โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 14 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กาลครั้งหนึ่ง2560
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 86


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: เมษายน 12, 2018, 03:57:25 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคมือเท้าปาก  (Hand Foot and Mouth  disease – HFMD)
โรคมือเท้าปาก เป็นอย่างไร โรคมือ-เท้า-ปาก เจ็บป่วยเกิดผื่นที่ต่อเนื่องกันง่าย แม้กระนั้นมักไม่รุนแรงรวมทั้งหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในเด็กเล็ก โดยยิ่งไปกว่านั้นตอนหน้าฝน มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus  แม้กระนั้นในแถบร้อนชื้น พบมากได้ตลอดปีโดยส่วนมากแล้ว พบบ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแม้กระนั้นอาจเจอในเด็กแก่กว่านี้ก็ได้ รวมทั้งถ้าหากมีการเกิดโรคในสถานที่เลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนอนุบาล ก็จะเจอผู้เจ็บป่วยมากไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้นเนื่องจากว่าโรคนี้ระบาดได้ง่าย
                อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละชนิดกับโรคปากยุ่ยเท้าเปื่อยที่เจอได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยธรรมดาจะไม่ติดต่อมาสู่คน นอกจากในเรื่องที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่ป่วยหรือคนที่ปฏิบัติการในห้องทดลองเกี่ยวกับโรคในสัตว์กลุ่มนี้ ที่อาจมีรายงานการต่อว่าดเชื้อได้บ้าง
                อันที่จริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แม้กระนั้นรู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว  โดยมีประวัติที่ไปที่มาของโรค ดังต่อไปนี้

  • พ.ศ. 2500 มีรายงานการระบาดของกลุ่มอาการไข้ซึ่งเจอร่วมกับตุ่มน้ำใสในโพรงปาก มือแล้วก็เท้าในคนไข้เด็กที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา โดยพบสาเหตุจากเชื้อ Coxsackie virus A16(Cox A16)1
  • พ.ศ. 2502 พบการระบาดของกรุ๊ปอาการเช่นเดียวกันในเมือง Bermingham อังกฤษ และได้มีการเรียกกลุ่มอาการนี้ว่า Hand-Foot-and Mouth Disease (HFMD)

จากนั้นก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั้งโลก ซึ่งไวรัสที่กระตุ้นให้เกิดกลุ่มอาการมือ เท้า ปาก มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวแม้กระนั้นมีมากกว่า 10 สายพันธุ์
สำหรับเพื่อการระบาดใหญ่ของกลุ่มอาการโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พ.ศ.2540-2555 มีดังนี้

  • พ.ศ.2540 มาเลเซีย (เสียชีวิต 31 ราย) พ.ศ.2541 ไต้หวัน (คนไข้ 1.5 ล้านราย เสียชีวิต 78 ราย)
  • พ.ศ.2550 อินเดีย (คนเจ็บ 38 ราย) รวมทั้ง พ.ศ.2551 อินเดีย (คนป่วย 25,000 ราย เสียชีวิต 42 ราย) ประเทศสิงคโปร์ (คนป่วยมากกว่า 2,600 ราย) เวียดนาม (คนไข้ 2,300 ราย เสียชีวิต 11 ราย) ดูโกเลีย (ผู้เจ็บป่วย 2,600 ราย) แล้วก็บรูไน (ผู้เจ็บป่วย 1,053 ราย)
  • พ.ศ.2552 จีน (ผู้เจ็บป่วย 115,000 ราย เสียชีวิต 85 ราย) แล้วก็ พุทธศักราช2553 จีน (คนเจ็บ 1.6 ล้านราย เสียชีวิต 537 ราย)
  • พ.ศ.2554 เวียดนาม (คนป่วย 42,000 ราย เสียชีวิต 98 ราย) และก็จีน (คนป่วย 1.3 ล้านราย เสียชีวิต 437 ราย)
  • พุทธศักราช2555 กัมพูชา (เสียชีวิต 52 ราย) จีน (คนเจ็บ 460,000 ราย เสียชีวิต 112 ราย) ไทย (คนไข้ 168,60 ราย เสียชีวิต 1 ราย)

สำหรับเหตุการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีคนป่วยทั้งหมดทั้งปวง 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อมวลชน 1 แสนคน รวมทั้งมีคนเจ็บเสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลปัจจุบันในวันที่ 28 มี.ค. 2559 มีคนป่วย 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อราษฎร 1 แสนคน และยังไม่มีผู้เสียชีวิต
ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจพบเชื้อ EV71 ในผู้ป่วยโรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานและสอบปากคำคนเจ็บสงสัยติดเชื้อโรค EV71 และคุ้มครองป้องกันควบคุมโรคจากนั้นมา พบว่าผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเด็กอายุต่ำยิ่งกว่า 2 ปีแล้วก็โดยประมาณครึ่งหนึ่งติดเชื้อ EV71 ที่มีลักษณะอาการไม่รุนแรง
ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 1 ม.ย. 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนทั้งยังตามโรงเรียนและก็ในชุมชน 8 เรื่อง จากจำนวนผู้ป่วย 22 ราย ดังนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนะให้สถานศึกษาทำตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด เพื่อป้องกันการเกิดโรคแล้วก็การแพร่ระบาดของโรค
ต้นเหตุของโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากมีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อกลุ่มไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ร่วมกันนานัปการสาย อย่างเช่น ค็อกแซคกีเอและก็บี (Coxsackie A, B), ไวรัสเอนเทอโรประเภท 71 (Enterovirus 71 – EV71) สาเหตุที่พบมากที่สุดก็คือการระบาดจากการต่อว่าดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการมักจะไม่ร้ายแรง รวมทั้งคนป่วยชอบหายได้เองเป็นส่วนมาก ส่วนมูลเหตุที่พบได้น้อยรวมทั้งมีลักษณะอาการรุนแรงหมายถึงการติดเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 71 ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ยิ่งไปกว่านี้โรคมือเท้าปากยังบางทีอาจเกิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 และก็เชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีจำพวก 2 และก็ 5 ได้บ้าง
                ซึ่งโรคนี้โดยมากมักจะติดต่อกันที่เกิดจากการกินของกิน น้ำ การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเด็กเล่นที่แปดเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนเจ็บ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการสูดเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่คนเจ็บไอหรือจามรด  ซึ่งเมื่อเชื้อไปสู่ร่างกายแล้ว ราวๆ 3-6 วัน ผู้เจ็บป่วยจึงจะมีลักษณะอาการ
ลักษณะโรคมือเท้าปาก  หลังจากติดโรค 3-7 วัน คนป่วยจะเริ่มออกอาการเริ่มหมายถึงเป็นไข้ตํ่าๆประมาณ 38-39o C และมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวช่วงนี้จะมีระยะเวลา ประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มมีลักษณะเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะเจอมีรอยโรคในรอบๆปาก มือรวมทั้งเท้าได้ดังนี้

  • รอยโรคบริเวณปาก เจอในคนเจ็บจำนวนร้อยละ 100 มีรอยโรคจํานวน 5-10 แห้ง เจอได้ทุกรอบๆในปากแม้กระนั้นที่พบได้ทั่วไป คือ เพดานปาก ลิ้น และก็เยื่อบุกระพุ้งแก้ม รอยโรคระยะเริ่มต้น ลักษณะเป็นรอยสีแดงบางทีอาจนูนบางส่วนขนาด 2-8 มิลลิเมตรแล้วจะเปลี่ยนเป็นตุ่มนํ้าสีเทาขนาดเล็กขอบแดงช่วงที่รอยโรคเป็นตุ่มนํ้าจะสั้น จึงมักตรวจไม่เจอ  รอยโรคในเวลานี้แม้กระนั้นก็พบมากลักษณะเป็นแผลตื้นๆสีเหลืองถึงเทาของแดงซึ่งบางทีอาจจะมารวมกันเป็นรอยโรคใหญ่ได้

ปริมาณร้อยละ 80 ของคนป่วยอาการเจ็บปากจะไม่ร้ายแรงและหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาด้านใน 5-10 วัน

  • รอยโรคที่ผิวหนัง

บางทีอาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือต่อไปเล็กน้อยจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนกระทั่ง 100 ที่ เจอ ที่มือบ่อยกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆอาจนูนเล็กน้อยขนาด 2-10 มิลลิเมตร ตรงกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังบางทีอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้จากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มเป็นสะเก็ด แล้วก็ค่อยๆหายไปภายใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ
รอบๆอื่นๆที่บางทีอาจเจอรอยโรคได้เช่นกันเป็นตูด แขน ขา และอวัยวะสืบพันธุ์ในเด็กแรกเกิดบางทีอาจเจอ กระจัดกระจายทั่วตัวได้
โดยปกติโรคมือเท้า ปากจัดว่ามีอาการน้อยโดยมากมักมีเพียงแต่ไข้ปวดเหมื่อยตามตัวและเจ็บปาก แม้กระนั้น ในคนป่วยบางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการตำหนิดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง คือ

  • อายุในกลุ่มผู้ป่วยอายุน้อยจะเจออาการเข้าแทรกร้ายแรงรวมทั้งเสียชีวิตมากกว่าในกลุ่มผู้ป่วยที่แก่ ยกตัวอย่างเช่นการระบาดในปีพ.ศ.2541 ที่ประเทศไต้หวัน พบว่าอัตราการตายโดยรวมเป็น44.4/100,000 รายแม้กระนั้นกลุ่มที่อัตราการเสียชีวิตสูงสุดเป็น6-11 เดือนเท่ากับ 96.96/100,000 ราย
  • จับไข้สูงมากกว่า 39o C และนานเกิน 3 วัน
  • มีอาการอาเจียนมากทานอาหารไม่ได้

ซึ่งสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในข้อ 2 แล้วก็ 3 จากการศึกษาวิจัยที่โรงพยาบาลเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า สมาคมกับการต่อว่าดเชื้อ EV มากยิ่งกว่า Cox A  โดยชอบทำให้เกิดภาวะสอดแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ แล้วก็ปอดได้สูง ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างเร็วจากสภาวะปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด และภาวะช็อก
อย่างไรก็ตามเชื้อคอกแซคก็ไวรัส เอ 16 ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกคือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อห่อหุ้มหัวใจอักเสบ แล้วก็สภาวะช็อกได้ แต่ว่าพบได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรเชื้อไวรัส 71 มาก
ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นกลุ่มอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมากที่สุด เพราะมักพบการติดเชื้อและการระบาดของโรคใน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็กเป็นส่วนใหญ่
  • การที่ผู้ดูแลเด็กไม่ได้ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อของโรคมือเท้าปาก
  • สภาพที่อยู่อาศัย หรือโรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็กไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น มีลักษณะอับ ทึบ แสงแดดส่องไม่ถึง
  • การใช้ข้าวของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ช้อน ร่วมกัน
  • การไอ จาม รดกัน หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว
แนวทางการรักษาโรคมือ เท้าปาก การวินิจฉัยโรคมือเท้าปากโดยทั่วไปใช่อาการและอาการแสดงเป็นสําคัญ (clinical diagnosis) โดยแพทย์จะตรวจร่างกายหารอยโรคจําเพาะที่บริเวณมือเท้า ปากร่วมกับมีไข้ ได้แก่  ผู้ป่วยมีไข้ 38 – 39 องศาเซลเซียส  พบจุดนูนแดง ตุ่มน้ำใส หรือ แผลที่เยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก พบจุดแดงราบ ตุ่มนูน หรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และแก้มก้น
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้

  • อุจจาระภายใน 14 วันของการป่วยโดยเก็บประมาณ 8 กรัม ใส่กล่องพลาสติกสะอาด
  • สวอบลําคอ (throat swab) โดยจุ่มปลายสวอบลงใน viral transport media ให้จมปลาย ตัวอย่างในข้อ 1 และ 2 ให้เก็บส่งโดยแช่เย็นในกระติกนํ้าแข็งอุณหภูมิ 4-8o C และส่งห้องปฏิบัติ การโดยเร็วที่สุด
  • เก็บเลือด 2 ครั้งประมาณ 3-5 มล.ต่อครั้ง ครั้งแรกที่สุดภายใน 3-5 วันหลังป่วยและครั้งที่ 2 หลัง จากครั้งแรก 14วัน โดยใส่ในหลอดแก้วปราศจากเชื้อพันพลาสเตอร์ให้แน่น เก็บตัวอย่างในตู้เย็น เพื่อรอส่งตรวจพร้อมกัน

โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ
การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก  โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก  ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น  เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล  เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน
โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน  นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้

  • ทานยาลดไข้ พาราเซตามอล เป็นครั้งคราวเวลา มีไข้สูง
  • ดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยสังเกตดูว่ามีปัสสาวะออกมากและใส จึงนับว่าได้น้ำพอเพียง
  • ในช่วงที่มีอาการเจ็บแผลในปาก ให้กินอาหารเหลวหรือของน้ำๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด นม น้ำเต้าหู้ น้ำหวาน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บในปาก อาจใช้วิธีอมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ดื่มน้ำหรือนมเย็นๆ กินไอศกรีม หรือบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ (ผสมเกลือป่นครึ่งช้อนชาในน้ำอุ่น ๑ แก้ว) วันละหลายๆ ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการเจ็บแผลในปาก
  • แยกของใช้ไม่ใช้ร่วมกับคนอื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด ช้อน-ส้อม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ ขับถ่ายอุจจาระลงในในโถส้วม
  • ควรทำความสะอาดพื้นห้องและพื้นผิวอื่นๆ ที่สัมผัสบ่อยๆ รวมถึงห้องสุขาและห้องน้ำ โดยล้างด้วยน้ำและผงซักฟอก แล้วตามด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอรีน เช่น ไฮเตอร์ ไฮยีน คลอร็อกซ์ โดยผสมตามฉลากปิดข้างขวด ทิ้งไว้ ๑๐ นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำให้สะอาดเพื่อป้องกันสารเคมีตกค้าง
  • แยกเด็กที่ป่วยไม่ให้คลุกคลีกับเด็กคนอื่นๆ ทั้งเพื่อนบ้าน และพี่น้องที่อยู่ในบ้านเดียวกัน เช่น การกอดรัด การเล่นของเล่นที่เปื้อนน้ำลายหรือน้ำมูกของผู้ป่วย โดยเฉพาะในกรณีที่มีน้องเล็กๆ อายุ ๑-๒ ปีหรือน้อยกว่า เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรง ไม่นำเด็กไปในที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ ควรให้เด็กอยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี
  • ขอให้เด็กหยุดเรียนเป็นเวลา ๗ วันนับจากวันเริ่มมีอาการ (ถึงแม้ว่าเด็กอาจมีอาการดีขึ้นก่อนครบ ๗ วัน) หากเด็กมีอาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น ไข้สูง อาเจียน หอบเหนื่อย ซึม ชัก หรืออาการแย่ลง ต้องรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที ในกรณีผู้ป่วยเป็นผู้ใหญ่ให้หยุดงานเป็นเวลา 7 วันเช่นกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์ เมื่อมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
  • ตุ่มน้ำ กลายเป็นตุ่มหนองหรือพุพองจากการเกาให้แพทย์พิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะรักษา
  • มีอาการเจ็บแผลในปาก จนกินอาหารและดื่มน้ำไม่ได้ มีภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะออกน้อย
  • มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนรุนแรง ไม่ค่อยรู้ตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง หรือหายใจหอบเหนื่อย ควรส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
  • อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์

การคุ้มครองตัวเองจากโรคมือเท้าปาก

  • สำหรับเด็ก ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำแล้วก็สบู่ทุกคราวหลังการขับถ่าย ก่อนที่จะกินอาหาร หรือเมื่อสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย
  • สำหรับผู้ที่คอยดูแลเด็ก ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำรวมทั้งสบู่ทุกหนก่อนจะมีการเตรียมอาหาร ก่อนที่จะรับประทานอาหาร แล้วก็ข้างหลังการขับถ่าย และก็ข้างหลังเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก หลังการช่วยล้างก้นให้แก่เด็กเล็กที่เพิ่งถ่าย หรือสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งของเด็ก ได้แก่ น้ำมูก น้ำลาย
  • ให้ลูกหลานหลบหลีกการเล่น หรือคลุกคลีกับเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก
  • ไม่นำเด็กเล็กไปในที่ที่มีคนอยู่เยอะๆ อาทิเช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ และก็ควรให้อยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี ในช่วงที่มีการระบาดของโรคมือเท้าปากในพื้นที่
  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของ อาทิเช่น ถ้วยน้ำ หลอดดูด ขวดที่มีไว้สำหรับใส่นม ช้อนชาม เสื้อผ้า ผ้าขนหนู ของเด็กเล่น เป็นต้น  ร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่มีการระบาดของโรคนี้
  • ฝึกหัดเด็กให้มีสุขนิสัยที่ดี แล้วก็หลีกเลี่ยงการใส่นิ้วมือหรือของเด็กเล่นเข้าปาก
  • ทําความสะอาดพื้น เครื่องใช้เสื้อผ้าที่อาจแปดเปื้อนเชื้อ ด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อที่ใช้ทั่วๆไปในบ้าน
  • บิดามารดาผู้ปกครองช่วยตรวจดูลักษณะของลูกหลานแต่ละวัน ถ้าเกิดมีแผลในปากหลายแผล โดยยิ่งไปกว่านั้นหากเจ็บมากมายจนทำให้ไม่ค่อยรับประทานอาหาร ให้ช่วยแจ้งแก่โรงเรียนเพื่อให้มีการปฏิบัติงานควบคุมโรคที่เหมาะสม
  • สำหรับบิดามารดาผู้ปกครองที่จะพาลูกหลานที่เป็นเด็กตัวเล็กๆไปยังต่างประเทศที่มีการระบาด สามารถเดินทางได้ตามปกติ โดยให้กระทำตนตามสุขลักษณะที่ดี หลีกเลี่ยงพาบุตรหลานไปสถานที่ยัดเยียด แล้วก็ถ้าหากลูกหลานมีลักษณะเจ็บไข้ที่สงสัยโรคมือ เท้า ปาก ให้พาไปพบแพทย์

สมุนไพรที่ใช้รักษา/ทุเลาอากาโรคมือเท้าปาก[/url] สมุนไพรซึ่งสามารถนำมาใช้ทุเลาอาการโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ ถ้าเกิดมีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดรอบๆแผลได้ เพราะเหตุว่าในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นรวมทั้งไม่เป็นอันตราย ไม่มีผลข้างเคียง
            สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปากหมายถึงฟ้าทลายมิจฉาชีพ (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นการค้นคว้าวิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักวิจัยได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายมิจฉาชีพแล้วก็ทำให้อยู่ในลักษณะของยาฉีด คือ Andrographolide Sulfonate injection
งานวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี ปริมาณ 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กรุ๊ป กลุ่มแรกจะได้รับการรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายโจรในรูปแบบบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกรุ๊ปจะได้รับการดูแลรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลการค้นคว้าพบว่า กรุ๊ปแรกจะเจออาการแทรกแบบรุนแรงน้อยกว่ากรุ๊ปลำดับที่สองอย่างเป็นจริงเป็นจัง นอกจากนั้นยังมีผลให้ไข้ลดลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังแล้วก็แผลในปากหายมากยิ่งกว่ากลุ่มหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่เจอการตายแล้วก็ผลกระทบที่ร้ายแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง

  • ดร.ภก.ปิยทิพย์ ขันตยาภรณ์.โรคมือเท้าปากในเด็ก.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.ภาควิชาจุลชีววิทยาคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Chang L, Lin T, Huang Y, et al. Comparison of enterovirus 71 and coxsackie-virus A16 clinical illnesses during the Taiwan enterovirus epidemic, 1998. Pediatr Infect Dis J 1999;18(12): 1092-6.
  • Abzug MJ. Hand-Foot-and-Mouth Disease. Kliegman: Nelson Textbook of Pediatrics, 19th ed.
  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.โรคมือ-เท้า-ปาก.นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 326.คอลัมน์สารานุกรมทันโรค.มิถุนายน.2549
  • โรคมือ-เท้า-ปาก (Hand-Food-and-Mouth Disease; HEMD) และโรคจากเชื้อ Enterovirus 71 (EV-71) .หน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป “โรคมือ-เท้า-ปาก (Hand-foot-and-mouth-disease)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 1121-1123. http://www.disthai.com/[/b]
  • Alsop J. Hand-foot-and-mouth disease in Birmingham in 1959. Br Med J 1960;2:1708.
  • Shelley WB, Hashin M, Shelley ED. Acyclovir in the treatment of hand-foot-and-mouth disease.Cutis 1996;57:232-4.
  • โรคมือ เท้า ปาก พ.ศ.2555. หมอชาวบ้าน(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
  • Ho M, Chen E, Hsu K, et al. An epidemic of enterovirus 71 infection in Taiwan. N Engl J Med 1999; 341(13): 929-35.
  • Jennifer CH, Antoinette FH. Hand-food-and-mouth disease. In: Freedberg IM, Eisen AZ, editors. Fitzpatrick’s Dermatology in General Medicine. 5th ed. New York: McGraw-Hill; 1999. p. 2403-7.
  • สมุนไพรที่เคยมีการทำวิจัยในโรคมือเท้าปาก.อภัยภูเบศสาร.ปีที่ 12 .ฉบับที่133.กรกฎาคม.2557
  • Luan YC, Tzou YL, Yhu CH, Kou CT, Shin RS, Ming LK, et al. Comparison of enterovirus 71 and coxsackie virus A16 clinical illnesses during the Taiwan enterovirus epidemic, 1998.Pediatr Infect Dis J 1999;18:1092-6.
  • Robinson CR. Report on an outbreak of febrile illness with pharyngeal lesions and examthem. Toronto, Summer 1957-isolation group A Coxsackie virus. Can Med Assoc J 1958;79:615.
  • Theokiss Z, Joel DK. Enterovirus infection. Pediatrics in Review 1998;19:183-91.
  • พญ.ชนิกานต์ คีรีวิเชียร,พญ.ธันยวีร์ ภูธนกิจ.โรคมือเท้าปาก (Hand-Food-and-Mouth-Disease).คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.กันยายน 2545.หน้า 1- 9
  • โรคมือเท้าปาก-อาการ,สาเหตุ,การรักษา.พบแพทย์(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ