Advertisement
สมุนไพรแสย[/size][/b]
แสยกPedilanthus tithymaloides Poit.บางถิ่นเรียกว่า แสยกกะแหยก มหาผสาน ย่าง แสยกสามสี (กลาง) เคียะไก่ให้ (เหนือ) ตาสี่กะมอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) นางกวัก ว่านสลี (แม่ฮ่องสอน).
ไม้พุ่ม สูง 40-100 เซนติเมตร มีน้ำยางมากมาย ลำต้นหักงอไปมาทำให้เป็นรูปสิกข์แซก สีเขียว ผิวเรียบ. ใบ ผู้เดียว เรียงสลับกันซ้ายขวาในราบเดียวกัน รูปไข่ กว้าง 2.5-5 ซม. ยาว 3.5-7 เซนติเมตร ฐานในกลม มน หรือ แหลม ขอบของใบเรียบ หรือ เป็นคลื่น ปลายใบมน หรือ แหลม เส้นใบเห็นไม่ชัดเจน เนื้อใบครึ้ม ข้างล่างมีขนอ่อน เส้นเล็ก ปกคลุมบางๆทั่วๆไป ก้านใบยาว 2-7 มม. หูใบมีลักษณะเป็นตุ่มกลุ่มเล็กๆ2 ตุ่มอยู่สองข้างโคนก้านใบ ร่วงง่าย ต้นจะสลัดใบทิ้งหมด หรือเกือบจะหมดก่อนออกดอก. ดอก สีแดงออกเป็นช่อตามลำต้น ที่ยอดแล้วก็ตามกิ่งกิ้งก้านสั้นๆใกล้ยอด ดอกเพศผู้แล้วก็ดอกเพศภรรยาอยู่บนต้นเดียวกัน ก้านช่อยาว 3-20 มิลลิเมตร มีขน ช่อดอกยาว 1-2.5 ซม. ใบแต่งแต้ม
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%81/]สมุนไพร ด้านนอกมีขนสั้นปกคลุมหนาแน่น ก้านดอกไม่มีขน ดอกมีลักษณะคล้ายรองเท้า หรือ เรือ มี 5 กลีบ เรียงเป็นสองชั้น ชั้นในมี 3 กลีบ สั้น และก็แคบกว่ากลีบชั้นนอก มีขนละเอียด ที่ฐานข้างนอกมีต่อมน้ำหวานรูปกระทะคว่ำ 1 ต่อม ข้างในมีต่อม 2 หรือ 4 ต่อม เรียงเป็นคู่ ที่ปลายมีแถบยาวหนึ่งแถบอยู่ตรงช่องระหว่างกลีบใหญ่ชั้นนอกสองกลีบ; เกสรผู้สั้น เวลาที่ดอกกำลังบานอับเรณูจะหันออก รังไข่มี 3 ช่อง มีไข่อ่อนช่องละ 1 หน่วย ท่อรังไข่มี 1 อัน ปลายท่อแยกเป็น 3 แต่ละอันแยกเป็น 2 แฉก. ผล เป็นประเภทแห้งแล้วแตก.
[b]สมุนไพร[/b][/i][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/biodiversity-94696-1.jpg" alt="" border="0" />นิเวศน์วิทยา: ปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมนำมาปลูกตามแนวรั้ว ขึ้นง่ายและทนแล้งเจริญ
คุณประโยชน์ : ต้น น้ำยางต้นใช้กัดหูด ทาผิวหนังแก้เกลื้อน แมลงป่องต่อย ตะขาบกัด แม้กระนั้นหากกินเข้าไปจะก่อให้คลื่นไส้