูงขึ้นมากยิ่งกว่าส่วนประกอบอุปกรณ์อื่นพอควร แต่ว่าถ้ามองดูถึงอนาคตจะพบว่าบ้านส่วนประกอบเหล็กสามารถลดปัญหาในการก่อสร้างได้ดิบได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน และก็ค่าแรงงานที่ปรับขึ้นทุกปีเมื่อถึงวันนั้นทุกคนจะหันมาสนใจกับบ้านส่วนประกอบเหล็กมากขึ้นเรื่อยๆ
แบบขยายโครงสร้างอาคารแสดงสินค้า
ตอนนี้วิถีชีวิตของคนสมัยใหม่แปรไปมาก ความอยากจับใจกับธรรมชาติ สายลม แสงตะวัน มีเยอะขึ้น ประจวบเหมาะกับเทคโนโลยี ของใหม่อุปกรณ์ รวมทั้งงานสถาปัตยกรรมได้มีการปรับปรุงเพิ่มมากขึ้น ต้นแบบบ้าน จึงได้มีการพัฒนาฟังก์ชันใหม่ๆที่ช่วยขจัดปัญหาให้กับบ้านหน้าแคบได้อย่างสมบูรณ์ จะมีแนวทางใดให้ปรับใช้กันบ้าง
1. ยอมสละพื้นที่ใช้สอยอีก 50 ซม.
โดยชอบด้วยกฎหมายระยะร่นของไทย อนุญาตให้สามารถร่นระยะอาคารได้น้อยสุดที่ 50 ซม. โดยรอบๆดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจึงควรออกแบบในลักษณะฝาผนังทึบ กรณีดีไซน์โปร่ง มีช่องแสง ช่องลม จำเป็นจะต้องร่นระยะอาคาร 2 เมตรขึ้นไป การออกแบบบ้านในที่ดินหน้าแคบโดยมากก็เลยดีไซน์ในลักษณะกล่องสี่เหลี่ยม ปิดทึบข้างๆทั้งคู่ด้าน ซึ่งส่งผลให้ภายในบ้านมืด อับแสงสว่าง
เมื่อพินิจพิจารณาจากข้อกฎหมายระยะร่นแล้ว การกำหนดระยะร่นจะอิงตามด้านขนายของขอบที่ดินในด้านนั้นๆแม้กระนั้นไม่รวมถึงการเปิดช่องแสงสว่างในด้านตั้งฉาก ดังตัวอย่างในภาพประกอบนี้ แผนผังห้องที่ติดกำแพง จะต้นเว้นระยะร่นอย่างต่ำ 50 เซนติเมตร แต่ว่าฝาผนังที่หันไปทางหน้าบ้านจะไม่ได้อิงจากขอบที่ดินทางขวามือ จึงสามารถเปิดช่องแสงได้โดยผู้ออกแบบบางทีอาจจะเว้นระยะร่นในเล็กน้อยเพิ่มขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เพื่อเว้นพื้นที่ไว้สำหรับทำช่องแสง ช่องหน้าต่างเพียงเท่านี้ก็สามารถเปิดรับแสงให้ห้องดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้แล้วขอรับ
2. สวนนอกบ้านพื้นที่ไม่เพียงพอ งั้นชูมาไว้ภายในเลย
สำหรับที่ดินแคบๆในตัวเมือง ถ้าหากต้องเว้นพื้นที่ไว้เพื่อการจัดและตกแต่งสวน จะเหลือพื้นที่ให้ก่อสร้างบ้านลดน้อยลงมากมาย แต่ว่านั่นบางทีอาจไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญนัก เพราะเหตุว่าจุดหลักของการสร้างบ้านในเมืองที่วุ่นวาย การมีสวนหน้าบ้านนั้นแทบจะไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวรู้สึกเป็นส่วนตัว และไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างมาก การออกแบบสวนเอาไว้ภายในบ้าน หรือที่นิยมเรียกกันว่า“คอร์ทในบ้าน” เป็นอีกวิถีทางที่สามารถเติมเต็มธรรมชาติมาไว้ในบ้านได้อย่างสมบูรณ์ทั้งยังยังให้ความรู้ความเข้าใจสึกเป็นส่วนตัว ปลอดภัย รวมทั้งบ้านยังได้รับแสงสว่างแม้ผนังบ้านจะปิดทึบก็ตาม
สิ่งที่ต้องระมัดระวังสำหรับในการจัดสวนภายในบ้าน เป็นการเลือกพันธุ์พืชที่ใบร่วงน้อย กินน้ำน้อย รวมทั้งจำเป็นต้องมั่นใจได้ว่า เราสามารถดูแลสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เป็นประจำ ไม่เช่นนั้นจะแปลงเป็นภาระในการดูแลบ้านขอรับ
3. เปิดผนังติดระยะร่น ถ้าเช่นนั้นเปิดหลังคาแทนสิ
การรับแสงสว่างตามความเคยชินสำหรับเพื่อการดีไซน์บ้านทั่วไปนิยมรับผ่านทางช่องแสงสว่างผนังกระจก ช่องหน้าต่าง กระทั่งอาจลืมไปว่า ด้านบนหรือหลังคาบ้านก็สามารถรับแสงไฟได้ การทำหลังคา Sky Light ในตำแหน่งที่อยากแสงสว่าง ก็เลยสามารถแปลงบ้านหน้าแคบของเราให้ดูโปร่งกว้างได้อย่างน่าพิศวง
เทคนิคนี้สถาปนิกนิยมประยุกต์ใช้ร่วมกับ โถงบันได ทางเท้าห้องน้ำกึ่ง Outdoor หรือแม้แต่ด้านในห้องนอนก็สามารถใช้เคล็ดวิธีเหล่านี้ได้ครับผม จุดที่ต้องระวังมากมายก่ายกองสำหรับเพื่อการทำหลังคา Sky Light ในประเทศไทย จำเป็นที่จะต้องเลือกกระจกที่สามารถคุ้มครองแสง UV แล้วก็กันความร้อนได้ เพื่อบ้านโดนแสงสว่าง แม้กระนั้นไม่นำพาความร้อนครับผม
4. โปร่ง แต่ก็ยังปลอดภัยและก็เป็นส่วนตัว
สำหรับพื้นที่บางส่วนที่สามารถเว้นระยะร่นได้ ตัวอย่างเช่น หน้าบ้าน ข้างหลังบ้าน การออกแบบให้โปร่ง รับแสงสว่างทั้งวัน จำเป็นต้องออกแบบด้วยสิ่งของกระจก แต่ว่าโน่นอาจส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวหายไป และอาจส่งผลด้านการพำนักที่ไม่ปลอดภัยนัก แต่แม้จะทำเหล็กดัดก็อาจทำให้บ้านสวยแปลงเป็นบ้านโบราณไปในพริบตา
ปัญหาดังที่กล่าวถึงมาแล้วแก้ไขได้ไม่ยากครับ เพียงออกแบบเปลือกอาคารข้างนอกด้วย facade ที่สวยงาม หรือเลือกใช้ระแนง, บล็อกคอนกรีตที่แข็งแรงมากีดกันความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยดีไซน์ประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เสมอเหมือนกระจกบานใหญ่ ในวันที่อากาศดีๆสามารถเปิดรับลมธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน สามารถเปิดทิ้งเอาไว้ได้ตลอดวัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจเรื่องความปลอดภัยครับผม
5. แบ่งพื้นที่การใช้แรงงาน
ปัญหาของที่ดินในเมืองบางแปลง ไม่เพียงแค่หน้าแคบเท่านั้น แม้กระนั้นยังลึกมากอีกด้วย การแบ่งพื้นที่สำหรับการใช้งาน กับแบ่งสรรให้พื้นที่ส่วนกลางหรือพื้นที่ครึ่งหนึ่งสาธารณะไว้กลางบ้าน จะเป็นเหมือนการแบ่งตอนตึกไม่ให้ยาวสม่ำเสมอจนเกินความจำเป็น เพราะว่าถ้าหากผนังทึบและก็ลึกมากมาย ย่อมทำให้ข้างในอาคารมืดไปทั้งผอง แต่ว่าถ้าหากเว้นช่วงการใช้แรงงาน จะช่วยเพิ่มจุดรับแสงให้กับบ้านได้อย่างปลอดโปร่ง สำหรับแนวทางนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศเวียดนาม รวมทั้งปัจจุบันนี้ทาวน์โฮมสมัยใหม่ในประเทศไทย ได้ประยุกต์ใช้งานจริง หรือบางข้างหลังเลือกที่จะรีโนเวทบ้านทาวน์โฮมเก่าในลักษณะดังกล่าวข้างต้นนะครับ
***ลูกค้าเก่า ลด 10%
***ราคาที่แสดงดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นราคาเริ่ม ซึ่งราคางานประพันธ์แบบจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอย, เนื้อหาต่างๆฯลฯ รบกวนลูกค้าติดต่อสอบถามราคาอีกทีหนึ่ง
#เขียนแบบโรงงาน และก็ #ดีไซน
